เหมาะสมหรือไม่ ทางออกอยู่ไหน ใครช่วยตอบที

สวัสดีครับ
ผมพยายามจะเล่าให้ใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงมากที่สุด เพื่อจะได้ความเห็นที่สมเหตุสมผล
ส่วนสาเหตุที่ไม่อยากเล่าแบบตรงไปตรงมา ชัดเจนทุกอย่าง ... กลัวเพื่อนมาเจอแล้วจะแตกหักกันไปมากกว่านี้ครับ

เริ่มเลยนะครับ .. จขกท ปวดหัวมากตอนนี้ แต่จะพยายามเขียนให้อ่านรู้เรื่องนะ ยาวมากกก
*ชื่อต่างๆคือชื่อสมมุติ

ผมมีแฟนชื่อ พี ครับ เราอายุไล่เลี่ยกัน พีมีกลุ่มเพื่อนรักของพี ผมก็มีกลุ่มเพื่อนรักของผม ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี เวลาผ่านไป ผ่านไปเป็นปีๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมค่อนข้างจะเป็นคนชักจูง หรือเป็นผู้นำของพีก็ว่าได้ เธอฟังผมเกือบทุกอย่าง และเราก็มีความสุขกันดีครับ เพื่อนของเราก็เริ่มรู้จักกัน และสนิทกันในระดับหนึ่ง
เวลาผ่านไปห้าปี ใครจะไปรู้ว่าวันที่ผมและพีต้องเลิกกันก็มาถึง เสียใจกันทั้งคู่ครับ เข้ากันไม่ได้ แต่ชีวิตต้องเดินต่อไป เรายังเป็นเพื่อนกันได้ครับ ส่วนตัวผมว่าพีเป็นคนตรงๆ ติดแฟน คิดอะไรบางอย่างก็ดูเด็กกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อนๆหลายคนก็ทราบดีครับ และอย่างนึงที่พีเป็นคือ ถ้าเธอไม่สนใจใคร ก็คือไม่สนใจ ถ้ามีคนมาจีบ ถ้าเธอไม่เอาคือไม่เอา เป็นได้แค่เพื่อนครับ
เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ จนผมตัดใจจากเธอได้ ตัดใจแบบที่กล้าพูดได้ว่า ไม่มีทางกลับมาคบกันอีกแน่ๆ ในส่วนของผม จบครั้งนี้คือจบจริงๆครับ ในส่วนของพี ผมก็เชื่อว่าผมได้กลายเป็นคนที่เธอไม่สนใจแล้ว ไม่เอาแล้ว เป็นได้แค่เพื่อนครับ ซึ่งทำให้เวลาเจอหน้ากันในกลุ่มเพื่อน ต่างคนต่างสบายใจ เป็นเพื่อนกันแบบสนิทใจครับ อันนี้มีเพื่อนเคยคุยส่วนตัวครับ ทั้งพีและผมก็ตอบแบบตรงๆว่า มันจบแล้ว ไม่รู้สึกอะไรแล้ว ซึ่งจุดนี้เป็นจุดหนึ่งที่อาจจะแปลกกว่าหลายๆคู่ที่จบแบบยังมีเยื่อใย แต่ก็ถือเป็นจุดที่ผมคิดมาตลอดว่า พีไม่รู้สึกอะไรกับผมแล้วจริงๆ 100000% ซึ่งก็พอใจในจุดๆนี้ครับ
อ้อ พีปรึกษาผมเรื่อง ผช คนใหม่ที่คุยกันอยู่ด้วยนะครับ ซึ่งผมก็ยินดี ผมเองก็รู้จักพีเยอะ ก็เลยพอจะเดาทางหลายอย่างได้ แนะนำได้บ้าง เป็นที่ระบายบ้าง ซึ่งต่อมาพีกับ ผช คนนี้ก็เป็นแฟนกันครับ แต่ผมไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆนะ ฮ่าๆๆ ถึงจุดนั้นเราก็คุยกันน้อยลงจนหายๆกันไปครับ ส่วนตัวผมเองก็มีคุยกับ ผญ คนอื่นบ้าง แต่ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ ก็เป็นเพื่อนกันไปครับ

