เห็นช่วงนี้กระทู้แนวนี้ฮอตฮิตกันมาก เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์สยองขวัญของเราบ้างค่ะ เริ่มประสบการณ์เบาๆก่อนละกันนะค่ะ ช่วงเด็กเราอยู่กับตาและยาย จนกระทั่งตาและยายเสีย โดยยายเสียก่อน แล้วปีถัดมาตาก็เสียค่ะ ตอนยายเราเสียแม่เราก็มารับเราไปอยู่ด้วย (แม่อยู่ภาคอีสาน เราอยู่ภาคใต้) เราไปอยู่กับแม่เกือบๆปีตาก็เดินทางมาเยี่ยม วันที่แกกลับเราร้องไห้ไม่อยากให้กลับแกบอกเดี๋ยว ก็เจอกันอีก อย่าร้องๆ ประมาณเดือนถัดมาป้าโทรมาบอกว่าตาเสียแล้ว เรานี่ร้องไห้หนักมาก เดินทางกลับใต้กันวันนั้นเลยค่ะ กลับไปถึงก็มีงานศพตาแล้ว จนวันที่ 3 พอเผาตาแล้วเราก็กลับมาพักที่บ้าน ญาติๆนั่งพูดคุยกันอยู่หน้าบ้าน เราเข้ามาในบ้านกำลังจะเดินเข้าห้องโถงซึ่งปิดไฟอยู่นั้น ก็เห็นเป็นเงา ของคนนั่งรินเหล้าอยู่ที่พื้น ซึ่งเป็นที่ๆตาชอบนั่งเป็นประจำ เราน้ำตาไหล หันหลังจะวิ่งออกไปบอกทุกคน แต่คิดอีกทีกลัวตาหายไปพอหันมาก็ไม่เห็นตาแล้ว ร้องไห้เลยค่ะ แต่เราก็ไม่ได้บอกใคร วันรุ่งขึ้นจะไปเก็บกระดูกตากันที่วัด ปรากฎว่าศพตาเผาไม่หมด เหลือช่วงกระดูกสะโพกท่อนใหญ่ ความคิดเรา แวบขึ้นมาทันทีเลย ตาเคยบอกไว้ว่าตอนแกตายเมื่อเผาจะต้องใส่กะลามะพร้าวที่มีรูกับหญ้าเจ้าชู้เผาไปด้วยไม่งั้นจะเผาไม่หมด (ตาเรามีคาถาอาคมนิดหน่อยค่ะ แกเคยเราช่วงวัยหนุ่มให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้)ทุกคนงงกันมาก สัปเหร่อเลยบอกว่าไฟคงดับหมาเลยมาเขี่ยเล่น แต่เราบอกแม่เรื่องที่ตาเคย บอกไว้ทุกคนก็งงๆ เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างแต่เราเชื่อพันเปอร์เซ็น เราเลยเล่าให้ฟังถึงเรื่องเมื่อคืนที่เห็นตา อาจเป็นเพราะตาเป็นห่วงเราและเราลืมทำตามคำพูดของแก นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นวิญญาณค่ะ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป
พอปิดเทอมถึงกลับไปเที่ยวใต้ ก็ไปนอนที่บ้านหลังที่เห็นวิญญาณของตา บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ตาและยายสร้างให้แม่ค่ะ บริเวณบ้านจะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม หน้าบ้านเฉียงๆหน่อย เวลามีคนมาเยี่ยมจะมองไม่ค่อยเห็นบ้านเราสักเท่าไหร่ ต้องโทรมาถามทุกทีเลยถึงจะเจอ มาถึงวันแรกก็ทำความสะอาดบ้านกันยกใหญ่เหนื่อยมาก ตกเย็นทุกคนเพลียหลับกันเร็วมาก เรายังนอนไม่หลับรู้สึกแปลกๆ หนาวๆร้อน ลืมตามองทุกคนก็เห็นนอนกรนกันหมดแล้ว (นอนรวมกันห้องโถงค่ะเพราะอากาศร้อนมีพัดลมตัวเดียวทั้งบ้าน 55) เลยข่มตาหลับบ้างเคลิ้มๆ รู้สึกว่าอึดอัดขยับตัวไม่ได้เลย พยายามส่งเสียงเรียกทุกคน ก็พูไม่ได้ แล้วพอลืมตาก็เห็นเป็นลักษณะคล้ายคนมาหัวเราะใส่หน้าเราเลย แทบช็อก สักพักก็หายไป กว่าจะข่มตานอนได้ ดึกเลย