ก่อนอื่น เราขอแนะนำ นิดหนึ่งก่อนว่า การท่องเที่ยวแบบ CBT คือ อะไร
การท่องเที่ยวแบบ CBT คือ การท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community - Based Tourism) เอาแบบสั้น ๆ เข้าใจง่าย ก็คือ การท่องเที่ยวที่เน้นทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมขององค์กร โดยชุมชนมีบทบาทในการจัดการ ดูแล นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน
หลังจากเราศึกษา หาข้อมูลมาแล้วก็เลือกที่จะเดินทาง มาที่ บ้านเก๊าเดื่อ หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
จากข้อมูล บ้านเก๊าเดื่อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ เป็นป่าไม้ และน้ำตก และมีสวนสาธิต การปลูกสมุนไพรป่า ซึ่งระหว่างทาง จะประกอบด้วย ร้านอาหาร รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศที่น่าสนใจ เราจึงตัดสินใจที่จะไป ที่นี่....
เตรียมตัวไปลุยป่า…..
สิ่งที่ต้องเตรียมไป ยากันยุงแบบทา หรือสเปรย์กันยุง , ครีมกันแดด , ยาหม่องทาสำหรับแมลงกัดต่อย หมวกสำหรับใส่กันแดด ปลอกแขนยาแก้แพ้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ก็เตรียมยาไปด้วย เตรียมตัวเสร็จแล้ว เราก็ กำหนดเป้าหมายเลย เราจะเดินทางโดยมอเตอร์ไซค์ และพักที่ นั่น 1 คืน
ไปลุย กันเลย.........................
เริ่มจาก สถานีขนส่งอาเขต เราเดินทางมาถึงสถานีขนส่งประมาณ 7 โมงเช้า

และเดินทางไปโดยรถสี่ล้อแดง เพื่อไป เช่ารถแถว ตลาดสมเพชร จากข้อมูลที่ศึกษาดูที่นี่เป็นแหล่งเช่ารถ ที่เยอะที่สุด มีให้เลือกหลาย ร้าน เราเสียค่าโดยสาร เหมาจ่าย 150 บาท เพื่อมาถึงที่หมาย และเราก็เลือกร้านนี้ เพราะมีรถที่เราต้องการจะเช่า

ร้าน Bikky ราคา เช่า ก็แล้วแต่สภาพรถ รุ่นรถ เราเลือก Honda Click ราคา 250 บาทต่อวัน เราต้องจ่ายค่าประกันรถ /2000 บาท พร้อมวางบัตรประชาชนไว้ เราถือว่าร้านนี้ ถือว่า ให้ราคาคนไทย เพราะ ร้านบางร้านจะต้องวางค่าประกัน 5000 บาท แต่ร้านนี้ถือว่า เป็นราคาที่ยอมรับกันได้ ถ้าเพื่อนสนใจ เรามีเบอร์ติดต่อให้ 080 – 1220985 ติดต่อ คุณโดม..
หลังจากที่เราได้รถมาแล้ว คนละคันกับเพื่อน เราก็ขับมุ่ง สู่ถนนห้วยแก้ว ซึ่งเป็นเส้นทางที่คนส่วนใหญ่รู้จัก เพราะเป็นเส้นทางที่จะไป ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านหน้า เซ็นทรัลกาดสวนแก้วไป ก็ไปเจอสี่แยกรินคำ เราผ่านสี่แยกรินคำไป อีกประมาณ 3 กิโลเมตร เจอแยกไฟแดง ถนนคันคลอง ไม่ต้องข้ามสะพานเพื่อไป มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เลี้ยวซ้าย ตรงไป เราจะผ่านสี่แยกตลาดต้นพะยอม ให้ตรงไปเรื่อย
ผ่านแยกไนซ์ซาฟารี ก็จะเจอ แยกสะเมิง ซึ่งเป็นเส้นทางที่เราจะไป บ้านท่าเดื่อ ตำบล บ้านปง
ตอนนี้เรามาถึง แยกสะเมิง ให้เลี้ยวขวา ไปถนน หางดง – สะเมิง (ทางหลวงหมายเลข 1269)
