สวัสดีเพื่อนๆ พี่น้องชาวพันทิพ..วันนี้มีเรื่องมาแชร์เล่าสู่กันฟังค่ะ เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงและมีตัวตนอยู่จริงค่ะ พบได้ในสังคมกลางคืน เราเพิ่งเล่าเป็นครั้งแรก อาจจะพิมพ์ไม่ค่อยเก่งหรืออ่านงงอย่างไรต้องขออภัยด้วยน้า มือใหม่หัดพิมพ์จ้า..
เข้าเรื่องเลยค่ะ...
จขกท.ชื่อ หมิวค่ะ (นามสมมุติ) ในเหตุการณ์ตอนนั้นเรียนมหาลัยปี 1 ค่ะ ปัจจุบันนี้กำลังขึ้นปีที่ 2 ค่ะ อายุ 19 ปี
ย้อนไปเมื่อสี่เดือนที่แล้ว หมิวได้มีโอกาสไปเที่ยวผับค่ะ ! มากับเพื่อน 2 คนรวมเป็น 3 ค่ะ สาเหตุที่มาเพราะเพื่อนเฮิร์ตค่ะ อกหักกันมาไอเราเลยต้องห้อยตามพวกมันมาด้วย หมิวไม่ใช่คนเที่ยวนะค่ะ 5555 ตอนแรกๆ เราก็อยู่โต๊ะกับเพื่อนๆ ของเราค่ะ ลักษณะโต๊ะจะเป็นบาร์ยาวๆ ค่ะ เรายืนอยู่ริมนอก
สักพักก็มีกลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่งค่ะ มายืนข้างๆ โต้ะของเรา ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย กำลังหมุนเกม Pirate Kings อยู่เลย ช่วงนั้นกำลังฮิตๆ มีผู้ชายคนหนึ่งเค้ายืนอยู่ติดกับหมิว เขามาขอยืมไฟแช็กให้เพื่อนของเขาค่ะ แต่หมิวไม่ได้สูบบหรี่จึงยืมเพื่อนมาให้ แรกๆ เราก็ไม่ได้สนใจอะไรค่ะ อีกสักครู่ต่อมาเขาก็ชวนเราคุยค่ะ แนะนำตัวกัน (ตอนนั้นเรารำคาญสุดๆ ค่ะ 555) ได้ข้อมูลมา ผู้ชายคนนี้ชื่อซีค่ะ อายุ 27 ปี ทำงานมีบริษัทเป็นของตัวเอง เรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งย่านศาลายา คุยกันจนผับจะปิดค่ะ เพื่อนเราก็จะกลับแล้ว เราเลยลาพี่ซีค่ะ แล้วพี่ซีก็ขอเบอร์เรา และอาสาพาไปส่งเรากับเพื่อนๆ เราก็โอเคเว้ย จะได้ไม่ต้องเปลืองค่าแท็กซี่ พี่ซีหน้าตาดีค่ะ ขับรถสปอร์ต !! คือโปรไฟล์ดีมาก ไม่มีอะไรบกพร่องเลยค่ะ (เราก็แอบคิดนะ ว่าอายุ 27 ปีจริงหรอฟ้ะ ทำไมประสบความสำเร็จไวจัง มีครบทุกอย่างแล้ว)
พี่ซีมาส่งเรากับเพื่อนๆ ของเราที่บ้านเพื่อนค่ะ เพราะเรานอนบ้านเพื่อน ก่อนเราจะนอนพี่ซีก็ได้ส่งข้อความมาค่ะ ประมาณว่า ขอบคุณที่ให้โอกาสได้พูดคุยทำความรู้จัก เราก็แบบปริ่มสิค่ะ ปลื้มมาก 5555