เวลาผ่านไป 1 ปี ผมมาเจอกับ ดาว ซึ่งเราก็รู้จักกันมานานแล้วครับ แต่ไม่ได้คิดอะไรกัน เป็นเพื่อนกันเฉยๆ ซึ่งในจังหวะนั้นผมว่าผมเริ่มชอบดาวครับ หลังจากเลิกกับพีมา 1 ปี ก็มีดาวที่ผมคิดว่าจะจีบ ผญ คนนี้แหละ เธอมีคนชอบพอสมควรครับ ผมก็ค่อยๆคุยไป สุดท้ายผมกับดาวก็เป็นแฟนกันครับ ผมพาดาวมารู้จักกับเพื่อนๆ แน่นอนว่าพีก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย แต่ผมไม่คิดว่ามีอะไรเสียหาย พีเองก็ชอบคนอื่นแล้ว ไม่รู้สึกอะไรกับผมแล้ว ผมก็อยากพามาเปิดตัวให้เพื่อนๆได้รู้จักดาวบ้าง ซึ่งตอนแรกดาวก็เป็นห่วงความรู้สึกพีครับ กลัวจะดูไม่ดี แต่ผมยืนยันเองว่าไม่เป็นไร ถ้าคบกับผม ซักวันก็ต้องเจอกับพีอยู่ดี เธอก็เลยยอมครับ ทุกอย่างก็ผ่านไปแบบปกติครับ คุยกันสนุกสนาน ดาวเป็นคนคุยเก่งด้วย ก็เลยเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ผมก็สบายใจ

เวลาผ่านไป ผ่านไป ผมกับดาวเข้าใจกันมากขึ้น ความรักเราก่อตัวดีขึ้นจนผมเองรู้สึกว่าเรารักกันดีจริง เราผ่านปัญหา ผ่านอุปสรรคมา ทุกอย่างพัฒนาความรักของเรามากขึ้นๆ เราตัดสินใจที่จะแต่งงานกันครับ ผู้ใหญ่ไม่ว่าอะไร ทุกอย่างลงตัว ผมกับดาวตื่นเต้นกันพอสมควร เราก็ค่อยๆบอกเพื่อนทีละกลุ่มๆ ทุกคนก็ยินดีด้วยครับ มาถึงกลุ่มของพีและเพื่อนผม ผมก็นัดเพื่อนๆมาทานข้าวด้วยกัน ผมพาดาวไปด้วยครับ แล้วตัดสินใจบอกเพื่อนๆเรื่องแต่งงาน ก็ตกใจกันครับ แบบไม่มีคนคิดมาก่อน เพื่อนก็ยินดีกันครับ ส่วนพีนี่ ผมก็รู้สึกว่าพีก็ไม่ได้อะไรนะครับ ทุกอย่างก็ดูปกติดีครับ

มาถึงเรื่องจัดงาน เราได้วันเวลามาจากทางผู้ใหญ่แล้ว จัดหาสถานที่แล้ว อยู่ต่างจังหวัดครับ เพื่อนกลุ่มพีส่วนใหญ่จะอยู่กรุงเทพ ผมก็เลยอยากจะรีบบอก เพื่อจะได้จองตั๋วเครื่องบินกันตอนมีโปรครับ จริงๆก็ตื่นเต้นด้วย รีบบอก ฮ่าๆ อ้อ ผมแจ้งทุกคนแล้วครับ อันที่จริงบอกทุกคนทุกกลุ่มก่อนเสมอว่า งานจัดต่างจังหวัด ซึ่งค่าใช้จ่ายถ้าจะมางานเนี่ย น่าจะสูงเหมือนกัน กลัวจะลำบากเพื่อนๆ ถ้าจะไม่มา ไม่สะดวกยังไงไม่ว่ากันเลยจริงๆ แต่ถ้ามาได้ก็อยากให้มานะ .. กลุ่มพีและเพื่อนผมนี่ตัดสินใจง่ายๆเลยว่าจะมา ผมเองก็ดีใจในความเกรงใจ ฮ่าๆๆ ทุกคนก็วางแผนกันครับ กะจะไปพร้อมกันเลย ไปด้วยกันกลับด้วยกัน ผมเองก็เห็นว่าทุกคนดูไปด้วยกันคงสนุก ก็ไม่ได้ขัดอะไรครับ ซึ่งเพื่อนผู้ชายในกลุ่มนี้ก็มีเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวครับ ก็คุยกันในแชทถึงเรื่องต่างๆ ซึ่งผมก็จะบอกครับว่าผมเตรียมอะไรไว้ให้เพื่อนเจ้าบ่าวบ้าง ขาดตกบกพร่องอะไรเพื่อนก็ช่วยกันแนะนำ แต่ด้วยความที่บอกล่วงหน้าก่อนจัดงานหลายเดือนอยู่ บางอย่างที่เคยบอกไปอาจมีปรับเปลี่ยนบ้าง ซึ่งผมก็พยายามแจ้งเตือนตลอดถ้าไม่ลืม ก็ดูเหมือนจะปกติใช่มั้ยครับ ปัญหาที่ไม่คิดว่าจะเกิด มันมาแล้วครับ

