กำลังจะเลิกกับแฟนเพราะเรื่องแฟนชอบซื้อของ ทำยังไงต่อไปดีครับ

สวัสดีครับ ผมเป็นมือใหม่หัดโพสนะครับ แต่อยากจะขอความคิดเห็นเพื่อนๆหน่อยครับว่าผมควรจะทำยังไงดี

เรื่องมีอยู่ว่าผมกับแฟนคบกันมาสองปีกว่าจะสามปีละครับ เราอยู่ด้วยกันที่บ้านของเค้า ซึ่งจริงๆบ้านเราสองคนใกล้กันครับ แต่เค้าอยู่บ้านคนเดียวหลังจากที่ตกลงเป็นแปนกันผมก็ย้ายมาอยู่กับเค้า

ในช่วงปีแรก : เรามีทะเลกันบ้างเรื่องผมเอาแต่ทำงาน เลิกงานดึกไม่ค่อยมีเวลาให้ เวลานัดกินข้าวกับเค้าหรือกลุ่มเพื่อนเค้าผมก็มักจะไปไม่ทันตลอด เรื่องนี้ผมยอมรับครับว่าผมผิดจริงซึ่งตอนหลักก็พยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ในช่วงที่เริ่มคบกันผมเริ่มรู้ว่าเค้าเป็นคนที่ชอบซื้อของชอบช็อปปิ้งมาก ด้วยความที่เค้าทำงานรับราชการเลยมีเวลาว่างเยอะเลยช็อปปิ้งหนักมาก ต้องบอกก่อนนะครับว่าปกติเวลาซื้อของเข้าบ้านหรือออกไปทานข้าวนอกบ้านซึ่งเราทานนอกบ้านกันตลอดเพราะไม่ทำกับข้าวที่บ้านผมจะเป็นคนจ่ายตลอด และเวลาไปห้างกันเค้าก็จะให้ผมซื้อของให้เค้าบ้าง ซึ่งผมก็ซื้อด้วยความเต็มใจ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นพวกเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ ของตกแต่งบ้าน จะมีของใหญ่ๆก็มือถือ แทปเลต ซึ่งผมก็ยังโอเคพอรับได้ แต่ก็นั่นหละครับ ผมก็ต้องแลกกับการทำงานที่หนักขึ้นเพราะนอกจากเค้าแล้วผมยังต้องทำงานเลี้ยงแม่และครอบครัวของผมด้วย

ในช่วงปีที่ 2 และ 3 : ช่วงนี้งานผมค่อนข้างเยอะเพราะเป็นช่วงขาขึ้นของผม ผมทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งตอนแรกคิดไว้ว่าจะทำให้น้อยลงแต่ก็ทำไม่ได้ เราทะเลาะกันบ่อยครั้งเพราะผมไม่ค่อยมีเวลาให้ เวลาอยู่ด้วยกันผมก็คุยโทรศัพท์พิมพ์ไลน์ตอบงานลูกค้าตลอด แต่ผมก็เริ่มรู้แล้วว่าหากเค้าอยากได้อะไรผมก็จะซื้อให้ซึ่งเค้าก็จะหายโกรธในทันใด แต่วิธีนี้ก็ทำให้ผมก็หวั่นใจอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะในช่วงนั้นนอกจากพวกเครื่องสำอางค์ ครีม ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า รองเท้า แล้วยังมีกระเป๋าแบรนด์ มือถือใหม่ แทปเลตใหม่  ลำโพง ช่วยสบทบทุนเปลี่ยนแอร์ที่บ้าน เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติในบ้าน  เครื่องทำน้ำอุ่น และน่าจะมีอย่างอื่นอีกที่ผมจำไม่ได้เพราะเค้าซื้อเกือบทุกอาทิตย์จริงๆ ซึ่งทุกอย่างที่แฟนผมใช้ต้องเป็นของที่ดีถึงดีที่สุดเสมอ  ซึ่งบ้านเค้าก็มีฐานะครับ แต่พ่อแม่เค้ารู้ว่าลูกเป็นคนใช้เงินน่าตกใจมากเลยออกกฎว่าจะไม่ช่วยค่าอย่างอื่นนอกจากค่าผ่อนรถหากอยากได้อะไรอย่างอื่นก็ต้องซื้องเองเพราะโตแล้ว