ถนน ค่อยข้างที่จะดี ส่วนใหญ่ทางจะเป็นทางที่ขึ้นเขา ลงเขา เราต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ ระหว่างทางมีรีสอร์ท ร้านกาแฟ ตลอดเส้นทาง ข้างทางมีต้นไม้ใหญ่ ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์ เราใช้เวลาเดินทางร่วมสี่สิบนาที กว่าจะถึงจุดนัดพบ ที่เรานัดกับเจ้าหน้าที่ หรือผู้ดูแลเรื่องการท่องเที่ยวในชุมชนแห่งนี้
และแล้วเราก็มาถึงจุดหมาย เราก็ได้กดโทรศัพท์ เพื่อติดต่อ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อน ๆ ที่ต้องการเที่ยวที่นี่ ก็สามารถสอบถามได้ที่ คุณสมบูรณ์
เบอร์โทร 08-6117- 6740 เมื่อเข้ามาถึงในหมู่บ้านแล้ว คุณสมบูรณ์ ผู้ช่วย ได้นัดให้เราไปเจอที่ โรงเรียนนานาชาติอเมริกันแปซิฟิก
เราได้พบ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและคนที่จะนำทางเราไป ชมสมุนไพร เดินป่า ชมธรรมชาติและเที่ยวน้ำตก
เรามาถึงที่นี่ เวลา 10.30 น. ซึ่งอาจจะสายไปนิดหนึ่ง เพราะเสียเวลาในการเช่ารถ แต่ก็ตั้งใจแล้ว โปรแกรมการท่องเที่ยวของเรา คือ เราจะไปเที่ยวชม สวนสมุนไพร กันก่อน
การปลูกสมุนไพรของที่นี่ จะปลูกบริเวณ ป่า คือ แทรกระหว่างในป่า เราจะต้องเดินเข้าไปในป่าแล้วจะมีสมุนไพร ปลูกเป็นจุด ๆ ตามรายทาง ป่าที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ แต่ก็มีพวกยุง ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เช่นกัน
ลืมขั้นตอนไปนิดหนึ่ง ก่อนที่เราจะเข้าไปชมสมุนไพรในป่า เราควรที่จะใช้ยากันยุง หรือฉีดสเปรย์ ก่อนที่จะเดินเข้าป่า เพราะยุงที่นี่ค่อนข้างดุมาก เรามาดูกันเลย ว่า เราเจอสมุนไพรอะไรกันบ้าง”””

ส่วนมากจะเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่เราพอที่จะรู้จักกันดี แต่วิธีปลูกของที่นี่ คือปลูกในป่า เนื่องจาก ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ และมีความชุ่มชื้น โดยอาศัยร่มเงาของไม้ใหญ่ ทำให้สมุนไพรที่นี่ ไม่ต้องดูแลมากมาย
เรายกตัวอย่างรูปสมุนไพรบางชนิด ไม่สามารถเก็บรายละเอียดมาได้หมด
............รูปสุดท้ายนี้ ไม่ใช่สมุนไพร เป็นกล้วยไม้ แต่เราเห็นว่ามันสวยดี ...5555555
หลังจากเราชมสมุนไพรกันเรียบร้อยแล้ว จุดมุ่งหมายต่อไปของเราคือ เราจะเดินทางไปที่ น้ำตกตาดครก
เราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงน้ำตกตากครก ในการเดินทางด้วยเท้า
หลังจากที่เราชมธรรมชาติของน้ำตกแล้ว เราก็รีบกลับลงมา เนื่องจากเราไม่ได้ทานอาหาร ซึ่งความจริงชุมชนที่นี่จะมีการสาธิตการทำอาหารพื้นบ้าน และจะมีการทำอาหารให้ทาน โดยจะแวะทานอาหารเที่ยงที่น้ำตก อาหารพื้นบ้านที่นี่ ก็จะมี น้ำพริกปลาโย๊ะสู่ หลามปลาสมุนไพร แกงเห็ดลมใส่ปลาจี่ ป่ามใข่ ส้าผักรวม
แต่เนื่องจากเราไม่ได้บอกเขาล่วงหน้า ชาวบ้านเลยไม่ได้เตรียมกับข้าวไว้ให้ แต่ก็ไม่เป็นไร เราคิดว่ามีร้านอาหารที่น่าสนใจ ที่ผ่านมาระหว่างทาง ...ตอนนี้เวลา บ่ายสองโมงครึ่ง เราคงต้องไปหาอะไรทานกัน
ตามมาเลยครับ.............

ที่นี่คนเยอะมาก บรรยากาศดีใช้ได้เลยหละ..ร้านกระต่ายแอดเวนเจอร์......
