ชาวพุทธกำลังทำคำสอนที่ทรงคุณค่าที่สุดของพระพุทธเจ้า ให้กลายมาเป็นคำสอนที่ไร้คุณค่าอยู่โดยไม่รู้ตัว

คนมีปัญญาจะพยายามแก้ปัญหาที่กำลังเกิดอยู่ในปัจจุบันให้ได้ก่อน เมื่อแก้ได้แล้วจึงค่อยมาหาทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทีหลัง

ความทุกข์ของเรานั้น มันกำลังเกิดอยู่ในชีวิตนี้ แต่เราไม่ยอมมาแสวงหาวิธีการดับมัน เรากลับไปเชื่อว่าเราจะไปดับทุกข์เอาในชาติหน้าหรือชาติต่อๆไป จึงทำให้เราต้องทนทุกข์ในชีวิตนี้ไปจนตายเพราะความเชื่อนี้

เหมือนกับว่าไฟกำลังไหม้อยู่ที่ศีรษะเรา แล้วเราไม่ยอมดับไฟที่กำลังไหมอยู่นั้น (หรือเพราะเชื่อว่ามันดับไม่ได้) แต่กลับคิดว่าจะไปดับไฟที่ไหม้ศีรษะเราในวันพรุ่งนี้ จึงทำให้เราต้องทรมานกับไฟที่กำลังไหม้อยู่ที่ศรีษะเราในวันนี้

หลักอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้านั้น แท้จริงเป็นหลักในการปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบัน (อันได้แก่ ความเศร้าโศก ความคับแค้นใจ ความแห้งเหี่ยวใจ ความตรอมใจ ความไม่สบายใจ เป็นต้น) โดยใช้ปัญญา ศีล สมาธิมาทำงานร่วมกัน ซึ่งการดับนั้นก็มีทั้งดับอย่างชั่วคราวและดับอย่างถาวร (คือตลอดชีวิต)

แต่ชาวพุทธในปัจจุบันส่วนใหญ่กลับเชื่อว่า ความทุกข์ของจิตใจในปัจจุบันนั้นไม่สามารถดับมันได้ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจว่า หลักอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้านั้น เป็นหลักในการปฏิบัติเพื่อสั่งสมเป็นนิสัย (บารมี) เอาไว้ไปดับทุกข์เอาในชาติหน้าหรือชาติต่อๆไป ซึ่งนี่เป็นเช่นนี้ก็เพราะหลักอริยสัจ ๔ ได้ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดเพี้ยนมาก่อนแล้วโดยชาวพุทธไม่รู้ตัวนั่นเอง

ความทุกข์ของจิตใจในปัจจุบัน (ในชีวิตนี้) นี้คือปัญหาใหญ่หลวงที่สุดและเร่งด้วยที่สุด ที่เราทุกคนจะต้องรีบแก้ไขหรือดับมันให้ได้ก่อน ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงสอนเรื่องการแก้ปัญหาที่ใหญ่หลวงที่สุดและเร่งด่วนที่สุดนี้ แต่คนที่ไม่เข้าใจกลับมาลดคุณค่าของอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้าลงให้เป็นแค่เพียงการปฏิบัติเพื่อความหวังว่าจะได้ไปดับทุกข์เอาในชาติหน้าหรือชาติต่อๆไปเท่านั้น แล้วอย่างนี้มันมิกลายเป็นการทำลายคำสอนที่ทรงคุณค่าที่สุดหรือมีประโยชน์สูงสุดของพระพุทธเจ้า ให้กลายมาเป็นคำสอนที่ธรรมดาๆและไร้คุณค่าไปแล้วหรือ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่