เราอาจจะคิดว่าเด็กวัยรุ่นไม่ค่อยดื่มของพวกนี้ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วเด็กวัยรุ่นสมัยนี้มักจะดื่มอย่างน้อย 1 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการขาดความยับยั้งชั่งใจ มีความกดดันสูงและไม่ยอมพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตข้างหน้า ไม่สำคัญหรอกว่าวัยรุ่นจะเขินอายยังไง ก็ต้องพยายามอย่าดื่มแอลกกอฮอล์ให้มาก ยังไงมาลองมาดูแนวทาง 10 อันดับกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
10.ฟังพ่อแม่ ผู้ปกครอง
แนวทางที่ดีก็คือ ควรที่จะฟังพ่อแม่ ผู้ปกครองก่อน เราอาจจะเป็นวัยรุ่นในตอนนี้ แต่ยังไงเราก็ต้องเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้าอยู่ดี เราก็ควรที่จะฟังข้อเสียของการดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่เด็กๆแล้วก็ดี หากเราตั้งใจฟัง ตอนเป็นวัยรุ่นก็จะไม่ค่อยสนใจกับเรื่องพวกนี้ ถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีอย่างหนึ่ง
9.กล้าพูดคุยกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง
การพูดคุยกับพ่อแม่ถือเป็นการตรวจสอบตัวเองไปในทางอ้อม โดยพ่อแม่เราก็จะดูพฤติกรรมและนิสัยที่เราได้เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ และก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีจนอยากให้เรารู้สึกเลิกอยากดื่มขึ้นมา และก็มองอนาคตข้างหน้าที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้
8.จะต้องให้เวลากับวัยรุ่น
วัยรุ่นบางครั้งก็อาจจะมีอารมณ์แปรปรวน ไร้เหตุผลอยู่บ้าง พ่อแม่ก็จะต้องหมั่นใช้เวลาอยู่ด้วยกัน แต่หากเราเป็นคนที่เปิดใจกว้างเรื่องนี้มากพอตั้งแต่เด็ก ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาก็ได้ เราก็มีเวลาทำกิจกรรมต่างๆที่มีประโยชน์กว่าการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างเช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ถือเป็นการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์กว่า
7.สร้างกฎระเบียบขึ้นมา
เมื่อเราเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เราก็อาจจะใช้เวลาออกนอกบ้านมากกว่าที่จะอยู่บ้าน เราจึงต้องหันมาตั้งกฎระเบียบให้เข้มงวดมากขึ้นและวางหลักเกณฑ์ในเรื่องของการดื่มแอลกอฮอล์และก็ยาเสพติด จะต้องมั่นใจว่า เราไม่กล้าแหกกฎที่เราวางเอาไว้อยู่ เพราะแม้ว่าเราจะวางกฎสวยหรูยังไง แต่หากเราแหกกฎขึ้นมา มันก็เป็นเรื่องเปล่าประโยชน์
6.อย่าคิดที่จะดื่มหรืออยากดื่มขึ้นมา
ไม่ว่าจะยังไง เราอย่าคิดที่จะดื่มหรืออยากดื่มเป็นอันขาด แม้ว่าจะขอลองสักช็อตนึงก็อย่าคิดที่จะไปดื่ม หากมีใครชักชวนให้ดื่ม ก็ต้องรีบปฎิเสธทันควัน เพราะไม่งั้นปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์จะตามมาภายหลัง เราจะต้องรู้ไว้ก่อนเลยว่า ของแบบนี้มีแต่เสียกับเสีย ไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์กับชีวิตของเราแต่อย่างใด
5.ลองหาต้นแบบที่ดีดู
บางทีแนวทางที่ดีอย่างหนึ่งก็คือ จะต้องหาต้นแบบที่ดี หากเราไม่สามารถควบคุมการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ได้ ก็ต้องพยายามหาบุคคลต้นแบบที่เราคิดว่า สามารถยึดเหนี่ยวจิตใจได้ ที่เราเห็นว่าคนแบบนี้ไม่ดื่มเหล้าแล้วประสบความสำเร็จในชีวิตมากแค่ไหน เพียงแค่นี้เราก็อยากที่จะเอมาเป็นแบบอย่างบ้าง
