ขอบอกก่อนเลยนะคะว่าเราตัดสินใจอยู่นานว่าจะมาโพสถามในนี้ดีไหม เราไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องระหว่างเรา กับ แม่ ถ้าเราเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับคนในครอบครัว เราก็กลัวว่าเขาจะมองแม่ในทางที่ไม่ดี
….เราอยู่กับปู่ ย่า มาตั้งแต่เล็กๆ โดยที่แม่ไปทำงานต่างจังหวัด นานๆทีจะติดต่อมาหาเราบ้าง แม่เป็นคนต่างจังหวัดค่ะ (อายุ 50+) ส่วนพ่อเราเสียไปนานแล้วค่ะ พอเราโตเรียนมหาลัย เราก็มีโอกาสได้เจอแม่มากขึ้น แม่ก็ส่งเสียให้ค่าขนมเราตอนอยู่มหาลัย ด้วยความที่เราไม่ได้อยู่กับแม่ เราก็ไม่ได้รู้สึกผูกพันและสนิทกันกับแม่มากนัก หลังจากนั้นปู่ ย่า เสีย แม่ก็มาหาเรามากขึ้น ตอนนั้นแม่ก็ส่งเสียค่าใช้จ่ายต่างๆให้ ฐานะการเงินของแม่ดีกว่าแต่ก่อนมาก
พอเราเรียนจบ ก็ได้ทำงานบริษัท ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนทำงานเก่ง และขยัน และเราเป็นคนวางแผนการใช้เงิน และการใช้ชีวิตได้ดี เราไม่เคยทำตัวเหลวไหล จากนั้นหน้าที่การงานเราก็ดีขึ้น (ตอนนี้เราอายุ 30+ )
...เมื่อตอนเราเด็กๆ เราจะชื่นชมในตัวแม่เสมอเเละเราอยากเก่งเหมือนแม่ คือเมื่อนานมาแล้ว แม่เราทำธุรกิจนึงแล้วประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องปิดตัวไปในที่สุด พอเราโตมาจึงได้รู้จักในตัวตนของแม่มากขึ้น แม่ไม่ใช่คนที่เราเคยชื่นชม เเม่กลับมีพฤติกรรมที่เราเองบางทีก็รับไม่ได้
---------จนบางทีเราก็คิดว่านี่เราเป็นแม่ แล้วแม่เป็นลูกหรือเปล่า นี่เราสลับร่างกันใช่ไหม?!?!?------------
ปัญหาของเราอาจจะไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมาย แต่มันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับแม่กระท่อนกระแท่น เรารู้สึกอึดอัดใจเวลาที่เราอยู่กับแม่ เราขอสรุปเป็นข้อๆเลยนะคะ เผื่อจะมีใครช่วยแนะนำอะไรได้เป็นประเด็นๆไป
1. แม่มีพฤติกรรมอิจฉา...เวลาเราซื้อของอะไร หลังจากนั้นแม่ก็จะซื้อตาม หรือเวลาเราตัดผมสั้น อาทิตย์ถัดมา เราก็เห็นว่าแม่ไปตัดผมมาเหมือนเรา และเวลามีคนให้ของขวัญหรือสิ่งของอะไรเรามา แม่ก็จะมาเปิดดูแล้วขอสิ่งๆนั้นไป เราก็ให้แม่ไปค่ะ แรกๆเราไม่คิดอะไร แต่พอบ่อยๆเข้า เราก็รู้สึกเอือมระอาและสงสัยว่าทำไมแม่ต้องทำแบบนี้