แล้วสองวันต่อมาได้ พี่ซีก็นัดไปทานข้าวค่ะ มารับยันมหาลัยเลยนะค่ะ หมิวบอกพี่ซีว่าเลิกเรียนก็ 16.30 น. ค่ะ แต่จริงๆ อาจารย์เลตเวลาไปเกือบ 19.00 น.เราก็รีบโทรชวนเพื่อนสองคนที่ไปเที่ยวผับกับเรามาด้วยกัน ให้ไปเจอกันที่ห้าง เราไม่กล้าไปสองต่อสองค่ะ แล้วพอทานข้าวกันเสร็จพูดคุยอะไรกัน เพื่อนๆ ของเราสองคนมันก็เกิดอยากดูดวงกันค่ะ (อกหักพร้อมกันทั้งคู่) เราเลยบอกให้พี่ซีมาส่งที่สี่แยกห้วยขวางค่ะ จะดูดวงกันตรงพระพิฒเนศ 5555 แล้วก็มาจองคิวค่ะ เพราะคิวยาวมาก ถ้าเพื่อนๆ เคยมาดูดวงแถวนี้จะมีหมอดูเจ้านึงค่ะ ที่คิวยาวที่สุด เราพาเพื่อนมาจองคิวตอนสามทุ่ม กลับไปรอที่บ้าน แล้วได้พาพวกมันมาดูดวงกันก็ตีหนึ่งแล้วค่ะ ดูกันเสร็จสรรพ เพื่อนๆ ก็พากันเฮิร์ตอีกค่ะ ชวนกันไปเที่ยวผับเซ็ตเดิมสามคน สรุปไอเราก็ต้องไปกับพวกมันอีก - -" เราก็รีบไปแต่งตัวค่ะ แล้วก็นัดกันไปเจอที่ผับที่นู้นเลย ไปถึงก็ตีสามแล้วค่ะ ผับปิดตีสามครึ่ง เที่ยวเสร็จออกมาหน้าผับกำลังรอโบกแท็กซี่กลับบ้าน เพื่อนของหมิวก็เหลือบไปเห็นพี่ซีพอดีค่ะ เรากับเพื่อนอีกคนไม่เห็นนะค่ะ พอพี่ซีเห็นเพื่อนหมิวก็รีบวิ่งหนีเลยค่ะ ซึ่งเราก็งงๆ อยู่เหมือนกัน ว่าจะหนีทำไมอะไรแบบนี้ 5555 เพื่อนหมิวก็โกรธแทนเลยค่ะบอกให้หมิวเลิกคุย อีกสักพักตอนนั่งอยู่บนแท็กซี่แล้วพี่ซีก็โทรมาค่ะ มาขอโทษ อ้างว่าเพื่อนชวนมาอย่างงั้นอย่างงี้ เราก็ไม่ได้ถือสาอะไรหรอกค่ะ เพราะพึ่งได้คุยกัน 5555
แล้วหมิวกับพี่ซีก็ยังคุยกันทางข้อความค่ะและพี่ซีก็โทรมาหาบ้าง แรกๆ เค้าชอบนัดพาเราไปทานข้าว ดูหนัง เดือนนึงนี่ดูสี่ห้าเรื่องเลยค่ะ แรกๆ คือชีวิตดีมากกก ค่ะ พี่ซีไปเที่ยวผับที่ไหนก็ชวนเราไปตลอด เราก็ไปบ้างไม่ไปบ้างค่ะ เรามีโอกาสได้ถามพี่ซีบ่อยๆ ว่า ทำไมต้องมาคุยกับเรา เราก็ไม่ใช่คยสวยอะไรมากมาย อยู่ในผับหรือที่อื่นๆ ก็มีคนสวยเยอะแยะ พี่ซีก็ให้เหตุผลมาว่า พี่ซีไม่ชอบผู้หญิงที่ศัลยกรรมมากเกินไป ชอบคนที่เป็นธรรมชาติมากกว่า พี่ซีก็บอกว่าเค้ารู้สึกดีกับเราค่ะ ไม่เคยมารับผู้หญิงคนไหนมาทานข้าวดูหนังอะไรแบบนี้นานมากแล้ว นอกจากแฟนเก่าพี่ซีที่คบกันมาตั้ง 7 ปี เราก็โอเค แล้วก็ปลื้มพี่ซีมากค่ะ ในหลายๆ อย่าง ทั้งคำพูดคำจา พี่ซีเป็นคนพูดเพราะค่ะและจะชอบพูดจาแหย่เราบ้างอะไรแบบนี้ พี่ซีไม่เคยแตะต้องตัวเราแม้แต่จับมือเลยค่ะ มันปริ่มตรงนี้นี่แหล่ะว่าพี่ซีให้เกียรติเราดีไม่ได้ล่วงเกินอะไรขนาดเจอกันในผับ