เพื่อนพีเริ่มงอแงว่าผมให้ความสำคัญแต่เพื่อนผมที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว หาว่าไม่ช่วยเค้าบ้างเลย ไหนจะค่ารถ ค่า รร อะไรต่อมิอะไร พวกเราสนิทกันมากนี่นา รู้จักกันมาตั้งนานนี่ ทำไมต้องแบ่งแยกให้เพื่อนเจ้าบ่าวมีสิทธิพิเศษ เหมือนไม่สนใจพวกเค้า บอกตามตรงว่าผมได้ยินแล้วอึ้งเลย ไม่คิดว่าจะมีการเรียกร้องแบบนี้ ผมเลยชี้แจงไปว่า ไม่ได้มีใครสำคัญกว่า แต่มันเป็นธรรมเนียมแบบนี้ที่เราต้องเตรียมให้เพื่อนเจ้าบ่าว งานแต่งที่ไหนเค้าก็ทำแบบนี้นะ ผู้ใหญ่เค้าก็เตรียมให้แค่นี้ ผมเองรักทุกคน ขอให้เข้าใจผมด้วย เพื่อนกลุ่มอื่นที่ไม่ได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ผมก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ... รู้มั้ยครับว่ายังมีบางคนพูดย้อนมาว่า ก็ให้พิเศษแล้วไม่ต้องบอกคนอื่นสิ ... ณ จุดๆนี้ผมว่าเป็นคำพูดที่น่าเกลียดมาก จะพูดเล่นหรือจริงก็เถอะ ผมเองก็ยังยืนยันคำเดิม ว่าไม่ได้จริงๆ ผมพยายามใจเย็นและพูดให้ดีที่สุด จนมาถึงจุดนึงที่ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามาได้ยังไง ผมอาจจะบอกว่าผมเตรียมให้เพื่อนเจ้าบ่าวแล้ว ก็ไปตกลงกันเอง หรือมีคนยอมเสียสละช่วยค่าใช้จ่ายให้ มาถึงตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเพื่อนเจ้าบ่าวบางคนยอมแชร์ค่าใช้จ่ายด้วย ซึ่งผมก็รู้สึกว่ามันไม่ควร แต่ก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ตกลงกันเอง ผมไม่บังคับ
ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายมีมาเรื่อยๆครับ จนฝ่ายเพื่อนพีว่าเพื่อนผมแรงมากในความรู้สึกผม แต่ผมจำไม่ได้ว่าใช้คำว่าอะไร แต่ผมเข้าใจประมาณว่า เพื่อนผมไม่ดี ไม่ใช่เพื่อนแท้ ตอนนี้เพื่อนผมเริ่มเดือดแล้วครับ บางคนจากประนีประนอมกลายเป็นหักเป็นหัก เพื่อนกันจบกันแค่นี้ก็จบ ผมกับเพื่อนส่วนนึงได้แต่ห้ามความ ให้ใจเย็นๆ เริ่มสร้างข้อตกลง ก็ผ่านมาแบบทุลักทุเล เรียกว่าปวดหัวไปตามๆกัน บางคนเบื่อจนไม่อ่านแล้วก็มี แล้วเรื่องก็เงียบไป กลับมาสงบปกติ เหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี
พอผมมีอัพเดท พอแจ้งในแชทปุ๊บ ก็ทะเลาะกันอีก เรื่องใหม่ก็มี เรื่องเก่าก็มี ผมเองไม่สบายใจมากๆๆๆๆที่งานแต่งผมทำเพื่อนทะเลาะกัน เครียดมากครับ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ผมเองยอมรับเลยว่าวางแผนมาไม่ดีส่วนนึง อาจจะมีพูดแล้วคิดน้อยไปส่วนนึง แต่เพื่อนผมไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่ แต่กลุ่มเพื่อนพีมีปัญหาตามมาเยอะมาก ซึ่งตลอดเวลาผมได้แต่ขอโทษและใจเย็น พูดให้ดีที่สุด แต่ก็นั่นแหละครับ คงไม่ดีพอ ทะเลาะกันได้ตลอด แทบจะทุกเรื่อง .. แต่ผมก็พยายามให้มันจบครับ ติดตลกบ้างให้ไม่เครียดเกิน หลายคนก็รู้สึกได้ ผ่านมาแบบมีแผลในใจกัน
ล่าสุดหลังจากสงบไปอยู่พักนึง มาอีกรอบครับ เริ่มจากพีโทรมาหาผม เพื่อขออนุญาตพาเพื่อนอีกคนไปด้วย ผมก็ไม่คิดอะไรมากก็โอเคไป แล้วก็บอกว่าให้ไปบอกในกลุ่มด้วย ทุกคนจะได้รู้ว่ามีเพื่อนเดินทางมาด้วยอีกคน แล้วผมเพิ่งนึกได้ว่า เพื่อนพีฝากผมจอง รร ทั้งหมด แล้วตอนนี้มีเพื่อนมาเพิ่ม จะให้หาที่พักให้ด้วยมั้ย ก็เลยถามๆไป จนมารู้ว่าเพื่อนที่ไปด้วยเนี่ย เป็นแฟนพีครับ เอาจริงผมไม่รู้สึกอะไรนะ ถ้ามีก็รู้สึกแปลกๆนิดหน่อยว่าจะพามางานนี้เนี่ยนะ มาเปิดตัวที่งานแต่งผมเหรอ ผมเข้าใจเองว่าคบกันมาไม่นานนะครับ เพื่อนผมและผมไม่รู้เรื่องกันว่ามีแฟนแล้ว แต่ผมเองก็เป็นคนง่ายๆ ก็ไม่มีปัญหาแต่ขอถามแฟนผมก่อน แฟนผมไม่โอเค ไม่โอเคเลย จริงๆเค้าก็ไม่พอใจเรื่องที่ผมชวนพีที่เป็นแฟนเก่ามาแล้ว แต่ผมขอให้เค้าเข้าใจว่า ผมกับพีมันจบแล้ว ที่ชวนเพราะเป็นเพื่อนกันจริงๆ แล้วถ้าชวนคนในกลุ่มทุกคนแต่ไม่ชวนพีก็คงไม่ได้ มาหรือไม่ให้พีตัดสินใจเอง ดาวเข้าใจครับ เลยยอมเรื่องพีจะมางาน แต่เรื่องจะมางานแล้วยังพาแฟนที่คบมาไม่นานมาเปิดตัวเนี่ย รับไม่ได้ ถ้าคบกันมานานมากแล้วก็อีกเรื่องนนึง ผมเลยไปแจ้งเพื่อนในกลุ่มใหม่ครับว่า ไม่สะดวกใจให้แฟนพีเข้างาน ขอโทษและอยากให้ทุกคนเข้าใจด้วย เพื่อนบางคนเข้าใจและเห็นด้วย แต่เพื่อนพีไม่ยอมครับ บอกว่าเกินไป ทำไมจะพามาไม่ได้ ผมเลยบอกว่ามาได้แต่ขอความร่วมมือ ไม่ให้มางาน แต่ถ้าจะมาเที่ยวด้วยก็ตามใจ อันนั้นห้ามไม่ได้ กลายเป็นว่าดาวโดนว่าครับ เพื่อนพีพากันว่าต่างๆนาๆ ผมได้แต่ขอให้หยุดได้มั้ย นี่งานของผมกับดาวนะ ถึงได้เบาลง แต่ก็ยังมีเหน็บแนมมา ประมาณว่างานใครงานมัน ตอนนั้นผมนี่ผิดหวังสุดๆๆ จากที่คิดว่าทุกคนจะเข้าใจและทำให้ทุกอย่างให้ผมกับดาวสบายใจ มันไม่ใช่เลย เพื่อนพีคิดอะไรกันอยู่ ถึงได้พูดอะไรแบบนี้ มันเจ็บมากๆครับ ถึงตอนนี้ผมไม่อยากให้มางานเลย แต่ก็ได้แต่เก็บไว้
อ้อ ก่อนหน้านี้ที่มีปัญหากันจนทุกคนเบื่อ รู้สึกกันได้ว่าดราม่าเยอะมาก ผมเลยบอกเพื่อความสบายใจว่า หากใครไม่สะดวกจะมาแล้ว ผมยินดีคืนค่าบินให้ จะออกให้เลย เพราะผมเข้าใจว่าทุกคนเหนื่อยแล้วจริงๆ ยิ่งผมนี่เหนื่อยมาก แต่ทุกคนก็ไม่พูดอะไรครับ ก็มีเพื่อนปลอบว่าอย่าคิดมาก ทุกคนมางานหมดแหละ ดราม่าไปงั้นๆ

