ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ ...จะให้ลูกฝึกซ้อมกับครูแบบนี้มั้ยคะ?

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกคน วันนี้เราอยากจะขอใช้พื้นที่ตรงนี้กระจายข่าวไปให้ถึงพ่อแม่เด็กที TT


เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ เรากับครอบครัวไปวิ่งออกกำลังกายกันที่สนามกีฬาแห่งหนึ่งแถวรามคำแหง ตอนนั้นก็เวลาประมาณสิบโมงแล้ว แดดแรง คนที่ออกกำลังกายทั่วไปก็เริ่มกลับกันแล้วค่ะ แต่เราเพิ่งเริ่มวิ่ง ตรงสนามนั้นก็มีเด็กอายุประมาณ 7-12 ปี 4 คนเป็นชาย 3 หญิง 1 กำลังฝึกซ้อมอย่างแข็งขัน (หรือหนักหน่วง?) หน้าแดงเหงื่อแตกกันเลยทีเดียว ...
     
     เรากับแม่เดินบ้าง วิ่งบ้าง น้องกลุ่มนี้ก็จะวิ่งแซงทุกครั้ง ระหว่างน้องวิ่งผ่านจะได้ยินเสียงหอบแฮ็กๆ ไม่ก้เสียงร้องโอยๆ หน้ามุ่ยกันมากมาย เราก้ชื่นชมนะ นักกีฬาต้องซ้อมหนักงงี้แหละ!! พอเราวิ่งได้ซัก 3 รอบก้พักค่ะ แต่ที่ๆเรากับแม่นั่งพัก ไปอยู่ตรงจุด start ออกวิ่งของเด็กๆกลุ่มนั้นพอดี ก็พอจะสังเกตการฝฝึกซ้อมได้ ลักษณะการฝึกคือ ครูฝึกจะมีสถิติของแต่ละคน แล้วก้ต้องวิ่งรอบสนามให้ได้เท่านั้น ถ้าวิ่งไม่ได้ ก็ต้องวิ่งใหม่ ไปเรื่อยๆจจนกว่าจะได้

     ประเด็นอยู่ที่ว่า ตอนเด็กวิ่งรอบเกือบสุดท้าย ครูก็ตะโกนว่า "เร็ว เร็ว เร็ววววว" จนเด็กวิ่งมาถึงจุดเริ่มต้น พร้อมหอบเหมือนเคย บทสนทนามีดังนี้
ครู : นี่ม.วิ่งได้ต่ำกว่ามาตรฐานของม.มากเลยนะ
เด็ก : (หอบๆๆๆ) ครูก็มาวิ่งเองสิ!

ครูหน้าโมโหอย่างหนัก พร้อมถอดรองเท้ามาถือไว้แล้วชี้หน้าเด็ก

ครู : มะกี้ม.พูดอะไรนะ
เด็ก : ... (เงียบ)
ครู : เมื้อกี้ม.ย้อนกูหรอ ม.กล้าย้อนกูหรอ!

พูดพร้อมกับเงื้อมือพร้อมรองเท้าแตะฟาดไปที่หัวเด็กอย่างจังง คือเรากับแม่และคุณลุงมองอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก ก็อึ้งไปตามๆกัน ฟาดแรรงจนได้ยินเสียงเลยจริงๆ เด็กคนนั้นรีบยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมเอามือกุมหัว เด็กอีกสามคนที่มองอยู่ก็ไม่มีใครกล้า...

สงสารเด็กจังเศร้า  พอผ่านช่วงนั้นไป เด็กคนนั้นก็ร้องไห้

ครู : นี่ม.จะทำตัวเหมือนตุ๊ดทำไมวะ กูรำคาญหว่ะ ทำไมม.ทำไม่ได้รู้มั้ย? เพราะม.อ่อนซ้อมไง ม.ทำให้ได้เท่ากูก่อน แล้วค่อยมาย้อนกู ม.รู้แล้วใช่มั้ยว่า ถ้าย้อนกูจะเจออะไร ม.อย่าทำอีก กูอ่ะ เจอมามากกว่าม.อีก ม.อย่าพูดแบบนี้อีกนะ
เด็ก : ...

     หลังจากนั้นครูและเด็กก็เก็บของเลิกซ้อม พอครูเดินไป เด็กบางคนก็บ่น อยากว่าบน้ำ อยากกินนู่นนี่บ้าง แม่กับลุงอีกคนนึงได้โอกาสก็เข้าไปถามว่า

แม่ : หนูเป็นน้กกีฬาอะไรลูก
เด็ก : แบตมินตันครับ
เด็ก : ... (ไม่ได้พูดอะไรแล้วเดินกลับ)

