ประสบการณ์ในครั้งนี้เกิดจากได้เดินทางจากจังหวัดชลบุรีไป จังหวัดพัทลุง เพื่อกลับไปเยี่ยมญาติช่วงสงกรานต์ปี 68 และขากลับได้แวะเที่ยว จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้เกิดทริปนี้ขึ้นมา แต่เนื่องจากไม่อยากเดินทางจากพัทลุงในช่วงเช้า จึงหาที่พักระแวกเขื่อน เพื่อไม่ต้องเดินทางไกลก่อนขึ้นเรือ เป็นเหตุผลที่ นำเต็นท์มาด้วย เพื่อกางเต็นท์นอนที่เขาพัง แคมปิ้ง
ค่าใช้จ่าย
1. ลานกางเต็นท์ เขาพัง แคมปิ้ง คนละ 150 บาท
2. ค่าเหมาที่พัก แพภูตะวัน 2 วัน 1 คืน คนละ 2800 บาท ห้องพัดลม+ห้องน้ำรวม
- ค่าเรือเดินไปและกลับ
- ค่าอาหาร 3 มื้อ เที่ยง-เย็น-เช้า
- ค่าที่พัก 1 คืน
- ค่าเรือนำเที่ยวเขาสามเกลอ และ ถ้ำประกายเพชร (มีถ้ำปะการังในแพคเกจ แต่ช้างป่าลง เลยไม่ได้ไป)
- กิจกรรม เล่นน้ำและพายเรือคายัพหน้าห้องพัก
- มีสัญญาณโทรศัพท์
- ไฟฟ้าเปิดให้ใช้ช่วงเย็นถึงเช้า
3. ค่าที่จอดรถยนต์ 1 คืน 80 บาท/คัน
เราเริ่มต้นเดินทางจาก จ.พัทลุง มายัง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ถึงที่ เขาพัง แคมปิ้ง ช่วง 6 โมงเย็น เมื่อถึงที่พัก ฝนตกกระหน่ำ เป็นการยากลำบากในการกางเต็นท์เป็นอย่างมาก ในส่วนของที่พัก จะมีทั้งลานกางเต็นท์ และ เต็นท์ ของทางที่พักเอง มีหมูกระทะไว้คอยบริการ ติดลำน้ำ สามารถลงเล่นได่ช่วงเย็น แต่ต้องระวังเรื่องยุง เพราะเป็นลานที่อยู่ในสวนยาง
ที่พักห่างจากเขื่อนเชี่ยวหลาน ประมาณ 6 กิโลเมตร ช่วงเช้า 8 โมงเช้า เดินทางออกจากที่พัก สามารถหาอาหารเช้ากินแถวถนนก่อนทางเข้าเขื่อนเชี่ยวหลาน เมื่อขับมาถึงจะเห็นป้ายทางเข้า สามารถขับตรงเข้ามาด้านใน และเลี้ยวขวา เพื่อเลี้ยวไปทางจุดชมวิว และท่าเทียบเรือ
เมื่อเข้าไปด้านในสามารถแวะที่จุดชมวิว จะพบกับวิวของสันเขื่อน
จุดนี้ จะเดินรถทางเดียว ให้เราขับขึ้นไปทางด้านบน จะมีศูนย์อาหารและ ร้านกาแฟ ไว้คอยบริการ
หลังจากนั้นสามารถขับรถลงมาจากจุดชมวิว เพื่อเดินทางต่อไปยังท่าเรือ ใช้เวลา 4 นาที เพื่อไปที่ขึ้นเรือ เมื่อเดินทางมาถึงท่าเทียบเรือ จะมีจุดให้จอดรถ คิดค่าบริการ วันละ 40 บาท สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ เรานอน 1 คืน จะเสียค่าที่จอดรถ 80 บาท หลังจากนั้นให้เดินมาตรงที่มีเต็นท์โดม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่แพภูตะวัน
หากเป็นชาวต่างชาติ หรือ คนไทย จะมีค่าเข้าอุทยานฯ แต่ของเราพักกับแพ จะไม่มีเสียค่าเข้าส่วนนี้
รอทางแพภูตะวัน เรียกขึ้นเรือ เดินตามทางไปยังที่ขึ้นเรือ จะมีเรือของแพภูตะวัน มารอรับ
เดินทางจากท่าเรือ ไปยังแพภูตะวัน ใช้เวลา 25นาที บ้านพักจะ มี 2แบบ เป็นบ้านพักแบบแคปซูล และ บ้านพักแบบกระจก ซึ่งราคา ทั้ง 2 แบบ
