สวัสคค่ะ
พอดีอยากมีเรื่องที่จะปรึกษาค่ะ
ขอปรึกษาเป็นข้อๆดังนี้นะคะ
พอดีว่าสมัครงานผ่านนรีครูทแห่งหนึ่ง และได้งานผ่านที่นั่น
ปกติแล้วเราจะบอกรีครูทก่อนเสมอว่าไม่ทำงานวันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไม่ว่ากรณีใดๆ (เป็นเหตุผลส่วนตัวค่ะ)
ในช่วงเวลาที่เราหางานนั้น มีบริษัทยินดีที่จะรับเราเข้าทำงานพร้อมกัน 3 ที่ แต่มีอยู่ที่หนึ่งอยู่แถวบางรักซึ่งไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่
เงื่อนไขเข้าทุกอย่าง จนในวันที่เราต้องเลือก เราเลือกบริษัทที่ใกล้บ้านแห่งนี้ และปฏิเสธที่อื่นอีกสองที่ ซึ่งอีกทีนั้นเป็นบริษัทที่ใหญ่และเข้ายาก
สวัสดิการดีมากๆ แต่ก็ยังแพ้เงื่อนไขความใกล้บ้านของบริษัที่เลือกค่ะ
หลังจากตอบรับ 3 วัน เราต้องเข้าไปเซนต์สัญญากับบริษัทที่เราเลือก หลังจากการเซ็นต์เรียบร้อย เอชอาร์ก็บอกเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัท
มีอยู่หนึ่งบข้อที่เราฟังล้วถึงกับช๊อค คือ บริษัทที่เลือกนี้หากอาทิตย์ไหนมีวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันเสาร์ของอาทิตย์นั้นๆ พนักงานต้องทำงานตามเวลาปกติ (8ช.ม) เท่ากับไม่มีวันหยุดราชการ!!!! และมีเสาร์ทำงานในบางเดือน
ด้วยความที่ปฏิเสธทีอื่นไปหมดแล้ว และอยู่ในห้องประชุมกับบรรดาเอชอาร์และผู้บริหาร จะปฏิเสธไม่เซนต์ ก็จะมีเปอร์เซนต์ไม่ได้งานเลยสักที่ เราจึงกัดฟันเซ้นต์ไปก่อน
หลักจากนั้น เราก็รีบโทรไปหารีครูชเล่าเงื่อนไขที่เขาไม่ได้บอกแต่แรกว่ามีเงื่อนไขที่ว่านี้ แต่รีครูทบอกว่า ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ทราบมาก่อนว่ามีเงื่อนไขนี้ ทางบริษัทไม่ได้บอกมาตอนให้รายละเอียด..
และโน้มน้าวให้เราโอเค
ตอนนั้นเรารีบโทรไปอีกที่ที่ปฏิเสธ แต่ช้าไปแล้ว เขารับคนใหม่ไปแล้วเรียบร้อย...
เรารู้สึกชาและเสียใจมาก รู้สึกว่าตัวเองโง่มากๆ เหมือนโดนหลอก
และเราก็ต้องทำใจเริ่มงานกับเงื่อนไขนี้ ....