** จบแล้วหล่ะค่ะ มาเขียนลงพันทิปแบบนี้ก้ตุ้มๆต่อมๆเหมือนกัน คนที่เห็นเหตุการณ์มีแค่เรากับแม่และคุณลุงอีกคนเท่านั้น ถ้าครูคนนี้มาเห็นเค้าคงรู้ว่าเป็นใคร บางทีเรื่องที่เราเจอมาอาจเป็นของธรรมดาสำหรับการฝึกนักกีฬาก็ได้ เราไม่รู้หรอกว่านักกีฬาเค้าฝึกกันยังไง ถ้าฝึกแบบนี้เพื่อให้มีระเบียบหรือจะได้ชนะ ก็ขอโทษครูฝึกด้วยนะคะ ยิ้ม แต่ในฐานะคนทั่วไป เรารู้สึกว่ามันเกินกว่าเหตุไปมั้ยคะ? ถ้าเด็กเค้าจำการลงโทษแบบนี้ไปฝังใจ มันอาจจะเป็น bad memory เค้าอาจเกลียดการฝึกไปเลยก็ได้ หรือเค้าโตไปเป็นครูฝึก วงจรอุบาตพวกนี้ก้ส่งต่อไปเรื่อยๆ มันดีหรอคะ? ยังไงอยากให้ครูพิจารณาสักนิด มีการลงโทษมากมายที่ไม่ใช่แบบนี้ คุณเคยเจอการลงโทษแบบนี้แล้วรู้สึกอย่างไร เด็กคงรู้สึกไม่ต่างจากคุณหรอกค่ะ ช่วยฝึกเด็กด้วยความเข้มงวดแต่มีความเมตตาด้วยเถอะนะคะ เราคนนอกมองแล้วทนไม่ได้จริงๆ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ใครมีความเห็นอื่นหรือนักกีฬามาเห็น มาแชร์กันได้นะคะ ถ้าเราพูดอะไรให้ใครเสียหายขอโทษด้วยนะคะ ยินดีแก้ไขค่ะ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
ฝึกหนักกับการใช้อารมณ์  มันไม่เหมือนกันนะ
ถ้าจะต้องฝึกแบบตื่นตีห้า  วิ่งเป็นกิโลๆ วิดพื้นเป็นร้อยๆ เพื่อฝึกให้ร่างกายอดทน  เรารับได้  
แต่มาอารมณ์คลุ้มคลั่ง เอารองเท้าฟาดหัว  ขึ้นม.ก.  อันนี้เรียกว่าไร้สติ  บ้าอำนาจ  ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ หยาบคายและถ่อยค่ะ

การฝึกหนักคือเรื่องหนึ่ง  แต่การใช้อารมณ์คืออีกเรื่อง  และนี่ก็เป็นการใช้อารมณ์เกินกว่าเหตุด้วย
เด็กก็ผิดที่ย้อนโค้ช  แต่โค้ชตอบโต้รุนแรงไปมาก
ความคิดเห็นที่ 3
นึกถึงโค้ชเทควันโด้ทีมชาติไทยเลย
เราไม่รู้ตื้นลึกหนาบางก็อย่าไปออกตัวให้มันแรงนัก
ความคิดเห็นที่ 10
เดี๋ยวนะฝึกวินัยเหรอ ไม่ใช่มั้ง

ผมว่าครูนี่อารมณ์ส่วนตัวล้วนๆแล้วนะ โมโหที่เด็กย้อน

โอเค เด็กก็ผิด แต่มันใช่วิธีการเหรอ กับการเอารองเท้าตบหน้า

เด็กผิดก็สั่งทำโทษอย่างอื่นซิครับ จะว่าจะติเตียนอะไรก็ทำไป

ลูกศิษย์นะครับ ไม่ใช่ทาส
ความคิดเห็นที่ 9
ฝึกวินัยนี่เข้าใจนะ แต่เด็กเล็กขึ้น ม. Gu หรือเอารองเท้าฟาดหัวเด็ก เนี่ยเป็นลูกผม กระโดดถีบครูนะ

สอนวินัย คนสอนไม่จำเป็นต้องถ่อย
ความคิดเห็นที่ 32
ผมไม่ใช่โค้ชนะครับ แต่มุมมองผม
เด็กพวกนี้เป็นนักกีฬาอาชีพ
คุณอาจมองกีฬาเป็นสิ่งเพื่อสันทนาการหรือส่งเสริมสุขภาพ แต่สำหรับพวกเขามันคือปากท้อง
การจะเลี้ยงปากท้องได้ต้องช่วงชิงความเป็นที่หนึ่ง การจะเป็นที่1เด็กต้องเหนือกว่าคนอื่น
ฝึกหนักกว่าคนอื่น คู่แข่งตื่นมาวิ่งตี5 เด็กก็ต้องตื่นมาวิ่งตี4 คู่แข่งวิ่งต่อเนื่องกันเท่านั้นชม.แล้วหมดแรง เด็กต้องอึดกว่านั้น
ชัยชนะไม่เป็นของคนที่แค่เหนื่อยหอบแล้วก็ไม่เอาแล้ว ย้อนโค้ชอีก นักกีฬาทำงี้ควรโดนปรับทัศนคติอย่างแรง

เหตุการณ์นี้ถ้าเกิดในคาบพละของโรงเรียนธรรมดา ผมถือว่าโหด+ใช้ความรุนแรงครับ เพราะสำหรับพวกเขากีฬามันแค่ของส่งเสริมสุขภาพ
เกิดกับนักกีฬาอาชีพ ผมมองว่าโหดเพื่ออนาคตของตัวเด็กเองครับ เขาจะโตเป็นผู้เลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพกีฬาหรือนักกีฬากระจอกๆมันขึ้นการฝึกซ้อม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่