สวัสดีครับ นี่เป็นเรื่องราวและภาพถ่ายที่เมื่อวันที่ 11/7/2014 พอดีพึ่งมาเล่นพันทิปครับเลยได้เอามาลงกับเขาบ้าง 55
ทริปนี้เป็นการ backpack ชายสอง ไปเที่ยวกาญครับงบคนละ 1000.- โดยเดิมทีอยู่สุพรรณครับเลยถือว่าไม่ไกลกันเท่าไร
สตาร์ทที่การเดินไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอรถหวานเย็นครับ แต่พอดีไม่ได้ถ่ายภาพไว้
ว้าววว ได้ขึ้นรถหวานเย็นแล้ว ดันไปถ่ายมือทำมะเขือเทศไรฟะ
ถึงตัวกาญแล้วครับ ทำไมถึงเร็วจัง แต่เอาจริงๆ นั่งนานมากกกก ดูจากรอยยับในการหลับของมือจากภาพบน ตอนนี้กำลังย่ำเท้าไปเรื่อยๆเมื่อยก็เมื่อย เหนื่อยก็เหนื่อย เราเดินเรื่อยๆ เราไม่เหนื่อย เราไม่เมื่อย
ขึ้นรถแล้วแต่เนื่องจากไม่ได้ถ่ายภาพไว้เพราะได้ยืนบนรถแถมเบียดกันเป็นแฮมเบอร์เกอร์จึงตัดมาที่สถาณีแรกที่ลง
น้ำตกไทรโยคน้อยนั่นเอง
เมื่อเดินวนจนไม่มีที่จะไปแล้วเราจึงต้องไปต่อแต่... จะไปยังไงในเมื่องบมีน้อยซะด้วย
นั่นสิ รถขนขี้หมูแม่มเลยยยย ขอติดรถเขาไปครับ
และแล้วพี่ขนขี้หมูน้ำใจงามสยามไทยแลน ก็ได้มาส่งเราที่ปากทางเข้าน้ำตกไทรโยคใหญ่
ทำไมไม่ไปส่งตูให้ถึงที่วะรู้ไหมว่ากว่าจะเดินไปถึงข้างในแม่ม 4 กิโล (นั่งรถฟรีแล้วยังเรื่องมากให้มุงติดรถมานี่ก็ถือว่าได้บารมีพี่ขนขี้หมูค้ำจุนไว้)
อ่าวนอกเรื่องไปไกล เข้าเรื่องๆ แต่เอ้ะนั่นม้านี่ ? ไหว้ไป 3 รอบด้วยความไม่เคยเห็นม้า
ตู้ยามคือจุดเริ่มต้นของการเสียเงิน
เดินมาได้ 3 กิโลแล้ว มีพี่ๆแก๊งเครื่องดื่มแอลกอฮอลน้ำใจงามสยามไทยแลน ชวนขึ้นรถ
เฮ้ยน้องไปป่าว ?? แต่ไม่ได้ถ่ายรูปพี่ๆไว้เพราะกลัวโดนต่อยจึงนำรูปนี้มาแทน
โรคจิตแอบถ่าย
ลมเย็นๆเรามาเล่น***
เฮ้จอห์น ดูนั่นสิ
จิบชาเสพธรรมชาติ ฟินเวอร์
ผมเองก็ดันซนไปหาอะไรถ่ายเล่น
หลังจากนั้นเราเดินเปื่อยเอื่อยเฉื่อยเมื่อยไปเรื่อยๆ ก็ดันเจอป้าท่านนึงตะโกนถามว่า ไอหนุ่มมีที่นอนยัง
เราก็ส่งพลังเสียงกลับไปว่า ยังขรัปปป !! ป้าก็บอกว่า นอนแพไหมคืนถูกๆ ผมก็บอกไปว่า ผม งก อ่ะป้า(ล้อเล่นครับที่จริงบอกไปว่าไม่มีเงิน)
ลุงผู้กอบกู้ที่เป็นสามีของป้าท่านนึง จึงส่งพลังเสียงมาว่า นอนฟรีเอาไหม ผมก็มิอาจปฎิเสธได้เนื่องจากตามมารยาท
เราจึงได้ที่นอนดังภาพ
ตกดึกลุงเอาเบ็ดมาแจก ให้ตกปลาเล่นๆกัน ช่างเฟรนลี่อะไรเช่นนี้ แถมเอาเครื่องปั่นไฟให้ชาตแบทด้วย
นี่คือโฉมหน้าของลุงผู้น้อง ซึ่งน้ำใจก็งามสยามไทยแลนเช่นกัน
เช้ามาลุงผู้พี่แกชื่อลุงนะพาเรานั่งเรือเล่นครับ แบบฟรีๆไม่คิดเงิน
น้ำตกถ่ายเพื่อครายย?