มันช่างแตกต่างกับผมมาก ผมเป็นคนไม่ค่อยใช้อะไรแพงๆ ผมซื้อบ้านให้แม่มาสองปีแล้วแต่ห้องผมเองมีแค่เตียงกับแอร์ ผมเลือกที่จะยังไม่ซื้ออะไรตกแต่งห้องผมเพราะเห็นว่าไม่ค่อยได้อยู่อยู่แล้วให้แม่แต่งของท่านไป หากจะเข้าไปอยู่ค่อยทำเพิ่มซื้อเพิ่มเก็บตังค์ไว้หมุนที่บริษัทจะดีกว่าเพราะผมต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ให้แม่ และมีน้องๆที่บริษัทต้องดูแลอีกเกือบ 10 ชีวิต

ซึ่งจุดพีคอยู่ในช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมาครับ
เป็นช่วงที่ cash flow ของบริษัทเริ่มมีปัญหา ไม่ใช่บริษัทมีปัญหาทางการเงินนะครับ แต่เนื่องจากงานเข้ามาพร้อมๆกันแล้วแต่ละตัวเราต้องจ่ายออกหรือจ่ายก่อน ซึ่ง Credit term ของลูกค้าก็ยาวนานเหลือเกิน บวกกับ process ต่างๆ ซึ่งหากใครเคยทำกับบริษัทใหญ่ๆบางที่จะรู้ว่ากว่าจะได้เงินนั้นบางทีแทบลืมเลยทีเดียว ทำให้ Cash Flow เราขาดต้องเริ่มหยิบยืมคนในครอบครัวมาหมุนก่อน ซึ่งเรื่องเล่านี้ผมก็เล่าให้เค้าฟังอยู่ตลอด เค้าก็มีค่าทีเข้าใจและเห็นใจตอนที่เราเครียดก็พยายามปลอบในวิธีแข็งๆของเค้าเพราะเค้าเป็นคนแข็งๆไม่ค่อยอ้อนอยู่แล้ว

ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ เราเกือบจะเลิกมาแล้วครั้งนึงเพราะเหตุเกิดจากที่แฟนผมเค้าไปซื้อของใหญ่มาชิ้นนึง แล้วเค้าบิกให้ผมช่วยรูดค่าเงินดาว์นไปก่อนซึ่งผมก็รูดไปไม่ได้คิดอะไรเพราะเรื่องนี้พ่อแม่เค้ารู้แล้วและจะโอนเงินมาให้เค้ายืมก่อนแล้วค่อยผ่อนคืนทีหลัง หลังจากนั้นผมก็ทวงถามเค้าเรื่องที่ให้ผมรูดไปเพราะผมต้องเอาเงินไปหมุน และจริงๆผมก็มีเตรียมเซอร์ไพรส์ทำของบางอย่างให้เค้าอยู่ ซึ่งไม่ได้คิดว่าเราจะต้องมาจ่ายส่วนนั้นด้วย แต่เค้าก็พูดเหมือนทีเล่นทีจริงว่าดีเลย ไหนๆก็รูดแล้วก็ออกให้เลยละกันนะ ผมเองก็ลังเลไม่อยากพูดซ้ำเพราะกลัวทะเลาะกัน แต่แล้วเรื่องที่ทำให้ผมต้องพูดมันออกมันคือหลังจากวันนั้นไม่นาน เค้าอยากซื้อถังขยะใหม่ เหตุผลเพราะอะไรนะเหรอครับผมว่าเพราะว่าเค้าอยากได้เพราะสวยดี เค้าเดินมาบอกผมว่าหากรูดด้วยบัตร xxxx จะได้ลดนะ รูดให้หน่อยเดี๋ยวคืนให้ (ซึ่งจริงๆก็เกิดเรื่องแบบนี้มาหลายครั้งแล้วที่ให้ผมรูดให้ ซื้อของให้ตัวเองบ้างให้คนอื่นก่อนบ้างแล้วก็ลืม ซึ่งผมก็ไม่ได้เอามาคิดมากเพราะเงินมันไม่ได้เยอะมากต่อครั้ง) พอเค้าพูดแบบนี้ผมก็เก็บอารมณ์ไม่อยู่คุมปากไม่ได้ เลยพูดไปว่าค่าดาวน์นของยังไม่คืนผมเลย นี่จะให้รูดให้อีกแล้วเหรอ ของก็ไม่ได้จำเป็นอะไรด้วย แค่นั้นแหละครับ เค้าโกรธผมโวยวายหนักมาก ซึ่งตอนนั้นผมก็โกรธจนหยุดไม่อยู่แล้ว เลยถามเค้าไปคำนึกว่า ถามจริงๆคุณไม่สงสารผมบ้างเหรอ คุณก็รู้ว่าช่วงนี้ผมมีปัญหาอยู่ เห็นใจผมบ้างเถอะนะ...

