คุณสุเมธครับ ผมอ่านที่แสดงปาฐกถาแล้ว มึนตึ๊บเลยครับ-------------ทวดเอง

กระทู้สนทนา
จากตรงนี้เลยครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1441166918

คุณสุเมธครับ ที่คุณสุเมธเรียกร้องระเบียบวินัยและความเสมอภาคทางกฎหมายก่อน ก่อนที่จะเรียกร้องประชาธิปไตยนั้น ผมไม่แน่ใจว่าคุณสุเมธคิดถูกหรือเปล่า

ทั้งๆที่ความจริงก็คือ เพราะความไม่เสมอภาคทางกฎหมายนี่ต่างหากครับที่ทำให้ต้องเรียกร้องประชาธิปไตยไงครับ มีการใช้กฎหมายกันอย่างไร้มาตรฐาน จึงทำให้กฎหมายดูไร้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ นี่จึงเป็นต้นเหตุของปัญหาอย่างแท้จริง

คุณสุเมธครับ เพราะอำนาจที่แท้จริงมันตกอยู่กับคนกลุ่มหนึ่งที่คอยบงการทิศทางของประเทศ จนทำให้คนกลุ่มนี้ได้ประโยชน์อยู่เพียงกลุ่มเดียว ด้วยการสร้างกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองกับพวกพ้อง จนทำให้ประเทศชาติไม่เดินหน้าไปไหนเสียที นี่จึงเป็นต้นเหตุของการเรียกร้องประชาธิปไตยไงครับ

ประชาธิปไตยที่ต้องการให้อำนาจกลับมาสู่มือประชาชน เพื่อจะได้กฎหมายที่เป็นธรรมสำหรับคนทุกกลุ่ม เพื่อให้ได้ความเสมอภาคและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน ไม่ใช่ความผิดพวกฉันเห็นตามตา ดันเพิกเฉย ส่วนอีกฝ่ายยังไม่รู้ผิดจริงหรือไม่ กลับพยายามหาข้อกฎหมายเอาผิดให้ได้ ตรงนี้ไงครับที่เป็นปัญหาความขัดแย้ง

คุณสุเมธครับ ก่อนที่จะให้คนทั้งประเทศเชื่อฟังกฎหมาย ต้องทำให้กฎหมายเป็นธรรมที่ทุกฝ่ายยอมรับได้เสียก่อนครับ ไม่ใช่กฎหมายอย่างที่คุณวิชาคิดนะครับ กฎหมายไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นธรรมสำหรับคนทุกคน แต่ต้องบังคับใช้ได้ก็พอ ตีความกันอย่างนี้ คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกฎหมาย จะรู้สึกยังไงครับ จะให้ก้มหน้ารับกรรมอย่างนั้นหรือครับคุณสุเมธ

คุณสุเมธครับ ปัญหาเรื่องน้ำก็เช่นกัน เพราะบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลที่มีความชอบธรรม กลับไม่สามารถบริหารจัดการได้ แม้สิ่งที่ทำอยู่เป็นประโยชน์ทั้งประชาชนและประเทศชาติ ดังนั้นเราจึงได้เห็นถึงโครงการต่างๆไม่สามารถกระทำได้ แม้กระทั่งการจัดการน้ำทั้งระบบ หรือการปรับโครงสร้างประเทศ สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากบ้านเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มาจากพวกไม่เคารพกฎหมายไงครับ

คุณสุเมธครับ ปัญหาความเหลื่อมล้ำก็เช่นกัน มันไม่ใช่เกิดจากคนไทยใช้เงินไม่มีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว มันไม่ใช่เกิดจากรู้จักพอเพียงหรือไม่ แต่มันเกิดจากรู้จักเพียงพอหรือเปล่าต่างหากครับ

เพราะไม่รู้จักเพียงพอ ก็เลยกอบโกยกันอย่างสนุกสนาน จนละเลยที่จะเหลียวแลกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่เราเรียกกันว่า รากหญ้า จนเป็นที่มาของคำว่า รวยกระจุก จนกระจายไงครับ ดังนั้นคุณสุเมธอย่าแปลกใจเลยครับที่ปี 40 ทำไมคนไทยรวยมากตอนนั้น แต่เศรษฐกิจกลับวินาศตามมา

คุณสุเมธอาจเปรียบถูกเรื่องไทยเหมือนกระบือ เพราะยอมให้คนไม่กี่คนจูงจมูกไปไหนต่อไหนโดยไม่ปริปากบ่น แต่คุณสุเมธต้องเข้าใจนะครับ มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่สามารถคิดเองได้ แม้จะมัวเมาในบางครั้ง แม้จะเลอะเลือนในบางที แต่ท้ายสุดมนุษย์ทุกคนย่อมอยากพัฒนาตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอครับ

ทุกๆคนไม่มีโชคอย่างคุณสุเมธ ทุกๆคนไม่ได้มีเฟอร์รารี่ขับ แต่พวกเขาเหล่านั้นหวังก็จะมีรถสักคันไว้ประกอบอาชีพบ้าง พวกเขาอยากมีอาหารอร่อยๆทานสักมื้อบ้าง นอกเหนือจากความจำเจ อย่างนั้นจะเรียกว่า เป็นการกระทำเกินตัวหรือเปล่าครับ

ถ้าพวกเขาต้องการหนีความยากจน จนต้องไปกู้เงิน เพื่อส่งลูกเต้าไปเรียนหนังสือสูงๆ จะได้มาช่วยเสริมให้มีรายได้ดีขึ้นกว่าเดิม แบบนี้ไม่ประเมินตัวเองหรือเปล่าครับ

หรือจะเป็นเรื่องการเป็นเกษตรกรที่อาจต้องกู้เงิน เพื่อการลงทุน แต่ด้วยภูมิอากาศไม่เป็นใจ หรือจะเป็นเพราะพ่อค้าคนกลางกดราคา จนประสบกับปัญหาขาดทุน อย่างนี้เราควรช่วยเหลือหรือเปล่าครับ

คุณสุเมธครับ การบริหารให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ไม่ใช่เรื่องของการประเมินทุนนะครับ แต่ต้องประเมินความสามารถของคนที่จะบริหาร นี่ต่างหากครับเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้ามัวแต่พะวงเรื่องทุน เราจะบริหารจัดการน้ำทั้งระบบได้อย่างไร เราจะปรับโครงสร้างคมนาคมได้อย่างไร

แต่ถ้าเรามีนักบริหารที่เฉียบแหลม มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และมีความพยายามเป็นเลิศ บางครั้งไม่จำเป็นต้องมีทุนก็ทำงานใหญ่ได้ครับคุณสุเมธ ไม่ต้องรอระบบอุปถัมภ์เพียงอย่างเดียว

คุณสุเมธครับ ปัญหาทางการเมืองไม่ใช่เกิดจากความยากจนนะครับ แต่เกิดจากกฎหมายทำอะไรพวกที่ไม่ทำตามกฎหมายต่างหากครับ

คุณสุเมธครับ ปัญหาความยากจน ไม่ใช่เกิดจากความไม่พอเพียงเพียงอย่างเดียวนะครับ แต่มันเกิดจากการถูกเอารัดเอาเปรียบจากพวกที่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นต่างหากครับ

คุณสุเมธครับ ปัญหาประเทศที่ไม่พัฒนา ไม่ใช่เกิดจากทุนรอนของประเทศนะครับ แต่มันเกิดจากการแก่งแย่งชิงอำนาจกันต่างหากครับ

คุณสุเมธครับ ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ใช่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาเพียงอย่างเดียวนะครับ แต่มันมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งคุณสุเมธก็คงรู้ดีเช่นกันว่า เกิดจากอะไร

คุณสุเมธครับ ปัญหาความแตกแยก ไม่ใช่เกิดจากความคิดเห็นต่างนะครับ แต่มันเกิดจากความพยายามที่จะแยกคนไทยออกมาเป็น กลุ่มคนดี กับ กลุ่มคนเลว ต่างหากครับ

ดังนั้นการจะรอให้คนไทยทุกคนมีระเบียบวินัย รอให้คนไทยทุกคนเคารพกฎหมายที่ยังไม่เป็นธรรมสำหรับทุกๆคน แล้วค่อยมีประชาธิปไตยนั้น คุณสุเมธกับคนอีกจำนวนไม่น้อยรอได้ แต่พวกคนยากคนจนที่กำลังจะอดตายเหล่านี้ล่ะครับ จะรอไหวหรือครับ

ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ทำไมเราไม่คืนอำนาจที่แท้จริงให้กับประชาชน แล้วให้ประชาชนช่วยการปฏิรูปกฎหมายที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ปฏิรูปรัฐธรรมนูญอันเป็นที่ยอมรับของคนทั้งชาติ ควบคู่กับการสร้างคนให้รู้จักระเบียบวินัย และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน แล้วก็ปล่อยให้ประชาธิปไตยเดินไปตามครรลองเฉกเช่นเดียวกับนานาชาติที่พัฒนาแล้ว อย่างนี้จะไม่ดีกว่าหรือครับคุณสุเมธ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่