หลังจากนั้นเราก็เมมเบอร์พี่ซีไว้ค่ะ และไลน์พี่ซีก็เด้งมาค่ะ พี่ซีก็ทักเราและหลังจากนั้นก็ติดต่อกันทางไลน์ตลอด
แรกๆ เราก็เจอกับพี่ซีตลอดค่ะ ยิ่งแรกๆ เลย อาทิตย์ละสามสี่ครั้ง พอหลังๆ ก็อาทิตย์ละครั้งก็พอ 5555 เราไม่กล้าชวนพี่ซีก่อนค่ะ ต้องเราให้พี่ซีชวนมาเอง เพราะกลัวเค้าติดงาน ไม่ว่างหรือออกกำลังกายอะไรอยู่เลย ต้องรอให้พี่ซีเป็นฝ่ายชวน
เราเริ่มตกหลุมรักพี่ซีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคนก็เตือนว่าบางทีเค้าอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้ เพราะอย่างที่ได้บอกไป คือพี่ซีมีทุกอย่างค่ะ เพื่อนๆ ก็เตือนว่าเค้าดู เจ้าชู้นะ ดูปลิ้นปล้อนตั้งแต่ตอนที่พี่ซีวิ่งหนีเราหน้าผับแล้ว 5555 เราก็ได้แต่พูดกับเพื่อนว่า เราก็แค่คุย ไม่คิดอะไรหรอก ได้ก็เอา ไม่ได้ก็ไม่เอาอะไรทำนองนี้ แต่ก็ได้แค่พูดค่ะ แต่ใจอะมันให้ไปแล้วทั้งใจนะค่ะ คือไม่เคยเจอใครดีเท่าพี่ซีเลยค่ะ
พอเวลาผ่านไปพี่ซีก็เริ่มห่างๆ ไปค่ะ จากที่อย่างน้อยเจอกันอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง หลังๆ นี่ไม่เจอเลยค่ะ บวกกับช่วงนี้ใกล้สอบ ทำเราหงอยไปเลยค่ะ แอบเสียใจลึกๆ 5555 แล้วพี่ซีก็มาชวนเราไปทะเลค่ะ !!! เท่านั้นแหล่ะ รู้สึกหัวใจมันมีชีวิตชีวาจากที่ตอนแรกๆ มันหงอย
แล้วหมิวก็มาทะเลกับพี่ซีและเพื่อนๆ ของพี่ซี (กลุ่มนี้เราไม่เคยรู้จักใครสักคนค่ะ) เป็นเพื่อนแก็งค์ที่พี่ซีชอบไปออกกำลังกายด้วยกันค่ะ ก็มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับพี่ซีมากขึ้น ที่ไม่ใช่เที่ยวห้าง เที่ยวกลางคืน เปลี่ยนบรรยากาศมาที่อื่นบ้างค่ะ ตอนแรกพวกเพื่อนๆ พี่เขาก็ถามพี่ซีค่ะ ว่าเราเป็นแฟนหรอ พี่ซีก็พูดแบบ เห้ยแฟนเลยหรอ อะไรแบบนี้ เราก็นอยด์ๆ นะแต่ไม่อะไร ตอนเอาของไปเก็บที่ห้องพักเค้าก็อาสาช่วยถือของค่ะ บอกเราว่า ขออาสาทำหน้าที่แฟนที่ดี (คืองงเมื่อกี้ยังบอกเพื่อนอยู่เลยว่าเราไม่ใช่แฟน) ห่านจิก