สวัสดีค่ะ เรื่องราวนี้เป็นประสบการณ์ที่ฉันไปเจอมาด้วยตัวเอง และเชื่อว่ามันจะติดอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน... เพราะมันเกิดขึ้นในคืนก่อนวันสำคัญที่สุดของชีวิต นั่นคือ วันรับปริญญา ค่ะ
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ฉันและครอบครัวรวม 11 ชีวิต ออกเดินทางจากบ้านเกิด มุ่งหน้าสู่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อทำความฝันที่รอคอยมานานกว่า 2 ปีให้เป็นจริง
การเดินทางในช่วงบ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น เราแวะเยี่ยมญาติที่สุราษฎร์ฯ ก่อนจะเข้าถึงตัวเมืองนครฯ ในช่วงหัวค่ำ เวลา 19.45 น. เราก็มาถึงโรงแรมที่จองไว้ 4 ห้อง เพื่อให้พอดีกับทุกคน
ห้องพักส่วนใหญ่ของเราอยู่ชั้นล่าง ติดกัน 3 ห้อง คือ
A102 น้าชาย น้าสาว น้องชาย 2 คน เป็นเตียงคิงไซส์ 6.5 ฟุต และเพิ่มที่นอนเสริม
A103 ฉัน คุณยาย เป็นเตียงแฝด 3.5 ฟุต
A104 พี่สาว คุณยายอีก 2 คน เป็นเตียงแฝดและเพิ่มที่นอนเสริม
ส่วนอีกห้องคือ B202 ที่อยู่ชั้นบน เป็นห้องของน้องสาวกับแฟน
ฉันนอนกับคุณยายที่ห้อง A103 แต่ด้วยความหิว เราจึงไปรวมตัวกันที่ห้อง A102 ของน้าเพื่อทานอะไรรองท้อง พอทานเสร็จทุกคนแยกย้ายกลับห้องเพื่อพักผ่อน ในห้องจึงเหลือแค่น้าชายและน้องชายทั้ง 2 ที่หลับไปแล้ว
ฉัน น้าสาว และ น้องสาว เราสามคนก็จับกลุ่มคุยเล่นกัน ฉันนั่งอยู่ด้านล่างที่พื้นกับน้องสาว ส่วนน้าสาวนั่งอยู่บนเตียง บรรยากาศตอนนั้นเป็นไปอย่างสบายๆ จนกระทั่ง... น้าสาวเงยหน้ามองเพดาน แล้วพูดขึ้นมาลอยๆ ด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปว่า...
"บรรยากาศที่นี่... มันชวนให้รู้สึกแปลกๆ นะ"
ฉันเป็นคนที่ชอบดูรายการเล่าเรื่องผีมาก เมื่อได้ยินคำนั้น ฉันก็หันมาสบตากับน้า... และพูดประโยคที่ชาวคอรายการผีทุกคนรู้จักดี... พร้อมกัน
"สวัสดีค่ะ... พี่แจ็ค"
....ทันทีที่สิ้นคำว่า "พี่แจ็ค" ไฟในห้องก็เริ่มติดๆ ดับๆ ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอย่างฉับพลัน น้องที่นั่งข้างๆ ฉันรีบลุกขึ้นยืนทันที พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า...
"ลูกจะไปนอนแล้ว! ไม่ต้องตามมานะ!"
น้องพูดจบก็เปิดประตูเดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้ความเยือกเย็นเกาะกุมพวกเราอยู่ ฉันที่นั่งอยู่บนพื้นรีบ "ดีดตัว" ขึ้นไปบนเตียงอย่างรวดเร็ว ส่วนน้าก็ยื่นหมอนใบหนึ่งมาให้ฉันดู...
บนปลอกหมอนมี รอยหยดเลือดแห้งๆ ขนาดเล็ก ติดอยู่ น้าจ้องหน้าฉันแล้วพูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ ที่ไม่ได้น่าสนุกเลยแม้แต่น้อย...
"หลอนๆ อยู่... นะ"
ฉันยิ้มตอบแบบฝืนๆ ไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว รีบขอตัวออกจากห้องมาแทบไม่ทัน
เมื่อกลับถึงห้อง A103 ฉันก็รีบเตรียมเสื้อผ้าสำหรับวันรุ่งขึ้น เพราะจะต้องออกไปแต่งหน้าตั้งแต่ ตี 1 ใช้เวลาเตรียมตัวจนถึงประมาณ 22.45 น. ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาทั้งวันทำให้ฉันรู้สึกง่วงจัด
ทั้งๆ ที่เป็นเตียงแฝดขนาด 3.5 ฟุตสองเตียง แต่ด้วยความรู้สึกที่ไม่ปกติ ทำให้ฉันเลือกที่จะปีนขึ้นไป นอนเบียดกับคุณยาย บนเตียงเดียวกัน ปล่อยให้อีกเตียงว่างเปล่า...
