อยากแชร์ การเลี้ยงดูของพ่อแม่เราเองค่ะ
พ่อสูงไม่ถึง 165 แม่เราสูง 153 แต่เราสูง175แปลกไหม 5555+
วิธีนี้เราทำตั้งแต่ อายุ 2-3 ขวบ นะคะ แต่เราหยุดสูงตอนอายุ 17 ถ้าอยากให้ลูกสูงควรทำตั้งแต่อายุน้อยๆค่ะ
1.ตอนเด็กนะคะ พ่อแม่เราไม่ให้เราใส่ส้นสูงย้ำนะคะ พ่อแม่บางคนอยากให้สวยเด็กบางคนก็ดื้ออยากใส่ส้นสูงตอนเด็ก
เราจำได้ว่าเราร้องไห้แงใหญ่เลย 555 อยากสวยเหมือนเพื่อนอ่าเนอะพ่อแม่เราจะให้ใส่แต่รองเท้าผ้าใบใหญ่กว่าขนาดเท้านิดเล็กน้อย(ไม่เคยใส่แตะค่ะ)
พ่อบอกการใส่รองเท้าดีๆตั้งแต่เด็กทำให้ลูกไม่เครียด การเดินมันจะเกร็งค่ะเด็กจะเครียดโดยไม่รู้ตัว
2. นมค่ะ ส่วนใหญ่กินนมตราหมี ห่อเหลือง กับ นมจืด2 ลิตร ( ถ้าไม่กินนมตราหมี ก็กินนมไทยเดนมาค หนองโพ แอลลีน พวกนี้จะทำไห้สูงขึ้นมากจากการสอบถามหลายๆคน หรือ คุณพ่อคุณแม่จะสอบถามคนอื่นก็ได้ค่ะ ) ตอนเด็กไม่ชอบกินนมถ้ากินก็จะดุใส่ตอนหลังเป็นคนขาดนมไม่ได้เลยค่ะ (ตอนเด็กกินนมแทนน้ำเปล่าเลยแม่เจ้า 555555 1 ลิตรหมดใน 1 วันตอนเด็กงงไหมคะ (น้องสาวเราก็กินด้วยค่ะ เค้าสูงกว่าเราอีกเค้าบอกน้องกินเก่งกว่า) บางทีคนเดียวแต่1ลิตร
ปล.ถ้าอยากสูงเร็วๆ หรือ พ่อแม่เตี้ยมากๆ ดื่มนมวันละ 3 แก้ว ถึง 1 ลิตร สำหรับผู้ที่แพ้นมเช่น คน เชื้อสายจีนส่วนใหญ่ กิน นม สลับกับ นมถั่วเหลือง และกินโยเกิตเป็นประจำเพื่อให้ย่อยนมได้ดีขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่แพ้นม ไม่จำเป็นต้องรับประทานโยเกิตหรือนมเปรี้ยวใดๆ
**** ถ้าให้ดีเอานมที่ Import จากเกาหลี อเมริกา ยุโรป จะดีกว่านมไทย
เพราะความริชมันเยอะกว่า อร่อยกว่ามากมาย แถมตัวโตด้วย สังเกตุ ฝรั่ง เกาหลีซิ่ สูงๆกันทั้งนั้น
ถ้าเคยสังเกตุฝรั่งวัฒนธรรมการกิน พวกแฮมเบอร์เกอร์ มันเนื้อเน้น(โปรตีน+zinc)
นมเขาผสมวิตามินดี
3. พ่อชอบให้ไปเล่นบาส , ว่ายน้ำ , กระโดดเชือก เช้าเย็น(กระโดดด้วยขาสองข้างสูง ไม่ใช่สลับขากระโดด) 500 ครั้งกำลังดี
ตั้งแต่เด็กๆ ท่านไม่ชอบให้วิ่งแต่มันจะทำให้ข้อเสื่อมด้วย+ เตี้ย
(ไม่ควรหักโหมเกิน 1 ชม ต่อวัน เพราะถ้าหักโหมเกินไป พลังงานจะไม่พอที่จะทำให้สูงขึ้นได้)
4. ถ้าไม่ชอบเล่นกีฬาก็โหนอะไรสูงๆก็ได้ค่ะ ทำทุกวันเหมือนเราเหวี่ยงบาสค่ะเพิ่มความสูง ด้วยการกระโดดสูงบ่อยๆ โดดให้สูงจากพื้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
5. กินแคลเซียมเม็ดตามแพทย์สั่ง ท่านให้กินนานๆทีค่ะ เพราะผลเสียก็มีเหมือนกัน (ไม่ควรกินเกินขนาดแคลเซียมเม็ดส่วนใหญ่จะตกค้างจนก่อให้เกิดโรคนิ่ว หรือทำให้ไม่สูงอีก
6.งดน้ำอัดลมเด็ดขาด ตอนเด็กเราไม่เคยกินน้ำอัดลมเลยค่ะ พ่อแม่ไม่ให้กินตั้งแต่เด็กเราเลยไม่ชอบแสบท้องอีก
7.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ สารอาหาร 6 หมู่ วันละ 3 ถึง 4 มื้อพ่อแม่เราให้เรากินผัก +ผลไม้ ทุกวันเลยค่ะไม่ขาด เราเน้นทานปลาเพื่อให้ได้แคลเซียมค่ะ ปลา + กินไข่3-4 ฟองต่อสัปดาห์ท่านชอบให้กินไข่กับปลามาก
8. เวลาไม่สบายจะพยายามไม่กินยาพาราบ่อยๆ ค่ะ เพราะมันจะทำให้กระดูกพรุน เวลาไม่สบายนิดๆหน่อยอย่าทายยามากไปนะคะพวกยาพาราไม่ดีเสมอไปท่านชอบรักษาแบบธรรมชาติกินยาโบราณ
