แชร์ข้อคิด เมื่อชีวิตผ่านไปครึ่งทาง

ผ่านมาครึ่งทาง วัยกลางคนแล้ว ยอมรับว่ามีหลายอย่างที่เปลี่ยนไปจากตอนเป็นวัยรุ่นเยอะเหมือนกัน
บางอย่างถึงเพิ่งจะเห็น และเข้าใจ เอาข้อคิดชีวิตดีๆมาแบ่งปัน แลกเปลี่ยน
ไม่รู้เหมือนกัน ว่าพอใกล้ถึงปลายทางของชีวิต มันจะเปลี่ยนไปอีกไหม  ^ ^

ชีวิต

1. ชีวิตคุณยาวนานแค่ไหน
ยาวนานแค่ลมหายใจ เข้าและออก
มีอาจารย์คนนึงเคยถาม พวกเราขำกันกลิ้ง แต่พอผ่านไปๆ เชื่อมั้ยว่าคนใกล้ตัวเราที่ดูไม่น่าจะไป ก็ตายกันไปเยอะ
พอคิดอย่างนี้ เลยทำทุกอย่างให้เต็มที่ และดีที่สุดเสมอ อยากทำอะไร ไม่หนักหัวใคร ไม่เดือดร้อนใครก็ทำเลยจ้า
ผลคือ เราไม่เคยผิดหวังกับชีวิต เพราะได้เต็มที่ในทุกวัน ไม่เคยต้องเสียใจ ว่าทำไมวันนั้นไม่ได้ทำ
เราไม่โกรธใครข้ามคืน เพราะพรุ่งนี้อาจไม่มีโอกาสได้ขอโทษ
เคยเห็นพ่อลูกที่โกรธกันนานหลายปี สุดท้ายจากกันด้วยความเจ็บปวด เศร้าแทน

2. เรียนอะไร ทำงานอะไรดี
เรียนอย่างที่อยากเรียน และทำอย่างที่อยากทำ
เราเคยคิดว่าจะเรียนภาษาอะไรดี ได้คุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา คำตอบอาจารย์อาจจะแค่สั้นๆ ว่าทำในสิ่งที่อยากทำ แต่เชื่อไหมว่าพลิกชีวิตเรา
เราถามอาจารย์ว่า เรียนเกาหลี (ตอนนั้นยังไม่มีใครเรียน) หรือญี่ปุ่น อาจารย์ตอบได้น่าคิดว่า เรียนอะไรก็ได้ที่อยากเรียน แต่ทำให้ดี ถ้าเรียนญี่ปุ่น งานเยอะ เงินดี แต่มีตัวเลือกมาก เราอยากได้งานดีๆ ก็ต้องเป็นตัวเลือกที่ดี เรียนเกาหลี งานน้อย แต่คนเรียนก็น้อย เราเป็นตัวเลือกที่ดีก็ได้งานอยู่ดี
ทำให้ดี แล้วเงินจะมาเอง สรุปไม่ได้เรียนทั้งเกาหลี และญี่ปุ่น ลองเรียนแล้วไม่ถูกจริต อย่ามัวแต่คิดอยาก คิดแล้วต้องลอง
บางอย่างมองข้างนอก ฟังคนนู้นเป็นอย่างนี้ ฟังคนนี้เป็นอย่างนั้น
แต่ละคนมีปัจจัยและพื้นฐานไม่เหมือนกัน เราเลยเรียนแต่ภาษาจีนและอังกฤษ
ตอนทำงาน ช่วงแรกย้ายงานบ่อยมากๆๆๆ 3 ปี 5 งาน ทำงานแปลแล้วมันไม่ใช่ ไม่ชอบแปลให้คนอื่น อยากเสนอความเห็นตัวเอง
เปลี่ยน ไปเรียนโทสายอื่นแล้วเปลี่ยนงาน เราว่างานทุกงานมีค่าในตัวเอง และถ้าเราทำได้ดี รู้จริง เจ๋งจริง ใครๆก็อยากใช้บริการ
แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องรู้จักตัวเอง
แล้วไม่รู้ ทำไงดี ลองทำไปเลย เดี๋ยวรู้เอง เราลองทำงานหลายสิ่งมากทั้งงานประจำ งานพิเศษ
ครูสอนหนังสือเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ล่ามประจำตัว แปลหนังสือ เลขา admin งานการตลาด งานบริหารเงิน งานพัฒนาผลิตภัณฑ์ งานโปรเจ็ค งานบุคคล งานเซลล์ งานกลยุทธ์ ทำให้พอรู้ว่าอ๋อ งานแบบนี้ใช้ทักษะนี้ เราทำได้ ชอบ หรือ ทำได้ แต่ไม่ชอบ
คนจ่ายเงินเดือน ไม่มีคำว่าแพงเกินไป ถ้าเราทำได้เกินค่าตัว
ตอนนี้เรามีทดลองขายของออนไลน์ อยากเป็นเจ้านายตัวเองบ้าง แต่ยากเหมือนกันกว่าจะได้เงินแต่ละบาท
จุดนี้รู้แค่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่พอไปได้ เป็นเจ้านายตัวเอง ยังคงต้องเสาะแสวงหาต่อไป ^ ^