จะแตกต่างกัน แต่เป็นพัดลม ทั้งคู่
รูปห้องพัก 2 คน แบบห้องแคปซูล คนละ 2800 บาท
วิวหน้าห้องพัก สามารถกระโดด ลงน้ำ ได้เลย
อาหาร มื้อเที่ยง มีกับข้าว 4 อย่าง สามารถเติมได้ตลอด (ยกเว้นของทอด) แบ่งโต๊ะตามจำนวนคนที่มา ไม่ต้องนั่งรวมกับคนอื่น ถือว่าดีมาก
หลังจากเข้าที่พักและเก็บของเรียบร้อย ช่วงบ่าย 2 จะมีกิจกรรมนั่งเรือไปชมกุ้ยหลินเมืองไทย เขาสามเกลอ และถ้ำประกายเพชร แต่หากวันนี้ ไม่มีช้างป่าลง ตามแพคเกจ จะมีพาไปชมถ้ำปะการังด้วย แต่ทั้งนี้วันนี้ไม่สามารถไปได้ จึงมีรูป แค่ 2 สถานที่ที่ไป เริ่มต้นด้วยเขาสามเกลอ ทางคนขับเรือ จะมีพาอ้อมไปด้านหลัง เพื่อจอดเรือให้ถ่ายกับ เขาสามเกลอ
และไปต่อกันด้วย ถ้ำประกายเพชร ด้านในจะเป็น ที่อยู่ของค้างคาว ต้องมีการเดินขึ้นบันไดไป และเข้าไปในถ้ำ แต่เดินเข้าไปไม่ลึกมาก
กิจกรรมช่วงบ่าย เริ่ม 14.00 - 16.00 น. กลับมาที่พัก สามารถเล่นน้ำและพายเรือ ได้ถึง 6 โมงเย็น เพื่อรอทานอาหารเย็น
กิจกรรมในช่วงเช้า จะมีนั่งเรือชมหมอก ในตอนเช้า ซึ่งออกจากที่พัก 7 โมงเช้า หมอกแทบไม่มีเหลือแล้ว แต่บรรยากาศตอนเช้าสวยเหมือนเดิม
กลับมาจากชมหมอก จะมีเซตอาหารเช้า เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ บริการช่วง 07.30 น.
ช่วง 9 โมงเช้า ต้องทำการ Check out และเดินทางกลับ ถึงท่าเรือ ประมาณ 9.30 น. ตามกำหนดการ
หากไม่ต้องการนอนพัก จะมีพวก one day trip ให้บริการ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่มีเวลาน้อยคะ
เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน (รัชชประภา) นอนแพภูตะวัน 2 วัน 1 คืน
ค่าใช้จ่าย
1. ลานกางเต็นท์ เขาพัง แคมปิ้ง คนละ 150 บาท
2. ค่าเหมาที่พัก แพภูตะวัน 2 วัน 1 คืน คนละ 2800 บาท ห้องพัดลม+ห้องน้ำรวม
- ค่าเรือเดินไปและกลับ
- ค่าอาหาร 3 มื้อ เที่ยง-เย็น-เช้า
- ค่าที่พัก 1 คืน
- ค่าเรือนำเที่ยวเขาสามเกลอ และ ถ้ำประกายเพชร (มีถ้ำปะการังในแพคเกจ แต่ช้างป่าลง เลยไม่ได้ไป)
- กิจกรรม เล่นน้ำและพายเรือคายัพหน้าห้องพัก
- มีสัญญาณโทรศัพท์
- ไฟฟ้าเปิดให้ใช้ช่วงเย็นถึงเช้า
3. ค่าที่จอดรถยนต์ 1 คืน 80 บาท/คัน
เราเริ่มต้นเดินทางจาก จ.พัทลุง มายัง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ถึงที่ เขาพัง แคมปิ้ง ช่วง 6 โมงเย็น เมื่อถึงที่พัก ฝนตกกระหน่ำ เป็นการยากลำบากในการกางเต็นท์เป็นอย่างมาก ในส่วนของที่พัก จะมีทั้งลานกางเต็นท์ และ เต็นท์ ของทางที่พักเอง มีหมูกระทะไว้คอยบริการ ติดลำน้ำ สามารถลงเล่นได่ช่วงเย็น แต่ต้องระวังเรื่องยุง เพราะเป็นลานที่อยู่ในสวนยาง