เรื่องมันยังจบแค่นี้ค่ะ
หลังจากที่เริ่มงานมาได้ไม่กี่วัน งานในบริษัทที่ระบุไว้ในตำแหน่งที่สมัครมา เนื้องานมันต่างกันมาก ไม่ใช่งานที่เราเคยทำมาก่อน และเป็นงานที่เราไม่ถนัดเลย และที่สำคัญไม่มีความสุขกับงานที่ทำเลย
ไม่โอเค ไม่มีความสุข และไม่ตรงกับสายงาน พยายามจะสร้างทัศนคติว่าเรื่องอย่างนี้เรียนรู้กันได้ พยายามไม่เอามาเป็นประเด็น แต่มันก็แปลบๆมาทุกครั้ง
แต่ที่ทำให้เราเหลืออดจริงๆและไม่ไหวคือ การทำงานที่ต้องทำงานจนดึกค่ำทุกวัน โดยเนื้องานจะเป็นแบบนี้ตลอดค่ะ เพราะว่าแผนกเราต้องรอรับงานจากแผนกอื่นต่อเป็นขั้นสุดท้ายจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องอยู่โอ ถึงแม้ว่าการทำงานจะมีโอที แต่ไม่ได้มีทุกวัน มีวันที่ไม่ม่การจัดโอทีด้วย แต่งานเยอะๆแบบนี้มีทุกวัน บางวันจึงต้องอยู่โอฟรี
แต่ประเด็นโอทีไม่ซีเรียสเท่าไหร่บอกตรงๆ เกินนิดเกิดหน่อย.30 นาทีเราก็หยวนๆให้ แต่ที่นี่ต้องทำจนดึกเลยค่ะ อย่างเลิกปกติตามที่ระบุไว้ตอนสมัครงานก็ เข้างาน 8.30 เลิก17.30 แต่ในความเป็นจริง17.30 เป็นไปไม่ได้เลยที่จะลุกไปตอกบัตร กลับเร็วสุดที่เคยก็ 6.50 ค่ะ
เราให้ความสำคัญกับเวลาหลังเลิกงานมากๆค่ะ เพราะมีหลายอย่างต้องทำเช่น ออกกำลัง รับงานนอก พบปะเพื่อนฝูง กินข้าวกับครอบครัว เงินโอทีแทนตรงนี้ไม่ได้สำหรับเราค่ะ
ส่วนเพื่อนร่วมงานธรรมดาค่ะๆ ไม่ค่อยคุยกับเท่าไหร่ ทั้งๆที่เราพยายามคุยนะคะ ตอนแรกเห็นเราอายุเยอะกว่าก็สวัสดี เดี๋ยวนี้ไม่มีค่ะ แต่สวัสดีกันเองค่ะ เราก็เฉยๆค่ะ
ตอนนี้ทำงานมาได้เดือนกว่าๆแล้ว เดือนนี้เราไม่ไหวแล้วค่ะ เราควรออกเลยหรือต้องบอกก่อน เพราะบอกก่อนกลัวบริษัทตุกติกไม่จ่ายเงินเดือนค่ะ
ถ้าออกเลยแล้วลาออกผ่านรีครูทดีไหม
ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ เหมือนโดนหลอก
พอดีอยากมีเรื่องที่จะปรึกษาค่ะ
ขอปรึกษาเป็นข้อๆดังนี้นะคะ
พอดีว่าสมัครงานผ่านนรีครูทแห่งหนึ่ง และได้งานผ่านที่นั่น
ปกติแล้วเราจะบอกรีครูทก่อนเสมอว่าไม่ทำงานวันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไม่ว่ากรณีใดๆ (เป็นเหตุผลส่วนตัวค่ะ)
ในช่วงเวลาที่เราหางานนั้น มีบริษัทยินดีที่จะรับเราเข้าทำงานพร้อมกัน 3 ที่ แต่มีอยู่ที่หนึ่งอยู่แถวบางรักซึ่งไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่
เงื่อนไขเข้าทุกอย่าง จนในวันที่เราต้องเลือก เราเลือกบริษัทที่ใกล้บ้านแห่งนี้ และปฏิเสธที่อื่นอีกสองที่ ซึ่งอีกทีนั้นเป็นบริษัทที่ใหญ่และเข้ายาก
สวัสดิการดีมากๆ แต่ก็ยังแพ้เงื่อนไขความใกล้บ้านของบริษัที่เลือกค่ะ
หลังจากตอบรับ 3 วัน เราต้องเข้าไปเซนต์สัญญากับบริษัทที่เราเลือก หลังจากการเซ็นต์เรียบร้อย เอชอาร์ก็บอกเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัท
มีอยู่หนึ่งบข้อที่เราฟังล้วถึงกับช๊อค คือ บริษัทที่เลือกนี้หากอาทิตย์ไหนมีวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันเสาร์ของอาทิตย์นั้นๆ พนักงานต้องทำงานตามเวลาปกติ (8ช.ม) เท่ากับไม่มีวันหยุดราชการ!!!! และมีเสาร์ทำงานในบางเดือน
ด้วยความที่ปฏิเสธทีอื่นไปหมดแล้ว และอยู่ในห้องประชุมกับบรรดาเอชอาร์และผู้บริหาร จะปฏิเสธไม่เซนต์ ก็จะมีเปอร์เซนต์ไม่ได้งานเลยสักที่ เราจึงกัดฟันเซ้นต์ไปก่อน
หลักจากนั้น เราก็รีบโทรไปหารีครูชเล่าเงื่อนไขที่เขาไม่ได้บอกแต่แรกว่ามีเงื่อนไขที่ว่านี้ แต่รีครูทบอกว่า ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ทราบมาก่อนว่ามีเงื่อนไขนี้ ทางบริษัทไม่ได้บอกมาตอนให้รายละเอียด..