หลังๆมาผมยอมรับว่าเริ่มมีอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ มากจนบ่นไปว่า รู้มั้ยว่ากลุ่มอื่นไม่มีปัญหาเลย ทุกคนมีแต่บอกว่าไม่ต้องห่วง จัดการเองได้ ให้ผมสนใจแค่เรื่องจัดงานพอ แม้แต่เพื่อนเจ้าบ่าวกลุ่มอื่นยังบอกว่าจะจัดการทุกอย่างเอง ซึ่งผมก็บอกไปแล้วว่าผมจะเตรียมให้ ที่เหลือก็จัดการเองแล้วกัน อย่างเวลาที่เหลือที่จะเที่ยว อะไรแบบนั้น ซึ่งต่างจากกลุ่มนี้มาก มีแต่เรียกร้อง ปากบอกจะช่วย แต่ปัญหาก็มีมาเรื่อยๆ เพื่อนผมไม่ค่อยเท่าไหร่ คุยง่ายเคลียร์ง่าย แต่เพื่อนพีจบไม่สวยครับ ทุกคนรู้แล้วว่าเรื่องนี้จบไม่สวย แต่ก็ยังอดทนกัน เห็นว่าเป็นเพื่อนกันมานาน ล่าสุดผมออกแชทแล้ว ไม่ไหวจริงๆ ออกมานึกว่าจะลดดราม่าได้ ไม่เลย ดราม่ามีมาเรื่อยๆ เพื่อนผมเอามาให้ดูบ้าง ซึ่งผมเองก็เสียใจที่งานแต่งทำเพื่อนแตกแยก อาจจะกลับมาได้ภายหลังแต่มีรอยร้าวแน่นอน ผมเลยปล่อยวางแล้ว แคร์ทุกคนไปมีแต่ปวดหัว อะไรที่ผมเห็นว่าสมควรผมจะทำ อะไรที่ผิดวิสัยจริงๆ ผมก็ไม่สนใจแล้ว สบายใจขึ้นมาเยอะเหมือนกัน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่จะจัดงาน ผมจำไม่ได้เลยว่ามีคนขอโทษผม มีแต่ผมที่ขอโทษ จะถูกจะผิดก็ขอโทษ เห็นว่าเชิญเค้ามาก็อยากดูแล อยากให้ช่วยอะไรบอก ตอนนี้พอแล้ว ไม่ไหวจริงๆ ผมว่าไม่สมเหตุสมผลเลยในหลายๆเรื่อง ตอนนี้ก็รู้สึกปนๆกันระหว่างไม่ชอบเพื่อนพี กับ เป็นห่วง ... พยายามช่างมันได้หลายกิโล แต่ยอมรับว่าปวดหัวมากจริงๆ