รุ่งเช้าเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกไปไหว้เจ้าที่เลย มาถึงยังไม่ได้ไหว้เลยนะเรา คืนถัดๆมาก็เจอค่ะ มาแบบเห็นเป็นพราหมณ์นุ่งขาวห่มขาวเดินวนรอบบ้านเลยเห็นกันทั้งบ้าน แม่บอกอย่ากลัวเค้าคือตาชีพราหมณ์ เป็นเจ้าที่ มาคุ้มครองเรา (คืนนั้นพ่อไม่อยู่บ้านมีแต่แม่ ย่า เรา และน้องเรา) ทุกคนจะไม่ค่อยเจอมีแต่เราที่โดนอำบ่อยๆ เพราะบ้านอยู่หลังวัด เป็นที่ที่คนโบราณชอบบอกกันว่าเป็นทางผีผ่าน เหมือนเป็นทางเดินของคนสมัยก่อนอ่ะค่ะ ที่บ้านเลยจะดูน่ากลัวๆ นิดนึง แต่เราก็เฉยๆนะ เหมือนเป็นบ้านของเรามั้งเลยไม่ค่อยกลัวแต่ที่เจอแบบนอนสต้อปเลยคือช่วงม.6 เราย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านนี้แล้ว (ย้ายมาตอนม.4) ก็อ่านหนังสือสอบเหมือนเด็กเตรียมแอดทั่วๆไป มีอยู่คืนนึง นอนหลับไป กำลังเคลิ้ม รู้สึกร้อนๆหนาวๆที่ปลายเท้า อากาศเย็นยะเยือกขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ (คนที่เคยโดนจะทราบดีค่ะว่าเป็นแบบไหน) วูบๆวาบๆมาที่ปลายเท้า ขนลุก ขยับไม่ได้ รู้ละว่าถูกอำแรกๆก็กลัวนะ คิดว่าเห้ยโดนอีกแล้วหรอ สักพักก็ออกไป เพลียมาก คืนต่อๆมาก็โดนอีก ในความรู้สึกเหมือนจะเป็นผู้ชายกับผู้หญิง สลับวันกันมาเลยจ้า สนุกกันใหญ่ ไอ้เราก็ไม่ไหวละ สลัด คนจะหลับจะนอน เลยด่าออกไปด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง นางก็ล่าถอยออกไป แต่ยังไม่เข็ดกันนะ ถัดจากวันที่เราด่าไปแล้วนั้นนานมาทีไม่ถี่เหมือนตอนแรก จากที่กลัวก็เริ่มรำคาญ พอรู้ว่ามันจะมาแล้วเราจะนอนคว่ำทันที หลังๆเราเลยไม่ค่อยนอนหงายเพราะเป็นท่าเบสิกที่จะโดนอำได้ง่ายมาก เราเลยเล่าให้แม่ฟังซึ่งโดนมาจนจะจบมอหกละ แม่ทำหน้าอึ้งๆ แกบอกกเคยไปดูหมอมา เค้าบอกว่ามีผีเร่ร่อนมาขออยู่ที่ตอต้นตาลหน้าบ้าน 2 ตน เป็นหญิงกะชาย เราพอได้ยินแม่ว่า อารมณ์ปรี๊ดเลย เดินไปด่าถึงตอเลยจ้ะ ด่าอย่างแสบทรวง หลังจากนั้นก็ไม่มาให้เห็นอีกเลย 555 สะใจ ด่าชนะผี พอจบมอหกแอดติดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งทุกคนคงทราบกันดีหากเอ่ยชื่อ เป็นมหาลัยที่จังหวัดนครปฐมค่ะ คงไม่ต้องกล่าวถึงความเฮี้ยน คงจะทราบๆกันดีจากหลายๆกระทู้ที่ผ่านมา เดี๋ยวมาเล่าต่อนะค่ะ ขอโทษที่เกริ่นมาซะยาว ของจริงจะต่อจากนี้ค่ะ ขออาบน้ำแปปนาาา คันหนังศรีษะอย่างแรง
ประสบการณ์สยองของการมีสัมผัสที่ 6
พอปิดเทอมถึงกลับไปเที่ยวใต้ ก็ไปนอนที่บ้านหลังที่เห็นวิญญาณของตา บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ตาและยายสร้างให้แม่ค่ะ บริเวณบ้านจะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม หน้าบ้านเฉียงๆหน่อย เวลามีคนมาเยี่ยมจะมองไม่ค่อยเห็นบ้านเราสักเท่าไหร่ ต้องโทรมาถามทุกทีเลยถึงจะเจอ มาถึงวันแรกก็ทำความสะอาดบ้านกันยกใหญ่เหนื่อยมาก