ตอนที่อยู่กับพี่ซีคือเป็นช่วงที่มีความสุขมากที่สุดเลยนะค่ะ คือเรารักพี่ซีมากจริงๆ ปกติเราก็เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างห่วงสวยเหมือนกัน คือ กลัวดำมากๆ 5555 แต่เราก็ต้องแสดงตัวว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ห่วงสวยไม่กลัวดำ ยอมพายเรือคายัก ฝ่าลมทะเลและแสงแดดที่คุณก็รู้ว่าแดดประเทศไทยเป็นอย่างไร และ เป็นตอนเที่ยงด้วยนะค่ะท่านผู้ชมม !!!! ขนาดกันแดด SPF เป็นร้อยก็คงเอาไม่อยู่ค่ะ สรุปพายเรือข้ามไปอีกฟากนึงก็กินเวลา สามชั่วโมงไปแล้วกลับรวมตากแดดประมาณสี่ชั่วโมงได้ ไม่ต้องสืบค่ะ หลังจากพายเรือก็เป็นอีดำปากเป็ดเลยค่ะ !! 5555 แล้วตอนที่พี่ซีนอนกับเราก็นอนห้องเดียวนะค่ะ แต่พี่เค้าไม่เคยล่วงเกินอะไรเราเลยค่ะ พอเราตื่นเช้ามาพี่ซีเค้าก็นอนจ้องนะเราจนเราเขินหลับไปอีกรอบนึงเลย 5555 (เขินจนทำอะไรไม่ถูก)
อ้อ ลืมบอกเพื่อนๆ ด้วยค่ะว่าที่เราเคยแอบสงสัยว่าเค้าอายุ 27 ปีจริงหรอ (ดูจากการประสบความสำเร็จนะค่ะ) ตอนพี่ซีอาบน้ำ เราเคยแอบค้นบัตรประชาชนในกระเป๋าสตางค์ค่ะ จริงๆ พี่เค้าอายุ 34 ปี (ห่างกัน 15 ปี โอ้วแม่เจ้า!!!)
อยู่ด้วยกันมาสามวันสองคืน พวกเพื่อนๆ พี่ซีก็กลับกรุงเทพกันแล้วค่ะ พี่ซีเลยตกลงกับเราว่าจะอยู่ต่อด้วยกันอีกคืนนึง เราก็โอเคเซย์เยสไป ก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากมากที่สุดเลยนะค่ะ เพื่อนๆ ลองคิดดู แบบเล่นน้ำทะเลกันสองคน พายเรือกันสายคน ตกกลางคืนมาพี่ซีกับเราก็นั่งดื่มเหล้ากินริมทะเลค่ะ ก็คุยกับสัพเพเห่ระ เราก็ถามพี่ซีว่าทำไมต้องชวนเรามา พี่ซีก็ตอบว่าอยากรู้จักกับเรามากกว่านี้ พี่ซีเทคแคร์เราดีมากค่ะ เดินจูงมันกันสองคนเดินเล่นริมทะเลตอนกลางคืน เล่นชิงช้า ไกว่ชิงช้า คิดถึงโมเมนต์พระเอกนางเอกฉากโรแมนติกในละครเลยค่ะ 5555 แล้วก็นั่งดื่มเหล้าคุยเล่นกันจนตีสามก็ได้เข้าห้องนอนกันค่ะ