9. นอนสำคัญมากๆค่ะ พ่อแม่เราบังคับให้นอนตั้งแต่ 2 ทุ่มครึ่งไม่เกินจากนี้ ตื่นเช้าประมาณ 7 โมงครึ่งค่ะ
10. วิธีการเพิ่มความสูงสำหรับทุกวัย (เลยแล้ววัยก็ทำได้) โดยจะช่วยเพิ่มความสูงได้ประมาณ 1 ซม. โดยต้องทำวันละ 1 นาที ซึ่งเป็นเทคนิคจากแพทย์โรคกระดูกญี่ปุ่น โดยวิธีการง่ายๆก็คือ ให้นั่งขุกเข่า แล้วโน้มตัวไปด้านหลังจนนอนราบ ส่วนแขนก็ยืดขึ้นด้านบนราบกับพื้น และค้างไว้ทานี้ประมาณ 1 นาที ซึ่งจะช่วยให้กระดูกที่งอหรือคดตามกาลเวลาให้กลับมาอยู่ในแนวตรงเหมือนเดิม ผลที่ได้ก็คือจะได้ความสูงตามความจริงของเรากลับมานั่นเอง

******เคยอ่านเจอ
ถ้าคนเลือดกรุ๊ปโอ
จะดูดซึมแคลเซียมจากนมวัวได้ไม่มาก
ฉะนั้นกินนมถั่วเหลืองจะดีกว่า
ปล . เรากรุ๊ปบีนะ
******ซึ่งพันธุกรรมของฝ่ายแม่จะมีผลต่อความสูงมากกว่าฝ่ายพ่อ
******ภาวะความเครียด ซึ่งอาจจะเป็นเพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี โดยเฉพาะการเรียนซึ่งจะมุ่งเน้นคะแนนสอบเป็นสำคัญ จึงมีการแข่งขันสูง ทำให้เด็กเครียดมากขึ้น ซึ่งความเครียดจะมีผลโดยตรงต่อการหลั่งฮอร์โมนในการเจริญเติบโต
*****หรือจะดูยี่ห้อนมที่มีแคลเซียมสัก 50 ขึ้นไป สังเกตดูที่ข้างกล่อง
*****ต้องทำแบบนี้ประจำจนอายุ หมดประจำเดือนหรือหมดสูง พ่อแม่เราเคร่งครัดตั้งแต่ 2-3 ปี - 10 ขวบหลังจากนั้นก็หย่อนๆได้แต่ถ้าทำได้ก็จะดี
ปกติทั่วไปแล้วผู้หญิงจะหยุดสูงเมื่ออายุประมาณ 17 ปี ส่วนผู้ชายจะหยุดสูงเมื่ออายุประมาณ 19 ปี จนถึง 25 ปี
***** ห้ามท้อนะคะคุณพ่อคุณแม่ ถ้าลูกดื้อพยายามดุเค้าหน่อยไม่ตีนะคะ 555 ทำน้อยๆแต่สม่ำเสมอก็จะดีมากค่ะ
*****ไม่มีอะไรสำคัญสุดเท่ากับการนอนเร็ว + ออกกำลังกายเพิ่มความสูง + การกินนมเยอะๆ
-----------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต
เคล็ดลับการกินอาหารเพื่อรักษาคุณค่าของแคลเซียม ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่จะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม
* เครื่องดื่มหรืออาหารที่มีคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนจะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะเพิ่มมากขึ้น
* อาหารเค็มจัด เช่น ปลาร้า ไข่เค็ม เบคอน ปลาเค็ม อาหารเหล่านี้มีโซเดียมสูง ซึ่งจะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมที่ลำไส้เล็ก
* เนื้อสัตว์จำนวนมาก โปรตีนที่มากเกินไปจะไปสลายแคลเซียมมากขึ้น ควรบริโภคเนื้อสัตว์ในปริมาณที่พอเหมาะ
* แอลกอฮอล์ จะไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย
* อาหารที่มีน้ำมันมากเกินไป เพราะไขมันจะไปรวมกับแคลเซียมทำไห้ประสิทธิภาพของการดูดซึมลดน้อยลง
* กรดออกซาลิก (oxalic acid) พบมากในผักบางชนิด เช่น ผักโขม ใบชะพลู ผักปลัง หน่อไม้ฝรั่ง
กรดออกซาลิกจะไปจับแคลเซียมที่มีในอาหาร ทำให้แคลเซียมถูกดูดซึมได้น้อยลง
http://www.healthtoday.net/thailand/dietary/dietray_150.html
------------------------------------------------------------------------
น้ำส้ม
