เคยโดนใครซักคนปฏิเสธเพราะ(ฐานะ)ของเราไม่เหมาะสมกับเขาบ้างไหม...?

กระทู้คำถาม
สวัสดีทุกคนนะครับนี่เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว ณ.ที่นี้ด้วย อาจจะมีพิมพ์ตกๆหล่นๆบ้างเพราะพิมพ์ในมือถือ ก็อย่า(ด่า)ผมเยอะนะครับ^___^
มาเข้าเรื่องตามหัวข้อกระทู้เลยดีกว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา....ขอท้าวความก่อนนะครับเอาตั้งแต่ผมเริ่มมีความคิดแบบนี้ในหัวเลย คือเมื่อประมาณ4-5ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัยทางภาคกลางแห่งหนึ่ง ก็มหาวิทยาลัยรัฐนั่นแหละครับ ผมเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ก็ใช้ชีวิตตามประสาเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในเมือง กินเหล้าบ้าง สังสรรค์กับเพื่อนตามประสาวัยรุ่น ปี1ผ่านไปก็ยังไม่มีแฟน พอปี2เทอม2ผมเรียนวิชานึง ต้องขึ้นลิฟท์ไปเรียนชั้น3มั้งถ้าจำไม่ผิด ก็ขึ้นมากับเพื่อนตามปกติ พอขึ้นลิฟท์จนถึงชั้นที่เรียนก็ออกจากลิฟท์เลี้ยวซ้ายมีเก้าอี้ยาวๆอยู่ ผมก็เห็นมีผู้หญิงนั่งอยู่2คน ผมก็มองเขานิดนึง แต่ยังไม่ได้คิดอะไร คนนึงจะรูปร่างเจ้าเนื้อ(อ้วน)นิดๆ อีกคนตัวเล็กๆ ผมยาว ผมก็เดินผ่านเขาไป เข้าไปห้องเรียน ตอนนั้นอาจารย์ยังไม่เข้ามา ผมก็ออกมานอกห้องมานั่งเล่นกับเพื่อนก็ผ่านผู้หญิง2คนนี้อีก คราวนี้ผมก็มองผู้หญิงหนึ่งใน2คนนั้น ไม่ต้องเดาครับว่าคนไหน....คนตัวเล็กๆผมยาวๆนี่หละ 555+ มองจนผู้หญิงคนนั้นรู้ตัว แต่ก็ไม่ได้มองจนน่าเกลียดนะ อยู่ไกลๆด้วย แล้วปมก็เดินเข้าห้องเรียนไปอีกครั้งนึง ไปบอกเพื่อนสนิท ว่า...เห้ย...ไอ้...กรูเจอสาวนั่งหน้าลิฟท์ เมิงจัดการไปขอเบอร์ให้กรูซะดีๆ มันก็ทำหน้างงๆ-_-" แล้วผมก็พามันออกไปดู มันก็บอกผมว่าเมิงจะเอาจริงหร๊าวะ คนนั้นเค้าใช้iPhone3GSด้วยนะเว้ย ท่าทางน่าจะมีตังค์ ผมก็พูดขำๆกับมันไปว่า เออดิ กรูอยากเล่นiPhoneดูว่ามันเป็นยังไง555+ เพื่อนผมก็เดินเข้าไปขอให้ แต่ผมคอยสังเกตุการอยู่ห่างๆ ในใจก็ลุ้นว่าเขาจะให้ไหม เพื่อนผมก็เข้าไปคุยแล้วชี้มาทางผม แบบว่าเธอๆ เพื่อนเราคนั้นอะ เออ...น่าตาหล่อๆนั่นแหละ(ว่าไปนู่น)ให้ขอเบอร์ แล้วเพื่อนผมก็คุยกับคนนั้นพักนึง หลายนาทีนะ ผมก็คิดในใจ ทำไมมันคุยนานจังว๊าาาาาา อดแดร๊กแล้วกรู... แล้วเพื่อนผมก็เดินกลับมาบอกว่าเค้าใช้โทรศัพท์กรูไม่เป็น(ตอนนั้นเพื่อนใช้NokiaE72มั้งปุ่มมันเยอะๆ)เค้ากดไม่เป็น555+ มันเลยเดินกลับมาเอาโทรศัพท์ของผม แต่!!!!!ผมจะกล้าได้ไง โทรศัพท์ผมBokiaรุ่นเก่าๆ ฝาหลังแมร่งไม่มี ให้ไปกรูจะเอาหน้าไปไว้ที่หนายยยยยยยยยยยยยย เพื่อนมันก็บอกว่า เออน่า ลองดู แล้วเอาโทรศัพท์ผมหายไป2นาที เร็วปานวอกก็กลับมา พร้อมชื่อและเบอร์โทร....กิ๊วๆได้นะจ๊ะขอบอก
