สวัสดีค่ะ นี้เป็นบทความแรกของเรา(ยังวัยรุ่นอยู่ขอใช้สรรพนามกันเองนะค่ะ) ได้อ่านมาก็หลายกระทู้เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก
เราก็อยากจะขอแชร์ประสบการณ์ของตัวเองบ้าง อาจจะเขียนผิดพลาดหรือเรียบเรียงคำไม่ดีก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
ก่อนอื่นเราขอเริ่มก่อนในการมาเขียนบทความนี้ คือชอบอ่านตามเวปที่เค้าแชร์กันเกี่ยวกับรีวิวต่างๆจากการลดน้ำหนัก เรากลับรู้สึกเฉยๆ(เพราะตรูเคยอ้วนมามากกว่านี้อีก 5555) ตอนเราเกิดก็ยังน่ารัก มีแต่ผู้ใหญ่อยากอุ้มผิวขาว(เชื้อจีนมาแรงแทรงทางโค้ง) น้ำหนักแรกเกิดก็ยังปกติ ราวๆ 3กิโล ตามเด็กไทยอ่าเนอะ นี้รูปเราตอนเด็ก (อันนี้ราว ขวบกว่าได้นะค่ะ)
ใครเห็นก็อยากอุ้ม ยังน่ารักอยู่ (ไม่ค่อยจะหลงตัวเอง อิอิ^^X ) แต่ตามสัญชาติญาณของคนจีน ย่าเค้าชอบทำกับข้าวเยอะมาก ตั้งโต๊ะทีก็ 10 อย่างทุกวัน ของมันของทอดนี้ไม่ต้องพูดถึง ก็เริ่มกลายพันธุ์มาเรื่อยๆ วันนึงเด็กอย่างเรานี้กินมื้อไม่จำกัด บุฟเฟ่ทั้งวัน 55555 ปากว่าง ท้องไม่อิ่มก็จะเดินไปที่โต๊ะอาหารและตักข้าวพูนจานกินแบบนั้น ตอนจะนอนก็กิน จนกิโลไม่รองรับกับวัย เพราะอะไรนะหรอ??
เพราะครูที่ โรงเรียนต่างพูดแซวเรา เพื่อนที่โรงเรียนเห็นเราเป็นมนุษย์ปกป้องพวกเด็กผู้ชายชอบแกล้ง (

ไม่รู้เรื่องเรานี้กลัวหัวหด เป็นไปตามสุภาษิตโตแต่ตัว จริงๆ - - ) ตอนเด็กคนอื่นเค้าตัวกระจิดริดไปเลยพอมายืนเทียบกับเค้า ดีที่ว่าบ้านเราเป็นคนสูง มันก็สูงนะเดือนละเซ็นแหนะตอนอยู่ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 และมันก็ชะลอละ แต่น้ำหนักนี้ดิ เพิ่มเอาเพิ่มเอา อย่างเด็กป.1 ใครจะคิดว่าจะหนักอยู่ที่ 40 กว่ากิโล

ก็เค้านี้ไง 555555
พอขึ้นป.2 คุณคิดว่าเราจะเพิ่มเท่าไหร่ดี ตอนนั้นเราคิดว่าเออปีละ 10 กิโลละกัน ก็จัดสิครับจะรอไร ป.2 หนักราวๆ50 กว่า ป.3 ก็ 60 กว่า ป.4 ก็ 70 กว่า ป.5 ก็ 80 กว่า จนพอ 6 ก็ 90 กว่า แต่กว่านี้ไม่น้อยนะค่ะ 98 กิโล เราเพิ่งซื้อตาชั่งมาตอนนั้นจำได้แม่น ขึ้นชั่ง แล้วร้องออกมาเลย "เห้ยไมกุหนักขนาดนี้เนี้ย" อีก 2 