เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง จุดที่นอกใจสามี มีผู้ชายอีกคน

บอกไว้ก่อนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว และมันก็จบไปแล้วด้วย เหตุผลที่เรามาตั้งกระทู้ก็เพื่อแชร์ประสบการณ์อีกมุมมองนึง มันไม่ใช่เรื่องที่ดีและน่าภูมิใจหรอก แต่ถ้ามันทำให้ใครหลายคนที่กำลังเผชิญเรื่องนี้อยู่คิดได้ ก็คงจะดี

ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว ช่วงเดือนนี้แหละค่ะ เรากำลังจะแต่งงานในอีกหนึ่งเดือนสองเดือนข้างหน้า แฟนเรา สมมติว่าชื่อเอ เอเป็นคนดีมาก เป็นผู้ชายที่ดี ดูแลเราดีจนเราคิดว่าคงไม่มีทางจะหาผู้ชายที่ดีขนาดนี้ได้ที่ไหน เราอยากได้อะไร เอจะหามาให้ทุกอย่าง มีทุกอย่างพร้อม พ่อแม่เราดีใจมากที่จะได้ผู้ชายอย่างนี้เป็นเขย

เรากับเอคบกันแทบไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่แล้วเราก็พบว่า เรามีปัญหาใหญ่มากระหว่างเราสองคน มีอยู่สองเรื่องคือ เรื่องแรก เขาเป็นคนขี้น้อยใจและเวลาโมโหจะโมโหรุนแรงมาก ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เขาจะบอกเลิกก่อนเลย โดยไม่ฟังอะไรทั้งนั้น แรกๆเราก็ง้อ เพราะยังรับไหว แต่หลังๆก็เหนื่อย ยิ่งช่วงเตรียมตัวใกล้งานยิ่งเหนื่อย เครียด พอทะเลาะกันแล้วเขาบอกเลิก เขาบอกว่า ช่างมันแล้ว งงงาน ไม่ต้องแต่ง เราฟังแล้วท้อ ถามตัวเองทุกวันว่า เอาจริงดิ จะแต่งกับคนนี้จริงๆเหรอ แต่เราก็พยายามใจเย็น ทุกอย่างก็ผ่านมาได้

เรื่องที่สอง คือเรื่องบนเตียง เรายอมรับว่า เราไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้ ยิ่งหลังๆเราเหนื่อยกับงาน ไหนจะงานประจำ ไหนจะงานแต่ง ใครที่กำลังแต่งงานน่าจะเดาได้ว่ามันหนักขนาดไหน เขาก็พยายามจะให้เราทำ ให้เราช่วย ซึ่งเราบอกเลยว่าไม่พร้อมจริงๆ เราเหนื่อยมาก อยากจะกลับมาอาบน้ำแล้วนอนเลย กลายเป็นทะเลาะกันเรื่องนี้ เราก็คิดว่าจะไม่มีอะไรจนกระทั่งวันนึง ความอดทนมันขาด

เราไปเจอแชทที่เขาคุยกับเพื่อนผู้ชาย ในไลน์ เป็นแชทเล่าให้ฟังว่า เขาไม่อยากแต่งงานแล้ว เพราะเราไม่ยอมมีอะไรกับเขา เขาไม่มีความสุขเลย อยากเลิก บลาๆ เราอ่านแล้วจี๊ด ทั้งอาย ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ เราทะเลาะกันใหญ่โตมาก เขาบอกว่า ตอนที่เขาบอกเพื่อนไปเพราะเขาโกรธเราอยู่ แต่ตอนนี้เขาหายแล้ว เรารู้สึกว่า เขาไม่ให้เกียรติเราเลย ตอนนั้นรู้สึกเลยว่า อยากเลิกมากๆทั้งๆที่งานแต่งจะมีในอีกสองเดือนข้างหน้า แล้วก็ตามเดิม เขาโมโห บอกเลิกเรา ทั้งๆที่ตัวเขาผิด แต่ก็ยังกล้าบอกเลิกเรา เราอึ้งมากตอนนั้น ไม่นึกว่าเขาจะเล่นไม้นี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เราไม่ง้อ เก็บเสื้อผ้าเดินออกจากห้องเขามาเลย

เราขอเขาแยกกันอยู่สักพัก เราอ้างกับเขาว่า จะทบทวนเรื่องนี้ดีๆ อย่ามาเจอกันสักพัก แต่ความจริงคือ เราตัดสินใจไปแล้วว่าจะเลิก แค่พยายามหาวิธีบอกทุกคนอยู่ เขาก็พยายามง้อ  แต่เราไม่ฟังเลย ใจตอนนั้นคือคิดว่า อยากเลิกอย่างเดียว ความดีที่เขาทำมาทั้งหมดแทบไม่มีความหมาย มันเหมือนจริงๆแล้วเราเหนื่อยมานานแล้ว แต่เราไม่เคยรู้ตัว ทุกอย่างเป็นแค่ระเบิดเวลา ในที่สุดพอมันระเบิด จะเอาอะไรมากู้ก็ไม่ทัน

