เมื่อเช้า ได้มีโอกาสอ่านกระทู้ของคุณ เลอคู เกี่ยวกับประเทศเยอรมัน และ ญี่ปุ่น ... สองประเทศนี้มีประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวดด้วยกันทั้งสิ้น เพราะช่วงเวลานึงเป็นฝ่ายอักษะ ร่วมกันในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ฝ่ายเยอรมันเองก็ได้พ่ายแพ้ในสงครามดลกครั้งที่สอง ภายใต้การนำของฮิตเลอร์ ประเทศเสียหายไปมากมาย ในขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็บอบช้ำไม่แพ้กัน จากที่อเมริกา ทิ้งระเบิดปรมณูที่ฮิโรชิมา และนางาซากิ
แต่.. ในปัจจุบัน ทั้งสองประเทศนี้กลับสามารถบูรณาการตนเอง จนลุกขึ้นมาเป็นประเทศที่มีคุณภาพ อันดับต้นๆของโลก และมีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกในองค์รวมดได้
ประเด็นนี้ ทำให้ผมกลับมามองดูประเทศไทย ... ประเทศเราผ่านผู้นำหลายท่านมามากมาย แต่ทำไมเราถึงยังย่ำอยู่จุดเดิม? ในขณะที่ประเทศที่บอบช้ำมากกว่าเราเค้าเดินไปไกลแล้ว
ผมมองว่า หากเรามองประเทศเป็น สมการสมการนึง และ ความเจริญของประเทศ เป็น ผลลัพธ์ของสมการนั้น ... การที่จะได้ผลลัพธ์เป็นบวก ผมคิดว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีปัจจัยสักอย่างที่ "คงที่"
ย้อนกลับไปที่ประเทศเยอรมัน หรือ ญี่ปุ่น อย่างที่ได้กล่าวไว้ว่า พวกเขาได้ผ่านรัฐบาลมามากมาย ผ่านผู้นำมาหลายคน ... แต่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าคงที่อย่างมาก คือ "ความเหนียวแน่นของประชาชน" --> ผมเชื่อว่าหากเราๆ ท่านๆไปลองค้นคว้าดู หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว ประชาชน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างยิ่งยวด ก่อให้เกิดความภูมิใจของชาติตัวเอง หรือ ความรักชาติของตนเอง
เมื่อผมกลับมามองประเทศไทยตอนนี้ และ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา "เรา" ในฐานะคนไทย มีความ"เหนี่ยวแน่น" กันซักเท่าไหร่
เรา... ทะเลาะกันเพื่ออะไร? เพื่อใครสักคนนึงมั๊ย? หรือ เราทะเลาะกันเพื่อประเทศของเราให้เดินหน้าต่อไปได้? เชื่อว่าหลายคน มีคำตอบในใจอยู่แล้ว
บางที... แทนที่เราจะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งผู้นำที่เรารักเราชอบ หรือ เพื่อให้ได้มาซึ่งระบบการปกครองที่เราต้องการ เราอาจจะต้องกลับมานั่งสำรวจตัวเองในฐานะ"คนไทย" ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ เราทะเลาะกันเพื่ออะไร?
มิเช่นนั้น ผมคิดว่า ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนผู้นำรัฐบาลอีกสักกี่คน หรือ มีรัฐบาลใหม่อีกซักกี่รัฐบาล เราก็จะวนมาอยู่ที่จุดเดิม.. ไม่มีวันจบสิ้น ตราบใดที่ประชาชนคนไทยเรายังไม่มีความเหนี่ยวแน่น เฉกเช่นกับสมการที่มีตัวแปรไม่คงที่... นั่นคือ "ประชาชน" นั่นเอง
"ไทย" ต้องหลอมรวม กลับมาเป็น "ไทย" ให้ได้เหมือนเดิมก่อน เราถึงจะก้าวไปข้างหน้าได้
ฝ่ายเยอรมันเองก็ได้พ่ายแพ้ในสงครามดลกครั้งที่สอง ภายใต้การนำของฮิตเลอร์ ประเทศเสียหายไปมากมาย ในขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็บอบช้ำไม่แพ้กัน จากที่อเมริกา ทิ้งระเบิดปรมณูที่ฮิโรชิมา และนางาซากิ
แต่.. ในปัจจุบัน ทั้งสองประเทศนี้กลับสามารถบูรณาการตนเอง จนลุกขึ้นมาเป็นประเทศที่มีคุณภาพ อันดับต้นๆของโลก และมีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกในองค์รวมดได้
ประเด็นนี้ ทำให้ผมกลับมามองดูประเทศไทย ... ประเทศเราผ่านผู้นำหลายท่านมามากมาย แต่ทำไมเราถึงยังย่ำอยู่จุดเดิม? ในขณะที่ประเทศที่บอบช้ำมากกว่าเราเค้าเดินไปไกลแล้ว
ผมมองว่า หากเรามองประเทศเป็น สมการสมการนึง และ ความเจริญของประเทศ เป็น ผลลัพธ์ของสมการนั้น ... การที่จะได้ผลลัพธ์เป็นบวก ผมคิดว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีปัจจัยสักอย่างที่ "คงที่"
ย้อนกลับไปที่ประเทศเยอรมัน หรือ ญี่ปุ่น อย่างที่ได้กล่าวไว้ว่า พวกเขาได้ผ่านรัฐบาลมามากมาย ผ่านผู้นำมาหลายคน ... แต่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าคงที่อย่างมาก คือ "ความเหนียวแน่นของประชาชน" --> ผมเชื่อว่าหากเราๆ ท่านๆไปลองค้นคว้าดู หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว ประชาชน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างยิ่งยวด ก่อให้เกิดความภูมิใจของชาติตัวเอง หรือ ความรักชาติของตนเอง
เมื่อผมกลับมามองประเทศไทยตอนนี้ และ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา "เรา" ในฐานะคนไทย มีความ"เหนี่ยวแน่น" กันซักเท่าไหร่
เรา... ทะเลาะกันเพื่ออะไร? เพื่อใครสักคนนึงมั๊ย? หรือ เราทะเลาะกันเพื่อประเทศของเราให้เดินหน้าต่อไปได้? เชื่อว่าหลายคน มีคำตอบในใจอยู่แล้ว
บางที... แทนที่เราจะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งผู้นำที่เรารักเราชอบ หรือ เพื่อให้ได้มาซึ่งระบบการปกครองที่เราต้องการ เราอาจจะต้องกลับมานั่งสำรวจตัวเองในฐานะ"คนไทย" ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ เราทะเลาะกันเพื่ออะไร?
มิเช่นนั้น ผมคิดว่า ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนผู้นำรัฐบาลอีกสักกี่คน หรือ มีรัฐบาลใหม่อีกซักกี่รัฐบาล เราก็จะวนมาอยู่ที่จุดเดิม.. ไม่มีวันจบสิ้น ตราบใดที่ประชาชนคนไทยเรายังไม่มีความเหนี่ยวแน่น เฉกเช่นกับสมการที่มีตัวแปรไม่คงที่... นั่นคือ "ประชาชน" นั่นเอง