โลจะครบร้อย ถ้าเป็นแม่ค้าคงจะแถมให้จนครบ เป็นจุดคิดละต้องเริ่มเปลี่ยนเเปลงตัวเองละ ไม่ไหว หน้าเหน่อนี้ไม่ต้องพูดถึงเด็กบ้านๆ หน้าดำ เหนียงมาเต็มจนกลม ไม่มีเค้าว่าจะสวย จะน่ารักแบบตอนเกิดสักนิด คนระแวกนั้นเค้าไม่แปลกใจอะไรกับเราหรอก เพราะบ้านเรามันคนพันธุ์ใหญ่อยู่แล้ว
แค่ป.6 เพื่อนบ้างคนโดนแอบชอบ โดนจีบ เปลี่ยนแฟนกันบ้างละ แต่เรานี้มีแต่ไปแอบชอบเค้าและก็ง่อยไปตามระเบียบเพราะหนังหน้ากับหุ่นอันอวบอั้นเกิน เวลามีการแสดงอะไร เราก็ผู้หญิงป่าววะ เด็กผู้ชายเ..ือกน้อยอีก เราก็ต้องแปลงร่างเป็นเด็กผู้ชายและสวมบทไปเต้นแทน ทั้งที่ในใจเราก็อยากใส่ชุดไทย แต่งหน้าแบบผู้หญิงแล้วเต้น รำ บางนะ
ตอนนั้นเราจะขึ้น ม.1 ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำอำเภอ ทุกคนแห่แหนกันอยากมาเรียนที่นี้ เริ่มอายละ คิดในใจกุจะทำไงดีเนี้ย สวยมันก็อยากสวยแต่อุปสรรคมันอยู่ที่พุงกับอาหารเนี้ย

เริ่มปฏิวัติตัวเองตอนน้ำหนัก 98 กิโลกรัม ตอนอยู่ ป .6 (ย้ำนะป.6) ส่วนสูง 158 ซม. (คุณคิดภาพเอาละกัน) ดีที่บ้านเค้าแยกออกมาจากบ้านย่า แต่ก็อยู่ในรั้วเดียวกัน อาหารถ้าอยากกินก็ต้องเดินไปที่บ้านย่าเอา ที่บ้านไม่มีคนทำ เราก็ได้โอกาสจำกัดอาหารให้เหลือแค่วันละสามมื้อ วิ่งหลังกลับมาจากกลับจาก โรงเรียนทุกวัน เต้นเพลงเกาหลี มันมีเสต็ปไรเต้นหมด ยังกับหมูบิน (สมัยนั้นติดทรูวิชั่น จะมีช่องเพลง และมีช่วงเพลงเกาหลีเป็นช่วงๆ) เราก็จะตั้งตารอเวลาเต้นแบบนั้น มันมีสามช่วงก็เต้น

สามช่วง จนเข้า ม.1 น้ำหนักก็ลดลงมาได้ 10 กิโล ระยะเวลาแค่ 3 เดือนเกือบ 4 เดือนได้ ก็กลับมาสู่น้ำหนัก 85 กิโลได้ ถ้าจำไม่ผิดนะค่ะ
นี้เป็นรูปช่วงยังเด็ก กำลังก้าวสู่วัยกลายพันธุ์
พอเข้าประถมเท่านั้นแหละ (อาจจะไม่ได้เรียงลำดับภาพนะค่ะ ไฟล์มันใหญ่เลยต้องบีบให้อยู่ในรูปเดียวกันเลย)
บางคนอาจจะยังไม่เห็นข้อแตกต่างเมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน
ปล.จะเห็นว่าเริ่มมาแล้วพุง เตี้ยล้ำ ดำ ขานี้เบอเร่อ (จนโดนล่อมาตลอด เสื้อผ้าสวยๆไม่ต้องพูดถึงก็ใส่แบบเด็กผู้ชายไปสิ) อันนี้ราวๆ อนุบาล.2-ป.4 ได้ค่ะ