อย่างผมต้องสายนี้
นี่คือโฉมหน้าของลุงนะครับ หรือลุงผู้พี่ หรือลุงน้ำใจงามสยามไทยแลน
จากนั้นลุงนะได้ฝากเรามากับลูกค้าของลุงเองซึ้งก็นั่งหลังกะบะมา ฝนดันตกพอดีซื้อกันไว้ที่เซเว่น
หนาวกายอยู่ได้ ถ้าหนาวใจยิ่งอยู่ไม่ได้ไปกันใหญ่
ผู้อุปการะแวะไหว้พระครับ ขออภัยเนื่องจากไม่รู้จักสถานที่ครับ
อากาศดี
จากนั้นเราก็ไปต่อและได้มาถึง ขออภัยเนื่องจากไม่รู้จักสถานที่อีกเช่นเคยครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะตลาดมอญ
จากนั้นเราก็ถูกทิ้งครับ กลับมาอีกทีไม่เจอใครเบยยย เลยตัดสินใจดิ่งรถตู้กลับครับ
หลังจากนั้น 3 เดือนผมได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับรุ่นพี่ที่ป้อมปี่จึงตัดสินใจแวะลงโทรโยคใหญ่ก่อนครับ
รอบที่แล้วรถขี้หมู รอบนี้รถขนหมู
เดินเข้าไปอีกเช่นเคยครับ 4 กิโล เช็ดเข้ ! เมื่อยขา จนถึง แพชมดง ซึ่งเป็นแพของลุงนะนั่นเอง
(รูปเพื่อนนะครับในกระทู้นี้ไม่มีรูป จขกท )
ไปรอลุงนะสักพักนึงเลยตัดสินใจซื้อข้าวไปฝากลุงนะ
ลุงนะกับน้องลุงนะ เจอผมถึงกับดีใจยิ้มแป้นอย่างกับเจอลูกชาย
เอ่ยปากชวนกินน้ำกินท่า เกลี้ยกล่อมให้นอนสักคืนแล้วค่อยกลับ แต่วันนั้นผมนอนไม่ได้จิมๆเพราะมีงานที่นัดส่งอาจารย์ไว้
ลุงนะจึงขับรถมาส่งที่ปากทาง ล่ำลากันเป็นอันกลับบ้าน
จบแล้วครับผมขอบคุณมากครับ
2วัน 1 คืน และครอบครัวแปลกหน้า
ทริปนี้เป็นการ backpack ชายสอง ไปเที่ยวกาญครับงบคนละ 1000.- โดยเดิมทีอยู่สุพรรณครับเลยถือว่าไม่ไกลกันเท่าไร
สตาร์ทที่การเดินไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอรถหวานเย็นครับ แต่พอดีไม่ได้ถ่ายภาพไว้
ว้าววว ได้ขึ้นรถหวานเย็นแล้ว ดันไปถ่ายมือทำมะเขือเทศไรฟะ
ถึงตัวกาญแล้วครับ ทำไมถึงเร็วจัง แต่เอาจริงๆ นั่งนานมากกกก ดูจากรอยยับในการหลับของมือจากภาพบน ตอนนี้กำลังย่ำเท้าไปเรื่อยๆเมื่อยก็เมื่อย เหนื่อยก็เหนื่อย เราเดินเรื่อยๆ เราไม่เหนื่อย เราไม่เมื่อย
ขึ้นรถแล้วแต่เนื่องจากไม่ได้ถ่ายภาพไว้เพราะได้ยืนบนรถแถมเบียดกันเป็นแฮมเบอร์เกอร์จึงตัดมาที่สถาณีแรกที่ลง
น้ำตกไทรโยคน้อยนั่นเอง
เมื่อเดินวนจนไม่มีที่จะไปแล้วเราจึงต้องไปต่อแต่... จะไปยังไงในเมื่องบมีน้อยซะด้วย
นั่นสิ รถขนขี้หมูแม่มเลยยยย ขอติดรถเขาไปครับ
และแล้วพี่ขนขี้หมูน้ำใจงามสยามไทยแลน ก็ได้มาส่งเราที่ปากทางเข้าน้ำตกไทรโยคใหญ่
ทำไมไม่ไปส่งตูให้ถึงที่วะรู้ไหมว่ากว่าจะเดินไปถึงข้างในแม่ม 4 กิโล (นั่งรถฟรีแล้วยังเรื่องมากให้มุงติดรถมานี่ก็ถือว่าได้บารมีพี่ขนขี้หมูค้ำจุนไว้)