พี่ซีก็เหมือนเดิมค่ะ ไม่ได้ล่วงเกินอะไรเราเลยแม้แต่นิดเดียว กลางคืนพี่เค้าก็ห่มผ้าให้เรา แล้วบอกกู้ดไนท?แค่นี้แล้วก็นอน แล้วคืนนั้นเราก็สะดุ้งตื่นตลอดเลยค่ะ พี่เค้าก็ถามว่าเราเป็นอะไร เราก็บอกไม่เป็นอะไรแล้วก็หลับต่อ แล้วสักพักก็สะดุ้งตื่นมาอีกไม่รู้เป็นห่านเป็ดอะไร สักพักพี่ซีก็มากอดเราเบาๆ แปปนึงค่ะแล้วก็จูบที่หน้าผากเรา ปริ่มมมสุดค่ะ เค้าก็ห่มผ้าให้เรา แล้วเราก็หลับเลยไม่สะดุ้งอีก (ตอมากกก ด่าตัวเอง5555) แล้วพรุ่งนี้เช้าเราก็รีบกลับกรุงเทพกันเลยค่ะ รีบกลับเพราะมีสอบตอนบ่ายโมง พอจะถึงบ้านเรา เราก็บอกพี่เค้าว่าเรากลัวไม่ได้เจอพี่ซีอีก พี่ซีก็บอกว่าเจอสิต้องเจออยู่แล้ว พี่ซีก็จับมือเราค่ะ วินาทีนั้นไม่อยากจะจากกันเลย (สุดท้ายไปไม่ทันสอบรับประทาน F ไปเก๋ๆ ตัวนึง ) T T"
แล้วอีกสามสี่วันต่อมา เพื่อนก็นัดกันเที่ยวผับอีกค่ะ !! เราก็ชวนพี่ซีมาด้วย พี่ซีก็ตกลง พี่เค้าก็ตามมาค่ะ เราก็แบบดีใจมากค่ะ ก็มีโอกาสเที่ยวด้วยกันครั้งสุดท้ายก็วันนี้แหล่ะค่ะ...เพราะความสุขมันอยู่กับเราไม่นานจริงๆ
พอหลังๆ เค้าเริ่มไม่ค่อยทักเราค่ะ บางทีก็มามอนิ่งเราช่วงแปดโมง แล้วเราพิมพ์ไป พี่เค้าก็อ่านแต่ไม่ตอบค่ะ (เกลียดมากกก)
และในคืนนั้นเราก็มาเที่ยวกับเพื่อนเราค่ะ เป็นวันเสาร์คนเยอะมากกกกกก โอ้ยจะบ้าตาย !!! แต่เราไม่ได้บอกพี่ซีค่ะ มาแก้เครียด พอเราเข้ามาจะมาหาเพื่อนในโต๊ะก็ไม่มีอารมณ์อยากเที่ยวเลยค่ะ เซ้นส์มันแรงแบบคิดว่า พี่ซีต้องอยู่ในนี้แน่นอน !!! เราเลยขอเพื่อนกลับบ้านก่อน แล้วเราก็ออกมาหน้าผับจะกลับแล้ว แต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้เราต้องเดินไปดูที่ลานจอดรถก่อนค่ะ !!! แล้วก็เจอรถของพี่ซีค่ะ เราตกใจมาก แบบเฮ้ยไลน์เราไม่ตอบเลย แล้วมาเที่ยวก็ไม่บอกอีก เรานอยด์ค่ะ น้ำตาแทบไหล 5555 เป็นคนบ้า ตามหาพี่ซีในผับให้วุ่นเลยค่ะ ตอนแรกหาไม่เจอ แล้วเรายืนรอด้านนอกผับค่ะ เหลือบไปมองทางห้องน้ำผู้หญิง เห็นพี่ซีกำลังยืนเฝ้าผู้หญิงเข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ แต่เราไม่เห็นผู้หญิงนะ แล้วสักพักพี่ซีก็เดินเข้าไปในโต๊ะค่ะ แล้วเรา..ก็ต้องแอบสะกดรอยตามจนไปเจอโต๊ะพี่ซีค่ะ ด้วยความที่คนเยอะมาก จนเราถอดใจเลยค่ะ คือคนเยอะแบบเราได้แค่มองห่างๆ ซุ่มมองอยู่ ไปขอเบียดโต๊ะอื่นจนคนเค้ารำคาญเลย แต่ต้องตามพี่ซีไปให้เห็นกับตาว่าเค้ามากับใคร...
