บ้านศิลปิน หลายคนเคยไป หลายคนคุ้นหู หลายคนยังลังเล
สถานที่ทีคนที่ไม่ได้เป็นศิลปิน ก็สามารถไปเที่ยว เยี่ยมชมกันได้
(ผู้เขียนได้นำเสนอภาพประกอบ ในรูปแบบของภาพขาวดำ ด้วยความชอบส่วนตัว)
ผู้เขียนใช้วิธีการเดินทาง โดยใช้บริการขนส่งสาธารณะ
โดย สามารถนั่งรถเมล์สาย 57 68 80 81 91 108 146 157 171 175 509 มาลงที่หน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ ซอย 3 ได้เลย จากนั้นก็มองหาซอยเล็กๆ ข้างๆเซเว่น เดินมาจนถึงสุดซอย หรือจะใช้บริการ รถสองแถวสีแดง 10 บาท หรือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากหน้าปากซอยก็ได้
พอถึงสุดซอยแล้ว จะมีซอยเล็กๆ ให้เดินไปข้ามสะพานคลองบางหลวงน้อย ลงสะพานมาก็เลี้ยวซ้าย เดินไปจนสุดทางเดิน ก็เป็นอันถึง “บ้านศิลปิน”
ระหว่างทางเดินไป ก็จะมีบ้านเรือน อยู่ติดริมคลอง มีบริการให้อาหารปลา หรือนั่งเพลินๆ ดูเรือที่แล่นผ่านไปผ่านมา สังเกตวิถีชีวิตของคนที่นี่
ชีวิตผู้คนที่นี่ ดูเรียบง่าย สบายๆ ผู้เขียนเรียนรู้ และคิดว่า “เพียงแค่ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ชีวิตก็จะนำมาซึ่งความสุขได้”

และ “การได้ทำในสิ่งที่ตนรัก ก็เป็นวิธีการหาความสุขง่ายๆ ใกล้ตัว”
ชุมชนแห่งนี้ ยังมีบรรยากาศที่เรียบง่าย เย็นสบาย ทำให้ผู้มาเยือน รู้สึกสบายใจ ปล่อยกาย ปล่อยใจ ให้เย็นดั่งสายน้ำ ทิ้งความทุกข์ ภาระที่หนักอึ้ง ไว้ชั่วครู่ แล้วมาดื่มด่ำกับความสุขที่อยู่ตรงหน้า
บ้านศิลปิน เป็นบ้านไม้ริมน้ำ มีงานศิลปะหลายประเภท ที่ถูกนำมาจัดแสดง ทั้งภาพวาด ภาพถ่าย และเปิดโอกาสให้ผู้มาเยี่ยมชม ไดมีส่วนร่วมในการออกแบบงานศิลปะด้วยตนเอง อาทิ การระบายสีหน้ากาก การวาดภาพ อีกทั้งยังมีบริการเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และของที่ระลึกต่างๆอีกมาก
นอกจากนี้ บ้านศิลปิน จัดการแสดงหุ่นละครเล็กคลองบางหลวงคณะคำนาย ที่บริเวณลานในบ้าน ทำการแสดงทุกวัน เวลา 14.00 น. ยกเว้นวันพุธ ซึ่งน่าเสียดายอย่างมาก ที่ผู้เขียนไม่ได้มาในเวลาดังกล่าว จึงไม่ได้ชมการแสดง แต่ได้เห็นสิ่งนี้แทน คือ การทำงานศิลปะ หน้ากากตัวแสดงต่างๆ
ในส่วนของชั้น 2 ได้จัดทำเป็นแกลอรี่ภาพต่างๆ
หลังจากผู้เขียนได้เดินชมรอบบ้านแล้ว ก็มานั่งพักผ่อนริมคลอง สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาดื่มให้คลายกระหาย และนั่งพูดคุยกับคนสำคัญข้างๆ ถึงเรื่องต่างๆ มากมาย ลมเย็นๆ ปะทะเข้าที่หน้า จนมีความรู้สึกว่า อยากจะเอาหมอนมาหนุนงีบเสียหน่อย เพราะบรรยากาศที่นี่ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเองจริงๆ
ไม่ได้มีแค่เราสองคนที่นั่งตรงนั้น แต่ยังมีคุณลุงคนนี้ที่นั่งเป็นเพื่อนด้วย แกนั่งมานานแล้ว เรือลำไหนที่แล่นผ่านไปมา ก็มักจะถ่ายรูปลุงแกไว้เสมอ ลมที่นี่ก็แรงมาก แรงจนพัดหมวกลุงแกปลิวไป จนเผยให้เห็นหัวล้านของลุง
นอกจากลุงแล้ว ยังมีผู้มาเยือนคนอื่นๆด้วย มีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ
นั่งกันมานานพอสมควร ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับ เพราะฟ้าฝนก็ทำท่าจะมาไล่แล้ว ก่อนจะกลับ ก็บอกลาเจ้านกน้อย
