คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ผม อุ้ย ครับ
ฝ่ายบุคคลตัวเป็น ๆ ที่ต้องสัมภาษณ์รับคนเข้าทำงาน
ขออนุญาตเเชร์ความเห็นนะครับ
"ได้หรือไม่ได้ยังไง ทางเราจะโทรแจ้งผลการสัมภาษณ์ภายใน 1-2 สัปดาห์"
ถ้า HR หรือผู้สัมภาษณ์ที่ดีก็ไม่ควรบอกเเบบนั้นครับ เเต่จะบอกอย่างที่ ความเห็นที่ 2 บอก
"ถ้าบริษัทตกลงรับคุณ จะโทรแจ้งภายใน...วัน"
สำหรับผมก็จะบอกว่า "ถ้าบริษัทตกลงรับคุณเข้าทำงาน ทางเราจะติดต่อกลับไปนะครับ"
ไม่เเจ้งวันด้วยซ้ำ
เเปลว่า ถ้าไม่รับเข้าทำงาน ก็ไม่โทรไปหาหรอก
ถ้าถามต่อว่า ทำไมถึงไม่บอกชัด ๆ ว่ารับไม่รับ?
จากประสบการณ์จริงของผม หลายคนที่เราคิดว่าจะไม่รับ สุดท้ายกลับต้องเปลี่ยนใจมารับเพราะ...
1. คนที่รับเค้าเบี้ยว ไม่มาเริ่มงาน --> ต้องหาคนอื่นเเทน
2. อยากได้คนที่ใช่กว่านี้ เเต่สุดท้ายหาไม่ได้ --> งั้นเอาคนนี้ก็ได้วะ
3. หลังสัมภาษณ์ ผู้บริหารงานเข้า เลยทิ้งเรื่องหาคนไปเลย พองานซา ๆ จึงค่อยมาทบทวนเรื่องเรื่องรับคนอีกครั้ง
4. หลังสัมภาษณ์ ผู้บริหารเปลี่ยนเเผน บอกว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ได้รับคนเพิ่มดีกว่า ผ่านไปไม่นาน เเกเปลี่ยนใจ บอกว่าตกลงรับคนเพิ่มดีกว่า เเล้วก็มาทบทวนคนที่เคยสัมภาษณ์ใหม่ว่าจะรับใครดี
ฯลฯ
อยากบอกว่าหลังบ้านของ HR เเละบริษัท มันไม่ได้ตรงไปตรงมาชัดเจนครับ
มีการเปลี่ยนเเปลงเอาเเน่เอานอนไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง
จน HR ก็ไม่กล้าไปฟันธงอะไรชัดเจนกับผู้สมัคร
เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกกันเปล่า ๆ
เงียบ ๆ ไปเลยดีกว่าเเฮะ
สมมติถ้าสัมภาษณ์เสร็จ เเล้วเราคิดว่าผู้สมัครคนนี้ไม่ใช่หรือเราไม่เอาเเล้ว
จากนั้นก็โทรบอกไปบอกผล ต่อมาดั๊นเปลี่ยนใจจะรับเข้าทำงานซะงั้น
มีเเนวโน้มที่ผู้สมัครคนนั้นจะดราม่ากันครับ
เสียความรู้สึกบ้างอะไรบ้าง
อ๋อ ฉันเป็นที่ 2 ใช่ไหม
ไม่มีใครเเล้วถึงมาง้ออ่ะดิ
อะไรของพวก
เนี่ย
ฯลฯ
สรุปคือ ไม่บอกดีกว่าครับ
กลัวผู้บริหารจะไม่เเน่ไม่นอน
กลัวผู้สมัครสายดราม่า
เรื่องกดเงินเดือน
อันนั้นขึ้นอยู่กับ DNA ของบริษัทนั้น ๆ
โดยมากมักมีจุดเริ่มต้นจากเจ้าของหรือผู้บริหารระดับสูงก่อน
ที่เน้นเรื่องเงิน(ยอดขาย ต้นทุน กำไร) เป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องคน (พนักงาน)
จากนั้นมันก็ซึมผ่านไปยังทุกเเผนกของบริษัท
เพราะถ้าพนักงานไม่ทำเเบบนั้น เขาก็จะอยู่ที่นั้นไม่ได้
HR ก็จะกดเงินเดือนผู้สมัครซะเละ ไม่มีโครงสร้างเงินเดือน ไม่ดูความเหมาะสม
บัญชี เวลาไปเบิกเงินสำรองจ่าย ก็จะเตะถ่วงการจ่ายเงินให้นานที่สุด (ให้บริษัทเอาเงินไปหมุนก่อน)
ฝ่ายจัดซื้อ ก็จะบี้พวกซัพพลายเออร์จนพวกเค้าเเทบไม่เหลือกำไร
ถ้าเจอบริษัทไหนที่กดเงินเดือนอย่างน่าเกลียด สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจาก DNA ที่ไม่ดีของบริษัทนั้น
เเต่อีกสาเหตุหนึ่ง...
