เป็นทริปที่เหมือนไม่ได้ตั้งใจจะไป ฮ่าๆๆ
คืออยากไปนานแล้ว แต่ดูจะไปลำบาก พอดีคุณนายมีทริปที่เดอะแก๊งค์นางจัด (ซึ่งตอนแรกคือไปแค่ 4-5 คน) ก็เลยขอติดสอยห้อยตามไปด้วย จัดไปจัดมาสุดท้ายมีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 18 คน ฮ่าๆๆ เยอะเวอร์ ระดับกรุ๊ปทัวร์เลยนะยูว การเดินทางคือออกเดินทางบ่าย ค้างที่ตัวเมืองสุราษฎ์ 1 คืน ก่อนลงเรือไปต่อที่เขื่อนเชี่ยวหลาน นอนแพ 2 คืน
(ค่าใช้จ่ายทั้งทริปไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินคือคนละ 4500 บาท โดยประมาณ เดินทางภายในสุราษฎ์โดยการเหมารถตู้ 2 คัน สำหรับทริปสวของเรา)
อีลูกจองตั๋วล่วงหน้าก่อนไปประมาณ 2-3 เดือน ใช้สิทธิกัปปิตันลดเหลือ 200 บาทไป-กลับ (ถูกยิ่งกว่ารถทัวร์ค่ะคุ๊ณ) แต่ตัวคุณนายไม่ได้จองตั๋วเพราะสิทธิบุพการีมิสามารถจองล่วงหน้าได้ นางไปลุ้นเอาที่หน้าเคาน์เตอร์ทั้งขาไปขากลับ... ชีวิตมีสีสันตลอดเว โดนไปกลับทั้งหมด ประมาณพันนึงมั้ง
หมายเหตุ-ที่อยากทำงานสายการบินเพราะได้ตั๋วถูกนี่แหละ ...แต่เขาไม่รับฉันไง เขาไม่รับฉานนนนนนนนนน
ออกเดินทางโดยแยกย้ายกันไป เพราะตั๋วเราคนละเวลากับคณะทัวร์และคุณนายต้องตัวปลิวไปเกาะเคาน์เตอร์แต่เช้า อีลูกก็แบกกระเป๋า11โลขึ้นสองแถวต่อรถเมล์ตามด้วยแท๊กซี่ ไปถึงดอนเมืองอย่างเร็วไว เคาน์เตอร์โล่งงงง... แบบไม่เคยเจอะมาก่อน อาจจะเพราะไฟลท์บ่ายคนน้อย เวลาที่เผื่อไว้เลยเหลือเฟือ เครื่องออก 14.25 อีนี่ไปถึง 11.50 แถมเช็คอินล่วงหน้าไปแล้วด้วยอีก... เลยนั่งมองฝรั่งเพลินๆ ฆ่าเวลาไป
วันที่ไปเป็นช่วงที่สุราษฏ์จะมีปาร์ตี้ฟูลมูน ฝรั่งเลยเยอะเป็นพิเศษ ไฟลท์เรานี่สปีกปะกิตกันทั้งลำ และตามธรรมเนียมของตัวนำฝนอย่างเรา อีตอนออกจากกรุงเทพนี่ฟ้าแจ้งเลย พอเครื่องใกล้แลนดิ้งเท่านั้นแหละ ห่า........ฝน ลงมาเป็นสายมืดฟ้ามัวดิน พระอาทิตย์โบกมือลาเข้ากลีบเมฆไปอย่างสวยงาม สุราษฏ์ต้อนรับเราด้วยฝนที่คนขับรถตู้บอกว่า ปกติปีก่อนๆไม่ตกหรอกช่วงนี้.....
คืนแรกทำอาหารกินกัน โดยปราศจากการได้ลิ้มรสหอยนางรมตัวเขื่อง เพราะน้าที่ไปตลาดบอกว่า... ทั้งตลาดบ่มีขาย อยากร้องไห้ มาถึงหอยนางรมแต่ได้กินตำส้มปลา-ที่เพื่อนคุณนายพกมาจากอุดร ยอมใจ...
ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวลงเรือที่เขื่อน แดดร้อนละลายมาก ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อวานฝนตกตั้งแต่บ่าย... แต่อย่าเพิ่งดีใจไป
คณะฯถึงแพประมาณเที่ยง กินข้าวที่แพจัด เก็บขอเข้าที่และออกเดินทางไปดูถ้ำ ซึ่งเราต้องนั่งเรือไปลง จากนั้นเดินข้ามเขา แล้วก็ลงแพอีกที... ไม่อยากจะพูด!!!