และโน้มน้าวให้เราโอเค
ตอนนั้นเรารีบโทรไปอีกที่ที่ปฏิเสธ แต่ช้าไปแล้ว เขารับคนใหม่ไปแล้วเรียบร้อย...
เรารู้สึกชาและเสียใจมาก รู้สึกว่าตัวเองโง่มากๆ เหมือนโดนหลอก
และเราก็ต้องทำใจเริ่มงานกับเงื่อนไขนี้ ....
เรื่องมันยังจบแค่นี้ค่ะ
หลังจากที่เริ่มงานมาได้ไม่กี่วัน งานในบริษัทที่ระบุไว้ในตำแหน่งที่สมัครมา เนื้องานมันต่างกันมาก ไม่ใช่งานที่เราเคยทำมาก่อน และเป็นงานที่เราไม่ถนัดเลย และที่สำคัญไม่มีความสุขกับงานที่ทำเลย
ไม่โอเค ไม่มีความสุข และไม่ตรงกับสายงาน พยายามจะสร้างทัศนคติว่าเรื่องอย่างนี้เรียนรู้กันได้ พยายามไม่เอามาเป็นประเด็น แต่มันก็แปลบๆมาทุกครั้ง
แต่ที่ทำให้เราเหลืออดจริงๆและไม่ไหวคือ การทำงานที่ต้องทำงานจนดึกค่ำทุกวัน โดยเนื้องานจะเป็นแบบนี้ตลอดค่ะ เพราะว่าแผนกเราต้องรอรับงานจากแผนกอื่นต่อเป็นขั้นสุดท้ายจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องอยู่โอ ถึงแม้ว่าการทำงานจะมีโอที แต่ไม่ได้มีทุกวัน มีวันที่ไม่ม่การจัดโอทีด้วย แต่งานเยอะๆแบบนี้มีทุกวัน บางวันจึงต้องอยู่โอฟรี
แต่ประเด็นโอทีไม่ซีเรียสเท่าไหร่บอกตรงๆ เกินนิดเกิดหน่อย.30 นาทีเราก็หยวนๆให้ แต่ที่นี่ต้องทำจนดึกเลยค่ะ อย่างเลิกปกติตามที่ระบุไว้ตอนสมัครงานก็ เข้างาน 8.30 เลิก17.30 แต่ในความเป็นจริง17.30 เป็นไปไม่ได้เลยที่จะลุกไปตอกบัตร กลับเร็วสุดที่เคยก็ 6.50 ค่ะ
เราให้ความสำคัญกับเวลาหลังเลิกงานมากๆค่ะ เพราะมีหลายอย่างต้องทำเช่น ออกกำลัง รับงานนอก พบปะเพื่อนฝูง กินข้าวกับครอบครัว เงินโอทีแทนตรงนี้ไม่ได้สำหรับเราค่ะ
ส่วนเพื่อนร่วมงานธรรมดาค่ะๆ ไม่ค่อยคุยกับเท่าไหร่ ทั้งๆที่เราพยายามคุยนะคะ ตอนแรกเห็นเราอายุเยอะกว่าก็สวัสดี เดี๋ยวนี้ไม่มีค่ะ แต่สวัสดีกันเองค่ะ เราก็เฉยๆค่ะ
ตอนนี้ทำงานมาได้เดือนกว่าๆแล้ว เดือนนี้เราไม่ไหวแล้วค่ะ เราควรออกเลยหรือต้องบอกก่อน เพราะบอกก่อนกลัวบริษัทตุกติกไม่จ่ายเงินเดือนค่ะ
ถ้าออกเลยแล้วลาออกผ่านรีครูทดีไหม