ที่พักห่างจากเขื่อนเชี่ยวหลาน ประมาณ 6 กิโลเมตร ช่วงเช้า 8 โมงเช้า เดินทางออกจากที่พัก สามารถหาอาหารเช้ากินแถวถนนก่อนทางเข้าเขื่อนเชี่ยวหลาน เมื่อขับมาถึงจะเห็นป้ายทางเข้า สามารถขับตรงเข้ามาด้านใน และเลี้ยวขวา เพื่อเลี้ยวไปทางจุดชมวิว และท่าเทียบเรือ
เมื่อเข้าไปด้านในสามารถแวะที่จุดชมวิว จะพบกับวิวของสันเขื่อน
จุดนี้ จะเดินรถทางเดียว ให้เราขับขึ้นไปทางด้านบน จะมีศูนย์อาหารและ ร้านกาแฟ ไว้คอยบริการ
หลังจากนั้นสามารถขับรถลงมาจากจุดชมวิว เพื่อเดินทางต่อไปยังท่าเรือ ใช้เวลา 4 นาที เพื่อไปที่ขึ้นเรือ เมื่อเดินทางมาถึงท่าเทียบเรือ จะมีจุดให้จอดรถ คิดค่าบริการ วันละ 40 บาท สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ เรานอน 1 คืน จะเสียค่าที่จอดรถ 80 บาท หลังจากนั้นให้เดินมาตรงที่มีเต็นท์โดม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่แพภูตะวัน
หากเป็นชาวต่างชาติ หรือ คนไทย จะมีค่าเข้าอุทยานฯ แต่ของเราพักกับแพ จะไม่มีเสียค่าเข้าส่วนนี้
รอทางแพภูตะวัน เรียกขึ้นเรือ เดินตามทางไปยังที่ขึ้นเรือ จะมีเรือของแพภูตะวัน มารอรับ
เดินทางจากท่าเรือ ไปยังแพภูตะวัน ใช้เวลา 25นาที บ้านพักจะ มี 2แบบ เป็นบ้านพักแบบแคปซูล และ บ้านพักแบบกระจก ซึ่งราคา ทั้ง 2 แบบ
จะแตกต่างกัน แต่เป็นพัดลม ทั้งคู่
รูปห้องพัก 2 คน แบบห้องแคปซูล คนละ 2800 บาท
วิวหน้าห้องพัก สามารถกระโดด ลงน้ำ ได้เลย
อาหาร มื้อเที่ยง มีกับข้าว 4 อย่าง สามารถเติมได้ตลอด (ยกเว้นของทอด) แบ่งโต๊ะตามจำนวนคนที่มา ไม่ต้องนั่งรวมกับคนอื่น ถือว่าดีมาก
หลังจากเข้าที่พักและเก็บของเรียบร้อย ช่วงบ่าย 2 จะมีกิจกรรมนั่งเรือไปชมกุ้ยหลินเมืองไทย เขาสามเกลอ และถ้ำประกายเพชร แต่หากวันนี้ ไม่มีช้างป่าลง ตามแพคเกจ จะมีพาไปชมถ้ำปะการังด้วย แต่ทั้งนี้วันนี้ไม่สามารถไปได้ จึงมีรูป แค่ 2 สถานที่ที่ไป เริ่มต้นด้วยเขาสามเกลอ ทางคนขับเรือ จะมีพาอ้อมไปด้านหลัง เพื่อจอดเรือให้ถ่ายกับ เขาสามเกลอ
และไปต่อกันด้วย ถ้ำประกายเพชร ด้านในจะเป็น ที่อยู่ของค้างคาว ต้องมีการเดินขึ้นบันไดไป และเข้าไปในถ้ำ แต่เดินเข้าไปไม่ลึกมาก
กิจกรรมช่วงบ่าย เริ่ม 14.00 - 16.00 น. กลับมาที่พัก สามารถเล่นน้ำและพายเรือ ได้ถึง 6 โมงเย็น เพื่อรอทานอาหารเย็น
กิจกรรมในช่วงเช้า จะมีนั่งเรือชมหมอก ในตอนเช้า ซึ่งออกจากที่พัก 7 โมงเช้า หมอกแทบไม่มีเหลือแล้ว แต่บรรยากาศตอนเช้าสวยเหมือนเดิม
กลับมาจากชมหมอก จะมีเซตอาหารเช้า เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ บริการช่วง 07.30 น.
ช่วง 9 โมงเช้า ต้องทำการ Check out และเดินทางกลับ ถึงท่าเรือ ประมาณ 9.30 น. ตามกำหนดการ
หากไม่ต้องการนอนพัก จะมีพวก one day trip ให้บริการ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่มีเวลาน้อยคะ