พอเข้าป.5-ป.6 อ้วนกว่านี้อีก อิอิ ^^ ถ้าหารูปเจอจะเอามาลงให้นะค่ะ
พอขึ้นมาม.ต้นก็ยังอ้วนดำ แถมผมสั้นตามสไตล์เด็กติ่ง มีแต่คนมาชอบเพื่อนเรา เราก็อิจฉามันนะ แถมคิดในใจ ตูออกจะสวยไมไม่มาจีบกุบ้าง สมัยตอนม.ต้นมันจะมีระเบียงไว้ล้างมือหน้าห้องเราตอน ม.2 เราก็นั่งตรงกับประตู เวลาพวกรุ่นพี่หรือเพื่อนห้องอื่นมาล้างมือ เราก็จะมโนไปก่อนละ มาล้างและชะเง่อมอง แบบนี้ตูแน่ๆ ตูแน่ๆ ที่เป็นคนถูกมอง เขินอยู่ในใจ แต่ผลลัพธ์คือ พวกพี่แกมองทะลุไปหาเพื่อนเราที่มันน่ารักหุ่นดี ผิวขาวใส (เออจบค่ะจบ ที่มโนไว้พังค่ะพัง) เราก็คิดละ ต้องลดอีกไม่งั้นเราจะเรียนจบม.3 ทั้งที่สภาพเป็นอีเพิงแบบนี้หรอ ??? ตอนช่วงม.ต้นก็พยายามคุมอาหารออกกำลังกาย และเล่นกีฬาบางอย่าง เต้นตามเพลงเกาหลีทุกคืนก่อนจะเข้านอน วันละ ชม. สองชม. จนน้ำหนักก็ลดลงมาจาก 85 กิโลกลายเป็น 76-78 กิโลได้




จนเรากำลังจะขึ้น ม.4 ก็เริ่มมีแฟนกับเค้าละว่ะ (รู้สึกดีใจชิบเป๋ง) แต่เพราะเจอกันแค่ทาง hi 5 (สมัยนั้นนี้อย่างฮิตใครไม่เล่นนี้ outdoor มาก) เป็นเพื่อนของพี่สาวเรา และเราเคยเจอเค้าที่สนามกีฬาครั้งนึง แต่เค้าไม่ได้สนใจในตัวเราเลยนะตอนเจอครั้งแรก(ตอนนั้นยังไม่รู้จักกัน) ก็คุยไปก็ตามประสาคนเค้าอยากมีแฟน ก็คบไปพอเจอตัวเราสภาพเราผมสั้น (แถมตอนนั้นคิดว่าจะรอดจากการตรวจระเบียบครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดขึ้นม .4 ดันโดนตัดเลยติ่งหูเพราะดันไปซอยมา) คบได้แค่เดือนเดียวก็เลิก เราไม่เสียใจไหมก็ต้องเสียใจและ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกำลังใจลดน้ำหนักต่อ คราวนี้ลงมาเหลือราวๆ 75 ได้แบบคงตัวเลยนะ ผ่านไปสักพักก็ไปปิ๊งเพื่อนคนนึงรู้จักกันทาง MSN (ยังไม่เคล็ด 55555) เป็นเพื่อนห้องสายวิทย์ด้วยกันก็คุยไปจะ 6 เดือนได้ก็รู้สึกตัวละว่าชอบเขาเข้าให้ ก็แสดงออกนะ แต่มัน

ไปชอบทอม (เออดีตูผู้หญิงละ

ไม่ชอบ - - ) ทอมก็น่ารัก หุ่นดี แต่เรานี้ดิ อ้วนบึก ทับง่ายและแบนด้วย