แต่เราก็ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นอยู่ดี เพราะคนมันเยอะ !! เห็นแต่พวกเพื่อนพี่ซีที่ชอบมาเที่ยวด้วยกันเป็นประจำ แล้วเราเลยออกมารอหน้าผับค่ะ บางครั้งก็ไปแอบมองอยู่ไกลๆ ว่าเค้าอยู่ที่โต๊ะกับใคร บางทีก็ไม่เห็นพี่ซีค่ะ คนเยอะจริงๆ แน่นผับจะแตก เห็นแต่เพื่อนพี่ซี บางทีเราสลับกับวิ่งไปดูที่ลานจอดรถว่าเค้ากลับไปยัง แต่ก็ยัง เราเลยออกมารอหน้าผับค่ะ เพื่อนเราก็ออกมาเห็นเราค่ะ แล้วก็ถามว่าไหนบอกกลับแล้ว เราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เพื่อนมันก็เห็นใจเราค่ะ เราบอกให้เพื่อนเราเข้าไปเที่ยวเถอะ ไม่อยากทำให้เพื่อนเราเฟลค่ะ เรารอพี่ซีตั้งแต่ 2.30 ยัน ตีห้าเลยค่ะ ผับปิด ตอนเรายืนอยู่ข้างนอก เราก็แอบเห็นพี่ซีเดินออกมาค่ะ พี่ซีเห็นเราก็ตกใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไป เราก็ไม่ได้ตามเข้าไปนะค่ะ เราแกล้งทำเป็นไม่เห็นพี่ซีด้วยซ้ำ T T"
รอจนผับปิดค่ะ แอบมาดักตรงทางออก พี่การ์ดเค้าก็ช่วยหาที่แอบให้เราค่ะ 5555 เหมือนพี่ซีไหวตัวทัน ทำเป็นเดือนออกมากับเพื่อนสองคน จากนั้นเราก็กลับบ้านค่ะ แบบเสียใจสุดๆๆ มากถึงมากจนบรรยายไม่ได้ 55555
เอาเข้าแล้วไง !! เมื่อฉันตกหลุมรักคาสโนว่าในคราบคนดี 555
เข้าเรื่องเลยค่ะ...
จขกท.ชื่อ หมิวค่ะ (นามสมมุติ) ในเหตุการณ์ตอนนั้นเรียนมหาลัยปี 1 ค่ะ ปัจจุบันนี้กำลังขึ้นปีที่ 2 ค่ะ อายุ 19 ปี
ย้อนไปเมื่อสี่เดือนที่แล้ว หมิวได้มีโอกาสไปเที่ยวผับค่ะ ! มากับเพื่อน 2 คนรวมเป็น 3 ค่ะ สาเหตุที่มาเพราะเพื่อนเฮิร์ตค่ะ อกหักกันมาไอเราเลยต้องห้อยตามพวกมันมาด้วย หมิวไม่ใช่คนเที่ยวนะค่ะ 5555 ตอนแรกๆ เราก็อยู่โต๊ะกับเพื่อนๆ ของเราค่ะ ลักษณะโต๊ะจะเป็นบาร์ยาวๆ ค่ะ เรายืนอยู่ริมนอก
สักพักก็มีกลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่งค่ะ มายืนข้างๆ โต้ะของเรา ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย กำลังหมุนเกม Pirate Kings อยู่เลย ช่วงนั้นกำลังฮิตๆ มีผู้ชายคนหนึ่งเค้ายืนอยู่ติดกับหมิว เขามาขอยืมไฟแช็กให้เพื่อนของเขาค่ะ แต่หมิวไม่ได้สูบบหรี่จึงยืมเพื่อนมาให้ แรกๆ เราก็ไม่ได้สนใจอะไรค่ะ อีกสักครู่ต่อมาเขาก็ชวนเราคุยค่ะ แนะนำตัวกัน (ตอนนั้นเรารำคาญสุดๆ ค่ะ 