บริษัทนั้นเค้าอาจมีโครงสร้างเงินเดือนครับ
เเล้วจากประวัติการทำงานของเรา
เขามองว่านั้นคือ เงินเดือนที่เหมาะสมเเล้ว
คุณอาจมองว่าตัวเองเคยได้ 20k
เเต่ผมเห็นมาเยอะนะครับ
ผู้สมัครที่ได้เงินเดือนมากเวอร์เกินมาตรฐานของตลาด
เเต่พอสัมภาษณ์จริง
เค้าไม่เก่งขนาดนั้น เหมือนที่เขียนในรีซูเม่
ลองเช็คได้ใน Adecco Salary Guide Survey 2015 ครับ
จะบอกได้ว่าเงินเดือนเราเทียบกับในท้องตลาดควรเท่าไร
ฟรีนะครับ
หวังว่าจะพอตอบข้อสงสัยได้นะครับ
สู้ ๆ ครับ ขอให้ได้งานที่ใช่โดยเร็วนะครับ ^ ^
ฝ่ายบุคคลตัวเป็น ๆ ที่ต้องสัมภาษณ์รับคนเข้าทำงาน
ขออนุญาตเเชร์ความเห็นนะครับ
"ได้หรือไม่ได้ยังไง ทางเราจะโทรแจ้งผลการสัมภาษณ์ภายใน 1-2 สัปดาห์"
ถ้า HR หรือผู้สัมภาษณ์ที่ดีก็ไม่ควรบอกเเบบนั้นครับ เเต่จะบอกอย่างที่ ความเห็นที่ 2 บอก
"ถ้าบริษัทตกลงรับคุณ จะโทรแจ้งภายใน...วัน"
สำหรับผมก็จะบอกว่า "ถ้าบริษัทตกลงรับคุณเข้าทำงาน ทางเราจะติดต่อกลับไปนะครับ"
ไม่เเจ้งวันด้วยซ้ำ
เเปลว่า ถ้าไม่รับเข้าทำงาน ก็ไม่โทรไปหาหรอก
ถ้าถามต่อว่า ทำไมถึงไม่บอกชัด ๆ ว่ารับไม่รับ?
จากประสบการณ์จริงของผม หลายคนที่เราคิดว่าจะไม่รับ สุดท้ายกลับต้องเปลี่ยนใจมารับเพราะ...