สุดท้ายมันโดนทอมหักอกและมาขอเราเป็นแฟน (ตรูจะดีใจดีไหมเนี้ย -*-) อ่าก็ครบไปทั้งที่รู้นะ ครบและไปไม่รอด 3 เดือนเลิก เฮิร์ตสิครัชจะรอไร คราวนี้เราก็อยู่วังวนของความรู้สึกนี้ เเละเราก็เข้าค่ายบ่อยเจอเพื่อนฝูงเริ่มเยอะขึ้นด้วย
จนขึ้นปี 1 (ดันมาอยู่ มหาลัยเดียวกัน แค่ต่างคณะ เจ้ากรรมนายเวรดีจริง ตอนมอ ปลายก็อยู่สายวิทย์ด้วยกันทั้งคู่ ห้องเรียนมันก็ดัน

อยู่ตรงข้ามคนละฝั่ง ใครเดินเข้าเดินออกก็เห็นหมด จำเริญจริงค่ะ 5555) ก็ฮึด ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ทำทุกอย่าง คิดอย่างเดียว
"มันต้องเสียดายที่ทิ้งเรา" ลดจนน้ำหนักเริ่มลงมาอยู่ต่ำกว่า 70 กิโล ก็ลดต่อนะเพื่อตัวเอง เหลือราวๆ 66-68 กิโล (บอกก่อนเราสูง 168 ซม. ละนะพอขึ้นมหาลัยละมันก็หยุดแค่นั้น)
น้ำหนักขนาดนี้ก็ไม่ใช่หุ่นดีไรนะ ก็ดันไปเจอ ผช คนนึงเพื่อนของเพื่อนไปๆมาๆก็คบเป็นแฟน และก็ไปไม่รอดตามเดิม 555555 มันก็ทำให้เราฮึดต่ออีก ตูต้องลดน้ำหนักกกกกกกกกกกกกก!!! จนคราวนี้เหลือ 64-66 กิโล แบบคนตัว ช่วงนั้นผมเริ่มยาวละ(ม ปลายเค้าไม่ยอมให้ไว้ เก็บกดยันมหาลัย ไว้

เลย) ครั้งที่ 3 คิดว่าจะเคล็ดไหม ตอบเลยไม่ ! ก็มีแฟนคนที่ 4 เป็นเด็กวิศวะที่นี้ คนนี้บอกเลยเรารักมากเพราะอยู่ด้วยกันตลอด มันก็ชอบบ่นเราอ้วนนะ ตั้งเป้าให้เราลดน้ำหนัก เราก็ลดนะ ลงบ้างขึ้นบ้างตามประสาปาก และคิดว่าเค้าคงไม่เลิกกับเราเพราะสาเหตุนี้หรอก สุดท้ายผลลัพธ์ เค้าไม่ได้เลิกกับเราเพราะหุ่นรูปร่างไรนะ แต่เพราะเข้ากันไม่ได้มากกว่าเลยเลิก คราวนี้เฮิร์ตหนักมาก อะไรก็ไม่กิน ร่างกายไม่ออกนี้ผอมเองเลย 55555 น้ำหนักลดสิครัช ลงไปต่ำสุดเหลือ 58 กิโล แบบรู้เลยพุงไม่มี แต่ขายังใหญ่อยู่ก็เถอะ สุดท้ายกว่าจะทำใจไรได้ และอยู่กับตัวเองได้ก็ปาไปเกือบสามเดือน
พอโสดสิ่งเดียวที่ได้คือ ควรรักตัวเอง ทำไรควรคิดหน้าคิดหลัง คิดถึงพ่อแม่ น้ำหนักลดขนาดนี้เราก็รักษาระดับด้วยการออกกำลังกายทุกวันด้วยความเพียร มีวินัยกับตัวเอง อยู่มหาลัยการกินก็ไม่ได้เยอะ กินน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก เน้นอาหารคลีนละผลไม้ เป็นหลัก ตอนนี้ชีวิตก็ดีขึ้นเยอะ