555) ได้ข้อมูลมา ผู้ชายคนนี้ชื่อซีค่ะ อายุ 27 ปี ทำงานมีบริษัทเป็นของตัวเอง เรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งย่านศาลายา คุยกันจนผับจะปิดค่ะ เพื่อนเราก็จะกลับแล้ว เราเลยลาพี่ซีค่ะ แล้วพี่ซีก็ขอเบอร์เรา และอาสาพาไปส่งเรากับเพื่อนๆ เราก็โอเคเว้ย จะได้ไม่ต้องเปลืองค่าแท็กซี่ พี่ซีหน้าตาดีค่ะ ขับรถสปอร์ต !! คือโปรไฟล์ดีมาก ไม่มีอะไรบกพร่องเลยค่ะ (เราก็แอบคิดนะ ว่าอายุ 27 ปีจริงหรอฟ้ะ ทำไมประสบความสำเร็จไวจัง มีครบทุกอย่างแล้ว)
พี่ซีมาส่งเรากับเพื่อนๆ ของเราที่บ้านเพื่อนค่ะ เพราะเรานอนบ้านเพื่อน ก่อนเราจะนอนพี่ซีก็ได้ส่งข้อความมาค่ะ ประมาณว่า ขอบคุณที่ให้โอกาสได้พูดคุยทำความรู้จัก เราก็แบบปริ่มสิค่ะ ปลื้มมาก 5555
แล้วสองวันต่อมาได้ พี่ซีก็นัดไปทานข้าวค่ะ มารับยันมหาลัยเลยนะค่ะ หมิวบอกพี่ซีว่าเลิกเรียนก็ 16.30 น. ค่ะ แต่จริงๆ อาจารย์เลตเวลาไปเกือบ 19.00 น.เราก็รีบโทรชวนเพื่อนสองคนที่ไปเที่ยวผับกับเรามาด้วยกัน ให้ไปเจอกันที่ห้าง เราไม่กล้าไปสองต่อสองค่ะ แล้วพอทานข้าวกันเสร็จพูดคุยอะไรกัน เพื่อนๆ ของเราสองคนมันก็เกิดอยากดูดวงกันค่ะ (อกหักพร้อมกันทั้งคู่) เราเลยบอกให้พี่ซีมาส่งที่สี่แยกห้วยขวางค่ะ จะดูดวงกันตรงพระพิฒเนศ 5555 แล้วก็มาจองคิวค่ะ เพราะคิวยาวมาก ถ้าเพื่อนๆ เคยมาดูดวงแถวนี้จะมีหมอดูเจ้านึงค่ะ ที่คิวยาวที่สุด เราพาเพื่อนมาจองคิวตอนสามทุ่ม กลับไปรอที่บ้าน แล้วได้พาพวกมันมาดูดวงกันก็ตีหนึ่งแล้วค่ะ ดูกันเสร็จสรรพ เพื่อนๆ ก็พากันเฮิร์ตอีกค่ะ ชวนกันไปเที่ยวผับเซ็ตเดิมสามคน สรุปไอเราก็ต้องไปกับพวกมันอีก - -" เราก็รีบไปแต่งตัวค่ะ แล้วก็นัดกันไปเจอที่ผับที่นู้นเลย ไปถึงก็ตีสามแล้วค่ะ ผับปิดตีสามครึ่ง เที่ยวเสร็จออกมาหน้าผับกำลังรอโบกแท็กซี่กลับบ้าน เพื่อนของหมิวก็เหลือบไปเห็นพี่ซีพอดีค่ะ เรากับเพื่อนอีกคนไม่เห็นนะค่ะ พอพี่ซีเห็นเพื่อนหมิวก็รีบวิ่งหนีเลยค่ะ ซึ่งเราก็งงๆ อยู่เหมือนกัน ว่าจะหนีทำไมอะไรแบบนี้ 5555 เพื่อนหมิวก็โกรธแทนเลยค่ะบอกให้หมิวเลิกคุย อีกสักพักตอนนั่งอยู่บนแท็กซี่แล้วพี่ซีก็โทรมาค่ะ มาขอโทษ อ้างว่าเพื่อนชวนมาอย่างงั้นอย่างงี้ เราก็ไม่ได้ถือสาอะไรหรอกค่ะ เพราะพึ่งได้คุยกัน 5555