ผมมารู้อีกทีว่า ที่เพื่อนพีไม่พอใจที่ไม่ให้แฟนพีเข้างาน เพราะ ... จำได้มั้ยที่ผมพาดาวไปเปิดตัว เพื่อนพีกลัวพีเสียใจ คิดว่าผมไม่ควรทำแบบนี้ แถมวันนั้นถามดาวด้วยนะว่า รู้มั้ยว่าพีคือใคร อันนี้ผมมารู้ทีหลัง แต่อย่างที่บอก ผมเห็นว่าพีก็มีคนใหม่ ผมมีบ้างก็ไม่แปลก ยังไงซักวันก็ต้องเปิดตัว , เหตุการณ์ที่สองตอนประกาศจะแต่งงานที่ร้านนัดกินข้าว เพื่อนพี่ตกใจ กลัวพีจะเสียใจมาก แล้วพีจะหายไป ผมฟังแล้วแบบ พีก็ไม่ได้รู้สึกไรป่าววะ แล้วผมอยากมาบอกพร้อมหน้าพร้อมตามันผิดหรอ หรือต้องบอกทางแชท หรือต้องฝากคนอื่นไปบอกพี นี่ผมนัดมาทานข้าวเพื่อประกาศมันไม่ดีหรือยังไง ผมว่าเหตุผลมันฟังไม่ขึ้นจริงๆ พียังเคยปรึกษาผมเรื่องแฟนใหม่พี มีคาบเกี่ยวเรื่องแต่งงาน ถึงจะคิดเล่นๆ แต่ผมเคยบ่นอะไรมั้ย เคยไม่พอใจมั้ย แล้วทำไมไม่เข้าใจผม

จะจบแล้วครับ อักษรเกิน ขอต่ออีกหน่อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่