ได้มาซัก2-3ชม.ผมก็โทรไปหาเลยครับ.....ไม่รับ....อ้าว ไม่รับให้เบอร์กรูมาทำแมวอะไรฟร่ะ(คิดในใจ) ไม่รับก็ไม่โทรละ ไม่ง้อ(แน๊ะ!แอบมีเชิงเล็กน้อย) ผ่านไปประมาณ10-20นาที มีMassageเข้า จากเบอร์นั้นหละ บอกว่า..."ขอโทษนะคะ ตอนนี้เรียนอยู่ เดี๋ยวเลิกเรียนโทรกลับ" เงิบสิครับ ชิหายแล้ว กรูดันโทรไปตอนเค้าเรียนอยู่...พอตกเย็นเค้าโทรมาจริงครับ คุยกันได้10นาทีมั้ง ผมก็ถามว่า..."ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามีแฟนรึยัง" เค้าก็ตอบมาว่า..."แฟนไม่มีหรอกคะ มีแต่ผัว"..………...............................................................ผมเงียบไปประมาณ10วิได้ แล้วก็คุยอีกซัก1-2นาทีแล้วก็วาง พอวางเสร็จก็มาเล่าให้เพื่อนที่นั่งลุ้นอยู่ฟังว่า...เค้าบอกว่ายังไม่มีแฟนวะ มีแต่ผัว เพื่อนฮากร๊ากกกกเลยครับ555+ ผมก็ขำไปกับเพื่อน แต่แอบคิดในใจ(มีผัวแล้วให้เบอร์กรูเพื่อ?) และผมก็ไม่ได้คุยกับคนนั้นอีกเลยครับ....เพราะผมไม่ชอบแย่งของๆใคร ไม่ชอบคุยกับคนที่มีเจ้าของแล้ว เพราะผมรู้ว่าความรู้สึกของคนที่โดนแย่งคนรักไปเป็นยังไง...(ผมก็คนดีคนนึงนะครับ^__^)
จนมาวันนึงผมไปเที่ยววังน้ำเขียวกับครอบครัว ช่วงนั้นใกล้วันพ่อ อากาศดีฝุดๆ ก็ทำกิจกรรมกับครอบครัวมีความสุขเต็มที่ แต่ประมาณ2ทุ่มมีคนโทรเข้ามา ผมดูชื่อ อ้าว? เป็นชื่อผู้หญิงคนนี้โทรเข้ามา ผมก็แปลกใจว่าโทรมาทำไม(ว่ะ) ผมก็รับครับ แต่คุยไม่รู้เรื่อง สัญญาณตอนนั้น บนนั้น ยิ้ม......มาก ผมเลยเดินไปใกล้ๆป๊ะป๋าบอกขอยืมโทรศัพท์หน่อย โทรกลับไปหาเค้า คุยกันนานเหมือนกัน ได้ใจความว่า...เค้าทะเลาะกะแฟน แต่ตอนนั้นคือ ผมเฉยๆไปแล้ว ความชอบมันไม่ได้มีต่อแล้วไง หลังจากเค้าบอกว่ามีผัวแล้วอะ...ทุกคนเข้าใจอารมณ์ผมใช่ไหม ผมก็ปลอบเค้าไปในฐานะเพื่อนคนนึง บอกว่าให้คุยกันดีๆบ้าง ใจเย็นๆบ้าง ตามประสาคนปลอบเพื่อนหละครับ แล้วก็วางสายไป แล้วเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้โทรมาหาใหม่ ผมก็บอกว่าให้โทรมาเครื่องนี้นะ(เบอร์ป๊า) เพราะของผมสัญญาณไม่มี ตลอดทริปนั้นผมเลยเอาโทรศัพท์ป๊ามาครองยาวเลย(ไหนว่าเมิงงงงไม่คิดอะไรกับเค้าแล้วไง แล้วเอาโทรศัพท์มาไว้ที่ตัวเพื่อ...โธ่!) คือตอนนั้นเราแค่เป็นห่วงเค้าเฉยๆนะ แบบว่าผมแพ้น้ำตาผู้หญิงอะ รู้ว่าเค้าร้องไห้เราก็รู้สึกไม่ดีไปด้วย ก็คุยกันทุกวันครับ แต่...ผมไม่เคยจีบเค้านะช่วงนั้น บอกแล้วว่าไม่นิยมคนมีเจ้าของ คุยแบบเพื่อน แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวกลับแล้วจะซื้อFull Moonไปฝาก มันก็คือไวน์องุ่นแหละครับ