ช่วงนั้น เราได้เจอกับผู้ชายอีกคน ชื่อ บี ปกติเราจะเป็นคนขี้ระแวง ไม่ไปไหนกับใครสองต่อสอง ถ้าไม่สนิทจริงๆ แต่กับบี เราไม่เป็นอย่างนั้นเลย เหมือนตอนนั้นอยากทำอะไรประชดชีวิตมาก รู้สึกว่าชีวิตกำลังจะพัง เราไม่กล้าบอกแม่ ไม่กล้าบอกใคร แต่ไม่รู้ทำไมเราบอกบี เล่าให้บีฟังทุกอย่าง และในที่สุดก็เป็นอย่างที่ทุกคนเดาได้ เรากับบีมีอะไรกัน และนั่นเป็นการนอกใจครั้งแรก

สำหรับเราตอนนั้น เราคิดว่า ไหนๆก็จะเลิกกับเอแล้ว เราไม่แคร์อะไรอีกแล้ว วันต่อมาเราตั้งใจจะโทรบอกเอ เพื่อเลิกๆไปให้มันจบ แต่กลายเป็นพ่อแม่เราโทรมาแทน เอโทรไปหาพ่อแม่เรา ร้องไห้ให้พ่อแม่เราคุยกับเราให้หน่อย พ่อด่าว่าเราเป็นชุดว่า ใกล้จะถึงวันแต่งแล้ว ทำไมถึงทำตัวมีปัญหา เราทะเลาะกับพ่อเราใหญ่โตมาก ช่วงนั้นร้องไห้ทุกวัน นึกแล้วยังร้องไห้อยู่เลย

พ่อแม่เอ มาคุยกับเรา เกลี่ยกล่อมให้เราคืนดีกับเอ เพราะงานแต่งก็ใกล้เข้ามาแล้ว พ่อแม่เราก็กดดันเรา แม่เราถึงขั้นโทรมาร้องไห้กับเรา บอกว่าเขาเป็นห่วงเรามาก อยากให้เราแต่งงานกับคนดีๆสักที เราก็ถามกลับนะ ว่าเป็นห่วงเราจริงๆเหรอ ถ้าเราแต่งไปแล้วไม่มีความสุขล่ะ เขาก็ร้องไห้อย่างเดียว

ตอนนั้นมันเหมือนเราหัวเดียวกระเทียมลีบมาก ไม่มีใครสนใจความรู้สึกเราเลย ทุกคนแค่กลัวเสียหน้า แจกการ์ดไปแล้ว จองโรงแรมไปแล้ว ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป เราเครียดมาก ร้องไห้ทุกวัน นึกแล้วก็ยังเสียใจอยู่ บีอยู่ข้างๆเราตลอด ช่วยปลอบเรา ช่วยให้กำลังใจเรา บีไม่เคยบอกให้เรายุติงานแต่งเลย บีบอกแค่ว่า ไม่ว่าเราจะตัดสินใจยังไง เขาก็พร้อมจะซัพพอร์ตเราทั้งนั้น จะให้เขาคุยกับพ่อแม่เรามั้ย คือ เขาเป็นกำลังใจที่ดีมากจริงๆ

ในที่สุด เราคุยกับพี่สาวเรา แล้วก็ตัดสินใจได้ว่า ยังไงก็ต้องแต่ง เราทำให้พ่อแม่เครียดมามากพอแล้ว เรากลับไปคืนดีกับเอ เอดีใจมาก แต่เราต่างหากที่ไม่เหมือนเดิม แต่เราไม่ได้เลิกคุยกับบี เราเห็นแก่ตัวมากจริงๆ เรานึกไม่ออกว่าจะยืนอยู่คนเดียวได้ยังไง ถ้าไม่มีบีอยู่ด้วย ระยะเวลาสามสี่วันก่อนงาน เรายังโทรคุยกับบีอยู่เลย ยังพิมพ์ไลน์หากัน บอกว่าคิดถึง เช้าวันงาน บีก็โทรมาปลุก แล้วอวยพรให้เรามีความสุขมากๆ

เราเข้าพิธีไปอย่างไม่มีความสุขเลย อยากจะลุกขึ้น กรีดร้องแล้วเดินออกไป แต่ทำไม่ได้ ต้องฉีกยิ้ม ปั้นหน้าว่ามีความสุข ทุกครั้งที่มีคนอวยพรขอให้รักกันนานๆ เรารู้สึกผิดมาก คิดในใจตลอดว่า จะมีความสุขได้ยังไง เรานึกภาพไม่ออก แต่เราก็ต้องยิ้มบอกขอบคุณทุกคน เพื่อนๆมาบอกว่า อิจฉาแกจัง เจ้าบ่าวแกดูรักแกมาก เรากลับคิดว่า แกมาเจอแบบที่ชั้นเจอมั้ยล่ะ แล้วแกจะไม่พูดคำว่าอิจฉาเลย