ฉันกำลังเคลิ้มหลับ... ในช่วงเวลาที่กึ่งหลับกึ่งตื่นนั้นเอง
ฉันสัมผัสได้ถึง 'บางอย่าง'
ที่ปลายเตียงฝั่งที่คุณยายนอนอยู่ มี เงาตะคุ่มๆ ร่างหนึ่งยืนนิ่งอยู่... ฉันเป็นคนที่มีสัมผัสและเคยเห็นอะไรแบบนี้มาบ้างแล้ว จึงพยายามข่มตาหลับ คิดว่าจะไม่สนใจแล้วนอนต่อไป
แต่เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาดูอีกครั้ง... เงาตะคุ่มนั้นไม่ได้อยู่ที่ปลายเตียงอีกแล้ว
มันมายืนอยู่ข้างเตียงฝั่งฉัน... และเข้ามาใกล้จนเกือบถึงกลางลำตัวแล้ว!
ความกลัวทำให้ฉันพยายาม เรียกคุณยาย แต่เสียงก็เหมือนติดอยู่ในลำคอ ไม่สามารถเปล่งออกมาได้ ฉันพยายาม ดิ้นรนอย่างสุดแรง จนหลุดจากพันธนาการของความกลัวได้ชั่วขณะแล้วข่มตาหลับต่อ...
แต่มันไม่ยอมจบ! เงาประหลาด รุกคืบเข้ามาหาฉันอีกครั้ง และอีกครั้ง... จนเป็น ครั้งที่สี่!
ความอดทนขาดผึง! ฉันตัดสินใจ เผชิญหน้า และพูดออกไปด้วยความโมโหอย่างควบคุมไม่ได้...
"ถ้ายังมายุ่งกับกูอีก... กูจะแช่งไม่ให้ได้ผุดได้เกิดเลย!"
ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา... คือ 23.33 น. เสียงในใจก่นด่าเบาๆ... "เล่นกับกูตั้งแต่ยังไม่ถึงชั่วโมงเลยนะ..."
หลังจากคำพูดนั้น ความเงียบก็กลับมาปกคลุมห้องอีกครั้ง และฉันก็ไม่มีอะไรมารบกวนจนกระทั่งต้องลุกออกไปแต่งหน้าในเวลา 01.30 น.... โดยปล่อยให้คุณยายนอนอยู่คนเดียวในห้องนั้น
ยังมีต่อออ
🕯️ คืนหลอนก่อนวันสำคัญ... ณ เมืองนครศรีธรรมราช
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ฉันและครอบครัวรวม 11 ชีวิต ออกเดินทางจากบ้านเกิด มุ่งหน้าสู่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อทำความฝันที่รอคอยมานานกว่า 2 ปีให้เป็นจริง
การเดินทางในช่วงบ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น เราแวะเยี่ยมญาติที่สุราษฎร์ฯ ก่อนจะเข้าถึงตัวเมืองนครฯ ในช่วงหัวค่ำ เวลา 19.45 น. เราก็มาถึงโรงแรมที่จองไว้ 4 ห้อง เพื่อให้พอดีกับทุกคน
ห้องพักส่วนใหญ่ของเราอยู่ชั้นล่าง ติดกัน 3 ห้อง คือ
A102 น้าชาย น้าสาว น้องชาย 2 คน เป็นเตียงคิงไซส์ 6.5 ฟุต และเพิ่มที่นอนเสริม
A103 ฉัน คุณยาย เป็นเตียงแฝด 3.5 ฟุต
A104 พี่สาว คุณยายอีก 2 คน เป็นเตียงแฝดและเพิ่มที่นอนเสริม
ส่วนอีกห้องคือ B202 ที่อยู่ชั้นบน เป็นห้องของน้องสาวกับแฟน
ฉันนอนกับคุณยายที่ห้อง A103 แต่ด้วยความหิว เราจึงไปรวมตัวกันที่ห้อง A102 ของน้าเพื่อทานอะไรรองท้อง พอทานเสร็จทุกคนแยกย้ายกลับห้องเพื่อพักผ่อน ในห้องจึงเหลือแค่น้าชายและน้องชายทั้ง 2 ที่หลับไปแล้ว
ฉัน น้าสาว และ น้องสาว เราสามคนก็จับกลุ่มคุยเล่นกัน ฉันนั่งอยู่ด้านล่างที่พื้นกับน้องสาว ส่วนน้าสาวนั่งอยู่บนเตียง บรรยากาศตอนนั้นเป็นไปอย่างสบายๆ จนกระทั่ง... น้าสาวเงยหน้ามองเพดาน แล้วพูดขึ้นมาลอยๆ ด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปว่า...