ตัดมาตอนที่กลับมามหาลัยก็โทรให้เค้ามาเอาของฝากใต้หอผม ย้ำว่า...ใต้หอ ไม่ใช่ในห้องผมนะ ก็ให้เค้าไป หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเค้ากับแฟนก็ไม่ได้ดีขึ้น แต่มันไม่ใช่เพราะผมนะครับ เพราะเราคุยกันประมาณวันละ1-2ครั้ง ครั้งละไม่เกิน10นาที เพราะเค้าก็อยู่กะแฟน จนวันนึงเค้าก็บอกว่าเลิกกะคนนั้นแล้ว ผมก็อื้มๆดีใจปนเศร้าใจ ที่ดีใจเพราะเค้าจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจอีก เศร้าใจเพราะเสียดาย คบกันมาเป็นปี แล้วเค้าก็มาหาผมที่ใต้หอเกือบทุกวัน มาคุยบ้าง อะไรบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้ชวนขึ้นไปคุยบนห้อง เพราะผมค่อนข้างจะให้เกียรติผู้หญิงนะครับ กลัวเค้าจะมองว่าเราคิดมิดีมิร้ายกับเค้ารึป่าว...เจอกันบ่อยๆก็เริ่มชอบนะ ผมยอมรับ จริงๆแล้วผู้หญิงคนนี้เค้าไม่สวยนะ แค่ตัวเล็ก ผมยาว น่าตาธรรมดามากเลย แต่พอเวลาผ่านไปยิ่งรู้จักผมยิ่งมองว่าเค้าน่ารักนะครับ ผมไม่ได้ว่าผมหล่ออะไรนะ แค่พูดอย่างที่เห็น พอเวลาผ่านไป เราก็เป็นแฟนกัน ผมก็พาไปกินข้าว อะไรปกติ แต่ไม่เคยให้นอนค้างกับผมนะ ไม่เคยอยู่ในห้อง2:2ด้วย ผมก็ไม่รู้ทำไมถึงทำแบบนั้น รู้แค่ว่าผู้หญิงเค้าไว้ใจเรา เราจะทรยศความไว้ใจเค้าไม่ได้
แล้วก็ถึงวันปิดเทอม ผมต้องกลับ ตจว.บ้านผมอยู่ระยอง ติดทะเลนะคร๊าบบบ บรรยากาศสุดติ่งกระดิ่งแมวอะ บอกเลย เพื่อนชอบมานั่งกินเหล้ากันริมทะเลบ้านผมประจำ แล้วเค้าก็มาหาผมนะ ผมก็พามาให้ที่บ้านรู้จักก็ปกติผ่านไปด้วยดี แต่ก่อนที่บ้านผมค่อนข้างจะหวง(ย่าอะตัวดีเลย หวงหลานชาย บ้าไปแล้ว หวงหลานผู้ชาย) กลัวเราจะเรียนไม่จบ ผมก็เข้าใจท่านนะครับ เพราะท่านหวังดี แต่ตอนนี้ผมก็โตเป็นผู้ใหญ่ในระดับนึงแล้ว ท่านก็เลยไม่ค่อยอะไรมาก มาหาก็พาไปนู่นนี่ปกติ ให้เค้านอนในห้องผม ส่วนผม นอนห้องแม่(แม่บังคับ!...วัยรุ่นเซง) มาหาผม2วันมั้ง แล้วผมก็ส่งเข้านั่งรถกลับ การคบกันของเราก็เหมือนคู่อื่น มีทะเลาะกันบ้าง งอลบ้าง ตามประสา แต่ก็ไม่เคยทะเลาะกันแรงๆ พอถึงวันสำคัญ ผมไม่เคยซื้อของขวัญให้ซักครั้ง จะมีก็แต่ เคยทำPower Pointให้ เอาเทียนมาปักเป็นชื่อเค้าในวันเกิด เขียนPost Itติดเต็มห้อง ทำไฟฉายให้เป็นรูปตัวอักษรชื่อของผู้หญิงที่ผมรักให้ ผมเคยทำVDO File ให้ด้วยนะ จำได้ว่าตอนที่เค้าได้เห็น น้ำตาไหลเลย