ผ่านงานแต่งงานมาสัปดาห์นึง เราทำสิ่งที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำมาก่อน คือไปหาบีที่ห้อง แล้วก็มีอะไรกัน ใช่แล้ว เรานอกใจสามีอย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะที่แหวนแต่งงานยังคานิ้วอยู่เลย

ถ้าถามว่า เรามีความสุขมั้ย ตอบได้เลยว่ามี

แต่ถ้าถามว่า เรารู้สึกผิดมั้ย ตอบได้เหมือนกันว่า มากกว่า

ในนรกมันร้อนจริงๆนะ

เราอยู่อย่างไม่เป็นสุข พอเห็นเอจับโทรศัพท์เรา เราก็ใจเสียแล้ว กลัวบีจะไลน์มาหาตอนนั้นพอดี กลัวความจะแตก ทุกครั้งที่ไปหาบี เรามีความสุขมาก แต่ก็กลัวไปหมด กลัวเอจะรู้ กลัวเอจะจับได้ เราคิดทุกวันว่า ไม่น่าแต่งงานเลย ไม่น่าแคร์ความรู้สึกพ่อแม่มากกว่าตัวเองเลย อยากจะหนีไปไหนก็ได้ไกลๆ ไปให้พ้นๆ

ทุกวันที่เห็นรุปแต่งงาน ไม่มีวันไหนที่เราจะมีความสุขเลย เราอยู่อย่างนี้มาเรื่อยๆสักพัก จนในที่สุด เราก็คุยกับบี ผู้ซึ่งไม่เคยบอกว่ารู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ บีคุยกับเราแล้วบีก็ร้องไห้ บีบอกว่า อยากจะให้เราเลิกกับเอมาก แต่บีพูดไม่ได้ เพราะไม่อยากให้เราไม่สบายใจ บีอยากเลิกกับเราเพราะตัวบีเองก็ไม่ได้อยากเป็นชู้กับภรรยาคนอื่น แต่บีก็เลิกกับเราไม่ได้  พอเราฟังบีระบายออกมาแล้ว สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาเลยก็คือ เราต้องเลิกกับผู้ชายคนนี้ เราเห็นแก่ตัวมามากแล้ว เขาควรจะได้ไปเจอผู้หญิงดีๆ

เราตัดสินใจบอกเลิกบี แต่ก่อนจะเลิกคุยกัน เราก็สัญญากันว่า มีอะไรก็บอกกันได้เสมอ พร้อมจะช่วยพร้อมจะรับฟัง

ตอนนี้เราห่างกับบีมากจะครบปีแล้ว  เขาแทบไม่ได้ติดต่อมาเลย มีบ้างเวลาเมาๆที่เขาจะส่งไลน์มาบอกว่า คิดถึง รู้ว่าผิด แต่แค่อยากบอก เราอ่านแล้วน้ำตาแทบไหล แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ เราก็คิดถึงเขามาก แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้ ชีวิตก็จำเป็นต้องไปต่อ

เขาเองก็ไม่ได้มีใครใหม่ เราไม่อยากถามว่าทำไม แต่เราก็หวังให้เขาเจอคนดีๆเร็วๆ

ส่วนสามีของเรา หลังจากเราเลิกกับบีไปแล้ว เราก็ลองเปิดใจ รักเขาใหม่อีกครั้ง มันไม่ได้มากเท่าครั้งแรก แต่ก็พอประคับประคองชีวิตคู่ผ่านไปได้ เหตุผลที่เราเลือกเขา ก็เพราะเขาเป็นสามีของเราแล้ว เราตัดสินใจเลือกเขาไปแล้ว เราต้องทำให้ดีที่สุด

ที่ผ่านมาเราทำเลวกับเขา เรายอมรับทุกอย่าง เราทำผิดจริงๆ แต่เราก็จะพยายามแก้ตัวใหม่ และหนึ่งปีที่ผ่านมา เราว่าเราก็ทำได้ดีนะ

ถ้าใครประสบปัญหาคล้ายๆแบบนี้ เราแนะนำว่า ให้รีบเดินออกจากเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด รีบตัดสินใจซะ ก่อนที่ชีวิตของใครจะพัง ช่วงที่เราเลิกกับบี ชีวิตบีก็เคว้งไปเลยนะ ตัวเราเองก็ไม่ปกตินักหรอก แต่สุดท้ายกาลเวลาจะเยียวยาทุกอย่างให้กลับมาตามเดิม

ใครอ่านแล้ว อยากจะด่าเรา เราเข้าใจนะ เราผิด เราเลว แต่อย่างน้อย ถ้าเรื่องของเราทำให้ใครคิดอะไรได้ มันคงจะดีไม่น้อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่