[CR] บ้านศิลปิน... แม้ไม่ใช่ศิลปิน ก็ไปเที่ยวได้
สถานที่ทีคนที่ไม่ได้เป็นศิลปิน ก็สามารถไปเที่ยว เยี่ยมชมกันได้
(ผู้เขียนได้นำเสนอภาพประกอบ ในรูปแบบของภาพขาวดำ ด้วยความชอบส่วนตัว)
ผู้เขียนใช้วิธีการเดินทาง โดยใช้บริการขนส่งสาธารณะ
โดย สามารถนั่งรถเมล์สาย 57 68 80 81 91 108 146 157 171 175 509 มาลงที่หน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ ซอย 3 ได้เลย จากนั้นก็มองหาซอยเล็กๆ ข้างๆเซเว่น เดินมาจนถึงสุดซอย หรือจะใช้บริการ รถสองแถวสีแดง 10 บาท หรือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากหน้าปากซอยก็ได้
พอถึงสุดซอยแล้ว จะมีซอยเล็กๆ ให้เดินไปข้ามสะพานคลองบางหลวงน้อย ลงสะพานมาก็เลี้ยวซ้าย เดินไปจนสุดทางเดิน ก็เป็นอันถึง “บ้านศิลปิน”
ระหว่างทางเดินไป ก็จะมีบ้านเรือน อยู่ติดริมคลอง มีบริการให้อาหารปลา หรือนั่งเพลินๆ ดูเรือที่แล่นผ่านไปผ่านมา สังเกตวิถีชีวิตของคนที่นี่
ชีวิตผู้คนที่นี่ ดูเรียบง่าย สบายๆ ผู้เขียนเรียนรู้ และคิดว่า “เพียงแค่ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ชีวิตก็จะนำมาซึ่งความสุขได้”
และ “การได้ทำในสิ่งที่ตนรัก ก็เป็นวิธีการหาความสุขง่ายๆ ใกล้ตัว”
ชุมชนแห่งนี้ ยังมีบรรยากาศที่เรียบง่าย เย็นสบาย ทำให้ผู้มาเยือน รู้สึกสบายใจ ปล่อยกาย ปล่อยใจ ให้เย็นดั่งสายน้ำ ทิ้งความทุกข์ ภาระที่หนักอึ้ง ไว้ชั่วครู่ แล้วมาดื่มด่ำกับความสุขที่อยู่ตรงหน้า
บ้านศิลปิน เป็นบ้านไม้ริมน้ำ มีงานศิลปะหลายประเภท ที่ถูกนำมาจัดแสดง ทั้งภาพวาด ภาพถ่าย และเปิดโอกาสให้ผู้มาเยี่ยมชม ไดมีส่วนร่วมในการออกแบบงานศิลปะด้วยตนเอง อาทิ การระบายสีหน้ากาก การวาดภาพ อีกทั้งยังมีบริการเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และของที่ระลึกต่างๆอีกมาก
นอกจากนี้ บ้านศิลปิน จัดการแสดงหุ่นละครเล็กคลองบางหลวงคณะคำนาย ที่บริเวณลานในบ้าน ทำการแสดงทุกวัน เวลา 14.00 น. ยกเว้นวันพุธ ซึ่งน่าเสียดายอย่างมาก ที่ผู้เขียนไม่ได้มาในเวลาดังกล่าว จึงไม่ได้ชมการแสดง แต่ได้เห็นสิ่งนี้แทน คือ การทำงานศิลปะ หน้ากากตัวแสดงต่างๆ
ในส่วนของชั้น 2 ได้จัดทำเป็นแกลอรี่ภาพต่างๆ
หลังจากผู้เขียนได้เดินชมรอบบ้านแล้ว ก็มานั่งพักผ่อนริมคลอง สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาดื่มให้คลายกระหาย และนั่งพูดคุยกับคนสำคัญข้างๆ ถึงเรื่องต่างๆ มากมาย ลมเย็นๆ ปะทะเข้าที่หน้า จนมีความรู้สึกว่า อยากจะเอาหมอนมาหนุนงีบเสียหน่อย เพราะบรรยากาศที่นี่ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเองจริงๆ
ไม่ได้มีแค่เราสองคนที่นั่งตรงนั้น แต่ยังมีคุณลุงคนนี้ที่นั่งเป็นเพื่อนด้วย แกนั่งมานานแล้ว เรือลำไหนที่แล่นผ่านไปมา ก็มักจะถ่ายรูปลุงแกไว้เสมอ ลมที่นี่ก็แรงมาก แรงจนพัดหมวกลุงแกปลิวไป จนเผยให้เห็นหัวล้านของลุง
นอกจากลุงแล้ว ยังมีผู้มาเยือนคนอื่นๆด้วย มีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ
นั่งกันมานานพอสมควร ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับ เพราะฟ้าฝนก็ทำท่าจะมาไล่แล้ว ก่อนจะกลับ ก็บอกลาเจ้านกน้อย