4.อย่าอยู่นอกกรอบสภาพแวดล้อมมากจนเกินไป
การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราจะต้องอยู่ในกรอบแวดล้อมที่ไม่สุ่มเสี่ยงต่อการยั่วยุมากจนเกินไป เพื่อที่จะทำให้เรารักษากฎวินัยได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะยังไง เราก็อย่าไปตามแหล่งที่มันยั่วยุมากจนเกินไป และก็นึกถึงสุขภาพของตัวเองอยู่เสมอ
3.พยายามผลักดันให้วัยรุ่นทำกิจกรรมต่างๆข้างนอก
วัยรุ่นเองก็ต้องพยายามทำกิจกรรมนอกบ้านให้บ่อยมากขึ้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติด เพราะว่าความคิดของวัยรุ่นถือเป็นช่วงที่อ่อนไหวง่ายในการทำอะไรสักอย่างหนึ่ง จึงต้องให้วัยรุ่นหันมาโฟกัสกับกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์จะดีกว่ามาก
2.อย่าเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาไว้ที่บ้าน
หากเรารู้สึกตัวเองกำลังถูกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยั่วยุอยู่ ก็คงจะมีใครสักคนหนึ่งเก็บเครื่องดื่มแบบนี้ไว้ในบ้านแน่ๆ เราซื้อดื่มได้หากเราจัดงานปาร์ตี้ แต่หากเราดื่มเข้าไปนี่สิคือปัญหา ความจริงก็คือ เครื่องดื่มแบบนี้จะต้องเก็บไว้ไม่ให้เห็นจากเด็กและวัยรุ่น อย่าเอาเครื่องดื่มแบบนี้เข้ามาในบ้านแล้วให้วัยรุ่นเห็นเป็นอันขาด
1.เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตอนที่อายุยังน้อย
ความจริงส่วนใหญ่เราจะพบว่า ผู้ใหญ่มักจะพูดคุยเรื่องนี้ตอนที่เราโตขึ้นแล้ว การพูดคุยเรื่องนี้ควรที่จะคุยตอนที่มีอายุ 11-12 ขวบไปเลย เพื่อให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับความจริงของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อน โดยจะต้องยกตัวอย่างประสบการณ์ของคนที่ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่พวกเขาไม่สามารถเลิกได้ และก็เห็นว่ามันทำลายชีวิตของเราลงไปได้อย่างไร หรืออย่างน้อยเราก็ควรที่จะแชร์เรื่องราวของตัวเองด้วยจะดีกว่ามาก
ผู้เขียน Mr.lawrence10
(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับแนวทางที่จะทำให้เด็กวัยรุ่นเลิกดื่มแอลกอฮอล์
แนวทางที่ดีก็คือ ควรที่จะฟังพ่อแม่ ผู้ปกครองก่อน เราอาจจะเป็นวัยรุ่นในตอนนี้ แต่ยังไงเราก็ต้องเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้าอยู่ดี เราก็ควรที่จะฟังข้อเสียของการดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่เด็กๆแล้วก็ดี หากเราตั้งใจฟัง ตอนเป็นวัยรุ่นก็จะไม่ค่อยสนใจกับเรื่องพวกนี้ ถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีอย่างหนึ่ง
การพูดคุยกับพ่อแม่ถือเป็นการตรวจสอบตัวเองไปในทางอ้อม โดยพ่อแม่เราก็จะดูพฤติกรรมและนิสัยที่เราได้เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ และก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีจนอยากให้เรารู้สึกเลิกอยากดื่มขึ้นมา และก็มองอนาคตข้างหน้าที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้