จากเดิมที่ไม่เคยมีคนสนใจ กลับมีคนให้ความสนใจในตัวเรา แต่เราไม่คิดจะมีแฟนใหม่ละ(เคล็ดจนตัวตาย 55555) ก็ใช้ชีวิตแบบคนรอบข้างชอบดีกว่าคนเมินเรา รูปเราเดียวจะมาลงให้ดูนะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ขอโทษด้วยนะค่ะพรุ่งนี้จะรีบหาและรีบมาลงให้ดู
นี้จะเป็นรูปรวมตั้งแต่สมัยปี 1ถึงปี 2 จนถึงปัจจุบันที่เริ่มเปลี่ยนตัวเอง (เหมือนจะประชดตัวเองด้วยแหละ 5555)
จนปัจจุบัน
ปล.รูปเราถ่ายจากกล้องตอนคืนอาจจะมีแสงสะท้อนบ้างต้องขอโทษด้วย เราเพิ่งหัดเขียนในนี้ครั้งแรกอาจจะเรียบเรียงไม่ดี หรือผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะค่ะ อ่านเอามัน อยากแชร์ประสบการณ์เฉยๆ
ปล.ห้ามเอาไปทำเป็นรูปคนลดน้ำหนักด้วยยานะค่ะ บอกเลยออกกำลังกายล้วนๆ!!!! ถึงจะนานหน่อยแต่ไม่โยโย้แน่นอน ถ้าจับได้เล่นถึงตำรวจนะค่ะ
ปล.รูปจะถยอยลงให้ดูนะค่ะถ้าเจอ มันเปลี่ยนไปเยอะจนจากเดิมหน้ากลมกลายเป็นคนมีโหนกไปได้(โหนกนี้ได้มาจากแม่เต็มๆ บ่องตง 5555)
ขอบคุณที่อ่านจบนะค่ะ ยาวไปหน่อยนะค่ะ งงกับวิธีการโพสมาก เน้นอ่านเป็นหลักนะค่ะ
ใครที่ท้อกับการลดน้ำหนักต้องอ่าน
เราก็อยากจะขอแชร์ประสบการณ์ของตัวเองบ้าง อาจจะเขียนผิดพลาดหรือเรียบเรียงคำไม่ดีก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
ก่อนอื่นเราขอเริ่มก่อนในการมาเขียนบทความนี้ คือชอบอ่านตามเวปที่เค้าแชร์กันเกี่ยวกับรีวิวต่างๆจากการลดน้ำหนัก เรากลับรู้สึกเฉยๆ(เพราะตรูเคยอ้วนมามากกว่านี้อีก 5555) ตอนเราเกิดก็ยังน่ารัก มีแต่ผู้ใหญ่อยากอุ้มผิวขาว(เชื้อจีนมาแรงแทรงทางโค้ง) น้ำหนักแรกเกิดก็ยังปกติ ราวๆ 3กิโล ตามเด็กไทยอ่าเนอะ นี้รูปเราตอนเด็ก (อันนี้ราว ขวบกว่าได้นะค่ะ)
ใครเห็นก็อยากอุ้ม ยังน่ารักอยู่ (ไม่ค่อยจะหลงตัวเอง อิอิ^^X ) แต่ตามสัญชาติญาณของคนจีน ย่าเค้าชอบทำกับข้าวเยอะมาก ตั้งโต๊ะทีก็ 10 อย่างทุกวัน ของมันของทอดนี้ไม่ต้องพูดถึง ก็เริ่มกลายพันธุ์มาเรื่อยๆ วันนึงเด็กอย่างเรานี้กินมื้อไม่จำกัด บุฟเฟ่ทั้งวัน 55555 ปากว่าง ท้องไม่อิ่มก็จะเดินไปที่โต๊ะอาหารและตักข้าวพูนจานกินแบบนั้น ตอนจะนอนก็กิน จนกิโลไม่รองรับกับวัย เพราะอะไรนะหรอ??