3. โกรธคนอื่น ทำยังไงดี
สำหรับเรา วิธีที่ดีที่สุด คือ แผ่เมตตา
เคยทะเลาะกับป้าบ้าอำนาจในออฟฟิต โกรธสุดๆ เป็นอยู่เป็นปีๆ วันนึงเรามาคิดว่า จริงๆนางน่าสงสาร ไม่มีเพื่อนที่รักและสะท้อนพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของหล่อน จมจ่อมอยู่กับการใช้อำนาจกับเด็กๆ หลังจากนั้นเราไม่ทะเลาะกับชี โกรธละเปลี่ยนมาแผ่เมตตา ไม่น่าเชื่อ ชีเปลี่ยนไป ดีกับเราแหะ มาคิดตอนนี้ ชีคงเบื่อกับการทะเลาะกับเหล่าเด็กๆเหมือนกัน ^ ^

4. ดวงไม่ดี ไม่มีโอกาส ทำไงดี
เราเชื่อนะว่าเก่งไม่สู้เฮง แต่เชื่อเถอะ คนที่เฮงไม่ใช่ว่าเค้านอนนิ่งๆ แล้วสิ่งดีๆมันลอยมาเอง
เคยอ่านเจอ "หากคุณเอื้อมมือไขว่คว้าในดวงดาว สุดท้ายแม้ไม่ได้มา แต่คุณจะไม่จบด้วยมือที่เปื้อนโคลน"
จำไม่ได้เป๊ะๆ เรามีซื้อที่ดิน แล้วราคาขึ้นหลายเท่า เราบอกแฟนว่าโชคดีจัง แฟนเราบอกเธอคิดว่าเป็นโชครึ
ถ้าเราไม่ดิ้นรนซื้อที่ เราจะมีโอกาสมีโชคไหม
เพื่อนเราได้เป็นผจก.ตั้งแต่อายุ 20 กว่าๆ เพราะหัวหน้าลาออกกันไปหมด เหลือเพื่อนเรานี่หละ
แต่ถ้าเพื่อนเราไม่โชว์ว่ามีดี บริษัทหาคนอื่นมาดีกว่าโปรโมตเพื่อนเรา ตอนนี้ที่เราได้เป็นหัวหน้า
เราจะบอกน้องๆเสมอว่าให้ทำให้ดี เวลาคนอื่นมีโอกาสดีๆ เค้าจะคิดถึงเรา

5.รู้ได้ไงว่าเราตัดสินใจถูก
ชีวิตนี้ไม่มีอะไรที่บอกได้แม่นยำขนาดนั้น แค่คิดให้ดีถึงผลดี ผลเสีย
แล้วเดินหน้าต่อไป ไม่ถอยหลัง  ไม่โทษตัวเอง และไม่เสียใจซ้ำซาก
จุดเวลาที่เปลี่ยน เงื่อนไขที่เปลี่ยนทำให้ไม่มีคำว่าถูกต้องที่สุด
และเราไม่ต้องตัดสินใจเหมือนคนอื่น
มีหลายสิ่งที่มีแต่เราเท่านั้นที่รู้ เชิดหน้าสู้ ยอมรับการตัดสินใจตัวเองนะคะ