แบกกล้องเขื่องๆไป ขึ้นเขา คิดว่าได้ถ่ายรูปอะไรไหม? แค่สังขารตัวเองยังเอาเกือบไม่รอด เหนื่อยโคตร รีบโคตรเพราะหนีฝน
[CR] Le Buoa’s trip: ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ณ เชี่ยวหลาน
เป็นทริปที่เหมือนไม่ได้ตั้งใจจะไป ฮ่าๆๆ
คืออยากไปนานแล้ว แต่ดูจะไปลำบาก พอดีคุณนายมีทริปที่เดอะแก๊งค์นางจัด (ซึ่งตอนแรกคือไปแค่ 4-5 คน) ก็เลยขอติดสอยห้อยตามไปด้วย จัดไปจัดมาสุดท้ายมีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 18 คน ฮ่าๆๆ เยอะเวอร์ ระดับกรุ๊ปทัวร์เลยนะยูว การเดินทางคือออกเดินทางบ่าย ค้างที่ตัวเมืองสุราษฎ์ 1 คืน ก่อนลงเรือไปต่อที่เขื่อนเชี่ยวหลาน นอนแพ 2 คืน
(ค่าใช้จ่ายทั้งทริปไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินคือคนละ 4500 บาท โดยประมาณ เดินทางภายในสุราษฎ์โดยการเหมารถตู้ 2 คัน สำหรับทริปสวของเรา)
อีลูกจองตั๋วล่วงหน้าก่อนไปประมาณ 2-3 เดือน ใช้สิทธิกัปปิตันลดเหลือ 200 บาทไป-กลับ (ถูกยิ่งกว่ารถทัวร์ค่ะคุ๊ณ) แต่ตัวคุณนายไม่ได้จองตั๋วเพราะสิทธิบุพการีมิสามารถจองล่วงหน้าได้ นางไปลุ้นเอาที่หน้าเคาน์เตอร์ทั้งขาไปขากลับ... ชีวิตมีสีสันตลอดเว โดนไปกลับทั้งหมด ประมาณพันนึงมั้ง
หมายเหตุ-ที่อยากทำงานสายการบินเพราะได้ตั๋วถูกนี่แหละ ...แต่เขาไม่รับฉันไง เขาไม่รับฉานนนนนนนนนน
ออกเดินทางโดยแยกย้ายกันไป เพราะตั๋วเราคนละเวลากับคณะทัวร์และคุณนายต้องตัวปลิวไปเกาะเคาน์เตอร์แต่เช้า อีลูกก็แบกกระเป๋า11โลขึ้นสองแถวต่อรถเมล์ตามด้วยแท๊กซี่ ไปถึงดอนเมืองอย่างเร็วไว เคาน์เตอร์โล่งงงง... แบบไม่เคยเจอะมาก่อน อาจจะเพราะไฟลท์บ่ายคนน้อย เวลาที่เผื่อไว้เลยเหลือเฟือ เครื่องออก 14.25 อีนี่ไปถึง 11.50 แถมเช็คอินล่วงหน้าไปแล้วด้วยอีก... เลยนั่งมองฝรั่งเพลินๆ ฆ่าเวลาไป
วันที่ไปเป็นช่วงที่สุราษฏ์จะมีปาร์ตี้ฟูลมูน ฝรั่งเลยเยอะเป็นพิเศษ ไฟลท์เรานี่สปีกปะกิตกันทั้งลำ และตามธรรมเนียมของตัวนำฝนอย่างเรา อีตอนออกจากกรุงเทพนี่ฟ้าแจ้งเลย พอเครื่องใกล้แลนดิ้งเท่านั้นแหละ ห่า........ฝน ลงมาเป็นสายมืดฟ้ามัวดิน พระอาทิตย์โบกมือลาเข้ากลีบเมฆไปอย่างสวยงาม สุราษฏ์ต้อนรับเราด้วยฝนที่คนขับรถตู้บอกว่า ปกติปีก่อนๆไม่ตกหรอกช่วงนี้.....
คืนแรกทำอาหารกินกัน โดยปราศจากการได้ลิ้มรสหอยนางรมตัวเขื่อง เพราะน้าที่ไปตลาดบอกว่า... ทั้งตลาดบ่มีขาย อยากร้องไห้ มาถึงหอยนางรมแต่ได้กินตำส้มปลา-ที่เพื่อนคุณนายพกมาจากอุดร ยอมใจ...
ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวลงเรือที่เขื่อน แดดร้อนละลายมาก ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อวานฝนตกตั้งแต่บ่าย... แต่อย่าเพิ่งดีใจไป
คณะฯถึงแพประมาณเที่ยง กินข้าวที่แพจัด เก็บขอเข้าที่และออกเดินทางไปดูถ้ำ ซึ่งเราต้องนั่งเรือไปลง จากนั้นเดินข้ามเขา แล้วก็ลงแพอีกที... ไม่อยากจะพูด!!!
แบกกล้องเขื่องๆไป ขึ้นเขา คิดว่าได้ถ่ายรูปอะไรไหม? แค่สังขารตัวเองยังเอาเกือบไม่รอด เหนื่อยโคตร รีบโคตรเพราะหนีฝน