อาหารราคาไม่แพง อยู่ที่ราคา 50 60 ถือว่าเป็นร้านที่ฝีมือการทำอาหารใช้ได้เลย รวดเร็วทันใจด้วย โดยเฉพาะส้มตำที่นี่ รสชาติ ดีมาก อร่อยเว่อออ ขอคอร์นเฟิร์ม
พอเราทานอาหารเสร็จแล้ว ก็นั่งเล่น ชิว ๆ จนถึงเวลาห้าโมงเย็น คงถึงเวลาที่เราจะต้องหาที่พัก ซึ่งขาไปเราได้มองไว้แล้วที่หนึ่ง ซึ่งน่าสนใจมาก

นี่คือโรงแรม และก็มีที่พักเป็นหลัง ๆ ทำจากดิน คือบ้านดิน มีทั้งหลังเล็ก และหลังใหญ่ เรามากับเพื่อนสองคน เลยเลือกหลังเล็กอยู่ที่ ราคา 1200 บาทต่อคืน

มาชิมของว่างกันกันซะหน่อย ก่อนที่จะเข้าที่พัก
เช้าตรู่ของอีกวันหนึ่ง วันนี้เราจะใช้เวลาอีกครึ่งวันในการชมธรรมชาติที่นี่ ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่
วันนี้ เราได้แวะเข้าไปชม ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยเสี้ยว ซึ่งอยู่ระหว่างทาง แต่ต้องเข้าไปในหมู่บ้านอีกประมาณ 3 กิโลเมตร

ที่นี่เป็นการเพาะพันธุ์ไม้ประดับเช่น กุหลาบหนู ฯลฯ เราเข้าไปก็ไม่เจอเจ้าหน้าที่ ซึ่งเราไม่ได้ติดต่อไว้ก่อน เลยไม่รู้จะขอคำแนะนำจากใคร ก็เลยเดิน ๆ ดูแล้วก็กลับ
เราเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ เกือบเที่ยงวัน หลังจากคืนรถมอเตอร์ไซค์เสร็จ เราก็ว่าจะหาที่เที่ยวและที่พักในตัวเมืองอีกซักคืน.. เราขอแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT) เพียงแค่นี้......ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามกันมาจนจบ....บาย ๆ ครับผม..
ปล.การแนะนำการท่องเที่ยวแบบCBT นี้ทางเจ้าของกระทู้ได้ทำการรีวิวในส่วนของการท่องเที่ยวหลัก และเป็นส่วนหนึ่งของต้นแบบการเรียนวิชาการท่องเที่ยวเพื่อคุณภาพชีวิต ของนักเรียนนักศึกษา
ปล.2 หากข้อมูลข้างต้นมีความผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนประการใดเพื่อนๆสามารถติชมได้นะครับ
[CR] แชร์ ประสบการณ์การท่องเที่ยว CBT @ เชียงใหม่
การท่องเที่ยวแบบ CBT คือ การท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community - Based Tourism) เอาแบบสั้น ๆ เข้าใจง่าย ก็คือ การท่องเที่ยวที่เน้นทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมขององค์กร โดยชุมชนมีบทบาทในการจัดการ ดูแล นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน
หลังจากเราศึกษา หาข้อมูลมาแล้วก็เลือกที่จะเดินทาง มาที่ บ้านเก๊าเดื่อ หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
จากข้อมูล บ้านเก๊าเดื่อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ เป็นป่าไม้ และน้ำตก และมีสวนสาธิต การปลูกสมุนไพรป่า ซึ่งระหว่างทาง จะประกอบด้วย ร้านอาหาร รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศที่น่าสนใจ เราจึงตัดสินใจที่จะไป ที่นี่....
เตรียมตัวไปลุยป่า…..
สิ่งที่ต้องเตรียมไป ยากันยุงแบบทา หรือสเปรย์กันยุง , ครีมกันแดด , ยาหม่องทาสำหรับแมลงกัดต่อย หมวกสำหรับใส่กันแดด ปลอกแขนยาแก้แพ้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ก็เตรียมยาไปด้วย เตรียมตัวเสร็จแล้ว เราก็ กำหนดเป้าหมายเลย เราจะเดินทางโดยมอเตอร์ไซค์ และพักที่ นั่น 1 คืน
ไปลุย กันเลย.........................
เริ่มจาก สถานีขนส่งอาเขต เราเดินทางมาถึงสถานีขนส่งประมาณ 7 โมงเช้า
และเดินทางไปโดยรถสี่ล้อแดง เพื่อไป เช่ารถแถว ตลาดสมเพชร จากข้อมูลที่ศึกษาดูที่นี่เป็นแหล่งเช่ารถ ที่เยอะที่สุด มีให้เลือกหลาย ร้าน เราเสียค่าโดยสาร เหมาจ่าย 150 บาท เพื่อมาถึงที่หมาย และเราก็เลือกร้านนี้ เพราะมีรถที่เราต้องการจะเช่า
ร้าน Bikky ราคา เช่า ก็แล้วแต่สภาพรถ รุ่นรถ เราเลือก Honda Click ราคา 250 บาทต่อวัน เราต้องจ่ายค่าประกันรถ /2000 บาท พร้อมวางบัตรประชาชนไว้ เราถือว่าร้านนี้ ถือว่า ให้ราคาคนไทย เพราะ ร้านบางร้านจะต้องวางค่าประกัน 5000 บาท แต่ร้านนี้ถือว่า เป็นราคาที่ยอมรับกันได้ ถ้าเพื่อนสนใจ เรามีเบอร์ติดต่อให้ 080 – 1220985 ติดต่อ คุณโดม..