เพราะครูที่ โรงเรียนต่างพูดแซวเรา เพื่อนที่โรงเรียนเห็นเราเป็นมนุษย์ปกป้องพวกเด็กผู้ชายชอบแกล้ง (
พอขึ้นป.2 คุณคิดว่าเราจะเพิ่มเท่าไหร่ดี ตอนนั้นเราคิดว่าเออปีละ 10 กิโลละกัน ก็จัดสิครับจะรอไร ป.2 หนักราวๆ50 กว่า ป.3 ก็ 60 กว่า ป.4 ก็ 70 กว่า ป.5 ก็ 80 กว่า จนพอ 6 ก็ 90 กว่า แต่กว่านี้ไม่น้อยนะค่ะ 98 กิโล เราเพิ่งซื้อตาชั่งมาตอนนั้นจำได้แม่น ขึ้นชั่ง แล้วร้องออกมาเลย "เห้ยไมกุหนักขนาดนี้เนี้ย" อีก 2 โลจะครบร้อย ถ้าเป็นแม่ค้าคงจะแถมให้จนครบ เป็นจุดคิดละต้องเริ่มเปลี่ยนเเปลงตัวเองละ ไม่ไหว หน้าเหน่อนี้ไม่ต้องพูดถึงเด็กบ้านๆ หน้าดำ เหนียงมาเต็มจนกลม ไม่มีเค้าว่าจะสวย จะน่ารักแบบตอนเกิดสักนิด คนระแวกนั้นเค้าไม่แปลกใจอะไรกับเราหรอก เพราะบ้านเรามันคนพันธุ์ใหญ่อยู่แล้ว
แค่ป.6 เพื่อนบ้างคนโดนแอบชอบ โดนจีบ เปลี่ยนแฟนกันบ้างละ แต่เรานี้มีแต่ไปแอบชอบเค้าและก็ง่อยไปตามระเบียบเพราะหนังหน้ากับหุ่นอันอวบอั้นเกิน เวลามีการแสดงอะไร เราก็ผู้หญิงป่าววะ เด็กผู้ชายเ..ือกน้อยอีก เราก็ต้องแปลงร่างเป็นเด็กผู้ชายและสวมบทไปเต้นแทน ทั้งที่ในใจเราก็อยากใส่ชุดไทย แต่งหน้าแบบผู้หญิงแล้วเต้น รำ บางนะ
ตอนนั้นเราจะขึ้น ม.1 ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำอำเภอ ทุกคนแห่แหนกันอยากมาเรียนที่นี้ เริ่มอายละ คิดในใจกุจะทำไงดีเนี้ย สวยมันก็อยากสวยแต่อุปสรรคมันอยู่ที่พุงกับอาหารเนี้ย
เริ่มปฏิวัติตัวเองตอนน้ำหนัก 98 กิโลกรัม ตอนอยู่ ป .6 (ย้ำนะป.6) ส่วนสูง 158 ซม. (คุณคิดภาพเอาละกัน) ดีที่บ้านเค้าแยกออกมาจากบ้านย่า แต่ก็อยู่ในรั้วเดียวกัน อาหารถ้าอยากกินก็ต้องเดินไปที่บ้านย่าเอา ที่บ้านไม่มีคนทำ เราก็ได้โอกาสจำกัดอาหารให้เหลือแค่วันละสามมื้อ วิ่งหลังกลับมาจากกลับจาก โรงเรียนทุกวัน เต้นเพลงเกาหลี มันมีเสต็ปไรเต้นหมด ยังกับหมูบิน (สมัยนั้นติดทรูวิชั่น จะมีช่องเพลง และมีช่วงเพลงเกาหลีเป็นช่วงๆ) เราก็จะตั้งตารอเวลาเต้นแบบนั้น มันมีสามช่วงก็เต้น
นี้เป็นรูปช่วงยังเด็ก กำลังก้าวสู่วัยกลายพันธุ์
พอเข้าประถมเท่านั้นแหละ (อาจจะไม่ได้เรียงลำดับภาพนะค่ะ ไฟล์มันใหญ่เลยต้องบีบให้อยู่ในรูปเดียวกันเลย)
บางคนอาจจะยังไม่เห็นข้อแตกต่างเมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน
ปล.จะเห็นว่าเริ่มมาแล้วพุง เตี้ยล้ำ ดำ ขานี้เบอเร่อ (จนโดนล่อมาตลอด เสื้อผ้าสวยๆไม่ต้องพูดถึงก็ใส่แบบเด็กผู้ชายไปสิ) อันนี้ราวๆ อนุบาล.2-ป.4 ได้ค่ะ
พอเข้าป.5-ป.6 อ้วนกว่านี้อีก อิอิ ^^ ถ้าหารูปเจอจะเอามาลงให้นะค่ะ
พอขึ้นมาม.ต้นก็ยังอ้วนดำ แถมผมสั้นตามสไตล์เด็กติ่ง มีแต่คนมาชอบเพื่อนเรา เราก็อิจฉามันนะ แถมคิดในใจ ตูออกจะสวยไมไม่มาจีบกุบ้าง สมัยตอนม.ต้นมันจะมีระเบียงไว้ล้างมือหน้าห้องเราตอน ม.2 เราก็นั่งตรงกับประตู เวลาพวกรุ่นพี่หรือเพื่อนห้องอื่นมาล้างมือ เราก็จะมโนไปก่อนละ มาล้างและชะเง่อมอง แบบนี้ตูแน่ๆ ตูแน่ๆ ที่เป็นคนถูกมอง เขินอยู่ในใจ แต่ผลลัพธ์คือ พวกพี่แกมองทะลุไปหาเพื่อนเราที่มันน่ารักหุ่นดี ผิวขาวใส (เออจบค่ะจบ ที่มโนไว้พังค่ะพัง) เราก็คิดละ ต้องลดอีกไม่งั้นเราจะเรียนจบม.3 ทั้งที่สภาพเป็นอีเพิงแบบนี้หรอ ??? ตอนช่วงม.ต้นก็พยายามคุมอาหารออกกำลังกาย และเล่นกีฬาบางอย่าง เต้นตามเพลงเกาหลีทุกคืนก่อนจะเข้านอน วันละ ชม. สองชม. จนน้ำหนักก็ลดลงมาจาก 85 กิโลกลายเป็น 76-78 กิโลได้
จนเรากำลังจะขึ้น ม.4 ก็เริ่มมีแฟนกับเค้าละว่ะ (รู้สึกดีใจชิบเป๋ง) แต่เพราะเจอกันแค่ทาง hi 5 (สมัยนั้นนี้อย่างฮิตใครไม่เล่นนี้ outdoor มาก) เป็นเพื่อนของพี่สาวเรา และเราเคยเจอเค้าที่สนามกีฬาครั้งนึง แต่เค้าไม่ได้สนใจในตัวเราเลยนะตอนเจอครั้งแรก(ตอนนั้นยังไม่รู้จักกัน) ก็คุยไปก็ตามประสาคนเค้าอยากมีแฟน ก็คบไปพอเจอตัวเราสภาพเราผมสั้น (แถมตอนนั้นคิดว่าจะรอดจากการตรวจระเบียบครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดขึ้นม .4 ดันโดนตัดเลยติ่งหูเพราะดันไปซอยมา) คบได้แค่เดือนเดียวก็เลิก เราไม่เสียใจไหมก็ต้องเสียใจและ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกำลังใจลดน้ำหนักต่อ คราวนี้ลงมาเหลือราวๆ 75 ได้แบบคงตัวเลยนะ ผ่านไปสักพักก็ไปปิ๊งเพื่อนคนนึงรู้จักกันทาง MSN (ยังไม่เคล็ด 55555) เป็นเพื่อนห้องสายวิทย์ด้วยกันก็คุยไปจะ 6 เดือนได้ก็รู้สึกตัวละว่าชอบเขาเข้าให้ ก็แสดงออกนะ แต่มัน
สุดท้ายมันโดนทอมหักอกและมาขอเราเป็นแฟน (ตรูจะดีใจดีไหมเนี้ย -*-) อ่าก็ครบไปทั้งที่รู้นะ ครบและไปไม่รอด 3 เดือนเลิก เฮิร์ตสิครัชจะรอไร คราวนี้เราก็อยู่วังวนของความรู้สึกนี้ เเละเราก็เข้าค่ายบ่อยเจอเพื่อนฝูงเริ่มเยอะขึ้นด้วย
