หมู่บ้าน แห่งหนึ่งริมแม่น้ำโขง ที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงยึดอาชีพหาปลาและทำสวน แม่น้ำโขงคือลมหายใจของพวกเขา แต่ก็เป็นที่หวาดกลัวในคราวเดียวกัน
คนเฒ่าคนแก่เล่าว่า ใต้น้ำลึกนั้น ไม่ได้มีแค่ปลาใหญ่หรือจระเข้ แต่ยังมี “สิ่งอื่น” ที่คนไม่ควรเอ่ยถึง
คืนหนึ่งในฤดูฝน น้ำขึ้นสูงไหลเชี่ยว เด็กหนุ่มชื่อ “บอม” กับเพื่อนสนิทอีกสองคน “ก้อง” และ “เวย์” ตัดสินใจพายเรือออกไปกลางแม่น้ำเพื่อหาปลา ทั้งที่ผู้ใหญ่เตือนแล้วว่าช่วงนี้น้ำแรง ไม่ควรเสี่ยง
แต่ความคะนองของวัยหนุ่มผลักพวกเขาออกไป
กลางลำน้ำ เสียงน้ำไหลเชี่ยวเหมือนคำราม บอมทอดแหลงในน้ำลึก ทั้งสามคนหัวเราะเยาะเสียงเตือนของผู้ใหญ่ แต่ทันใดนั้นเอง… แหที่โยนออกไปกลับหนักผิดปกติ รั้งบอมจนเขาแทบเสียหลักตกเรือ
“มันติดอะไรฟะ?!” บอมสบถ พยายามดึงแหกลับมา แต่ยิ่งดึงกลับยิ่งหนัก ราวกับมีบางอย่างถ่วงมันไว้
ทันใดนั้น…
เสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นข้างหู
“ลงมา… ลงมาสิ…”
บอมสะดุ้งหันขวับไปมองเพื่อน “เมื่อกี้พวกพูดไรป่ะ?”
ก้องกับเวย์มองหน้ากัน “พูดอะไร? ไม่มีใครพูดนะ”
อยู่ดี ๆ ผิวน้ำก็แตกกระจายเหมือนมีอะไรตีน้ำอยู่ข้างใต้ เสียงซู่ซ่ากระเพื่อมขึ้นรอบเรือ พวกเขาใจคอไม่ดี รีบเก็บของจะพายเรือกลับฝั่ง แต่แหกลับไม่ยอมหลุดออกมาเสียที
แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง…
“ลงมาเถอะ… ที่นี่มีที่ให้พวกเจ้ามากมาย…”
ทันใดนั้น บางสิ่งสีขาวซีดโผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำ มือนั้นยาวผิดธรรมชาติ นิ้วเรียวยาวแช่น้ำจนซีดเผือด คว้าเข้าที่ขอบเรือ
บอมกรีดร้องลั่น พวกเขาพยายามเขย่าเรือ แต่เรือกลับเอียงเหมือนถูกดึงจากข้างใต้
“พายเรือ! พายเรือเร็ว!!” ก้องตะโกนเสียงสั่น
เวย์พยายามใช้ไม้พายแต่โดนแรงดึงกระชากหายไปต่อหน้าต่อตา เสียงน้ำซ่า! ดังสนั่น ตามด้วยฟองอากาศพรวดขึ้นมาเป็นสาย
บอมกับก้องเหลือกันอยู่แค่สองคน พวกเขาพายเรือหัวซุกหัวซุน แต่เสียงกระซิบกลับยิ่งดัง… ดังจนเหมือนอยู่ในหัว
“หนาว… หนาวเหลือเกิน… มอบความอบอุ่นให้ข้าสิ…”
ในวินาทีสุดท้ายที่เรือเกือบถึงฝั่ง บางอย่างก็คว้าข้อเท้าของบอมลากลงไปในน้ำ ก้องหันกลับมาเห็นเพื่อนดิ้นสุดแรง ก่อนถูกดึงหายวับไปกับความมืด
เช้าวันถัดมา ชาวบ้านพบเรือลอยเปล่าอยู่กลางน้ำ ไม่มีร่างใคร ไม่มีเสียงใด ๆ มีเพียงแหที่เปียกโชกหนักอึ้ง ทิ้งรอยคราบสีคล้ำดำบนพื้นไม้
มีเพียงก้องที่รอดมาเล่าเรื่องนี้… แต่เขาไม่เคยพูดถึงมันอีกเลย
จนทุกวันนี้ ชาวบ้านยังคงเชื่อว่า ยามน้ำขึ้นแรง ไม่ควรออกไปกลางแม่น้ำโขง เพราะนอกจากสายน้ำเชี่ยวแล้ว ยังมี “วิญญาณในน้ำ” ที่รอฉุดคนเหงา ๆ ลงไปเป็นเพื่อนใต้ผืนน้ำเย็นเยียบ…