2. แม่ใช้เงินไม่เป็น... อย่างที่บอกไปค่ะว่าแม่เรามีรายได้เยอะในแต่ละเดือน แต่แม่กลับไม่มีเงินเก็บเลย เพราะแม่เราเป็นคนที่ไม่เคยวางแผนการใช้เงิน และไม่เคยคิดถึงอนาคต ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ก็พูดได้ว่าใช้เงินเหมือนคนถูกล็อตตารี่ เวลาเงินหมดหรือต้องการซื้ออะไรที่ต้องใช้เงินก้อน แม่จะเอาของไปจำนำ หรือยืมคนอื่นเสมอ ซึ่งตรงกันข้ามกับเราเลยที่เป็นคนค่อนข้างประหยัดและไม่ชอบเป็นหนี้ใคร เราเองก็จะพูดกับแม่บ่อยๆว่าให้แม่เก็บเงินไว้บ้างเผื่อฉุกเฉิน แม่ก็ไม่สนใจ
3. ทัศนคติของแม่ .....เรากับแม่มักจะมีความคิดที่ตรงกันข้ามกันเสมอ…แม่ไม่เคยสวดมนต์ ไม่เคยใส่บาตร จะเข้าวัดก็ต่อเมื่อไปแก้ชงเท่านั้น จริงๆแล้วเรื่องนี้เราก็เฉยๆนะเพราะคิดว่าเป็นความชอบส่วนบุคคล แต่มันก็มีหลายๆ เหตุการณ์ทั้งพฤติกรรมและคำพูดของแม่ ทำให้เรารู้สึกว่าอยากให้แม่ได้ฟังเทศน์ ปฎิบัติธรรมเพื่อขัดเกลาจิตใจบ้าง เช่น เมื่อตอนที่ปู่ ย่า เราเสีย เรารับไม่ได้กับการที่แม่ถามว่า "แกมีสมบัติอะไรบ้าง" ซึ่งตอนนั้นเราเศร้าเสียใจมากที่ต้องสูญเสียปู่กับย่าไป เราร้องไห้ทุกวัน เพราะทั้งสองท่านได้ดูแลเลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กจนโต แทนที่แม่จะห่วงความรู้สึกของเรา แต่แม่กลับห่วงแต่เรื่องสมบัติ….อีกเหตุการณ์หนึ่งคือ แม่จะชอบอวด โชว์สิ่งของกับญาติๆ ไม่ว่าเขาจะใช้อะไร แม่จะต้องไปหามาใช้เหมือนเขาจนได้ จนบางทีแม่ก็มาบอกให้เราหาซื้อให้ เราเองก็เคยพูดกับแม่ไปว่าให้แม่ใช้อะไรที่ตัวเองชอบ ไม่ใช่ไปตามคนอื่น (เราเหนื่อยใจมากค่ะกับเรื่องนี้ เพราะมันเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆเลย)
4. มารยาทสังคมกับแม่..... อีกเรื่องหนึ่งที่ทำเราเหนื่อยใจทุกครั้งเวลาแม่ทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น พูดแทรกคนอื่นตลอดเวลา จอดรถเกือบกลางถนน พูดคำหยาบต่อหน้าเพื่อนเรา เวลากินข้าวร่วมกับคนอื่นก็กินก่อนคนอื่นเสมอ และไม่เคยตักอาหารให้ใคร ฯลฯ เราเป็นลูก เราก็ไม่รู้ว่าจะบอกแม่ยังไงดี
ทั้งสี่ข้อนี้เป็นปัญหาหลักๆที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดตลอดเวลาเมื่ออยู่กับแม่ ความจริงก็มีอีกเยอะนะคะ เเต่เราพยายามมองข้ามมันไป ไม่ใช่เราไม่รักแม่นะคะ เรารักแม่พอๆกับที่แม่รักเรานั่นแหล่ะ แต่เราอยากให้แม่ปรับปรุงพฤติกรรมและทัศนคติ เราเป็นลูกก็ไม่รู้จะทำยังไง จะให้ไปสั่งสอนแม่ก็คงจะไม่เหมาะ ทุกวันนี้เราก็พยายามคิดหาหนทางแก้ไขเเต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง
เราพอเข้าใจนะว่าอะไรที่ทำให้แม่เป็นแบบนี้ เมื่อคิดย้อนกลับไปถึงอดีตของแม่ เมื่อก่อนแม่เป็นเด็กเกเรไม่เรียนหนังสือ และแม่คงไม่ได้ถูกอบรมสั่งสอนมา เมื่อแม่มีเรา แม่ก็คงไม่รู้จะสั่งสอน เลี้ยงดูเรายังไง อันนี้เราเข้าใจดี แต่ก็พูดยากนะคะ เพราะแม่ไม่ใช่คนที่จะพัฒนาตัวเองเลย เราเคยบอกให้แม่ไปเข้าชมรมต่างๆ เพื่อที่จะได้มีความรู้และมีเพื่อนสังคมใหม่ๆ แม่ก็ไม่ไป เราจะให้แม่ไปเรียนทำอาหาร แม่ก็ไม่สนใจ (แม่ไม่เคยทำอาหารค่ะ แม่ทำไม่เป็น) ความรู้รอบตัวแม่ก็ไม่มี ทุกวันนี้เราก็พยายามหาอะไรให้แม่อ่านเพื่อให้แม่กว้างขวางมากขึ้น แต่แม่ก็ไม่สนใจ ซึ่งเวลาแม่คุยกับคนอื่นก็จะพยายามพูดจาโอ้อวดโดยที่ไม่รู้จริงอยู่เสมอ……เฮ่ออออ……
เวลาเราอยู่กับแม่ เมื่อแม่มีพฤติกรรมอย่างที่บอก เราก็จะเงียบ เราอึดอัดมาก ส่วนแม่เองก็คงไม่รู้ว่าทำไมเราถึงเงียบ ระหว่างเรากับแม่มักจะมีกำแพงบางๆกั้นอยู่เสมอ เราก็แค่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับแม่ดีขึ้น อยากให้แม่เป็นบุคคลที่น่าเคารพรักค่ะ
--- ทุกวันนี้เมื่อมีใครถามอะไรเกี่ยวกับแม่ หรือแม้แต่แฟนของเราเองถาม เราก็จะพูดโกหกให้แม่ดูดีในสายตาของพวกเขาอยู่เสมอ----
เรื่องของ "เเม่"
….เราอยู่กับปู่ ย่า มาตั้งแต่เล็กๆ โดยที่แม่ไปทำงานต่างจังหวัด นานๆทีจะติดต่อมาหาเราบ้าง แม่เป็นคนต่างจังหวัดค่ะ (อายุ 50+) ส่วนพ่อเราเสียไปนานแล้วค่ะ พอเราโตเรียนมหาลัย เราก็มีโอกาสได้เจอแม่มากขึ้น แม่ก็ส่งเสียให้ค่าขนมเราตอนอยู่มหาลัย ด้วยความที่เราไม่ได้อยู่กับแม่ เราก็ไม่ได้รู้สึกผูกพันและสนิทกันกับแม่มากนัก หลังจากนั้นปู่ ย่า เสีย แม่ก็มาหาเรามากขึ้น ตอนนั้นแม่ก็ส่งเสียค่าใช้จ่ายต่างๆให้ ฐานะการเงินของแม่ดีกว่าแต่ก่อนมาก
พอเราเรียนจบ ก็ได้ทำงานบริษัท ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนทำงานเก่ง และขยัน และเราเป็นคนวางแผนการใช้เงิน และการใช้ชีวิตได้ดี เราไม่เคยทำตัวเหลวไหล จากนั้นหน้าที่การงานเราก็ดีขึ้น (ตอนนี้เราอายุ 30+ )
...เมื่อตอนเราเด็กๆ เราจะชื่นชมในตัวแม่เสมอเเละเราอยากเก่งเหมือนแม่ คือเมื่อนานมาแล้ว แม่เราทำธุรกิจนึงแล้วประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องปิดตัวไปในที่สุด พอเราโตมาจึงได้รู้จักในตัวตนของแม่มากขึ้น แม่ไม่ใช่คนที่เราเคยชื่นชม เเม่กลับมีพฤติกรรมที่เราเองบางทีก็รับไม่ได้