หลังจากที่เราได้รถมาแล้ว คนละคันกับเพื่อน เราก็ขับมุ่ง สู่ถนนห้วยแก้ว ซึ่งเป็นเส้นทางที่คนส่วนใหญ่รู้จัก เพราะเป็นเส้นทางที่จะไป ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านหน้า เซ็นทรัลกาดสวนแก้วไป ก็ไปเจอสี่แยกรินคำ เราผ่านสี่แยกรินคำไป อีกประมาณ 3 กิโลเมตร เจอแยกไฟแดง ถนนคันคลอง ไม่ต้องข้ามสะพานเพื่อไป มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เลี้ยวซ้าย ตรงไป เราจะผ่านสี่แยกตลาดต้นพะยอม ให้ตรงไปเรื่อย
ผ่านแยกไนซ์ซาฟารี ก็จะเจอ แยกสะเมิง ซึ่งเป็นเส้นทางที่เราจะไป บ้านท่าเดื่อ ตำบล บ้านปง
ตอนนี้เรามาถึง แยกสะเมิง ให้เลี้ยวขวา ไปถนน หางดง – สะเมิง (ทางหลวงหมายเลข 1269)
ถนน ค่อยข้างที่จะดี ส่วนใหญ่ทางจะเป็นทางที่ขึ้นเขา ลงเขา เราต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ ระหว่างทางมีรีสอร์ท ร้านกาแฟ ตลอดเส้นทาง ข้างทางมีต้นไม้ใหญ่ ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์ เราใช้เวลาเดินทางร่วมสี่สิบนาที กว่าจะถึงจุดนัดพบ ที่เรานัดกับเจ้าหน้าที่ หรือผู้ดูแลเรื่องการท่องเที่ยวในชุมชนแห่งนี้
และแล้วเราก็มาถึงจุดหมาย เราก็ได้กดโทรศัพท์ เพื่อติดต่อ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อน ๆ ที่ต้องการเที่ยวที่นี่ ก็สามารถสอบถามได้ที่ คุณสมบูรณ์
เบอร์โทร 08-6117- 6740 เมื่อเข้ามาถึงในหมู่บ้านแล้ว คุณสมบูรณ์ ผู้ช่วย ได้นัดให้เราไปเจอที่ โรงเรียนนานาชาติอเมริกันแปซิฟิก
เราได้พบ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและคนที่จะนำทางเราไป ชมสมุนไพร เดินป่า ชมธรรมชาติและเที่ยวน้ำตก
เรามาถึงที่นี่ เวลา 10.30 น. ซึ่งอาจจะสายไปนิดหนึ่ง เพราะเสียเวลาในการเช่ารถ แต่ก็ตั้งใจแล้ว โปรแกรมการท่องเที่ยวของเรา คือ เราจะไปเที่ยวชม สวนสมุนไพร กันก่อน
การปลูกสมุนไพรของที่นี่ จะปลูกบริเวณ ป่า คือ แทรกระหว่างในป่า เราจะต้องเดินเข้าไปในป่าแล้วจะมีสมุนไพร ปลูกเป็นจุด ๆ ตามรายทาง ป่าที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ แต่ก็มีพวกยุง ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เช่นกัน
ลืมขั้นตอนไปนิดหนึ่ง ก่อนที่เราจะเข้าไปชมสมุนไพรในป่า เราควรที่จะใช้ยากันยุง หรือฉีดสเปรย์ ก่อนที่จะเดินเข้าป่า เพราะยุงที่นี่ค่อนข้างดุมาก เรามาดูกันเลย ว่า เราเจอสมุนไพรอะไรกันบ้าง”””
ส่วนมากจะเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่เราพอที่จะรู้จักกันดี แต่วิธีปลูกของที่นี่ คือปลูกในป่า เนื่องจาก ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ และมีความชุ่มชื้น โดยอาศัยร่มเงาของไม้ใหญ่ ทำให้สมุนไพรที่นี่ ไม่ต้องดูแลมากมาย
เรายกตัวอย่างรูปสมุนไพรบางชนิด ไม่สามารถเก็บรายละเอียดมาได้หมด