วัยรุ่นบางครั้งก็อาจจะมีอารมณ์แปรปรวน ไร้เหตุผลอยู่บ้าง พ่อแม่ก็จะต้องหมั่นใช้เวลาอยู่ด้วยกัน แต่หากเราเป็นคนที่เปิดใจกว้างเรื่องนี้มากพอตั้งแต่เด็ก ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาก็ได้ เราก็มีเวลาทำกิจกรรมต่างๆที่มีประโยชน์กว่าการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างเช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ถือเป็นการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์กว่า
เมื่อเราเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เราก็อาจจะใช้เวลาออกนอกบ้านมากกว่าที่จะอยู่บ้าน เราจึงต้องหันมาตั้งกฎระเบียบให้เข้มงวดมากขึ้นและวางหลักเกณฑ์ในเรื่องของการดื่มแอลกอฮอล์และก็ยาเสพติด จะต้องมั่นใจว่า เราไม่กล้าแหกกฎที่เราวางเอาไว้อยู่ เพราะแม้ว่าเราจะวางกฎสวยหรูยังไง แต่หากเราแหกกฎขึ้นมา มันก็เป็นเรื่องเปล่าประโยชน์
ไม่ว่าจะยังไง เราอย่าคิดที่จะดื่มหรืออยากดื่มเป็นอันขาด แม้ว่าจะขอลองสักช็อตนึงก็อย่าคิดที่จะไปดื่ม หากมีใครชักชวนให้ดื่ม ก็ต้องรีบปฎิเสธทันควัน เพราะไม่งั้นปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์จะตามมาภายหลัง เราจะต้องรู้ไว้ก่อนเลยว่า ของแบบนี้มีแต่เสียกับเสีย ไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์กับชีวิตของเราแต่อย่างใด
บางทีแนวทางที่ดีอย่างหนึ่งก็คือ จะต้องหาต้นแบบที่ดี หากเราไม่สามารถควบคุมการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ได้ ก็ต้องพยายามหาบุคคลต้นแบบที่เราคิดว่า สามารถยึดเหนี่ยวจิตใจได้ ที่เราเห็นว่าคนแบบนี้ไม่ดื่มเหล้าแล้วประสบความสำเร็จในชีวิตมากแค่ไหน เพียงแค่นี้เราก็อยากที่จะเอมาเป็นแบบอย่างบ้าง
การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราจะต้องอยู่ในกรอบแวดล้อมที่ไม่สุ่มเสี่ยงต่อการยั่วยุมากจนเกินไป เพื่อที่จะทำให้เรารักษากฎวินัยได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะยังไง เราก็อย่าไปตามแหล่งที่มันยั่วยุมากจนเกินไป และก็นึกถึงสุขภาพของตัวเองอยู่เสมอ
วัยรุ่นเองก็ต้องพยายามทำกิจกรรมนอกบ้านให้บ่อยมากขึ้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติด เพราะว่าความคิดของวัยรุ่นถือเป็นช่วงที่อ่อนไหวง่ายในการทำอะไรสักอย่างหนึ่ง จึงต้องให้วัยรุ่นหันมาโฟกัสกับกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์จะดีกว่ามาก
หากเรารู้สึกตัวเองกำลังถูกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยั่วยุอยู่ ก็คงจะมีใครสักคนหนึ่งเก็บเครื่องดื่มแบบนี้ไว้ในบ้านแน่ๆ เราซื้อดื่มได้หากเราจัดงานปาร์ตี้ แต่หากเราดื่มเข้าไปนี่สิคือปัญหา ความจริงก็คือ เครื่องดื่มแบบนี้จะต้องเก็บไว้ไม่ให้เห็นจากเด็กและวัยรุ่น อย่าเอาเครื่องดื่มแบบนี้เข้ามาในบ้านแล้วให้วัยรุ่นเห็นเป็นอันขาด
ความจริงส่วนใหญ่เราจะพบว่า ผู้ใหญ่มักจะพูดคุยเรื่องนี้ตอนที่เราโตขึ้นแล้ว การพูดคุยเรื่องนี้ควรที่จะคุยตอนที่มีอายุ 11-12 ขวบไปเลย เพื่อให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับความจริงของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อน โดยจะต้องยกตัวอย่างประสบการณ์ของคนที่ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่พวกเขาไม่สามารถเลิกได้ และก็เห็นว่ามันทำลายชีวิตของเราลงไปได้อย่างไร หรืออย่างน้อยเราก็ควรที่จะแชร์เรื่องราวของตัวเองด้วยจะดีกว่ามาก
ผู้เขียน Mr.lawrence10