1. คนที่รับเค้าเบี้ยว ไม่มาเริ่มงาน --> ต้องหาคนอื่นเเทน
2. อยากได้คนที่ใช่กว่านี้ เเต่สุดท้ายหาไม่ได้ --> งั้นเอาคนนี้ก็ได้วะ
3. หลังสัมภาษณ์ ผู้บริหารงานเข้า เลยทิ้งเรื่องหาคนไปเลย พองานซา ๆ จึงค่อยมาทบทวนเรื่องเรื่องรับคนอีกครั้ง
4. หลังสัมภาษณ์ ผู้บริหารเปลี่ยนเเผน บอกว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ได้รับคนเพิ่มดีกว่า ผ่านไปไม่นาน เเกเปลี่ยนใจ บอกว่าตกลงรับคนเพิ่มดีกว่า เเล้วก็มาทบทวนคนที่เคยสัมภาษณ์ใหม่ว่าจะรับใครดี
ฯลฯ
อยากบอกว่าหลังบ้านของ HR เเละบริษัท มันไม่ได้ตรงไปตรงมาชัดเจนครับ
มีการเปลี่ยนเเปลงเอาเเน่เอานอนไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง
จน HR ก็ไม่กล้าไปฟันธงอะไรชัดเจนกับผู้สมัคร
เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกกันเปล่า ๆ
เงียบ ๆ ไปเลยดีกว่าเเฮะ
สมมติถ้าสัมภาษณ์เสร็จ เเล้วเราคิดว่าผู้สมัครคนนี้ไม่ใช่หรือเราไม่เอาเเล้ว
จากนั้นก็โทรบอกไปบอกผล ต่อมาดั๊นเปลี่ยนใจจะรับเข้าทำงานซะงั้น
มีเเนวโน้มที่ผู้สมัครคนนั้นจะดราม่ากันครับ
เสียความรู้สึกบ้างอะไรบ้าง
อ๋อ ฉันเป็นที่ 2 ใช่ไหม
ไม่มีใครเเล้วถึงมาง้ออ่ะดิ
อะไรของพวก
เนี่ยฯลฯ
สรุปคือ ไม่บอกดีกว่าครับ
กลัวผู้บริหารจะไม่เเน่ไม่นอน
กลัวผู้สมัครสายดราม่า
เรื่องกดเงินเดือน
อันนั้นขึ้นอยู่กับ DNA ของบริษัทนั้น ๆ
โดยมากมักมีจุดเริ่มต้นจากเจ้าของหรือผู้บริหารระดับสูงก่อน
ที่เน้นเรื่องเงิน(ยอดขาย ต้นทุน กำไร) เป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องคน (พนักงาน)
จากนั้นมันก็ซึมผ่านไปยังทุกเเผนกของบริษัท
เพราะถ้าพนักงานไม่ทำเเบบนั้น เขาก็จะอยู่ที่นั้นไม่ได้
HR ก็จะกดเงินเดือนผู้สมัครซะเละ ไม่มีโครงสร้างเงินเดือน ไม่ดูความเหมาะสม
บัญชี เวลาไปเบิกเงินสำรองจ่าย ก็จะเตะถ่วงการจ่ายเงินให้นานที่สุด (ให้บริษัทเอาเงินไปหมุนก่อน)
ฝ่ายจัดซื้อ ก็จะบี้พวกซัพพลายเออร์จนพวกเค้าเเทบไม่เหลือกำไร
ถ้าเจอบริษัทไหนที่กดเงินเดือนอย่างน่าเกลียด สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจาก DNA ที่ไม่ดีของบริษัทนั้น
เเต่อีกสาเหตุหนึ่ง...
บริษัทนั้นเค้าอาจมีโครงสร้างเงินเดือนครับ
เเล้วจากประวัติการทำงานของเรา
เขามองว่านั้นคือ เงินเดือนที่เหมาะสมเเล้ว
คุณอาจมองว่าตัวเองเคยได้ 20k
เเต่ผมเห็นมาเยอะนะครับ
ผู้สมัครที่ได้เงินเดือนมากเวอร์เกินมาตรฐานของตลาด
เเต่พอสัมภาษณ์จริง
เค้าไม่เก่งขนาดนั้น เหมือนที่เขียนในรีซูเม่
ลองเช็คได้ใน Adecco Salary Guide Survey 2015 ครับ
จะบอกได้ว่าเงินเดือนเราเทียบกับในท้องตลาดควรเท่าไร
ฟรีนะครับ
หวังว่าจะพอตอบข้อสงสัยได้นะครับ
สู้ ๆ ครับ ขอให้ได้งานที่ใช่โดยเร็วนะครับ ^ ^
แสดงความคิดเห็น
ขอฝากเรื่องนี้กับ HR หน่อยครับ
ขอเล่าหน่อยนะครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า....