ผมนี่ดีใจสุดๆอะ ผมไม่ได้ไม่มีตังค์นะ ผมก็พอมี(อยู่บ้าง)ซื้อของเล็กๆน้อยๆให้ได้ แต่อย่างว่าหละ ของที่ซื้อมันจะสู้ของที่เราทำเองด้วยความตั้งใจได้ไงเนอะ(ตอนนั้นปมคิดอย่างนั้นนะ) แล้วเราก็คบกันด้วยดี ตอนนั้นยอมรับว่าเค้ามาอยู่กับผมแล้วนะ ก็ตามประสาวัยรุ่นเนอะ ผมชวนมาอยู่เอง ไม่ให้เค้าออกค่าหอ ค่าอะไรทั้งนั้น เพราะคิดว่าเราชวนเค้ามาอยู่ ต้องรับผิดชอบชีวิตเค้า (อย่าด่าผมว่ามันเป็นตัวอย่างไม่ดีนะครับ อ่านเพื่อความสนุกสนานนะ^__^) ทั้งๆที่ฐานะทางบ้านเค้าดีกว่าผมเยอะ มีรถเก๋งป้ายแดงขับตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ พ่อเค้าทำงานราชการตำแหน่งใหญ่อยู่เหมือนกันนะ (ผมมารู้ตอนหลัง) เค้ามาอยู่ห้อง ผมก็ซักผ้าให้(ตู้หยอดเหรียญนะ) กวางห้อง ถูห้อง ผมทำให้หมด แต่เค้าก็ทำบ้างนะ แล้วแต่อารมณ์ แต่ส่วนมากซัก80%ผมทำมากกว่า เพราะรักนี่หละ จะใช้เค้า เค้าก็งอล เราก็เลยทำเอง แต่แฟนผมชอบทำกับข้าวนะ ผมเลยมีอะไรที่ไม่เคยกิน ได้กินเสมอ
จนมาวันนึงแฟนผมไปซื้อหมามา....ที่หอห้ามเลี้ยงสัตว์เลี้ยง กรูซวยแล้ว นึกว่าแฟนปมพูดเล่นๆว่าอยากเลี้ยงน้องหมา แมร่ง!!!!!!เอาจริง เงิบเลยกรู ทำไงดีว่ะ ทำไรไม่ได้แล้ว แอบเลี้ยงเลยครับ แต่หมาผมก็เหมือนจะรู้ ไม่เห่า ไม่อะไรเลย เวลาจะพาออกไปข้างนอก วิ่งเข้ากระเป๋าคนในหอ+เจ้าของหอเลยไม่รู้ แต่ว่า!!!! คนเก็บขี้ เช็ดเยี่ยว เป็นหน้าที่ผม อื้อหือ น้ำตาจะไหล วันนึงหลายรอบด้วย กลับจากเรียน เจออยู่เต็มห้อง มีอยู่ช่วงนึงจิตตก ไม่อยากกลับห้องเลยครับ....ทำไงได้อะเนอะ Love Me Love My Dog แฟนเรารัก เราก็(ต้อง)รักด้วย ผมท้าวความซะจนคนอ่านลืมไปแล้วว่ามันเกี่ยวกับหัวข้อกระทู้อย่างไร งั้นปมตัดบทเลยละกันนะครับ
จนผมเรียนจบ หน้าอย่างนี้เรียนจบน๊าาาาา ที่บ้านอยากให้กลับมาทำงานที่ระยอง เพราะงานเยอะ ใกล้บ้านด้วย มังานรองรับเรียบร้อย เงินเดือนรวมๆน่าจะได้ 3x,xxx ฿ ผมปฏิเสธ(โง่จริงๆ) บอกที่บ้านว่าขอออกมาหาประสพการณ์ข้างนอกก่อน บ้านอะยังไงก็ต้องกลับมาอยู่อยู่แล้ว ไปได้งานใกล้ๆบ้านแฟนที่จังหวัดที่แฟนอยู่ ตำแหน่ง Process Engineer เงินเดือน 17,xxx ฿ ตอนนั้นแมร่ง ใช้เดือนชนเดือน ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าInternet น้ำมันรถ(มอไซค์) ค่ากินอีก ลำบากนิดหน่อย แต่ไหวอยู่ เพราะอยู่ใกล้คนที่เรารัก
