อาหารคลีน..ที่เราเข้าใจ :)

กระทู้สนทนา
บทความนี้ เห็นว่าดี มีประโยชน์ เลยขอมาแชร์ ยิ้ม

" ทุกวันนี้เวลาออกไปวิ่งข้างนอก แล้วได้เห็นพี่ที่เดินกวาดขยะหรือพี่ที่ยกของแบกของอยู่ข้างทาง ทำให้เกิดทำถามในใจที่คล้ายคลึงกับในบทความอยู่เสมอ ถ้าหากเราไม่มีกำลังพอที่จะบริโภคอาหารสุขภาพ หรือไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะใช้บริการตามสถานออกกำลัง เราจะมีสุขภาพที่ดีได้อย่างไร?...คุณภาพชีวิตของเรามีอะไรเป็นตัวกำหนด?...การใช้ชีวิตเพื่อมีสุขภาพที่ดีคืออะไร?...

โดยส่วนตัวเป็นคนชอบออกกำลังกายแทบจะทุกชนิด ไม่ว่าจะโยคะ ต่อยมวย วิ่ง ปีนเขา ว่ายน้ำ และพยายามหากิจกรรมใหม่ๆทำอยู่เสมอ เคยผ่านกระบวนการเข้าฟิตเนสอย่างต่ำวันละ3ชั่วโมง ทานอาหารนับแคลลอรี่ ทานคลีนแบบสุดๆ ทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด แม้กระทั้งใช้ยาบล็อคไขมันเป็นตัวช่วยทางลัด...สุดท้ายพบว่าการกดดันตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีที่มากเกินไปนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต จะตักอาหารเข้าปากแต่ละทีต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก จะไปนัดสังสรรค์ก็ต้องคอยกังวลเรื่องอาหาร หรือแทนที่จะได้มีความสุขกับการทานอาหารกลับต้องมานั่งรู้สึกผิดอยู่บนเตียงเวลาทานมากเกินไป...

เมื่อได้พบความสมดุล และผ่านการน้ำหนักขึ้นๆลงๆมาจนชิน ทำให้เราเข้าใจกระบวนการทำงานของร่างกายมากขึ้น และรู้วิธีหล่อเลี้ยงร่างกายด้วยความรักและความเข้าใจ...มันกลับกลายเป็นเรื่องง่ายมากๆ เมื่อเรามีความรักความเมตตาต่อตัวเอง เราจะอยากหยิบยื่นสิ่งดีๆให้กับตนเอง อยากเห็นตนเองมีความสุข ไม่อยากบังคับขู่เข็ญร่างกาย อยากจะมีชีวิตอยู่อย่างมีพลัง เพื่อทำสิ่งที่ดี เป็นประโยชน์ เติมเต็มจิตวิญญาณ และใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด

ทั้งหมดนี้นำพาไปสู่การปรับเปลี่ยนเพื่อความสมดุลของทั้งร่างกายและจิตใจ...ออกกำลังเป็นประจำทุกวันเท่าที่สามารถทำได้ ปรับเปลี่ยนวิธีออกกำลังไปตามเวลาที่จำกัดในแต่ละวัน มีเวลามากหน่อยก็ไปต่อยมวย โดยขี่จักรยานไปที่ค่ายมวย ค่ายมวยเป็นแบบไม่มีแอร์ ครูสอนเป็นนักมวยเก่า ราคาถูกกว่าที่ต่อยมวยหรือยิมปกติ วันไหนฝนตก ขี้เกียจออกจากบ้านก็เล่นโยคะเองที่บ้านบ้าง T25บ้าง บางวันออกไปวิ่งในหมู่บ้าน ไปไกลหน่อยก็สวนลุมฯถ้าหากมีธุระในเมือง บางวันไม่มีเวลาจริงๆก็ทำworkoutง่ายๆแบบ15นาทีก่อนอาบน้ำ...

เมื่อเรารักร่างกายของเรา เราก็จะเข้าใจเค้า เวลาเกิดการเจ็บปวด หรือเหนื่อยล้า เราก็จะไม่ฝืนร่างกาย ปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อน...วันไหนออกกำลังน้อย ก็ปรับวิถีชีวิตในวันนั้นให้เดินเยอะหน่อย ทานอาหารเบาๆเน้นผักปลา วันไหนจะต้องทานหนัก เรารู้ล่วงหน้าแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเตรียมตัวเลือกทานในมื้อก่อนหน้านั้น เมื่อต้องทานก็มีความสุขกับช่วงเวลาตรงนั้น และบอกตัวเองว่านี่คือเหตุผลที่ไปวิ่งมา ก็เพื่อให้เอาของเข้าปากได้ตามใจ พรุ่งนี้ก็แค่วิ่งใหม่...