---------จนบางทีเราก็คิดว่านี่เราเป็นแม่ แล้วแม่เป็นลูกหรือเปล่า นี่เราสลับร่างกันใช่ไหม?!?!?------------
ปัญหาของเราอาจจะไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมาย แต่มันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับแม่กระท่อนกระแท่น เรารู้สึกอึดอัดใจเวลาที่เราอยู่กับแม่ เราขอสรุปเป็นข้อๆเลยนะคะ เผื่อจะมีใครช่วยแนะนำอะไรได้เป็นประเด็นๆไป
1. แม่มีพฤติกรรมอิจฉา...เวลาเราซื้อของอะไร หลังจากนั้นแม่ก็จะซื้อตาม หรือเวลาเราตัดผมสั้น อาทิตย์ถัดมา เราก็เห็นว่าแม่ไปตัดผมมาเหมือนเรา และเวลามีคนให้ของขวัญหรือสิ่งของอะไรเรามา แม่ก็จะมาเปิดดูแล้วขอสิ่งๆนั้นไป เราก็ให้แม่ไปค่ะ แรกๆเราไม่คิดอะไร แต่พอบ่อยๆเข้า เราก็รู้สึกเอือมระอาและสงสัยว่าทำไมแม่ต้องทำแบบนี้
2. แม่ใช้เงินไม่เป็น... อย่างที่บอกไปค่ะว่าแม่เรามีรายได้เยอะในแต่ละเดือน แต่แม่กลับไม่มีเงินเก็บเลย เพราะแม่เราเป็นคนที่ไม่เคยวางแผนการใช้เงิน และไม่เคยคิดถึงอนาคต ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ก็พูดได้ว่าใช้เงินเหมือนคนถูกล็อตตารี่ เวลาเงินหมดหรือต้องการซื้ออะไรที่ต้องใช้เงินก้อน แม่จะเอาของไปจำนำ หรือยืมคนอื่นเสมอ ซึ่งตรงกันข้ามกับเราเลยที่เป็นคนค่อนข้างประหยัดและไม่ชอบเป็นหนี้ใคร เราเองก็จะพูดกับแม่บ่อยๆว่าให้แม่เก็บเงินไว้บ้างเผื่อฉุกเฉิน แม่ก็ไม่สนใจ
3. ทัศนคติของแม่ .....เรากับแม่มักจะมีความคิดที่ตรงกันข้ามกันเสมอ…แม่ไม่เคยสวดมนต์ ไม่เคยใส่บาตร จะเข้าวัดก็ต่อเมื่อไปแก้ชงเท่านั้น จริงๆแล้วเรื่องนี้เราก็เฉยๆนะเพราะคิดว่าเป็นความชอบส่วนบุคคล แต่มันก็มีหลายๆ เหตุการณ์ทั้งพฤติกรรมและคำพูดของแม่ ทำให้เรารู้สึกว่าอยากให้แม่ได้ฟังเทศน์ ปฎิบัติธรรมเพื่อขัดเกลาจิตใจบ้าง เช่น เมื่อตอนที่ปู่ ย่า เราเสีย เรารับไม่ได้กับการที่แม่ถามว่า "แกมีสมบัติอะไรบ้าง" ซึ่งตอนนั้นเราเศร้าเสียใจมากที่ต้องสูญเสียปู่กับย่าไป เราร้องไห้ทุกวัน เพราะทั้งสองท่านได้ดูแลเลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กจนโต แทนที่แม่จะห่วงความรู้สึกของเรา แต่แม่กลับห่วงแต่เรื่องสมบัติ….อีกเหตุการณ์หนึ่งคือ แม่จะชอบอวด โชว์สิ่งของกับญาติๆ ไม่ว่าเขาจะใช้อะไร แม่จะต้องไปหามาใช้เหมือนเขาจนได้ จนบางทีแม่ก็มาบอกให้เราหาซื้อให้ เราเองก็เคยพูดกับแม่ไปว่าให้แม่ใช้อะไรที่ตัวเองชอบ ไม่ใช่ไปตามคนอื่น (เราเหนื่อยใจมากค่ะกับเรื่องนี้ เพราะมันเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆเลย)