คือ ผมตกงานมา 3 เดือนกว่าแล้วครับ ตลอดเวลาที่ตกงานก็พยายามหางานตามสายงานที่ตัวเองถนัดและสนใจ โดยใช้เว็บไซต์หางานเป็นตัวช่วยครับ พอได้ตำแหน่งงานที่ตัวเองสนใจผมก็เข้าไปอ่านรายละเอียดของงานและคุณสมบัติของตำแหน่งงานนั้นๆ แล้วผมก็เช็คตัวเองมีคุณสมบัติตรงมั้ย ถ้าเข้าข่ายหลายข้อเลยโทรไปถามกับ HR บริษัทนั้นๆครับว่าตำแหน่งยังว่างหรือ ยังเปิดรับมั้ย ? ถ้าก็จัดการสมัครครับ (ผมทำแบบนี้แล้วสมัครหลายบริษัทครับ เกือบๆ 20 ที่)
หลังจากนั้นหลายหลายวัน ก็มีการนัดสมัมภาษณ์งานครับ ซึ่งตัวผมเองก็ตอบตกลงทุกบริษัทที่เคยสมัครไว้ (คิดในใจว่า...ใกล้ไกลแค่ไหนผมก็ไป ขอแค่ได้งานทำ) แล้วก็เดินสายสัมภาษณ์ครับทีนี้ ทั่วกรุงเทพฯไปหมดทุกที่ บางที่ไปไม่ได้ก็โทรแจ้งล่วงหน้า 1 วัน ขออนุญาตเลื่อนวันบ้าง เวลาบ้างเพราะไม่สะดวกจริงๆ (แต่ก็น้อยครั้งครับที่ทำ)
ส่วนเรื่องการสัมภาษณ์...เป็นการพูดคุยเรื่องเนื้องานบ้าง ทัศนคติทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานว่ากันไป บลาๆๆ เรื่องเงินเดือนขอไปตามปกติตามมาตรฐานป.ตรีครับ 15K อาจขอบวกประสบการณ์ 3 ปี 1500 บ้าง 2000 บ้าง(ก่อนหน้านี้ผมได้ 20K ++ ครับ แต่ที่ขอไปเท่านี้เพราะดูเศรษฐกิจมันแย่ครับ เข้าใจผู้ประกอบการ)
*** หลังจากจบการสัมภาษณ์ ทุกที่พูดเหมือนกันหมด "ได้หรือไม่ได้ยังไง ทางเราจะโทรแจ้งผลการสัมภาษณ์ภายใน 1-2 สัปดาห์" ***
ผมนี่รอไปสิครับ เงินที่มีก็หมดไปกับการกินการใช้ , ไหนจะค่าเอกสารสมัครงาน+รูปถ่าย , ค่าเดินทาง ฯลฯ
***** ผ่านไปหลายสัปดาห์ แต่...!?!?! ก็ไม่มีการตอบรับใดๆทั้งสิ้น *****
คือผมสงสัยว่า...ที่คุณบอกว่าได้หรือไม่ได้ จะติดต่อกลับมานี่คือ เงียบ แล้วให้เราตรัสรู้เองหรอ ว่าไม่ได้ หรือไมผ่าน. เข้าใจครับว่าพวกคุณอาจจะงานยุ่ง แต่มันยุ่งเกินจนไม่มีเวลาโทรกลับแจ้งผล candidate เชียวหรอครับ ไม่งั้นก็แค่ตอบอีเมลล์ก็ได้ครับ ถ้าค่าโทรศัพท์มันแพง จะได้ไม่ต้องรอแล้วจะได้ไม่ตัดโอกาสงานอื่นๆที่จะเข้ามา ผมเชื่อว่า candidate หลายคนเป็นแบบผม
แล้วตอนที่สัมภาษณ์งานครับ คุยเหลือเกินว่า บริษัทตัวเองเนี่ยดำเนินธุรกิจโน่นนี่นั่น เป็นอันดับต้นๆของประเทศ มีระบบการทำงานอย่าง Profestional *** นี่หรอครับทีพวกคุณแทนตัวเองว่าเป็น Profestional เขาทำกัน
แล้วอีกอย่าง บางที่เรียกเงินเดือนไป ก็กดซะให้ต่ำจนน่าเกลียด (ทำอย่างกับเป็นเจ้าของบริษัทซะเอง)
หรือ คุณทำตาม KPI ที่วัดตัวผลงานของพวกคุณเท่านั้นครับ
สุดท้าย...หากผมใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ หรือ พิพมพ์ตกหล่น ต้องขออภัยด้วยครับ
ขอบคุณครับ