"บรรยากาศที่นี่... มันชวนให้รู้สึกแปลกๆ นะ"
ฉันเป็นคนที่ชอบดูรายการเล่าเรื่องผีมาก เมื่อได้ยินคำนั้น ฉันก็หันมาสบตากับน้า... และพูดประโยคที่ชาวคอรายการผีทุกคนรู้จักดี... พร้อมกัน
"สวัสดีค่ะ... พี่แจ็ค"
....ทันทีที่สิ้นคำว่า "พี่แจ็ค" ไฟในห้องก็เริ่มติดๆ ดับๆ ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอย่างฉับพลัน น้องที่นั่งข้างๆ ฉันรีบลุกขึ้นยืนทันที พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า...
"ลูกจะไปนอนแล้ว! ไม่ต้องตามมานะ!"
น้องพูดจบก็เปิดประตูเดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้ความเยือกเย็นเกาะกุมพวกเราอยู่ ฉันที่นั่งอยู่บนพื้นรีบ "ดีดตัว" ขึ้นไปบนเตียงอย่างรวดเร็ว ส่วนน้าก็ยื่นหมอนใบหนึ่งมาให้ฉันดู...
บนปลอกหมอนมี รอยหยดเลือดแห้งๆ ขนาดเล็ก ติดอยู่ น้าจ้องหน้าฉันแล้วพูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ ที่ไม่ได้น่าสนุกเลยแม้แต่น้อย...
"หลอนๆ อยู่... นะ"
ฉันยิ้มตอบแบบฝืนๆ ไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว รีบขอตัวออกจากห้องมาแทบไม่ทัน
เมื่อกลับถึงห้อง A103 ฉันก็รีบเตรียมเสื้อผ้าสำหรับวันรุ่งขึ้น เพราะจะต้องออกไปแต่งหน้าตั้งแต่ ตี 1 ใช้เวลาเตรียมตัวจนถึงประมาณ 22.45 น. ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาทั้งวันทำให้ฉันรู้สึกง่วงจัด
ทั้งๆ ที่เป็นเตียงแฝดขนาด 3.5 ฟุตสองเตียง แต่ด้วยความรู้สึกที่ไม่ปกติ ทำให้ฉันเลือกที่จะปีนขึ้นไป นอนเบียดกับคุณยาย บนเตียงเดียวกัน ปล่อยให้อีกเตียงว่างเปล่า...
ฉันกำลังเคลิ้มหลับ... ในช่วงเวลาที่กึ่งหลับกึ่งตื่นนั้นเอง
ฉันสัมผัสได้ถึง 'บางอย่าง'
ที่ปลายเตียงฝั่งที่คุณยายนอนอยู่ มี เงาตะคุ่มๆ ร่างหนึ่งยืนนิ่งอยู่... ฉันเป็นคนที่มีสัมผัสและเคยเห็นอะไรแบบนี้มาบ้างแล้ว จึงพยายามข่มตาหลับ คิดว่าจะไม่สนใจแล้วนอนต่อไป
แต่เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาดูอีกครั้ง... เงาตะคุ่มนั้นไม่ได้อยู่ที่ปลายเตียงอีกแล้ว
มันมายืนอยู่ข้างเตียงฝั่งฉัน... และเข้ามาใกล้จนเกือบถึงกลางลำตัวแล้ว!
ความกลัวทำให้ฉันพยายาม เรียกคุณยาย แต่เสียงก็เหมือนติดอยู่ในลำคอ ไม่สามารถเปล่งออกมาได้ ฉันพยายาม ดิ้นรนอย่างสุดแรง จนหลุดจากพันธนาการของความกลัวได้ชั่วขณะแล้วข่มตาหลับต่อ...
แต่มันไม่ยอมจบ! เงาประหลาด รุกคืบเข้ามาหาฉันอีกครั้ง และอีกครั้ง... จนเป็น ครั้งที่สี่!
ความอดทนขาดผึง! ฉันตัดสินใจ เผชิญหน้า และพูดออกไปด้วยความโมโหอย่างควบคุมไม่ได้...
"ถ้ายังมายุ่งกับกูอีก... กูจะแช่งไม่ให้ได้ผุดได้เกิดเลย!"
ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา... คือ 23.33 น. เสียงในใจก่นด่าเบาๆ... "เล่นกับกูตั้งแต่ยังไม่ถึงชั่วโมงเลยนะ..."
หลังจากคำพูดนั้น ความเงียบก็กลับมาปกคลุมห้องอีกครั้ง และฉันก็ไม่มีอะไรมารบกวนจนกระทั่งต้องลุกออกไปแต่งหน้าในเวลา 01.30 น.... โดยปล่อยให้คุณยายนอนอยู่คนเดียวในห้องนั้น
ยังมีต่อออ