4. มารยาทสังคมกับแม่..... อีกเรื่องหนึ่งที่ทำเราเหนื่อยใจทุกครั้งเวลาแม่ทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น พูดแทรกคนอื่นตลอดเวลา จอดรถเกือบกลางถนน พูดคำหยาบต่อหน้าเพื่อนเรา เวลากินข้าวร่วมกับคนอื่นก็กินก่อนคนอื่นเสมอ และไม่เคยตักอาหารให้ใคร ฯลฯ เราเป็นลูก เราก็ไม่รู้ว่าจะบอกแม่ยังไงดี
ทั้งสี่ข้อนี้เป็นปัญหาหลักๆที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดตลอดเวลาเมื่ออยู่กับแม่ ความจริงก็มีอีกเยอะนะคะ เเต่เราพยายามมองข้ามมันไป ไม่ใช่เราไม่รักแม่นะคะ เรารักแม่พอๆกับที่แม่รักเรานั่นแหล่ะ แต่เราอยากให้แม่ปรับปรุงพฤติกรรมและทัศนคติ เราเป็นลูกก็ไม่รู้จะทำยังไง จะให้ไปสั่งสอนแม่ก็คงจะไม่เหมาะ ทุกวันนี้เราก็พยายามคิดหาหนทางแก้ไขเเต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง
เราพอเข้าใจนะว่าอะไรที่ทำให้แม่เป็นแบบนี้ เมื่อคิดย้อนกลับไปถึงอดีตของแม่ เมื่อก่อนแม่เป็นเด็กเกเรไม่เรียนหนังสือ และแม่คงไม่ได้ถูกอบรมสั่งสอนมา เมื่อแม่มีเรา แม่ก็คงไม่รู้จะสั่งสอน เลี้ยงดูเรายังไง อันนี้เราเข้าใจดี แต่ก็พูดยากนะคะ เพราะแม่ไม่ใช่คนที่จะพัฒนาตัวเองเลย เราเคยบอกให้แม่ไปเข้าชมรมต่างๆ เพื่อที่จะได้มีความรู้และมีเพื่อนสังคมใหม่ๆ แม่ก็ไม่ไป เราจะให้แม่ไปเรียนทำอาหาร แม่ก็ไม่สนใจ (แม่ไม่เคยทำอาหารค่ะ แม่ทำไม่เป็น) ความรู้รอบตัวแม่ก็ไม่มี ทุกวันนี้เราก็พยายามหาอะไรให้แม่อ่านเพื่อให้แม่กว้างขวางมากขึ้น แต่แม่ก็ไม่สนใจ ซึ่งเวลาแม่คุยกับคนอื่นก็จะพยายามพูดจาโอ้อวดโดยที่ไม่รู้จริงอยู่เสมอ……เฮ่ออออ……
เวลาเราอยู่กับแม่ เมื่อแม่มีพฤติกรรมอย่างที่บอก เราก็จะเงียบ เราอึดอัดมาก ส่วนแม่เองก็คงไม่รู้ว่าทำไมเราถึงเงียบ ระหว่างเรากับแม่มักจะมีกำแพงบางๆกั้นอยู่เสมอ เราก็แค่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับแม่ดีขึ้น อยากให้แม่เป็นบุคคลที่น่าเคารพรักค่ะ
--- ทุกวันนี้เมื่อมีใครถามอะไรเกี่ยวกับแม่ หรือแม้แต่แฟนของเราเองถาม เราก็จะพูดโกหกให้แม่ดูดีในสายตาของพวกเขาอยู่เสมอ----