เกริ่นซะหน่อยนะคะ
ที่บ้าน แม่ทำขนมขาย ขนมจีบ (คนตรังจะรู้จักดี) เป็นกะหรี่พัฟแป้งกรอบบาง ไส้สังขยา
แม่ขายดีมาก จนขายไม่ทัน พอธุรกิจไปได้ด้วยดี ปีนึง เราตัดสินใจลาออกจากงาน กทม. กลับมาอยู่บ้าน
ก็เป็นไปได้ด้วยดี แบ่งเบาภาระแม่จากนอนเที่ยงคืน ตี1 กลายเป็นนอน 4 ทุ่ม
เน้นทำขายส่งตามร้านต่างๆ ลูกค้าบางคนทานแล้วก็ตามมาหาถึงบ้าน
ทำมา 4 เดือน เราตัดสินใจออกมาเปิดเป็นสาขา 2 เพราะสาขา1 ที่บ้าน เป็นบ้านในหมู่บ้าน
ไม่มีรถผ่าน ลูกค้าจะมาซื้อก็ถามทางลำบากในการบอกเส้นทาง
สาขา2เพิ่งเปิดได้ 2 วันค่ะ วันนี้พบข้อผิดพลาด ที่คิดเร็วไป คือพอ พ่ออนุมัติให้เปิดสาขา2ได้ ก็ตัดสินใจคืนนั้น
เช้าวันรุ่งขึ้นหาบ้าน และทำสัญญาเลย บ้านติดถนนใหญ่ กะว่าจะเจาะลูกค้าขาจร เพราะเป็นทางผ่านไปยังจังหวัดสตูล
ข้อผิดพลาดที่พบมีดังนี้
1.เปิดสาขา2 ห่างจากสาขา1 ระยะทาง1กิโลเมตร ใกล้กันเกินไป
2.ตอนแรกคิดแค่มุ่งขายลูกค้าขาจร คนขับรถผ่าน จนลืมคิดไปว่า ถนนเส้นนี้ คนขับรถเร็วมาก อาจมองไม่ทันเห็นร้าน
ลูกค้าที่มาซื้อ90เปอร์เซ็นต์เป็นลูกค้าเก่า
3.จะขยายตลาดขายส่งที่ในตัวอำเภอก็ไม่ได้แล้วเพราะขนมของเรา ส่งประมาณ10-20ร้าน ทั่วอำเภอ
คนไม่จำเป็นต้องแวะซื้อที่ร้านก็ได้ แวะไปตลาด แวะไปกินก๋วยเตี๋ยว หรือกินชากาแฟ ขนมจีน ร้านชำ ร้านของฝาก ก็เจอขนมเรา
4.เรากะจะขายลูกค้าขาจร แล้วเอาส่วนต่างนี้มาจ่ายค่าเช่าบ้านจิปาะถะรวมแล้วเดือนละ 10,000 แต่ลูกค้าหน้าใหม่มีน้อย
5.ร้านกว้างขวางสวยงาม แต่ไม่อยากขายน้ำหรืออะไรเพิ่มเพราะว่าร้านข้างๆก็ขายไม่อยากมีปัญหากัน
ทำเลดีพอได้มาลองอยู่จริงเหมือนใช้พื้นที่ไม่คุ้ม คนน้อยกว่าแถวตลาด แถวชุมชน ที่คนจะมาแวะซื้อของแล้วบังเอิญผ่านร้าน
แต่โดยรวมแล้ว ปัญหาหลักคือ ขนมเราส่งทั่วอำเภอ ไม่จำเป็นต้องมาที่ร้านเรา แล้วร้านอยู่ติดถนนใหญ่
ไม่ได้อยู่แถวตลาดซึ่งจะมีคนพลุกพล่านกว่านี้
ส่วนเรื่องรายได้ หักต้นทุนออกแล้ว วันละพันปลายๆ เดือนละประมาณ4หมื่นหน่อยๆ
บางคนคิดว่ารายได้โอเคแล้ว แต่ประเด็นคือ ถ้าขายส่งที่บ้านก็ได้ประมาณนี้ เช่าบ้านแล้วก็ยังได้ประมาณนี้ แถมยังจ่ายค่าบ้านเพิ่ม
เราแพลนว่าลูกค้าหน้าใหม่ที่มาซื้อจะเอาตรงนี้มาเป็นค่าเช่า แต่สรุปว่ามีน้อยมาก ไม่คุ้มกับค่าเช่า
ตอนนี้แพลนในหัวเต็มไปหมด อยากทดลองไปต่างอำเภอ เล็งๆแถวนั้นไว้เพราะ ร้านอาหารน้อย ร้านขนมแบบเรายังไม่มี
คนใช้จ่ายเยอะ มีตลาดนัดบ่อย อยู่ในแหล่งชุมชน คิดว่าเป็นอะไรที่น่าลอง อีกอย่างที่ลงทุนไป ก็สามารถนำไปใช้ในร้านใหม่ได้หมด
หรือไม่ก็กลับมาทำที่บ้านเหมือนเดิมแต่ขยายตลาดไปต่างอำเภอ เน้นขายส่ง เพราะไม่มีภาระเรื่องบ้านเช่า่
ทำบ้านตัวเอง ไม่มีต้นทุนอะไร เพื่อนที่ทำบะหมี่ขายบอกว่า เน้นขายส่งจะดีกว่าเพราะรายได้คงที่ ได้ตลอด ไม่ต้องนั่งรอลูกค้า
เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ อยากขอคำแนะนำค่ะ เผื่อจะได้มองอะไรกว้างๆขึ้น มือใหม่มากๆค่ะ
ขอขอบพระคุณอย่างสูงเลย
*แก้ไขคำผิด