นอกจากวิตามินซีแล้ว ส้มยังมีแคลเซียมอีกด้วย และน้ำส้มสด ๆ ที่คั้นจากผลก็เช่นกัน ถ้าหากอยากที่จะได้รับแคลเซียมให้มากขึ้นละก็ ลองรับประทานคู่กับซีเรียลในอาหารมื้อเช้า หรือดื่มในมื้ออาหารที่มีปลาแซลมอนด้วยก็จะทำให้ได้แคลเซียมมากขึ้นนะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 27 มิลลิกรัม (3% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
เมล็ดงา
เมล็ดงาที่นิยมใช้เพื่อตกแต่งอาหารต่าง ๆ นั้น ไม่ได้แค่ทำให้อาหารดูน่าทานขึ้น แต่ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดความดันโลหิต ลดการอักเสบ แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่ที่สำคัญคือเจ้าเมล็ดเล็ก ๆ เหล่านี้มีแคลเซียมด้วยนะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ช้อนชา : 88 มิลลิกรัม (9% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
คะน้า
คะน้าถือเป็นสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระ โดยสามารถนำคะน้ามาทำอาหารได้หลากหลายชนิด เช่นนำมาใส่ในสลัดแอปริคอตและอะโวคาโด ก็ทำให้ได้สารอาหารมาขึ้นค่ะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 94 มิลลิกรัม (9% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
บรอกโคลี
บรอกโคลี เป็นผักที่มีสารอาหารมากที่สุดชนิดหนึ่งจนถูกขนานนามว่าสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ และนำไปทำอาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้งผัด ต้ม นำไปปรุงเป็นซุป หรือจะลวกแล้วนำไปทานกับสลัดก็ได้
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 114 มิลลิกรัม (11% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
ข้าวโอ๊ต
ซีเรียลและธัญพืชมากมายที่เรานิยมนำมารับประทานเป็นอาหารเช้า โดยเฉพาะข้าวโอ๊ต เชื่อหรือไม่ว่านอกจากจะมีไฟเบอร์สูงแล้วยังมีแคลเซียมสูงอีกด้วย แถมในข้าวโอ๊ตยังมีโปรตีนสูงเหมาะกับคนที่ทานมังสวิรัติอีกต่างหาก
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 123 มิลลิกรัม (12% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
ถั่วขาว
พืชตระกูลถั่วเพื่อสุขภาพอย่างถั่วขาวนี้อุดมไปด้วยแคลเซียมและธาตุเหล็ก แถมยังมีใยอาหารสูงช่วยในการลดความอ้วนได้อีกด้วยค่ะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 161 มิลลิกรัม (16% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
ปลาซาร์ดีน
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบกลิ่นคาวของปลา คุณจะต้องหลงรักปลาซาร์ดีนอย่างแน่นอน เพราะมันไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อย แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารอย่างไขมันโอเมก้า 3 วิตามินดี โดยเฉพาะแคลเซียม ที่สำคัญ ปลาซาร์ดีนก็หามาทานไม่ยาก ก็ปลากระป๋องที่เราซื้อมารับประทานกันบ่อย ๆ นี่ละค่ะ ใช้ได้เลย
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 214 มิลลิกรัม (21% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
เทศกาลกินเจ
ถั่วแระ
