ค่าของคนวัดกันที่ผลงาน ไม่ใช่ยศถาบรรดาศักดิ์ ประชาชนเขาไม่ได้จดไม่ได้จำกันหรอก ว่าน้าแม๊ว จะมียศอะไร
แต่เขาจำผลงานได้ ผลงานที่จับต้องได้ ตลอดเวลาที่น้าแม๊วบริหารประเทศ เศรษฐกิจดี ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี
เศรษฐกิจยุคที่น้าแม้วดีกว่าคนอื่น ๆ ผ่านมาจนถึงยุคนายม๊ากกกก เศรษฐกิจดิ่งลงเหว โครงการรัฐคอร์รัปชั่น อย่างหน้าไม่อาย
มียุคป้าปูว์ ที่เศรษกิจกระเตื้องขึ้นมา ทั้งที่ทำงานในสถาณการณ์ที่ยาก แต่ก็ทำให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ ชาวสวนยางก็ขายยางได้ราคาดี
รีบ ๆ ถอดยศไปเถอะ who care ?
ตัวอย่างผลงานน้าแม๊ว ที่ประชาชนยังจดจำถึงทุกวันนี้
- โครงการ OTOP
- กองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท
- ชดใช้หนี้สินIMF
- โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค
- โครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อย เป็นเวลา 3 ปี
- เพิ่มGDPจากร้อยละ 2.1 ในปี พ.ศ. 2544 ขึ้นมาเป็นร้อยละ 6.7 ในปี พ.ศ. 2547
- เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ เพิ่มจาก 4.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี พ.ศ. 2547 เพิ่มเป็น 5.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี พ.ศ. 2548
- ลดหนี้สาธารณะ จาก 57% ของGDP ในปี พ.ศ. 2544 เหลือ 41% ของGDP ในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2549
- นโยบายปล่อยราคายางพาราให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยราคายางพาราในสมัยนั้น เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 18 บาท ขึ้นสูงสุดเป็น 100 บาท
ฯลฯ
ไม่ว่า น้าแม๊ว จะมี ยศถาบรรดาศักดิ์ อะไร แต่ น้าแม๊ว ก็ เป็น นายกรัฐมนตรี ที่ ดีที่สุด เท่าที่ ประเทศไทย เคยมีมา ?
แต่เขาจำผลงานได้ ผลงานที่จับต้องได้ ตลอดเวลาที่น้าแม๊วบริหารประเทศ เศรษฐกิจดี ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี
เศรษฐกิจยุคที่น้าแม้วดีกว่าคนอื่น ๆ ผ่านมาจนถึงยุคนายม๊ากกกก เศรษฐกิจดิ่งลงเหว โครงการรัฐคอร์รัปชั่น อย่างหน้าไม่อาย
มียุคป้าปูว์ ที่เศรษกิจกระเตื้องขึ้นมา ทั้งที่ทำงานในสถาณการณ์ที่ยาก แต่ก็ทำให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ ชาวสวนยางก็ขายยางได้ราคาดี
รีบ ๆ ถอดยศไปเถอะ who care ?
ตัวอย่างผลงานน้าแม๊ว ที่ประชาชนยังจดจำถึงทุกวันนี้
- โครงการ OTOP
- กองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท
- ชดใช้หนี้สินIMF
- โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค
- โครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อย เป็นเวลา 3 ปี
- เพิ่มGDPจากร้อยละ 2.1 ในปี พ.ศ. 2544 ขึ้นมาเป็นร้อยละ 6.7 ในปี พ.ศ. 2547
- เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ เพิ่มจาก 4.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี พ.ศ. 2547 เพิ่มเป็น 5.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี พ.ศ. 2548
- ลดหนี้สาธารณะ จาก 57% ของGDP ในปี พ.ศ. 2544 เหลือ 41% ของGDP ในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2549
- นโยบายปล่อยราคายางพาราให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยราคายางพาราในสมัยนั้น เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 18 บาท ขึ้นสูงสุดเป็น 100 บาท
ฯลฯ