[CR] ปุปปัปทริป :: ชาร์จแบตหัวใจ ที่ไทรโยควิวราฟท์ พักผ่อน นอนแพ แวะเที่ยวเมืองกาญ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะ
จริงๆก็ติดตามอ่านกระทู้รีวิวนั่นนี่มาตลอด แต่ตอนนี้อยากเขียนเองดูบ้าง
ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

" แก อยากไปไหนไหม? "
" โห อยากไปมันทุกที่อะ เชียงใหม่ เชียงราย กระบี่ ภูเก็ต "
" ใกล้ๆก่อนดีมั้ย มีเวลามากกว่านี้ค่อยไปไกลๆ "
"  - - ' เอออออออ ก้ะด้ะ ดีกว่าไม่ได้ไปไหนเลย "
" กาญมั้ย มีทั้งภูเขา มีทั้งแม่น้ำ น้ำๆเหมือนกันแก้ขัดไปก่อน "
" งืมมมมมม ~ "  


06.08.58 20:00 น.
" แม่ๆ พรุ่งนี้ขอไปเที่ยวกาญนะ "
" (ค้อนขวับหนึ่งที) ไปทำไร "
" เอ้า ก็ไปเที่ยวไง พักผ่อน :3 "

21:00 น.
" อ่าว จะไปไหนกันเตรียมของหรือยังล่ะ "
" ยัง "

ก็นั่นแหละค่ะ จะไปไหนบ้าง ทำอะไร พักที่ไหน ยังไม่ได้คิดกันเลย รู้แค่ว่ากาญจนบุรีคือที่ที่เราจะไป
สี่ทุ่มครึ่งถึงคิดออกว่าอยากไปพักที่ไหน แต่เดี๋ยวนะ เพิ่งคิดแล้วจะจองตอนนี้เลย มันจะเป็นไปได้หรอวะ ..
เห้ยยย ได้ว่ะ จองเรียบร้อยว่างพอดีเป็นห้องสุดท้าย ไชโยยยยย เข้านอนได้ ไปไหนบ้างพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน


07.08.58 07:00 น.
" แกตื่นนนนนนน สายแล้ว "
เราใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ล้อก็หมุนออกจากบ้านทันที
เรื่องเที่ยวนี่ขอให้บอก ตื่นเช้าได้สบายๆเลย


" วัดถ้ำเสือ "

เพียงชั่วโมงกว่าๆก็ถึงจุดหมายแรกของเราวันนี้
จุดหมายแรกที่เราตกลงกันว่าจะไปคือ " วัดถ้ำเสือ " แวะศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัย เป็นศิริมงคลกันก่อน


ถึงแล้ว ถึงกับตกใจกับขั้นบันได ทั้งสูงทั้งชันจะรอดมั้ย
นี่เราพากันมาใช้กำลังแต่เช้าเลยเหรอ หันไปทางซ้ายมือ  "เห้ยแก มีรถรางว่ะ ไปๆๆๆไม่เดินๆ"
เดินเข้าไปจุดขายตั๋วเท่านั้นแหละ ถึงกับชะงักอีกที  " แกๆๆ เดินก็ได้นะ เดินๆ เดินดีกว่า "
ปอดแหกขึ้นมาเลยเมื่อเห็นสภาพรถและรางที่สูงชัน
" ทีรถไฟเหาะแกยังเล่นได้หลายรอบ แค่นี้จะกลัวอะไร  "
" ก็มันไม่เหมือนกันนี่แก "
" ป่ะ 10 บาท ไม่ต้องเดินเมื่อย "
  


ภาพนี้ดูเหมือนไม่ชันเลยเนอะ พี่แปะถ่ายหลังจากขึ้นไปถึงข้างบน ส่วนตัวเรานั้นรีบโดดขึ้นไปในจุดที่ปลอดภัย
** จริงๆเค้าก็ใช้งานกันตามปกติอะค่ะ เรากลัวไปเอง 55555 **



เราหนีการเดินขึ้นมาข้างบนด้วยรถรางแล้ว แต่เราหนีไม่พ้นการเดินขึ้นไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ
บันไดวนๆๆๆๆๆ ทำเราขาสั่นและหอบแห่กกันเลยทีเดียว
แต่ก็ได้มาซึ่งวิวนี้ หูยยยย สวย เสียดายถ้ามาหน้านาคงสวยกว่านี้


พาขาสั่นๆ ไปต่อกันเถอะ !
ปอลอ. ขาลงเรากะว่าจะเดินลงบันไดซะหน่อย แต่ก็ไม่ไหวจริงๆ ขาสั่นเหมือนมีคนโทรเข้า ลงรถรางเหมือนเดิมแจ้


" น้ำตกไทรโยคน้อย - น้ำตกไทรโยคใหญ่ "


เที่ยงกว่าๆ บ่ายอ่อนๆ ก็มาถึงน้ำตกไทรโยคน้อย เอิ่มม น้อย น้อยจริงๆด้วย
น้ำน้อยมากค่ะ น้อยจนไม่ได้ถ่ายมาให้ดูเลย ปะๆ ไปต่อ ความหวังต่อไปคือน้ำตกไทรโยคใหญ่
มันต้องใหญ่ อลังการแน่นอน แน่ๆ