ใครจะไปเชื่อว่าเจ้าถั่วแระที่เรานำมาต้มหรือนึ่งเพื่อรับประทานเป็นของว่างจะมีปริมาณของแคลเซียมสูงไม่น้อยเลย โดยถั่วแระแค่ 1 ถ้วยก็มีแคลเซียมเกือบ 30% ของแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวันแล้ว อ่อ...แต่ต้องเป็นถั่วแระที่ผ่านการต้มและไม่โรยเกลือนะคะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 261 มิลลิกรัม (26% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
นมถั่วเหลือง
นมถั่วเหลือง
คงเป็นเรื่องหนักใจของคนที่แพ้แลคโตสใช่ไหมคะ ว่าจะดื่มเครื่องดื่มอะไรทดแทนนมวัวดี ขอเสนอนมถั่วเหลืองเลยค่ะ นอกจากจะไม่มีแลคโตสแล้วยังมีปริมาณแคลเซียมเทียบเท่ากับนมวัวด้วยอีกต่างหากค่ะ แค่เพียงรับประทานคู่กับซีเรียลหรือข้าวโอ๊ตในตอนเช้าก็จะทำให้ได้แคลเซียมอย่างเพียงพอแน่นอนค่ะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 301 มิลลิกรัม (30% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
อัลมอนด์
ถั่วอัลมอนด์เป็นถั่วอีกชนิดที่ไม่ควรพลาด เพราะเจ้าถั่วชนิดนี้นั้นเป็นของทานเล่นที่ดีต่อสุขภาพ มีทั้งธาตุเหล็ก วิตามินอี โพแทสเซียม และแคลเซียม แต่ก็ไม่ควรรับประทานอัลมอนด์ที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติ อย่างเช่นการอบเกลือ เพราะจะทำให้ได้รับโซเดียมสูงนะคะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 385 มิลลิกรัม (39% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
เต้าหู้
เต้าหู้ นับเป็นอาหารสุขภาพที่ผู้รักสุขภาพส่วนใหญ่นำมาปรุงอาหารแทนเนื้อสัตว์ เพราะเจ้าอาหารชนิดนี้อุดมไปด้วยโปรตีนและสารอาหารที่มีคุณค่าใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์และแทบจะไม่มีไขมัน แต่ที่เราไม่ค่อยรู้ก็คือปริมาณแคลเซียมที่มีสูงกว่านมหลายเท่านี่ละ ดังนั้นถ้าหากอยากได้แคลเซียมการรับประทานเต้าหู้ก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งนะคะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 507 มิลลิกรัม (51% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
ปลาแซลมอนกระป๋อง
ถ้าคิดว่าเนื้อปลาแซลมอนสดนั้นมีราคาแพงเกินไปละก็ ปลาแซลมอนบรรจุกระป๋องก็เป็นทางเลือกที่ทำให้ได้รับสารอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในปลาแซลมอนเช่นกัน โดยเฉพาะเนื้อปลาแซลมอนที่ยังมีก้างติดอยู่ด้วย เพราะตัวก้างของปลาแซลมอนนี่ละ ที่อุดมไปด้วยแคลเซียมชั้นดี แถมก้างปลาเหล่านี้ยังผ่านการแปรรูปจนสามารถรับประทานได้เลย อ๊ะ ๆ แต่ใช่ว่าเนื้อปลาจะไม่มีประโยชน์นะ เจ้าเนื้อปลาแซลมอนนี่ล่ะแหล่งอุดมไขมันโอเมก้า 3 ที่สำคัญต่อร่างกายเลยเชียวละ ครั้งต่อไปถ้านำปลาแซลมอนบรรจุกระป๋องมาทำอาหารอย่าทิ้งก้างนะคะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 564 มิลลิกรัม (56% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
http://health.kapook.com/view99508.ht




ไม่เกี่ยวที่บรรพบุรุษค่ะแค่เอาใจใส่ลูกน้อยมากขึ้น
สังเกต คนเกาหลี ญี่ปุ่นเริ่มสูงกันแล้วแค่รูปร่างดีสูงชัยไปกว่าครึ่ง
คนไทยเราภาพรวมเราดูดีกว่าใคร การที่คนไทยสูงมันทำให้ภาพลักษณ์เราดีขึ้นด้วยค่ะ
สู้ๆค่ะ ทุกคน