เสียงจากใต้ผิวน้ำโขง
คนเฒ่าคนแก่เล่าว่า ใต้น้ำลึกนั้น ไม่ได้มีแค่ปลาใหญ่หรือจระเข้ แต่ยังมี “สิ่งอื่น” ที่คนไม่ควรเอ่ยถึง
คืนหนึ่งในฤดูฝน น้ำขึ้นสูงไหลเชี่ยว เด็กหนุ่มชื่อ “บอม” กับเพื่อนสนิทอีกสองคน “ก้อง” และ “เวย์” ตัดสินใจพายเรือออกไปกลางแม่น้ำเพื่อหาปลา ทั้งที่ผู้ใหญ่เตือนแล้วว่าช่วงนี้น้ำแรง ไม่ควรเสี่ยง
แต่ความคะนองของวัยหนุ่มผลักพวกเขาออกไป
กลางลำน้ำ เสียงน้ำไหลเชี่ยวเหมือนคำราม บอมทอดแหลงในน้ำลึก ทั้งสามคนหัวเราะเยาะเสียงเตือนของผู้ใหญ่ แต่ทันใดนั้นเอง… แหที่โยนออกไปกลับหนักผิดปกติ รั้งบอมจนเขาแทบเสียหลักตกเรือ
“มันติดอะไรฟะ?!” บอมสบถ พยายามดึงแหกลับมา แต่ยิ่งดึงกลับยิ่งหนัก ราวกับมีบางอย่างถ่วงมันไว้
ทันใดนั้น…
เสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นข้างหู
“ลงมา… ลงมาสิ…”
บอมสะดุ้งหันขวับไปมองเพื่อน “เมื่อกี้พวกพูดไรป่ะ?”
ก้องกับเวย์มองหน้ากัน “พูดอะไร? ไม่มีใครพูดนะ”
อยู่ดี ๆ ผิวน้ำก็แตกกระจายเหมือนมีอะไรตีน้ำอยู่ข้างใต้ เสียงซู่ซ่ากระเพื่อมขึ้นรอบเรือ พวกเขาใจคอไม่ดี รีบเก็บของจะพายเรือกลับฝั่ง แต่แหกลับไม่ยอมหลุดออกมาเสียที
แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง…
“ลงมาเถอะ… ที่นี่มีที่ให้พวกเจ้ามากมาย…”
ทันใดนั้น บางสิ่งสีขาวซีดโผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำ มือนั้นยาวผิดธรรมชาติ นิ้วเรียวยาวแช่น้ำจนซีดเผือด คว้าเข้าที่ขอบเรือ
บอมกรีดร้องลั่น พวกเขาพยายามเขย่าเรือ แต่เรือกลับเอียงเหมือนถูกดึงจากข้างใต้
“พายเรือ! พายเรือเร็ว!!” ก้องตะโกนเสียงสั่น
เวย์พยายามใช้ไม้พายแต่โดนแรงดึงกระชากหายไปต่อหน้าต่อตา เสียงน้ำซ่า! ดังสนั่น ตามด้วยฟองอากาศพรวดขึ้นมาเป็นสาย
บอมกับก้องเหลือกันอยู่แค่สองคน พวกเขาพายเรือหัวซุกหัวซุน แต่เสียงกระซิบกลับยิ่งดัง… ดังจนเหมือนอยู่ในหัว
“หนาว… หนาวเหลือเกิน… มอบความอบอุ่นให้ข้าสิ…”
ในวินาทีสุดท้ายที่เรือเกือบถึงฝั่ง บางอย่างก็คว้าข้อเท้าของบอมลากลงไปในน้ำ ก้องหันกลับมาเห็นเพื่อนดิ้นสุดแรง ก่อนถูกดึงหายวับไปกับความมืด
เช้าวันถัดมา ชาวบ้านพบเรือลอยเปล่าอยู่กลางน้ำ ไม่มีร่างใคร ไม่มีเสียงใด ๆ มีเพียงแหที่เปียกโชกหนักอึ้ง ทิ้งรอยคราบสีคล้ำดำบนพื้นไม้
มีเพียงก้องที่รอดมาเล่าเรื่องนี้… แต่เขาไม่เคยพูดถึงมันอีกเลย
จนทุกวันนี้ ชาวบ้านยังคงเชื่อว่า ยามน้ำขึ้นแรง ไม่ควรออกไปกลางแม่น้ำโขง เพราะนอกจากสายน้ำเชี่ยวแล้ว ยังมี “วิญญาณในน้ำ” ที่รอฉุดคนเหงา ๆ ลงไปเป็นเพื่อนใต้ผืนน้ำเย็นเยียบ…