อะเฮือกกกกกกกก น้ำน้อยเช่นกัน ตอนเราไปมีฝรั่งนอนแช่น้ำกับเด็กๆสองสามกลุ่ม
นั่งแช่น้ำที่เลยตาตุ่มขึ้นมาหน่อยกินลมชมวิวสบายใจเฉิบ ส่วนเรากับพี่แปะ เดินๆเดินสำรวจป่ากันต่อไป


จุดชมวิวน้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นสะพานแขวน เห็นมีป้ายชี้บอกไปน้ำตกไทรโยคน้อยจากสะพานนี้ด้วย
ไม่รู้ว่าทางลัดเชื่อมต่อกันหรืออะไร



เดินไปเดินมา มองนาฬิกาอีกทีก็จะบ่ายสอง ใกล้เวลาเช็คอินที่พักของเราแล้นนนน
ป่ะ ไปรอเช็คอินไฮไลท์ทริปนี้กันเถอะ โกกกโกกกกกก


" ไทรโยควิวราฟท์ รีสอร์ท "


ก่อนจะมา ไม่น่าเชื่อว่าเราจะจองได้ เป็นอะไรที่ฟลุคมั่กๆ เราเห็นรีวิวของที่นี่หลายกระทู้แล้ว
อยากมาสัมผัสด้วยตัวเองบ้าง อืมนะ จะเป็นไงตามมาชมกันเลย


ที่จอดภายในที่พักมีเพียงพอกับลูกค้าทุกท่านแน่นอน เราจอดรถด้านบน ที่พักของเราต้องเดินลงท่าน้ำไปค่ะ
จุดรีเซฟชั่นเช็คอิน อยู่ตรงจุดที่รับประทานอาหารเลย ตอนแรกลงรถไปเราก็งงๆ เพราะตรงที่จอดรถยังต่อเติมอยู่
มีสระว่ายน้ำ มีคนงานเต็มไปหมด จนเห็นคนที่ขับรถตามเข้ามาทยอยกันเดินลงไป ก็เลยตามๆเค้าไป

ตอนเรามาถึงฝนตกปรอยๆ ไม่หนักมาก ฟ้าครึ้ม จริงๆตกๆหยุดๆตั้งแต่ที่น้ำตกแล้ว
เราไม่ได้ซีเรียสอะไรกับสภาพอากาศแบบนี้ ชิวๆไป ก็ธรรมชาติอะเนาะ เข้าใจ
เราปลื้มปริ่มกับวิวตรงหน้ามากๆ เราชอบอะไรแบบนี้ โอ๊ยฉดชื่น



เลขห้องพักของเรา พี่พนักงานบอกว่า " เดินไกลนิดนึงนะคะ " คิดในใจ คงไม่ไกลมากหรอก
หึ! อืม เนื่องจากได้เลขห้องต้นๆห้องเราจึงอยู่ไกลออกไป สี่แพใหญ่ ข้อดีของการได้ที่พักเดินไกล
คือตอนกลางคืน จะมีคนเดินผ่านหน้าห้องเราไม่มาก ก็จะไม่ถูกรบกวนมากนัก เพราะคนเดินทีนี่สะเทือนทั้งแพค่ะ
เอาสัมภาระเก็บเข้าที่พักเรียบร้อย กะจะเดินสำรวจรีสอร์ทซะหน่อย ดันหิวขึ้นมาซะก่อน
ไม่หิวได้ไง เมื่อเช้ากินแค่ข้าวเหนียวหมูปิ้งไปเองนะ
ไปถามที่รีเซฟชั่นว่าสั่งอาหารได้มั้ย คำตอบคือ ไม่มีค่ะ แป่วว เอาไงล่ะทีนี้ เพิ่งจะบ่ายสาม รอกินบุฟเฟ่ตอนทุ่มนึงไม่ไหวหรอก
ออกค่ะออก ออกไปปากทางตรงถนนใหญ่เจอร้านนี้  


สั่งข้าวผัดหมู กับ กระเพราหมูสับไข่ดาว
ปรากฎว่า ให้สามผ่าน แต่ข้าวผัดหมู ให้สี่ผ่านไปเลยค่ะ อร่อยจนสั่งใส่กล่องอีก2 กล่อง
เนื่องด้วยพี่แปะกลัวไม่มีอะไรกินตอนหิวยามดึก กล่องเดียวก็พอมั้ย ห้ะๆไม่หรอ อะแล้วแต่
โฉมหน้าข้าวผัดหมู


อิ่มแล้ว กลับไปสำรวจรีสอร์ทกันต่อ
รูปเยอะมาก กดกันยับเลยทีเดียว
พี่แปะตุนเสบียง แสน็คของเค้าคือข้าวผัดหมู คลีนๆ