วิธีทำให้สูง (ลูก) โดยที่พ่อแม่เตี้ย จากประสบการณ์ตรง
พ่อสูงไม่ถึง 165 แม่เราสูง 153 แต่เราสูง175แปลกไหม 5555+
วิธีนี้เราทำตั้งแต่ อายุ 2-3 ขวบ นะคะ แต่เราหยุดสูงตอนอายุ 17 ถ้าอยากให้ลูกสูงควรทำตั้งแต่อายุน้อยๆค่ะ
1.ตอนเด็กนะคะ พ่อแม่เราไม่ให้เราใส่ส้นสูงย้ำนะคะ พ่อแม่บางคนอยากให้สวยเด็กบางคนก็ดื้ออยากใส่ส้นสูงตอนเด็ก
เราจำได้ว่าเราร้องไห้แงใหญ่เลย 555 อยากสวยเหมือนเพื่อนอ่าเนอะพ่อแม่เราจะให้ใส่แต่รองเท้าผ้าใบใหญ่กว่าขนาดเท้านิดเล็กน้อย(ไม่เคยใส่แตะค่ะ)
พ่อบอกการใส่รองเท้าดีๆตั้งแต่เด็กทำให้ลูกไม่เครียด การเดินมันจะเกร็งค่ะเด็กจะเครียดโดยไม่รู้ตัว
2. นมค่ะ ส่วนใหญ่กินนมตราหมี ห่อเหลือง กับ นมจืด2 ลิตร ( ถ้าไม่กินนมตราหมี ก็กินนมไทยเดนมาค หนองโพ แอลลีน พวกนี้จะทำไห้สูงขึ้นมากจากการสอบถามหลายๆคน หรือ คุณพ่อคุณแม่จะสอบถามคนอื่นก็ได้ค่ะ ) ตอนเด็กไม่ชอบกินนมถ้ากินก็จะดุใส่ตอนหลังเป็นคนขาดนมไม่ได้เลยค่ะ (ตอนเด็กกินนมแทนน้ำเปล่าเลยแม่เจ้า 555555 1 ลิตรหมดใน 1 วันตอนเด็กงงไหมคะ (น้องสาวเราก็กินด้วยค่ะ เค้าสูงกว่าเราอีกเค้าบอกน้องกินเก่งกว่า) บางทีคนเดียวแต่1ลิตร
ปล.ถ้าอยากสูงเร็วๆ หรือ พ่อแม่เตี้ยมากๆ ดื่มนมวันละ 3 แก้ว ถึง 1 ลิตร สำหรับผู้ที่แพ้นมเช่น คน เชื้อสายจีนส่วนใหญ่ กิน นม สลับกับ นมถั่วเหลือง และกินโยเกิตเป็นประจำเพื่อให้ย่อยนมได้ดีขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่แพ้นม ไม่จำเป็นต้องรับประทานโยเกิตหรือนมเปรี้ยวใดๆ
**** ถ้าให้ดีเอานมที่ Import จากเกาหลี อเมริกา ยุโรป จะดีกว่านมไทย
เพราะความริชมันเยอะกว่า อร่อยกว่ามากมาย แถมตัวโตด้วย สังเกตุ ฝรั่ง เกาหลีซิ่ สูงๆกันทั้งนั้น
ถ้าเคยสังเกตุฝรั่งวัฒนธรรมการกิน พวกแฮมเบอร์เกอร์ มันเนื้อเน้น(โปรตีน+zinc)
นมเขาผสมวิตามินดี
3. พ่อชอบให้ไปเล่นบาส , ว่ายน้ำ , กระโดดเชือก เช้าเย็น(กระโดดด้วยขาสองข้างสูง ไม่ใช่สลับขากระโดด) 500 ครั้งกำลังดี
ตั้งแต่เด็กๆ ท่านไม่ชอบให้วิ่งแต่มันจะทำให้ข้อเสื่อมด้วย+ เตี้ย
(ไม่ควรหักโหมเกิน 1 ชม ต่อวัน เพราะถ้าหักโหมเกินไป พลังงานจะไม่พอที่จะทำให้สูงขึ้นได้)
4. ถ้าไม่ชอบเล่นกีฬาก็โหนอะไรสูงๆก็ได้ค่ะ ทำทุกวันเหมือนเราเหวี่ยงบาสค่ะเพิ่มความสูง ด้วยการกระโดดสูงบ่อยๆ โดดให้สูงจากพื้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
5. กินแคลเซียมเม็ดตามแพทย์สั่ง ท่านให้กินนานๆทีค่ะ เพราะผลเสียก็มีเหมือนกัน (ไม่ควรกินเกินขนาดแคลเซียมเม็ดส่วนใหญ่จะตกค้างจนก่อให้เกิดโรคนิ่ว หรือทำให้ไม่สูงอีก
6.งดน้ำอัดลมเด็ดขาด ตอนเด็กเราไม่เคยกินน้ำอัดลมเลยค่ะ พ่อแม่ไม่ให้กินตั้งแต่เด็กเราเลยไม่ชอบแสบท้องอีก
7.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ สารอาหาร 6 หมู่ วันละ 3 ถึง 4 มื้อพ่อแม่เราให้เรากินผัก +ผลไม้ ทุกวันเลยค่ะไม่ขาด เราเน้นทานปลาเพื่อให้ได้แคลเซียมค่ะ ปลา + กินไข่3-4 ฟองต่อสัปดาห์ท่านชอบให้กินไข่กับปลามาก
8. เวลาไม่สบายจะพยายามไม่กินยาพาราบ่อยๆ ค่ะ เพราะมันจะทำให้กระดูกพรุน เวลาไม่สบายนิดๆหน่อยอย่าทายยามากไปนะคะพวกยาพาราไม่ดีเสมอไปท่านชอบรักษาแบบธรรมชาติกินยาโบราณ