ทุกวันนี้เห็นคนรอบๆตัวหลายๆคนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ พยายามออกกำลังกาย ทานอาหารคลีน ลดน้ำหนัก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการมีสุขภาพร่างกายที่ดีในอนาคต หากแต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร การออกกำลัง คำโฆษณาของผลิตภัณฑ์หรือสถานออกกำลังต่างๆ เชื้อเชิญให้คนโหมออกกำลัง ทานคลีน ใช้สินค้าไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย ต่างๆมากมาย...ทำให้หลายๆคนเลือกบริโภคอาหารด้วยความเข้าใจที่ผิด เช่น เลือกดื่มน้ำอัดลมที่บอกไว้ข้างกระป๋องว่าไม่มีน้ำตาล แต่หารู้ไม่ว่ามีสารให้ความหวานชนิดอื่นที่ส่งผลเสียต่อร่างกายแทนน้ำตาลเช่นกัน ความเชื่อที่ว่าดื่มน้ำเต้าหูแล้วดี แต่ลืมคิดไปว่าน้ำเต้าหู้หวานๆที่อร่อยๆมีน้ำตาลผสมอยู่มากเกินไป หรือการโหมออกกำลังอย่างหนัก งดแป้ง งดมื้อเย็น โดยไม่รู้ว่าร่างกายต้องการโปรตีนไปใช้สร้างกล้ามเนื้อ และร่างกายฉลาดกว่าที่เราคิด เมื่อร่างกายคิดว่ากำลังขาดสารอาหาร ก็จะปรับระบบเผาผลาญให้มีประสิทธิภาพการทำงานต่ำลง เพื่อเก็บสะสมพลังงานไว้ใช้ และเมื่อมีอาหารเข้าไปในร่างกาย ก็จะรีบตักตวงให้เต็มที่ ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุให้ระบบเผาผลาญของร่างกายรวนและทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร การลดน้ำหนักจึงไม่เป็นผล บางคนเลือกนับแคลลอรี่ แต่ลืมคิดไปว่าไอศครีม 200แคลลอรี่ กับสเต็กปลาและผักก็มี200แคลลอรี่ มีคุณค่าทางสารอาหารแตกต่างกัน แม้กระทั่งการคุมอาหารแต่ไม่ออกกำลัง จริงอยู่ที่เมื่อเราคุมอาหารดีๆ คุมปริมาณไขมัน น้ำหนักก็จะลดลง แต่ทานเข้าไปก็ต้องมีการเอาออก ไม่ว่าจะทานมากหรือน้อย จริงๆแล้วเจตนาในการเขียนบทความนี้ไม่ใช่เพื่อตัดสินว่าการกินแบบไหนถูก การออกกำลังแบบไหนผิด แต่เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพร่างกายด้วยความเข้าใจ...

ร่างกายคนเราถูกสร้างมาให้มีความแตกต่างกัน แม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน กรุ๊ปเลือดเดียวกัน ก็มีความแตกต่าง การทานอาหารหรือออกกำลังที่ถูกต้อง คือการกลับเข้าหาตนเอง ทำความเข้าใจกับสภาพร่างกายของตนเอง และเพิ่มความรักความเมตตาต่อตนเองลงไปอีกนิด ทั้งหมดนี้จะทำให้เราใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่...เราจะรู้จักเลือกทานอาหารที่ดี เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย และเหมาะสมต่อปัจจัยภายนอกในแต่ละวัน เช่น การเตรียมอาหารเช้าที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วนเพื่อทานในรถ โดยมีความเข้าใจว่าอาหารทุกมื้อมีความสำคัญ โดยเฉพาะอาหารเช้า รู้วิธีการเลือกวัตถุดิบและวิธีการทำอาหาร โดยไม่ต้องไล่ตามกระแสอาหารสุขภาพ เช่น เน้นอาหารต้มๆนึ่งๆ เลี่ยงอาหารแปรรูป ทานของสด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือผลไม้ ถ้าต้องการไขมันน้อยก็ทานปลา งบน้อยก็ทานไก่ เรียนรู้ว่าไข่เจียวกับไข่ต้มให้พลังงานแตกต่างกัน อยากทานขนมหวานก็ลองทำเอง ลดน้ำตาลลง ใช้น้ำผึ้งแทน หากต้องไปงานเลี้ยงที่มีอาหารหลากหลาย ก็เปิดโอกาสให้ตนเองได้ทานทุกอย่างตามต้องการ แต่ควบคุมปริมาณให้ไม่มากไม่น้อยเกินไป...

ทุกสิ่งล้วนเป็นสิ่งที่เราปรับเปลี่ยนได้ และสามารถทำให้สนุกขึ้นได้ สร้างลักษณะนิสัยที่ดี สร้างกิจกรรมที่มีความสร้างสรรค์ให้กับชีวิต เช่นการหัดทำขนม หัดทำอาหาร คิดเมนูง่ายๆ ที่อร่อยและมีประโยชน์ขึ้นมาเอง ออกกำลังกายได้ทุกที่ ไปทะเลก็วิ่งที่ชายหาด ไปต่างจังหวัดก็ลองวิ่งขึ้นเขาดูบ้าง นอกจากได้สุขภาพแล้วยังได้มิตรภาพดีๆหรือมุมมองความคิดดีๆระหว่างทาง ลองหัดใช้บันได ใช้โต๊ะเก้าอี้ที่บ้านให้เป็นประโยชน์ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ออกกำลังราคาสูง เราสามารถสร้างสภาวะการมีสุขภาพที่ดีให้ตนเองได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยหัวใจที่เป็นสุข เพื่อการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ด้วยร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง..."
ตามลิ้งด้านล่างเป็นอีกลิ้งที่อยากให้อ่านนะคะ
https://www.yaklai.com/lifestyle/health/eat-clean/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  อาหาร
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่