รถเมล์ฟรี ... รถไฟฟรี ... รัฐบาลไหนริเริ่ม ... 6 ปีมาแล้ว จำกันได้ไหม ประชานิยม ???.. /sao..เหลือ..noi

กระทู้คำถาม
ร้ายกลายเป็นดี  ...แม่ลูกจันทร์ ...  ไทยรัฐออนไลน์

ช่วงนี้คนไทยเจอข่าวร้ายมะรุม มะตุ้มหลายเรื่องพร้อมกัน

วันนี้ ขออนุญาตพูดถึงข่าวร้ายที่กำลังจะกลายเป็นข่าวดีบ้างแก้เซ็ง

ข่าวร้าย...คือโครงการรถเมล์ฟรี–รถไฟฟรีจากภาษีประชาชนจะถูกยก
เลิกตั้งแต่สิ้นเดือนนี้เป็นต้นไป

แต่ข่าวดี...คือโครงการรถเมล์ฟรี–รถไฟฟรี กำลังจะได้ต่อวีซ่าออกไปอีก 6 เดือน

พี่น้องประชาชนจะได้ใช้บริการรถเมล์ฟรี–รถไฟฟรี จนถึงสิ้นปี

สัปดาห์ที่แล้ว “แม่ลูกจันทร์” กระชุ่นถึง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม
อย่าเพิ่งยกเลิกโครงการรถเมล์ฟรี–รถไฟฟรี ที่ช่วยลดค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อย
มานานกว่า 6 ปี

เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจฟุบยาว การทำมาหากินยังฝืดเคือง
การยกเลิกโครงการรถเมล์ฟรี–รถไฟฟรี จะเป็นการซ้ำเติม
ประชาชนรากหญ้าผู้รับจ้างแรงงาน คนหาเช้ากินค่ำ เด็กนักเรียน
ตาดำๆให้เดือดร้อนยิ่งกว่าเดิม

“แม่ลูกจันทร์” ขอบคุณ พล.อ.อ.ประจิน รมว.คมนาคม ที่สนอง
ตอบคำขอร้องรวดเร็วทันใจ

พล.อ.อ.ประจิน จะเสนอที่ประชุมครม. ขอความเห็นชอบขยายโครงการรถเมล์ฟรี–รถไฟฟรี
ออกไปก่อน เนื่องจากขณะนี้ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤติภัยแล้ง ค่าครองชีพสูง
และเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว

รวมทั้งกระทรวงคมนาคมจะได้มีเวลาทบทวนมาตรการช่วยเหลือประชาชน
ผู้มีรายได้น้อยอย่างทั่วถึงและเหมาะสม ถ้าหากต้องยกเลิกโครงการ
รถเมล์ฟรี–รถไฟฟรีในโอกาสต่อไป

สรุปว่าการที่รัฐบาลขยายโครงการรถเมล์ฟรี–รถไฟฟรี ออกไปอีก 6 เดือน เป็นบุญกุศลมหาศาล
ยิ่งกว่าทอดกฐิน 6 วัด อีกนะคุณโยม

อย่างไรก็ตาม “แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนพล.อ.อ.ประจินเพิ่มเติมว่าแนวทางการช่วยเหลือ
ลดภาระการเดินทางของประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่กระทรวงคมนาคมเสนอมา...ยังเกาไม่ถูกที่คัน

เพราะการกำหนดให้คน 5 กลุ่ม คือ 1, ผู้พิการ 2, ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี 3, เด็กอายุ
ไม่เกิน 14 ปี 4, ทหารผ่านศึกและ 5, พระภิกษุสามเณร

ยังไม่ตอบโจทย์ที่แท้จริง

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า กลุ่มคนที่ควรได้รับสิทธินั่งรถเมล์ฟรี–รถไฟฟรี ควรมีคุณสมบัติสำคัญคือ...
เป็นผู้มีฐานะยากจน

เช่น กรรมกรรับจ้างแรงงาน ผู้มีอาชีพรับจ้างรายวัน คนหาเช้ากินค่ำ คนที่ ไม่มีงานทำ

และคนที่มีงานทำ แต่มีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาทต่อเดือน

นี่คือประชาชนรากหญ้าตัวจริงเสียงจริง ที่ควรได้รับสิทธินั่งรถเมล์ฟรี–รถไฟฟรี ตามนโยบายรัฐบาล

ถ้ามองอีกมุม...ผู้มีอายุเกิน 60 ปี ก็ไม่จำเป็นต้องได้สิทธินั่งรถฟรีเสมอไป

เพราะถ้าคนที่มีฐานะดี มีปัญญาจ่ายค่าโดยสารได้ ทำไมจะต้องได้สิทธินั่งรถเมล์ฟรี
ให้เปลืองภาษีประชาชน??

แต่ปัญหาคือ...ใครที่จะอยู่ในข่ายเป็นผู้มีฐานะยากจน?

จะใช้มาตรฐานอะไรตัดสินว่าใครควรนั่งรถฟรี? ใครไม่ควรนั่งรถฟรี?

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า ทางที่ดีที่สุด และสะดวกที่สุด คือ
เดินหน้าโครงการรถเมล์ฟรี–รถไฟฟรีต่อไปเหมือนเดิม

ถือเป็นรายจ่ายของรัฐ เพื่อลดภาระค่าครองชีพผู้มีฐานะยากจน

โครงการนี้รัฐบาลใช้เงินจริงๆ เพียง 301 ล้านบาทต่อเดือน

เป็นรถเมล์ฟรี 218 ล้านบาทต่อเดือน และรถไฟฟรี 82 ล้านบาทต่อเดือน


หมายเหตุ ผลการศึกษาระบุว่าโครงการรถเมล์ฟรีให้ผลตอบแทนด้านสังคม
สูงกว่างบที่รัฐบาลจ่ายไปกว่า 6 เท่าตัว


โครงการรถไฟฟรีให้ผลตอบแทนด้านสังคมสูงกว่าเม็ดเงินที่จ่ายไปกว่า 20 เท่าตัว

คนที่เสนอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการนี้...สายตาสั้นอย่างแรง.

“แม่ลูกจันทร์"

http://www.thairath.co.th/content/507382

.... จะบอกว่า  คนอายุ 60  ปี  ฐานะดี  คงมีไม่กี่คนหรอกค่ะที่นั่งรถเมล์ฟรี
อย่าไปห่วงเลย  ให้ไปเถอะค่ะ  ....  ไปคิดถึงทำไม  กับคนส่วนน้อยพวกนั้น

ต่อไป ตามรธน. ใหม่ โครงการพวกนี้  ทำไม่ได้นะคะ   เพราะเป็นประชานิยม
โปรดจดจำกันไว้ด้วย ...อมยิ้ม04

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่