9. นอนสำคัญมากๆค่ะ พ่อแม่เราบังคับให้นอนตั้งแต่ 2 ทุ่มครึ่งไม่เกินจากนี้ ตื่นเช้าประมาณ 7 โมงครึ่งค่ะ
10. วิธีการเพิ่มความสูงสำหรับทุกวัย (เลยแล้ววัยก็ทำได้) โดยจะช่วยเพิ่มความสูงได้ประมาณ 1 ซม. โดยต้องทำวันละ 1 นาที ซึ่งเป็นเทคนิคจากแพทย์โรคกระดูกญี่ปุ่น โดยวิธีการง่ายๆก็คือ ให้นั่งขุกเข่า แล้วโน้มตัวไปด้านหลังจนนอนราบ ส่วนแขนก็ยืดขึ้นด้านบนราบกับพื้น และค้างไว้ทานี้ประมาณ 1 นาที ซึ่งจะช่วยให้กระดูกที่งอหรือคดตามกาลเวลาให้กลับมาอยู่ในแนวตรงเหมือนเดิม ผลที่ได้ก็คือจะได้ความสูงตามความจริงของเรากลับมานั่นเอง
******เคยอ่านเจอ
ถ้าคนเลือดกรุ๊ปโอ
จะดูดซึมแคลเซียมจากนมวัวได้ไม่มาก
ฉะนั้นกินนมถั่วเหลืองจะดีกว่า
ปล . เรากรุ๊ปบีนะ
******ซึ่งพันธุกรรมของฝ่ายแม่จะมีผลต่อความสูงมากกว่าฝ่ายพ่อ
******ภาวะความเครียด ซึ่งอาจจะเป็นเพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี โดยเฉพาะการเรียนซึ่งจะมุ่งเน้นคะแนนสอบเป็นสำคัญ จึงมีการแข่งขันสูง ทำให้เด็กเครียดมากขึ้น ซึ่งความเครียดจะมีผลโดยตรงต่อการหลั่งฮอร์โมนในการเจริญเติบโต
*****หรือจะดูยี่ห้อนมที่มีแคลเซียมสัก 50 ขึ้นไป สังเกตดูที่ข้างกล่อง
*****ต้องทำแบบนี้ประจำจนอายุ หมดประจำเดือนหรือหมดสูง พ่อแม่เราเคร่งครัดตั้งแต่ 2-3 ปี - 10 ขวบหลังจากนั้นก็หย่อนๆได้แต่ถ้าทำได้ก็จะดี
ปกติทั่วไปแล้วผู้หญิงจะหยุดสูงเมื่ออายุประมาณ 17 ปี ส่วนผู้ชายจะหยุดสูงเมื่ออายุประมาณ 19 ปี จนถึง 25 ปี
***** ห้ามท้อนะคะคุณพ่อคุณแม่ ถ้าลูกดื้อพยายามดุเค้าหน่อยไม่ตีนะคะ 555 ทำน้อยๆแต่สม่ำเสมอก็จะดีมากค่ะ
*****ไม่มีอะไรสำคัญสุดเท่ากับการนอนเร็ว + ออกกำลังกายเพิ่มความสูง + การกินนมเยอะๆ
-----------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต
เคล็ดลับการกินอาหารเพื่อรักษาคุณค่าของแคลเซียม ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่จะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม
* เครื่องดื่มหรืออาหารที่มีคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนจะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะเพิ่มมากขึ้น
* อาหารเค็มจัด เช่น ปลาร้า ไข่เค็ม เบคอน ปลาเค็ม อาหารเหล่านี้มีโซเดียมสูง ซึ่งจะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมที่ลำไส้เล็ก
* เนื้อสัตว์จำนวนมาก โปรตีนที่มากเกินไปจะไปสลายแคลเซียมมากขึ้น ควรบริโภคเนื้อสัตว์ในปริมาณที่พอเหมาะ
* แอลกอฮอล์ จะไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย
* อาหารที่มีน้ำมันมากเกินไป เพราะไขมันจะไปรวมกับแคลเซียมทำไห้ประสิทธิภาพของการดูดซึมลดน้อยลง
* กรดออกซาลิก (oxalic acid) พบมากในผักบางชนิด เช่น ผักโขม ใบชะพลู ผักปลัง หน่อไม้ฝรั่ง
กรดออกซาลิกจะไปจับแคลเซียมที่มีในอาหาร ทำให้แคลเซียมถูกดูดซึมได้น้อยลง
http://www.healthtoday.net/thailand/dietary/dietray_150.html
------------------------------------------------------------------------
น้ำส้ม