พอจบคำพูดนี้เค้าก็พูดว่าจะไปกดเงินคืนให้ ไม่ชอบให้คนมาทวงเงินแบบนี้ และชวนทะเลาะใหญ่โต  ซึ่งผมก็บอกว่าไม่ต้องกดมาคืนหรอกแค่หลังจากนี้อย่าเพิ่งซื้ออะไรแล้วกัน  ซึ่งเค้าก็โอเคแต่ไม่หายกรธ เราเย็นชากันมาสักระยะ ซึ่งตอนนี้ผมเองก็มีคนเข้ามาคุย ซึ่งผมเองก็มีคุยตอบ (อันนี้ผมไม่ดีเอง) ซึ่งเค้าก็จับได้ เลยทะเลาะกันหนักถึงขั้นเค้าให้ผมไปอยู่บ้านดัวเอง หลังจากนั้นไม่นานผมก็ขอเครียร์กับเค้า และคุยในสิ่งที่ผมอยากให้เค้าปรับปรุงและเห็นใจผมซึ่งผมเองก็จะปรับปรุงเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นก็ดีขึ้นจริงๆ ซึ่งผมดีใจมากกกกกก

แต่เรื่องก็เกิดขึ้นอีกจนได้ หลังจากเครียร์กันได้ประมาณ 2 อาทิตย์ เค้าก็เกริ่นว่าอยากได้เครื่องถูพื้นอัตโนมัติรุ่นใหม่ซึ่งผมก็พูดว่ามันแพงไปนะและไม่จำเป็นด้วย (แต่ในใจก็งงว่าเพิ่งเครียร์กันว่าช่วงนี้อย่างเพิ่งซื้ออะไรขอเวลาถึงปลายสิงหา) ซึ่งพอผมไม่ซื้อให้ ผมรู้ว่าเค้าไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร หลังจากนั้นอีก 1 อาทิตย์ เค้าก็อยากได้กระเป๋าเดินทางยี่ห้อดัง ซึ่งผมเองก็อยากได้แต่ยังไม่ซื้อเลยเพราะเสียดายเงิน เค้าเริ่มเกริ่นแต่ผมไม่เล่นด้วยทำนิ่งๆไปเค้าก็เริ่มมีปฎิกิริยา แต่ล่าสุดวันนี้เค้าก็พูดขึ้นมาว่าให้ซื้อเลนส์กล้องให้หน่อย มันเลยทำให้ผมทนไม่ไหวพูดออกไปว่า หากให้ผมซื้อเลนส์ผมเอาเงินไปซื้อคอมเข้าออฟฟิตดีกว่ามั้ยกำลังจะต้องซื้อให้พนักงานอยู่เนี่ย.... และแล้วคำพูดคำนี้ทำให้เค้าจะขอเลิกกับผม เค้าบอกว่าไม่ชอบที่ผมตอบ เค้าแค่พูดเล่นว่าอยากได้แต่ผมมั่นใจว่าเค้าพูดจริง เพื่อนๆของเค้าทุกคนหากได้อ่านก็ต้องรู้ว่าเค้าพูดจริงไม่ได้พูดลอยๆแบบที่บอก เค้าชวนผมทะเลาะและก็มาถึงคำพูดที่พีคมาก เค้าบอกว่าเค้าทนมานานแล้วไม่มีเวลาให้เค้าเลย ทำตัวให้เค้าไม่ไว้ใจด้วย และยังมาพูดแบบนี้กับเค้าอีก จะเลิกกันตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ

ผมได้ยินคำนี้แล้วตัวชาเลยครับ ผมงงมากว่าความรักที่ผมมีให้เค้ามันมีค่าสำหรับเค้าบ้างรึเปล่า ผมรู้สึกได้นะครับว่าที่คบกันเค้าก็น่าจะรักผมบ้าง แต่เค้าแค่ชอบซื้อของมากเหมือนกันเลยทำให้เราทะเลาะกัน ผมควรทำยังไงดีครับ ผมรักเค้านะแต่คิดแล้วว่าหากง้อเค้าอยู่ไปก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้อีกเพราะเค้าก็ต้องอยากได้นั่นโน่นนี่อยู่ดี ซึ่งหากผมต้องการให้ไม่มีปัยหาก็ต้องทำงานหนักเหมือนเดิม และปัญหาต่างๆก็กลับมาเป็นวัฎจักรเดิม เพื่อนๆช่วยผมหน่อยนะครับบอกผมหน่อยว่าผมควรทำยังไงดี....ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่