มีนีโม่ด้วย แอะ ไม่ใช่


ด้านหน้าระเบียงที่พัก



กิจกรรมของที่นี่คือ สี่และห้าโมงเย็นจะมีเรือมาลากแพให้นักท่องเที่ยวได้โดดน้ำให้ชื่นใจกัน
พี่แปะเลือกรอบสี่โมง อะดูเวลา สี่โมงแล้วนี่แพออกแล้วมั้ง ไปเร๊ว วิ่ง

เรือจะลากแพไปที่ต้นน้ำใกล้ๆกับสะพาน จะมีเจ้าหน้าที่บนเรือคอยให้สัญญาณหลังจากเรือยูเทิร์นเสร็จ
" โดดเลย " สิ้นเสียงเจ้าหน้าที่ ก็มีแต่เสียงหัวเราะ และเสียงน้ำ ตู้ม ตู้ม มีทั้งคนที่มาเป็นคู่ และคนที่มาเป็นแก๊งค์
ทั้งผลักเพื่อน ถีบเพื่อน เฮฮากันจนเรายังหัวเราะตาม
ส่วนพี่แปะ ฉายเดี่ยวโดดเดี่ยวเดียวดายในท้องเล โดดไปคนแรกๆแล้ว


มนุษย์ตัวเขียวๆส้มๆลอยคอตามกระแสน้ำมาเรื่อยๆ
น้ำแรงมาก ใครว่ายน้ำไม่เป็นถึงมีชูชีพก็ต้องระวังด้วยนะ
เราก็ว่ายน้ำไม่เป็น เราใส่ชูชีพอยู่บนแพ 55555



โอ้โห ห่างกันแป๊ปเดียว มีสาวรุมล้อมขนาดนี้เลย ฮอตจริงๆ
*ขออนุญาติพี่คนในภาพมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขำๆนะ*


กิจกรรมนี้ใช้เวลาประมาณ 45 นาที พี่แปะชวนโดดรอบสองด้วยแต่ยังไงเราก็ไม่โดดจ้ะ
แต่ก็ติดสอยห้อยตามไปบนแพด้วยอีกรอบ นั่งชิวๆไป
หลังจากโดดแม่น้ำแคว กิจกรรมต่อไปก็คือกินๆๆๆๆๆๆๆๆ บุฟเฟ่ต์อาหารเย็นของทางรีสอร์ทตอนหนึ่งทุ่ม
เสียงล่ำลือกันมาว่าอร่อยนักหนา ไหนชิมซิ
อืมมมมม อร่อยมาก อร่อยจริงๆ เราไม่ได้ถ่ายรูปมานะ เพราะห่วงแต่กิน กับข้าวสี่ห้าอย่าง อร่อยทุกอย่าง
มีเติมเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวหมด ยำฟักแม้วใส่กุ้งใส่หมูสับนี่เบิ้ลไปสาม อร่อยจริงคอนเฟิร์ม
เดินแน่นกลับห้องเลยจ้ะ  
ข้าวผัดหมูพี่แปะเป็นหมันกันเลยทีเดียว สองกล่องทิ้งเฉย

ภายในห้องพัก มีเตียง แอร์ พัดลม ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นครบครัน ไม่มีทีวีและตู้เย็น
หรือแม้กระทั่งสัญญาณ wifi
เหมาะแก่การมาพักผ่อนจริงๆ เราเข้านอนกันตั้งแต่สี่ทุ่ม ตื่นขึ้นมาอีกที หกโมงเช้า
นี่แพหรือตู้แช่ปลา เปิดแอร์ซะหนาวเลยแก ออกมาหน้าระเบียง
โง้ยยยย หมอก วิ่งกลับเข้ามาเรียกพี่แปะ ตื่นนนตื่นโว้ย ดูหมอก


จัดแจงล้างหน้าล้างตาแปรงขี้ฟัน ไปค่ะ บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า

เธอๆ แน่ใจนะว่ามาพักผ่อน จ้องจะกินอย่างเดียว
อาหารเช้าก็ตามนี้ค่ะ ไข่ดาว แฮม ขนมปัง ชา กาแฟ สไตล์อเมริกัน
หรือจะไทยไทย ก็ข้าวต้มหมู จัดไปค่ะครึ่งไทยครึ่งเมกัน



กินไปมองวิวไป สดชื่นดี เราไม่ได้ออกมานอกเมืองกรุงกันนานแล้ว
ไม่ได้มาสัมผัสธรรมชาตินานแล้ว เอาแบบล่าสุดเลยก็เมื่อปลายมกราไปเชียงใหม่ด้วยกันกับแก๊งเพื่อนมาอาทิตย์นึง
นึกแล้วก็อยากกลับไปอีก อยู่ตรงนี้ก็ได้ยังไม่อยากกลับกรุง งอแง



10 โมงเช้า เราเช็คเอาท์ออกจากที่พัก บ๊ายบายแล้วเราจะมาใหม่นะ  


เราไปแวะเที่ยวในเมืองกันอีกนิดหน่อย เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อนะ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวไทย กาญจนบุรี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่