จนขึ้นปี 1 (ดันมาอยู่ มหาลัยเดียวกัน แค่ต่างคณะ เจ้ากรรมนายเวรดีจริง ตอนมอ ปลายก็อยู่สายวิทย์ด้วยกันทั้งคู่ ห้องเรียนมันก็ดัน
"มันต้องเสียดายที่ทิ้งเรา" ลดจนน้ำหนักเริ่มลงมาอยู่ต่ำกว่า 70 กิโล ก็ลดต่อนะเพื่อตัวเอง เหลือราวๆ 66-68 กิโล (บอกก่อนเราสูง 168 ซม. ละนะพอขึ้นมหาลัยละมันก็หยุดแค่นั้น)
น้ำหนักขนาดนี้ก็ไม่ใช่หุ่นดีไรนะ ก็ดันไปเจอ ผช คนนึงเพื่อนของเพื่อนไปๆมาๆก็คบเป็นแฟน และก็ไปไม่รอดตามเดิม 555555 มันก็ทำให้เราฮึดต่ออีก ตูต้องลดน้ำหนักกกกกกกกกกกกกก!!! จนคราวนี้เหลือ 64-66 กิโล แบบคนตัว ช่วงนั้นผมเริ่มยาวละ(ม ปลายเค้าไม่ยอมให้ไว้ เก็บกดยันมหาลัย ไว้
พอโสดสิ่งเดียวที่ได้คือ ควรรักตัวเอง ทำไรควรคิดหน้าคิดหลัง คิดถึงพ่อแม่ น้ำหนักลดขนาดนี้เราก็รักษาระดับด้วยการออกกำลังกายทุกวันด้วยความเพียร มีวินัยกับตัวเอง อยู่มหาลัยการกินก็ไม่ได้เยอะ กินน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก เน้นอาหารคลีนละผลไม้ เป็นหลัก ตอนนี้ชีวิตก็ดีขึ้นเยอะ
จากเดิมที่ไม่เคยมีคนสนใจ กลับมีคนให้ความสนใจในตัวเรา แต่เราไม่คิดจะมีแฟนใหม่ละ(เคล็ดจนตัวตาย 55555) ก็ใช้ชีวิตแบบคนรอบข้างชอบดีกว่าคนเมินเรา รูปเราเดียวจะมาลงให้ดูนะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ขอโทษด้วยนะค่ะพรุ่งนี้จะรีบหาและรีบมาลงให้ดู
นี้จะเป็นรูปรวมตั้งแต่สมัยปี 1ถึงปี 2 จนถึงปัจจุบันที่เริ่มเปลี่ยนตัวเอง (เหมือนจะประชดตัวเองด้วยแหละ 5555)
ปล.รูปเราถ่ายจากกล้องตอนคืนอาจจะมีแสงสะท้อนบ้างต้องขอโทษด้วย เราเพิ่งหัดเขียนในนี้ครั้งแรกอาจจะเรียบเรียงไม่ดี หรือผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะค่ะ อ่านเอามัน อยากแชร์ประสบการณ์เฉยๆ
ปล.ห้ามเอาไปทำเป็นรูปคนลดน้ำหนักด้วยยานะค่ะ บอกเลยออกกำลังกายล้วนๆ!!!! ถึงจะนานหน่อยแต่ไม่โยโย้แน่นอน ถ้าจับได้เล่นถึงตำรวจนะค่ะ
ปล.รูปจะถยอยลงให้ดูนะค่ะถ้าเจอ มันเปลี่ยนไปเยอะจนจากเดิมหน้ากลมกลายเป็นคนมีโหนกไปได้(โหนกนี้ได้มาจากแม่เต็มๆ บ่องตง 5555)
ขอบคุณที่อ่านจบนะค่ะ ยาวไปหน่อยนะค่ะ งงกับวิธีการโพสมาก เน้นอ่านเป็นหลักนะค่ะ