ขอปรึกษาผู้รู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจหน่อยค่ะ อยากขอคำแนะนำ
ที่บ้าน แม่ทำขนมขาย ขนมจีบ (คนตรังจะรู้จักดี) เป็นกะหรี่พัฟแป้งกรอบบาง ไส้สังขยา
แม่ขายดีมาก จนขายไม่ทัน พอธุรกิจไปได้ด้วยดี ปีนึง เราตัดสินใจลาออกจากงาน กทม. กลับมาอยู่บ้าน
ก็เป็นไปได้ด้วยดี แบ่งเบาภาระแม่จากนอนเที่ยงคืน ตี1 กลายเป็นนอน 4 ทุ่ม
เน้นทำขายส่งตามร้านต่างๆ ลูกค้าบางคนทานแล้วก็ตามมาหาถึงบ้าน
ทำมา 4 เดือน เราตัดสินใจออกมาเปิดเป็นสาขา 2 เพราะสาขา1 ที่บ้าน เป็นบ้านในหมู่บ้าน
ไม่มีรถผ่าน ลูกค้าจะมาซื้อก็ถามทางลำบากในการบอกเส้นทาง
สาขา2เพิ่งเปิดได้ 2 วันค่ะ วันนี้พบข้อผิดพลาด ที่คิดเร็วไป คือพอ พ่ออนุมัติให้เปิดสาขา2ได้ ก็ตัดสินใจคืนนั้น
เช้าวันรุ่งขึ้นหาบ้าน และทำสัญญาเลย บ้านติดถนนใหญ่ กะว่าจะเจาะลูกค้าขาจร เพราะเป็นทางผ่านไปยังจังหวัดสตูล
ข้อผิดพลาดที่พบมีดังนี้
1.เปิดสาขา2 ห่างจากสาขา1 ระยะทาง1กิโลเมตร ใกล้กันเกินไป
2.ตอนแรกคิดแค่มุ่งขายลูกค้าขาจร คนขับรถผ่าน จนลืมคิดไปว่า ถนนเส้นนี้ คนขับรถเร็วมาก อาจมองไม่ทันเห็นร้าน
ลูกค้าที่มาซื้อ90เปอร์เซ็นต์เป็นลูกค้าเก่า
3.จะขยายตลาดขายส่งที่ในตัวอำเภอก็ไม่ได้แล้วเพราะขนมของเรา ส่งประมาณ10-20ร้าน ทั่วอำเภอ
คนไม่จำเป็นต้องแวะซื้อที่ร้านก็ได้ แวะไปตลาด แวะไปกินก๋วยเตี๋ยว หรือกินชากาแฟ ขนมจีน ร้านชำ ร้านของฝาก ก็เจอขนมเรา
4.เรากะจะขายลูกค้าขาจร แล้วเอาส่วนต่างนี้มาจ่ายค่าเช่าบ้านจิปาะถะรวมแล้วเดือนละ 10,000 แต่ลูกค้าหน้าใหม่มีน้อย
5.ร้านกว้างขวางสวยงาม แต่ไม่อยากขายน้ำหรืออะไรเพิ่มเพราะว่าร้านข้างๆก็ขายไม่อยากมีปัญหากัน
ทำเลดีพอได้มาลองอยู่จริงเหมือนใช้พื้นที่ไม่คุ้ม คนน้อยกว่าแถวตลาด แถวชุมชน ที่คนจะมาแวะซื้อของแล้วบังเอิญผ่านร้าน
แต่โดยรวมแล้ว ปัญหาหลักคือ ขนมเราส่งทั่วอำเภอ ไม่จำเป็นต้องมาที่ร้านเรา แล้วร้านอยู่ติดถนนใหญ่
ไม่ได้อยู่แถวตลาดซึ่งจะมีคนพลุกพล่านกว่านี้
ส่วนเรื่องรายได้ หักต้นทุนออกแล้ว วันละพันปลายๆ เดือนละประมาณ4หมื่นหน่อยๆ
บางคนคิดว่ารายได้โอเคแล้ว แต่ประเด็นคือ ถ้าขายส่งที่บ้านก็ได้ประมาณนี้ เช่าบ้านแล้วก็ยังได้ประมาณนี้ แถมยังจ่ายค่าบ้านเพิ่ม
เราแพลนว่าลูกค้าหน้าใหม่ที่มาซื้อจะเอาตรงนี้มาเป็นค่าเช่า แต่สรุปว่ามีน้อยมาก ไม่คุ้มกับค่าเช่า
ตอนนี้แพลนในหัวเต็มไปหมด อยากทดลองไปต่างอำเภอ เล็งๆแถวนั้นไว้เพราะ ร้านอาหารน้อย ร้านขนมแบบเรายังไม่มี
คนใช้จ่ายเยอะ มีตลาดนัดบ่อย อยู่ในแหล่งชุมชน คิดว่าเป็นอะไรที่น่าลอง อีกอย่างที่ลงทุนไป ก็สามารถนำไปใช้ในร้านใหม่ได้หมด
หรือไม่ก็กลับมาทำที่บ้านเหมือนเดิมแต่ขยายตลาดไปต่างอำเภอ เน้นขายส่ง เพราะไม่มีภาระเรื่องบ้านเช่า่
ทำบ้านตัวเอง ไม่มีต้นทุนอะไร เพื่อนที่ทำบะหมี่ขายบอกว่า เน้นขายส่งจะดีกว่าเพราะรายได้คงที่ ได้ตลอด ไม่ต้องนั่งรอลูกค้า
เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ อยากขอคำแนะนำค่ะ เผื่อจะได้มองอะไรกว้างๆขึ้น มือใหม่มากๆค่ะ
ขอขอบพระคุณอย่างสูงเลย
*แก้ไขคำผิด