หลายวันก่อนได้อ่านแนวข้อสอบวิชากฎหมายมา...แต่พออ่านถึงเรื่อง"นิติบุคคล"ผมก็เจอ
"นิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน ตามระบบกฎหมายมหาชนของรัฐไทยจะมีดังต่อไปนี้
1.กระทรวง ทบวง กรม
2.จังหวัด
3.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามหลักกระจายอำนาจและเป็นการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ได้แก่
1)องค์การบริหารส่วนจังหวัด
2)เทศบาล
3)องค์การบริหารส่วนตำบล
4)กรุงเทพมหานคร
5)เมืองพัทยา
4.รัฐวิสาหกิจ
5.วัดวาอาราม(เฉพาะวัดในพุทธศาสนาเท่านั้น ส่วนวัดในศาสนาอื่น อาจเป็นนิติบุคคลได้ในทางกฎหมายเอกชน)
6.องค์การมหาชน
ความแตกต่างระหว่างนิติบุคคลเอกชนและนิติบุคคลมหาชน
นิติบุคคลมหาชน นิติบุคคลเอกชน
1) มีอำนาจมหาชน คือ อำนาจรัฐเพื่อจัดทำบริการสาธารณะ 1) มีความเสมอภาคบนหลักความสมัครใจ
2) มีฐานะเหนือกว่าเอกชน 2) มีฐานะเท่าเทียมกัน
3) จัดตั้งและยกเลิกโดยกฎหมาย 3) จัดตั้งและยกเลิกโดยนิติกรรมหรือสัญญา แต่ต้องมีการจดทะเบียนตามกฎหมาย
พอผมอ่านแล้ว ผมก็สงสัยว่า
1)ทำไมวัดพุทธจึงมีอำนาจมากขนาดนี้ ขณะที่วัดศาสนาอื่นเป็นเพียง"นิติบุคคลเอกชน"หรืออย่างไร ผู้รู้ช่วยตอบที
2)หากวัดพุทธมีอำนาจมากจริงตามกฎหมายระบุ ทำไมถึงมีการเรียกร้องให้"ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ" ทั้งๆที่ ไม่บัญญัติก็มีอภิสิทธิ์กันมากอยู่แล้ว(ผมเคยเห็นป้ายเรียกร้องนี้อยู่หน้าพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ซึ่งผมยังเห็นอยู่ในวันพืชมงคลและการรณรงค์โดยเพจ Do and Don't on Buddha จนเกิดเป็นดราม่าเมื่อปีที่แล้ว)
3)เมื่อไม่นานมานี้มีแนวคิดที่จะปฏิรูปพุทธศาสนาทั้งสี่ด้านดังนี้
1. ให้มีการจัดการทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ เช่น จัดเก็บภาษีพระภิกษุที่มีรายได้มากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป หรือ การเปิดเช่าหรือทำวัตถุมงคลในงานเทศกาลของวัด จะต้องเสียภาษี เป็นต้น
2. เสนอให้แก้กฎหมาย มส. ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ
3. ปฏิบัติตามพุทธบัญญัติ ห้ามมีการบิดเบือนหรือแอบอ้างพระธรรมวินัย รวมทั้งออกกฎหมายลงโทษพระภิกษุอย่างรุนแรง
4. ปฏิรูปการศึกษาของคณะสงฆ์ให้ทันเหตุการณ์
มีประชาชนต้านมากมาย บางส่วนก็เห็นด้วย
http://news.voicetv.co.th/thailand/212910.html
แม้แต่พระพยอมก็เห็นด้วยกับการเก็บภาษีสงฆ์
http://news.sanook.com/1802338/
แต่ทว่าแนวคิดนี้มีข่าวว่าได้ล้มเลิกแล้ว
http://news.voicetv.co.th/thailand/212919.html
ข้อ3)นี่ท่านว่าไงครับ
(จขกท.ไม่มีเจตนาแต่ประการใดทั้งสิ้นที่จะดูหมิ่นพุทธศาสนาหรือศาสนาอื่นใดในโลก)