ครอบครัว
1. รู้ได้ไงคนนี้ใช่
สำหรับเราง่ายมาก ตื่นมาแล้วอยากเจอคนนี้ทุกวันอย่างไม่ลังเล

2. ช่วยหาแฟนดีๆแบบนี้ให้คนนึงได้ไหม
ไม่ได้อวยสามี แต่โดยรวมถือว่าเป็นผู้ชายที่ดีมากๆคนหนึ่ง ไม่เพอร์เฟคหรอก แต่ข้อเสียเราโอเค
เราเคยคิดว่าเราโชคดีที่เจอแต่คนดีๆ แต่จริงๆพอมาคิดๆดู เราก็เจอคนไม่ดีนะ แต่เราพาตัวเองออกมา
(เพื่อนผู้ชายคนนึงเก่งมาก ได้ทุน ได้ประกาศนียบัตรหลายเล่ม แต่อารมณ์รุนแรง ใช้สารเสพติด
คุยๆกันพักนึง ตอนนี้ฆ่าตัวตายไปแล้ว เรามาคิดๆตอนนี้ เราว่าสงสัยเค้าจะเป็นโรคจิตอ่อนๆ)
ผู้ชายที่ดีในความคิดเราคือ มีพื้นฐานจิตใจดี ดูง่ายๆจากการที่เค้าดูแลพ่อแม่ครอบครัวเค้า >> สกรีนพ่อแม่สามีได้อีกขั้น
และมีศักยภาพ รู้จักทำมาหากิน เดินด้วยตัวเองได้
ส่วนผู้ชายที่เหมาะกับเราคือ มีข้อเสียที่เรารับได้ รู้จักคิดรับผิดชอบ และรักเรา >
ไม่ต้องดีล้นฟ้า แต่ข้อเสียขอให้เรารับได้ สามีเราเจ้ากี้เจ้าการ คิดแทนมากๆ บางคนอาจจะอึดอัด แต่เราไม่แคร์เท่าไหร่
รักกันเดี๋ยวมันก็เปลี่ยน เอาที่รู้จักคิดผิดชอบชั่วดีมาด้วย ทำอะไรจะได้คิดหน้าคิดหลัง
ไม่ต้องหล่อ เพราะแก่ละเหี่ยวเหมือนกัน
ไม่ต้องรวย เพราะช่วยกันหาได้
เราอยากได้อะไร ใช้สิ่งนั้น อยากได้ใจ ก็ต้องให้ใจ ^ ^

3.รักเค้าแล้วเค้าไม่รัก หรือหมดรักกันแล้ว ทำไง
เคยอ่านเจอ ชอบนะว่า "ความรักเหมือนพระอาทิตย์ที่ส่องแสงอบอุ่น ไม่ใช่แผดเผา“
ถ้ารักกันแล้วมันแย่ ถอยดีกว่า หันกลับมารักตัวเอง
รักแฟนรักสามียังไงก็ต้องไม่ลืมพ่อแม่
สามีคือคนที่ใกล้ชิดที่สุด แต่หย่ากันเลิกกันแล้วคือคนที่ห่างไกลที่สุด
แต่สายสัมพันธ์พ่อแม่เหมือนสายน้ำ ที่ไม่มีวันเหือดหาย
แต่ก่อนเราไม่เคยเข้าใจเลยนะ จนมีลูก ตอนนี้รักพ่อแม่มากขึ้นเยอะมาก
กว่าเด็กคนนึงจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ พ่อแม่ต้องทุ่มเท เสียสละแรงกายแรงใจไปไม่น้อย ^ ^

4.รักษาความรักไว้ยังไง

5.เลี้ยงลูกยังไงให้ได้ดี

2 ข้อหลังนี้เรากำลังลองถูกลองผิด ^ ^ ชีวิตหลังแต่งงาน 6ปี มีลูกไม่ง่ายอย่างที่คิด
80%ยังคงมีความสุข แต่ก็ยังต้องทำให้ดีต่อไป ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านโชคดี มีความสุขจ้า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่