ผมจะขอเล่าย้อนความก่อนนะครับ ปี2024ผมอยู่ม.4 มีวิชาแบดมินตันในคาบพละ ผมเริ่มอยากเล่นเก่ง เริ่มจากการไปเรียนแบดกับครูแบด ช่วงพฤษภาคม ผมขึ้นม.5 พอดี พอสิงหาคมก็มีกีฬาสี ผมเลยไปคัดตัวแทนสี ประเภทชายเดี่ยว ผมเข้ารอบแรกมาได้ จนมาเจอนักกีฬาของโรงเรียน ขณะที่แข่ง ผมทำอะไรไม่ได้เลย ทุกแต้ม วัดกันที่ลูกเสิร์ฟ ผมวิ่งไปตีไม่ได้ เขาเก่งมาก ผมแพ้ครับ แต่มันทำให้ผมตั้งเป้าหมายว่าก่อนผมจบม.6 ผมจะต้องเป็นนักกีฬาอันดับ1 ของโรงเรียนให้ได้ ผมรู้สึกว่าซ้อมกับครู มันเก่งช้า ผมเลยมาฝึกที่บ้านเพื่ม ผมฝึกดังนี้ ตีกับกำแพงด้วยความไว ทุกเวลาที่ว่าง เพื่อเกมรับ ฝึกวิ่งคอร์ดแบด เพื่อความเร็ว ความคล่องตัวทุกเช้า จนผลฝึกมันออกมาช่วงพฤศจิกายน ตอนนั้นผมเก่งขึ้นมากครับ ผมทั้งรับเหนียว วิ่งเร็วด้วย เล่นกับนักกีฬาพอได้ ผมคิดว่ากีฬาสีปีหน้าต้องเป็นของผม ผมฝึกทั้งวัน จนเข้าธันวา ปี2024 ผมเริ่มมีอาการเจ็บเอ็นร้อยหวายที่ส้นเท้าขวา และ ข้อมือ ผมคิดว่าเดี๋ยวก็หาย ระหว่างที่เจ็บ ก็เตรียมอ่านหนังสือเพื่อจะชิงทุนมหาลัยจีน โดยผมหายช่วงมีนาคม ปี2025 ด้วยการกายภาพและทานยา ผมเริ่มมีไฟกลับมาซ้อมครับ แต่พึ่งหายได้ไม่นาน ผมล้มขาพลิกครับ ตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไร สรุปเริ่มเจ็บเอ็นข้อเท้า ผมนี้ไปไม่เป็นเลย เริ่มท้อ จนนอนไม่หลับ ร้องไห้บ่อย ทีนี้ก็รอให้หาย กายภาพกับทานยา หายช่วงต้นพฤษภาคมครับ กำลังจะเปิดเรียน ม.6 ผมกลับไปฝึกซ้อมอย่างมีเป้าหมาย แต่ดันผมไปวิ่งผิดท่าขณะตี เข่าบิดครับ ผมมืดลงอีกแล้ว เจ็บเข่าครับ งอเข่าก็เจ็บ ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้ เพราะผมพึ่ง17 จนปลายเดือนครับดีขึ้นมาก ขึ้นบันได ไม่ปวดแล้ว แต่หายได้ไม่ถึง2วัน มีเพื่อนในห้องดันเป็นลม เพื่อนกับครูให้ผมอุ้มเขาไปห้องพยาบาล ซึ่งอยู่ไกลมาก ในห้องผมมีคนไปช่วยผมด้วยแต่เขายกด้วยตัวคนเดียวไม่ไหว ผมเลยอุ้มเพื่อนจากชั้นสี่ ลง ชั้นหนึ่ง แล้วก็ผลัดกันอุ้ม แต่ผมอุ้มนานสุดครับ พอพาไปส่งแล้ว ผมเดินลงบันได เริ่มเจ็บเข่าอีกแล้ว น้ำตาลูกผู้ชายกลั้นไว้ไม่อยู่ ผมร้องไห้ วันถัดมา ผมศอกบวมเต่ง ซึ่งหลายคนที่ศอกอักเสบจะหายช้า ประมาณ6เดือน แล้วกีฬาสีเดือนสิงหา ผมร้องไห้ออกมาอีกครับ ผมทนไม่ไหว ผมเครียดเพราะนี้คือความฝันของผม ผมไม่ยอมแพ้ครับทานยาพร้อมกายภาพเข่าและศอก ผมหายภายใน2อาทิตย์ ผมตกใจอยู่ที่หาย แล้วก็เริ่มจะฟิตร่างกายแล้ว แต่ดันมีประกาศว่ากีฬาสีเลื่อนคัดตัวนักกีฬาจากสิงหามามิถุนา ผมกังวล เหลือเวลาอีก4วัน ซึ่งการที่จะกลับมาเร็วแบบเดิมมันทำไม่ได้แน่นอน ตอนนี้ผมช้า ตบไม่แรง รับไม่เหนียว ผมฝึกเท่าที่ทำได้ พอไปแข่ง ภาพปีที่แล้วที่ผมแพ้ก็เข้ามา ผมเครียด แล้วคิดว่าถ้าแพ้มา ผมคงคอตก สรุปผมเข้าชิงครับ ถ้าชนะจะได้เป็นตัวแทนสี ผมแพ้ครับ แต่แพ้เขาด้วยความภูมิใจ เพราะผมมีโอกาสได้ทำเต็มที่ ถึงแม้ถ้าไม่เจ็บ ผมอาจไปได้ไกลกว่านี้ ผมมีความสุขมากครับวันนั้น ผมยิ้ม ผมรู้สึกว่าไม่มีอะไรติดค้างกับแบดอีกแล้ว ผมโตขึ้นมาก ผมขอขอบคุณแบดมินตัน ครู เพื่อน ที่ให้การสนับสนุนผม และอยากจะฝากถึงคนที่จะฮึดทำอะไรสุดติ่งว่า ทำน้อยๆ แต่ทำทุกวัน ดีกว่า ทำมากๆ จนไม่มีโอกาสที่จะได้ทำ ขอบคุณครับ
ครั้งหนึ่งในชีวิตของเด็กเนิร์ด ที่ฝันอยากเชิดฉายเป็นนักกีฬา แต่ทุกอย่างก็ต้องจบลง