นอกจากวิตามินซีแล้ว ส้มยังมีแคลเซียมอีกด้วย และน้ำส้มสด ๆ ที่คั้นจากผลก็เช่นกัน ถ้าหากอยากที่จะได้รับแคลเซียมให้มากขึ้นละก็ ลองรับประทานคู่กับซีเรียลในอาหารมื้อเช้า หรือดื่มในมื้ออาหารที่มีปลาแซลมอนด้วยก็จะทำให้ได้แคลเซียมมากขึ้นนะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 27 มิลลิกรัม (3% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
เมล็ดงา
เมล็ดงาที่นิยมใช้เพื่อตกแต่งอาหารต่าง ๆ นั้น ไม่ได้แค่ทำให้อาหารดูน่าทานขึ้น แต่ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดความดันโลหิต ลดการอักเสบ แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่ที่สำคัญคือเจ้าเมล็ดเล็ก ๆ เหล่านี้มีแคลเซียมด้วยนะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ช้อนชา : 88 มิลลิกรัม (9% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
คะน้า
คะน้าถือเป็นสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระ โดยสามารถนำคะน้ามาทำอาหารได้หลากหลายชนิด เช่นนำมาใส่ในสลัดแอปริคอตและอะโวคาโด ก็ทำให้ได้สารอาหารมาขึ้นค่ะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 94 มิลลิกรัม (9% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
บรอกโคลี
บรอกโคลี เป็นผักที่มีสารอาหารมากที่สุดชนิดหนึ่งจนถูกขนานนามว่าสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ และนำไปทำอาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้งผัด ต้ม นำไปปรุงเป็นซุป หรือจะลวกแล้วนำไปทานกับสลัดก็ได้
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 114 มิลลิกรัม (11% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
ข้าวโอ๊ต
ซีเรียลและธัญพืชมากมายที่เรานิยมนำมารับประทานเป็นอาหารเช้า โดยเฉพาะข้าวโอ๊ต เชื่อหรือไม่ว่านอกจากจะมีไฟเบอร์สูงแล้วยังมีแคลเซียมสูงอีกด้วย แถมในข้าวโอ๊ตยังมีโปรตีนสูงเหมาะกับคนที่ทานมังสวิรัติอีกต่างหาก
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 123 มิลลิกรัม (12% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
ถั่วขาว
พืชตระกูลถั่วเพื่อสุขภาพอย่างถั่วขาวนี้อุดมไปด้วยแคลเซียมและธาตุเหล็ก แถมยังมีใยอาหารสูงช่วยในการลดความอ้วนได้อีกด้วยค่ะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 161 มิลลิกรัม (16% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
ปลาซาร์ดีน
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบกลิ่นคาวของปลา คุณจะต้องหลงรักปลาซาร์ดีนอย่างแน่นอน เพราะมันไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อย แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารอย่างไขมันโอเมก้า 3 วิตามินดี โดยเฉพาะแคลเซียม ที่สำคัญ ปลาซาร์ดีนก็หามาทานไม่ยาก ก็ปลากระป๋องที่เราซื้อมารับประทานกันบ่อย ๆ นี่ละค่ะ ใช้ได้เลย
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 214 มิลลิกรัม (21% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
เทศกาลกินเจ
ถั่วแระ