และแล้ววันที่ผมไม่เคยคิดก็มาถึง วันนั้นผมทะเลาะกับแฟนแรงมาก ผมขอไม่ลงรายละเอียดเรื่องที่ทะเลาะนะครับ เอาเป็นว่าที่เราทะเลาะกันผมเป็นฝ่ายผิดเอง บอกไว้ก่อนไม่ใช่เพราะผมมีคนอื่นนะ ถึงแม้ตอนที่ผมทำงาน แฟนผมได้บรรจุเป็นข้าราชการคนละจังหวัดกับผมทำงานอยู่ก็ตาม แต่ผมไม่เคยมีคนอื่นนะครับ ผมก็ง้อทุกวิถีทาง เค้าก็ไม่ยอมบอกว่าให้ห่างกัน ผมก็เข้าใจว่าห่างมันก็คือเลิกอะแหละ ผมไม่ยอม ยังไงก็ไม่ยอม จนเค้าพูดออกมาประโยคนึงยาวๆว่า..."เค้าคบกับเธออะ เธอไม่เคยให้อะไรเค้าเลย ไม่เคยซื้ออะไรให้ ไม่เคยพาไปเที่ยวไหน ไม่เคยพาไปกินอะไรดีๆ มีแต่เค้าที่ให้เธอ เค้าคบกับเธอเคัาจะไดัแต่งงานตอนไหนก็ไม่รู้ ทุกวันนี้เค้าก็ต้องขับรถมาหาเธอทุกอาทิตย์ เค้าเหนื่อยแล้ว พอเถอะ เค้าอยากมีคนที่คอยให้อะไรในสิ่งที่เค้าต้องการได้...." แล้วผมก็เงียบไป.....มือที่กอดเค้าอยู่ก็ค่อยๆปล่อย ภาพในอดีตย้อนคืนมา ทุกสิ่งที่แฟนผมพูดมันเรื่องจริงทั้งนั้น ผมไม่มีคำพูดใดๆ ค่อยๆถอยห่างจากเค้า แล้วก็ยิ้มทั้งน้ำตา แค่นั้นจริงๆ แล้วก็ให้เค้าเดินจากไป ผมได้แต่ถามตัวเองว่าที่เราทำลงไปทั้งหมดมันไม่มีความหมายเลยจริงๆใช่ไหม วันที่เค้ารับปริญญา(เค้าเป็นรุ่นพี่ผม1ปี)ผมคอยอยู่ข้างๆ ถ่ายรูป ถือของเทคแคร์ที่บ้านเค้า ถือรองเท้าแตะ ซับเหงือให้ หาน้ำให้กิน มะนไม่มีค่าเลยหรอ? ก่อนเค้าไปทำงาน(ตอนที่ผมเรียนอยู่ปี4)ทุกเช้าเวฟข้าวกล้อง7-11ให้เค้า เดินลงมาส่งใต้หอทุกวัน ตอนเย็นไปรอรับที่ท่ารถทุกวัน มันไม่มีความหมายเลยหรอ? ของขวัญทุกอย่างที่ผมทำให้ด้วยใจ แอบทำตอนที่เค้าหลับ(เพราะเราอยู่ด้วยกันทึกวัน)มันไม่มีค่าเลยหรอ? คำถามมากมายอยู่ในหัวผม ณ.ตอนนั้น คำถามที่ไม่มีคำตอบ มีแต่น้ำตาของผม ทำให้ผมรู้ว่าผมแมร่ง โคตรไร้ค่าเลย แต่เธอจะรู้ไหม สิ่งที่ผมให้ไปถึงแม้มันจะจับต้องไม่ได้ ถึงแม้มันไม่มีราคา แต่มันคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับผม มันคือ...""เวลา""...เวลาทั้งชีวิต เวลาของผมทั้งหมด ผมได้ให้เธอไปหมดแล้ว ผมไม่เคยไปกินเหล้ากับเพือนเพราะกลัวว่าแฟนผมจะอยู่คนเดียว ไม่เคยจะปล่อยให้เหงา แต่ผมก็ไม่ได้โทษเธอหรอกนะที่เราต้องเลิกกัน ผมยินดีถ้ามีใครที่พร้อมจะดูแลเธอได้ดีกว่าผม และผมไม่เคยโกรธเธอเลย...ทุกอย่างสำหรับเรา ทุกสถานที่ๆเราไปด้วยกัน มันคือความทรงจำดีๆ ผมไม่เคยเสียดายเวลา3ปีที่คบกันมา เพราะทุกวินาทีผมได้รู้จักคำว่ารัก(แท้) ทุกวินาทีผมมีความสุขมากๆเลย...
ที่ผมมาตั้งกระทู้ไม่ได้มีเจตนาจะมาต่อว่า หรือให้ใครมาต่อว่าอดีตคนรักของผม ผมแค่อยากมาเล่าเรื่องราวความทรงจำดีๆให้ทุกคนได้ฟัง ด่าผมได้นะครับ แต่ผมขอร้องอย่าว่าอะไรอดีตคนรักของผมนะครับ ผมเข้าใจเค้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่