อ่าวนอกเรื่องไปไกล เข้าเรื่องๆ แต่เอ้ะนั่นม้านี่ ? ไหว้ไป 3 รอบด้วยความไม่เคยเห็นม้า
ตู้ยามคือจุดเริ่มต้นของการเสียเงิน
เดินมาได้ 3 กิโลแล้ว มีพี่ๆแก๊งเครื่องดื่มแอลกอฮอลน้ำใจงามสยามไทยแลน ชวนขึ้นรถ
เฮ้ยน้องไปป่าว ?? แต่ไม่ได้ถ่ายรูปพี่ๆไว้เพราะกลัวโดนต่อยจึงนำรูปนี้มาแทน
โรคจิตแอบถ่าย
ลมเย็นๆเรามาเล่น***
เฮ้จอห์น ดูนั่นสิ
จิบชาเสพธรรมชาติ ฟินเวอร์
ผมเองก็ดันซนไปหาอะไรถ่ายเล่น
หลังจากนั้นเราเดินเปื่อยเอื่อยเฉื่อยเมื่อยไปเรื่อยๆ ก็ดันเจอป้าท่านนึงตะโกนถามว่า ไอหนุ่มมีที่นอนยัง
เราก็ส่งพลังเสียงกลับไปว่า ยังขรัปปป !! ป้าก็บอกว่า นอนแพไหมคืนถูกๆ ผมก็บอกไปว่า ผม งก อ่ะป้า(ล้อเล่นครับที่จริงบอกไปว่าไม่มีเงิน)
ลุงผู้กอบกู้ที่เป็นสามีของป้าท่านนึง จึงส่งพลังเสียงมาว่า นอนฟรีเอาไหม ผมก็มิอาจปฎิเสธได้เนื่องจากตามมารยาท
เราจึงได้ที่นอนดังภาพ
ตกดึกลุงเอาเบ็ดมาแจก ให้ตกปลาเล่นๆกัน ช่างเฟรนลี่อะไรเช่นนี้ แถมเอาเครื่องปั่นไฟให้ชาตแบทด้วย
นี่คือโฉมหน้าของลุงผู้น้อง ซึ่งน้ำใจก็งามสยามไทยแลนเช่นกัน
เช้ามาลุงผู้พี่แกชื่อลุงนะพาเรานั่งเรือเล่นครับ แบบฟรีๆไม่คิดเงิน
น้ำตกถ่ายเพื่อครายย?
อย่างผมต้องสายนี้
นี่คือโฉมหน้าของลุงนะครับ หรือลุงผู้พี่ หรือลุงน้ำใจงามสยามไทยแลน
จากนั้นลุงนะได้ฝากเรามากับลูกค้าของลุงเองซึ้งก็นั่งหลังกะบะมา ฝนดันตกพอดีซื้อกันไว้ที่เซเว่น
หนาวกายอยู่ได้ ถ้าหนาวใจยิ่งอยู่ไม่ได้ไปกันใหญ่
ผู้อุปการะแวะไหว้พระครับ ขออภัยเนื่องจากไม่รู้จักสถานที่ครับ
อากาศดี
จากนั้นเราก็ไปต่อและได้มาถึง ขออภัยเนื่องจากไม่รู้จักสถานที่อีกเช่นเคยครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะตลาดมอญ
จากนั้นเราก็ถูกทิ้งครับ กลับมาอีกทีไม่เจอใครเบยยย เลยตัดสินใจดิ่งรถตู้กลับครับ
หลังจากนั้น 3 เดือนผมได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับรุ่นพี่ที่ป้อมปี่จึงตัดสินใจแวะลงโทรโยคใหญ่ก่อนครับ
รอบที่แล้วรถขี้หมู รอบนี้รถขนหมู
เดินเข้าไปอีกเช่นเคยครับ 4 กิโล เช็ดเข้ ! เมื่อยขา จนถึง แพชมดง ซึ่งเป็นแพของลุงนะนั่นเอง
(รูปเพื่อนนะครับในกระทู้นี้ไม่มีรูป จขกท )
ไปรอลุงนะสักพักนึงเลยตัดสินใจซื้อข้าวไปฝากลุงนะ
ลุงนะกับน้องลุงนะ เจอผมถึงกับดีใจยิ้มแป้นอย่างกับเจอลูกชาย
เอ่ยปากชวนกินน้ำกินท่า เกลี้ยกล่อมให้นอนสักคืนแล้วค่อยกลับ แต่วันนั้นผมนอนไม่ได้จิมๆเพราะมีงานที่นัดส่งอาจารย์ไว้
ลุงนะจึงขับรถมาส่งที่ปากทาง ล่ำลากันเป็นอันกลับบ้าน
จบแล้วครับผมขอบคุณมากครับ