ตกเย็นทุกคนเพลียหลับกันเร็วมาก เรายังนอนไม่หลับรู้สึกแปลกๆ หนาวๆร้อน ลืมตามองทุกคนก็เห็นนอนกรนกันหมดแล้ว (นอนรวมกันห้องโถงค่ะเพราะอากาศร้อนมีพัดลมตัวเดียวทั้งบ้าน 55) เลยข่มตาหลับบ้างเคลิ้มๆ รู้สึกว่าอึดอัดขยับตัวไม่ได้เลย พยายามส่งเสียงเรียกทุกคน ก็พูไม่ได้ แล้วพอลืมตาก็เห็นเป็นลักษณะคล้ายคนมาหัวเราะใส่หน้าเราเลย แทบช็อก สักพักก็หายไป กว่าจะข่มตานอนได้ ดึกเลย รุ่งเช้าเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกไปไหว้เจ้าที่เลย มาถึงยังไม่ได้ไหว้เลยนะเรา คืนถัดๆมาก็เจอค่ะ มาแบบเห็นเป็นพราหมณ์นุ่งขาวห่มขาวเดินวนรอบบ้านเลยเห็นกันทั้งบ้าน แม่บอกอย่ากลัวเค้าคือตาชีพราหมณ์ เป็นเจ้าที่ มาคุ้มครองเรา (คืนนั้นพ่อไม่อยู่บ้านมีแต่แม่ ย่า เรา และน้องเรา) ทุกคนจะไม่ค่อยเจอมีแต่เราที่โดนอำบ่อยๆ เพราะบ้านอยู่หลังวัด เป็นที่ที่คนโบราณชอบบอกกันว่าเป็นทางผีผ่าน เหมือนเป็นทางเดินของคนสมัยก่อนอ่ะค่ะ ที่บ้านเลยจะดูน่ากลัวๆ นิดนึง แต่เราก็เฉยๆนะ เหมือนเป็นบ้านของเรามั้งเลยไม่ค่อยกลัวแต่ที่เจอแบบนอนสต้อปเลยคือช่วงม.6 เราย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านนี้แล้ว (ย้ายมาตอนม.4) ก็อ่านหนังสือสอบเหมือนเด็กเตรียมแอดทั่วๆไป มีอยู่คืนนึง นอนหลับไป กำลังเคลิ้ม รู้สึกร้อนๆหนาวๆที่ปลายเท้า อากาศเย็นยะเยือกขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ (คนที่เคยโดนจะทราบดีค่ะว่าเป็นแบบไหน) วูบๆวาบๆมาที่ปลายเท้า ขนลุก ขยับไม่ได้ รู้ละว่าถูกอำแรกๆก็กลัวนะ คิดว่าเห้ยโดนอีกแล้วหรอ สักพักก็ออกไป เพลียมาก คืนต่อๆมาก็โดนอีก ในความรู้สึกเหมือนจะเป็นผู้ชายกับผู้หญิง สลับวันกันมาเลยจ้า สนุกกันใหญ่ ไอ้เราก็ไม่ไหวละ สลัด คนจะหลับจะนอน เลยด่าออกไปด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง นางก็ล่าถอยออกไป แต่ยังไม่เข็ดกันนะ ถัดจากวันที่เราด่าไปแล้วนั้นนานมาทีไม่ถี่เหมือนตอนแรก จากที่กลัวก็เริ่มรำคาญ พอรู้ว่ามันจะมาแล้วเราจะนอนคว่ำทันที หลังๆเราเลยไม่ค่อยนอนหงายเพราะเป็นท่าเบสิกที่จะโดนอำได้ง่ายมาก เราเลยเล่าให้แม่ฟังซึ่งโดนมาจนจะจบมอหกละ แม่ทำหน้าอึ้งๆ แกบอกกเคยไปดูหมอมา เค้าบอกว่ามีผีเร่ร่อนมาขออยู่ที่ตอต้นตาลหน้าบ้าน 2 ตน เป็นหญิงกะชาย เราพอได้ยินแม่ว่า อารมณ์ปรี๊ดเลย เดินไปด่าถึงตอเลยจ้ะ ด่าอย่างแสบทรวง หลังจากนั้นก็ไม่มาให้เห็นอีกเลย 555 สะใจ ด่าชนะผี พอจบมอหกแอดติดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งทุกคนคงทราบกันดีหากเอ่ยชื่อ เป็นมหาลัยที่จังหวัดนครปฐมค่ะ คงไม่ต้องกล่าวถึงความเฮี้ยน คงจะทราบๆกันดีจากหลายๆกระทู้ที่ผ่านมา เดี๋ยวมาเล่าต่อนะค่ะ ขอโทษที่เกริ่นมาซะยาว ของจริงจะต่อจากนี้ค่ะ ขออาบน้ำแปปนาาา คันหนังศรีษะอย่างแรง