ทำไมวัดพุทธเป็นนิติบุคคลมหาชนและเรียกร้องจะเป็นศาสนาประจำชาติ แล้วก็เรื่องการเก็บภาษีสงฆ์
"นิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน ตามระบบกฎหมายมหาชนของรัฐไทยจะมีดังต่อไปนี้
1.กระทรวง ทบวง กรม
2.จังหวัด
3.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามหลักกระจายอำนาจและเป็นการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ได้แก่
1)องค์การบริหารส่วนจังหวัด
2)เทศบาล
3)องค์การบริหารส่วนตำบล
4)กรุงเทพมหานคร
5)เมืองพัทยา
4.รัฐวิสาหกิจ
5.วัดวาอาราม(เฉพาะวัดในพุทธศาสนาเท่านั้น ส่วนวัดในศาสนาอื่น อาจเป็นนิติบุคคลได้ในทางกฎหมายเอกชน)
6.องค์การมหาชน
ความแตกต่างระหว่างนิติบุคคลเอกชนและนิติบุคคลมหาชน
นิติบุคคลมหาชน นิติบุคคลเอกชน
1) มีอำนาจมหาชน คือ อำนาจรัฐเพื่อจัดทำบริการสาธารณะ 1) มีความเสมอภาคบนหลักความสมัครใจ
2) มีฐานะเหนือกว่าเอกชน 2) มีฐานะเท่าเทียมกัน
3) จัดตั้งและยกเลิกโดยกฎหมาย 3) จัดตั้งและยกเลิกโดยนิติกรรมหรือสัญญา แต่ต้องมีการจดทะเบียนตามกฎหมาย
พอผมอ่านแล้ว ผมก็สงสัยว่า
1)ทำไมวัดพุทธจึงมีอำนาจมากขนาดนี้ ขณะที่วัดศาสนาอื่นเป็นเพียง"นิติบุคคลเอกชน"หรืออย่างไร ผู้รู้ช่วยตอบที
2)หากวัดพุทธมีอำนาจมากจริงตามกฎหมายระบุ ทำไมถึงมีการเรียกร้องให้"ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ" ทั้งๆที่ ไม่บัญญัติก็มีอภิสิทธิ์กันมากอยู่แล้ว(ผมเคยเห็นป้ายเรียกร้องนี้อยู่หน้าพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ซึ่งผมยังเห็นอยู่ในวันพืชมงคลและการรณรงค์โดยเพจ Do and Don't on Buddha จนเกิดเป็นดราม่าเมื่อปีที่แล้ว)
3)เมื่อไม่นานมานี้มีแนวคิดที่จะปฏิรูปพุทธศาสนาทั้งสี่ด้านดังนี้
1. ให้มีการจัดการทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ เช่น จัดเก็บภาษีพระภิกษุที่มีรายได้มากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป หรือ การเปิดเช่าหรือทำวัตถุมงคลในงานเทศกาลของวัด จะต้องเสียภาษี เป็นต้น
2. เสนอให้แก้กฎหมาย มส. ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ
3. ปฏิบัติตามพุทธบัญญัติ ห้ามมีการบิดเบือนหรือแอบอ้างพระธรรมวินัย รวมทั้งออกกฎหมายลงโทษพระภิกษุอย่างรุนแรง
4. ปฏิรูปการศึกษาของคณะสงฆ์ให้ทันเหตุการณ์
มีประชาชนต้านมากมาย บางส่วนก็เห็นด้วยhttp://news.voicetv.co.th/thailand/212910.html
แม้แต่พระพยอมก็เห็นด้วยกับการเก็บภาษีสงฆ์http://news.sanook.com/1802338/
แต่ทว่าแนวคิดนี้มีข่าวว่าได้ล้มเลิกแล้วhttp://news.voicetv.co.th/thailand/212919.html
ข้อ3)นี่ท่านว่าไงครับ
(จขกท.ไม่มีเจตนาแต่ประการใดทั้งสิ้นที่จะดูหมิ่นพุทธศาสนาหรือศาสนาอื่นใดในโลก)