ใครจะไปเชื่อว่าเจ้าถั่วแระที่เรานำมาต้มหรือนึ่งเพื่อรับประทานเป็นของว่างจะมีปริมาณของแคลเซียมสูงไม่น้อยเลย โดยถั่วแระแค่ 1 ถ้วยก็มีแคลเซียมเกือบ 30% ของแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวันแล้ว อ่อ...แต่ต้องเป็นถั่วแระที่ผ่านการต้มและไม่โรยเกลือนะคะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 261 มิลลิกรัม (26% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
นมถั่วเหลือง
นมถั่วเหลือง
คงเป็นเรื่องหนักใจของคนที่แพ้แลคโตสใช่ไหมคะ ว่าจะดื่มเครื่องดื่มอะไรทดแทนนมวัวดี ขอเสนอนมถั่วเหลืองเลยค่ะ นอกจากจะไม่มีแลคโตสแล้วยังมีปริมาณแคลเซียมเทียบเท่ากับนมวัวด้วยอีกต่างหากค่ะ แค่เพียงรับประทานคู่กับซีเรียลหรือข้าวโอ๊ตในตอนเช้าก็จะทำให้ได้แคลเซียมอย่างเพียงพอแน่นอนค่ะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 301 มิลลิกรัม (30% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
อัลมอนด์
ถั่วอัลมอนด์เป็นถั่วอีกชนิดที่ไม่ควรพลาด เพราะเจ้าถั่วชนิดนี้นั้นเป็นของทานเล่นที่ดีต่อสุขภาพ มีทั้งธาตุเหล็ก วิตามินอี โพแทสเซียม และแคลเซียม แต่ก็ไม่ควรรับประทานอัลมอนด์ที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติ อย่างเช่นการอบเกลือ เพราะจะทำให้ได้รับโซเดียมสูงนะคะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 385 มิลลิกรัม (39% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
เต้าหู้
เต้าหู้ นับเป็นอาหารสุขภาพที่ผู้รักสุขภาพส่วนใหญ่นำมาปรุงอาหารแทนเนื้อสัตว์ เพราะเจ้าอาหารชนิดนี้อุดมไปด้วยโปรตีนและสารอาหารที่มีคุณค่าใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์และแทบจะไม่มีไขมัน แต่ที่เราไม่ค่อยรู้ก็คือปริมาณแคลเซียมที่มีสูงกว่านมหลายเท่านี่ละ ดังนั้นถ้าหากอยากได้แคลเซียมการรับประทานเต้าหู้ก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งนะคะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 507 มิลลิกรัม (51% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
12 อาหารอุดมแคลเซียม
ปลาแซลมอนกระป๋อง
ถ้าคิดว่าเนื้อปลาแซลมอนสดนั้นมีราคาแพงเกินไปละก็ ปลาแซลมอนบรรจุกระป๋องก็เป็นทางเลือกที่ทำให้ได้รับสารอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในปลาแซลมอนเช่นกัน โดยเฉพาะเนื้อปลาแซลมอนที่ยังมีก้างติดอยู่ด้วย เพราะตัวก้างของปลาแซลมอนนี่ละ ที่อุดมไปด้วยแคลเซียมชั้นดี แถมก้างปลาเหล่านี้ยังผ่านการแปรรูปจนสามารถรับประทานได้เลย อ๊ะ ๆ แต่ใช่ว่าเนื้อปลาจะไม่มีประโยชน์นะ เจ้าเนื้อปลาแซลมอนนี่ล่ะแหล่งอุดมไขมันโอเมก้า 3 ที่สำคัญต่อร่างกายเลยเชียวละ ครั้งต่อไปถ้านำปลาแซลมอนบรรจุกระป๋องมาทำอาหารอย่าทิ้งก้างนะคะ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ถ้วย : 564 มิลลิกรัม (56% ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน)
http://health.kapook.com/view99508.ht
ไม่เกี่ยวที่บรรพบุรุษค่ะแค่เอาใจใส่ลูกน้อยมากขึ้น
สังเกต คนเกาหลี ญี่ปุ่นเริ่มสูงกันแล้วแค่รูปร่างดีสูงชัยไปกว่าครึ่ง
คนไทยเราภาพรวมเราดูดีกว่าใคร การที่คนไทยสูงมันทำให้ภาพลักษณ์เราดีขึ้นด้วยค่ะ
สู้ๆค่ะ ทุกคน