............รูปสุดท้ายนี้ ไม่ใช่สมุนไพร เป็นกล้วยไม้ แต่เราเห็นว่ามันสวยดี ...5555555
หลังจากเราชมสมุนไพรกันเรียบร้อยแล้ว จุดมุ่งหมายต่อไปของเราคือ เราจะเดินทางไปที่ น้ำตกตาดครก
เราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงน้ำตกตากครก ในการเดินทางด้วยเท้า
หลังจากที่เราชมธรรมชาติของน้ำตกแล้ว เราก็รีบกลับลงมา เนื่องจากเราไม่ได้ทานอาหาร ซึ่งความจริงชุมชนที่นี่จะมีการสาธิตการทำอาหารพื้นบ้าน และจะมีการทำอาหารให้ทาน โดยจะแวะทานอาหารเที่ยงที่น้ำตก อาหารพื้นบ้านที่นี่ ก็จะมี น้ำพริกปลาโย๊ะสู่ หลามปลาสมุนไพร แกงเห็ดลมใส่ปลาจี่ ป่ามใข่ ส้าผักรวม
แต่เนื่องจากเราไม่ได้บอกเขาล่วงหน้า ชาวบ้านเลยไม่ได้เตรียมกับข้าวไว้ให้ แต่ก็ไม่เป็นไร เราคิดว่ามีร้านอาหารที่น่าสนใจ ที่ผ่านมาระหว่างทาง ...ตอนนี้เวลา บ่ายสองโมงครึ่ง เราคงต้องไปหาอะไรทานกัน
ตามมาเลยครับ.............
ที่นี่คนเยอะมาก บรรยากาศดีใช้ได้เลยหละ..ร้านกระต่ายแอดเวนเจอร์......
อาหารราคาไม่แพง อยู่ที่ราคา 50 60 ถือว่าเป็นร้านที่ฝีมือการทำอาหารใช้ได้เลย รวดเร็วทันใจด้วย โดยเฉพาะส้มตำที่นี่ รสชาติ ดีมาก อร่อยเว่อออ ขอคอร์นเฟิร์ม
พอเราทานอาหารเสร็จแล้ว ก็นั่งเล่น ชิว ๆ จนถึงเวลาห้าโมงเย็น คงถึงเวลาที่เราจะต้องหาที่พัก ซึ่งขาไปเราได้มองไว้แล้วที่หนึ่ง ซึ่งน่าสนใจมาก
นี่คือโรงแรม และก็มีที่พักเป็นหลัง ๆ ทำจากดิน คือบ้านดิน มีทั้งหลังเล็ก และหลังใหญ่ เรามากับเพื่อนสองคน เลยเลือกหลังเล็กอยู่ที่ ราคา 1200 บาทต่อคืน
มาชิมของว่างกันกันซะหน่อย ก่อนที่จะเข้าที่พัก
เช้าตรู่ของอีกวันหนึ่ง วันนี้เราจะใช้เวลาอีกครึ่งวันในการชมธรรมชาติที่นี่ ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่
วันนี้ เราได้แวะเข้าไปชม ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยเสี้ยว ซึ่งอยู่ระหว่างทาง แต่ต้องเข้าไปในหมู่บ้านอีกประมาณ 3 กิโลเมตร
ที่นี่เป็นการเพาะพันธุ์ไม้ประดับเช่น กุหลาบหนู ฯลฯ เราเข้าไปก็ไม่เจอเจ้าหน้าที่ ซึ่งเราไม่ได้ติดต่อไว้ก่อน เลยไม่รู้จะขอคำแนะนำจากใคร ก็เลยเดิน ๆ ดูแล้วก็กลับ
เราเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ เกือบเที่ยงวัน หลังจากคืนรถมอเตอร์ไซค์เสร็จ เราก็ว่าจะหาที่เที่ยวและที่พักในตัวเมืองอีกซักคืน.. เราขอแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT) เพียงแค่นี้......ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามกันมาจนจบ....บาย ๆ ครับผม..
ปล.การแนะนำการท่องเที่ยวแบบCBT นี้ทางเจ้าของกระทู้ได้ทำการรีวิวในส่วนของการท่องเที่ยวหลัก และเป็นส่วนหนึ่งของต้นแบบการเรียนวิชาการท่องเที่ยวเพื่อคุณภาพชีวิต ของนักเรียนนักศึกษา
ปล.2 หากข้อมูลข้างต้นมีความผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนประการใดเพื่อนๆสามารถติชมได้นะครับ