แล้วหมิวกับพี่ซีก็ยังคุยกันทางข้อความค่ะและพี่ซีก็โทรมาหาบ้าง แรกๆ เค้าชอบนัดพาเราไปทานข้าว ดูหนัง เดือนนึงนี่ดูสี่ห้าเรื่องเลยค่ะ แรกๆ คือชีวิตดีมากกก ค่ะ พี่ซีไปเที่ยวผับที่ไหนก็ชวนเราไปตลอด เราก็ไปบ้างไม่ไปบ้างค่ะ เรามีโอกาสได้ถามพี่ซีบ่อยๆ ว่า ทำไมต้องมาคุยกับเรา เราก็ไม่ใช่คยสวยอะไรมากมาย อยู่ในผับหรือที่อื่นๆ ก็มีคนสวยเยอะแยะ พี่ซีก็ให้เหตุผลมาว่า พี่ซีไม่ชอบผู้หญิงที่ศัลยกรรมมากเกินไป ชอบคนที่เป็นธรรมชาติมากกว่า พี่ซีก็บอกว่าเค้ารู้สึกดีกับเราค่ะ ไม่เคยมารับผู้หญิงคนไหนมาทานข้าวดูหนังอะไรแบบนี้นานมากแล้ว นอกจากแฟนเก่าพี่ซีที่คบกันมาตั้ง 7 ปี เราก็โอเค แล้วก็ปลื้มพี่ซีมากค่ะ ในหลายๆ อย่าง ทั้งคำพูดคำจา พี่ซีเป็นคนพูดเพราะค่ะและจะชอบพูดจาแหย่เราบ้างอะไรแบบนี้ พี่ซีไม่เคยแตะต้องตัวเราแม้แต่จับมือเลยค่ะ มันปริ่มตรงนี้นี่แหล่ะว่าพี่ซีให้เกียรติเราดีไม่ได้ล่วงเกินอะไรขนาดเจอกันในผับ
หลังจากนั้นเราก็เมมเบอร์พี่ซีไว้ค่ะ และไลน์พี่ซีก็เด้งมาค่ะ พี่ซีก็ทักเราและหลังจากนั้นก็ติดต่อกันทางไลน์ตลอด
แรกๆ เราก็เจอกับพี่ซีตลอดค่ะ ยิ่งแรกๆ เลย อาทิตย์ละสามสี่ครั้ง พอหลังๆ ก็อาทิตย์ละครั้งก็พอ 5555 เราไม่กล้าชวนพี่ซีก่อนค่ะ ต้องเราให้พี่ซีชวนมาเอง เพราะกลัวเค้าติดงาน ไม่ว่างหรือออกกำลังกายอะไรอยู่เลย ต้องรอให้พี่ซีเป็นฝ่ายชวน
เราเริ่มตกหลุมรักพี่ซีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคนก็เตือนว่าบางทีเค้าอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้ เพราะอย่างที่ได้บอกไป คือพี่ซีมีทุกอย่างค่ะ เพื่อนๆ ก็เตือนว่าเค้าดู เจ้าชู้นะ ดูปลิ้นปล้อนตั้งแต่ตอนที่พี่ซีวิ่งหนีเราหน้าผับแล้ว 5555 เราก็ได้แต่พูดกับเพื่อนว่า เราก็แค่คุย ไม่คิดอะไรหรอก ได้ก็เอา ไม่ได้ก็ไม่เอาอะไรทำนองนี้ แต่ก็ได้แค่พูดค่ะ แต่ใจอะมันให้ไปแล้วทั้งใจนะค่ะ คือไม่เคยเจอใครดีเท่าพี่ซีเลยค่ะ
พอเวลาผ่านไปพี่ซีก็เริ่มห่างๆ ไปค่ะ จากที่อย่างน้อยเจอกันอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง หลังๆ นี่ไม่เจอเลยค่ะ บวกกับช่วงนี้ใกล้สอบ ทำเราหงอยไปเลยค่ะ แอบเสียใจลึกๆ 5555 แล้วพี่ซีก็มาชวนเราไปทะเลค่ะ !!! เท่านั้นแหล่ะ รู้สึกหัวใจมันมีชีวิตชีวาจากที่ตอนแรกๆ มันหงอย
แล้วหมิวก็มาทะเลกับพี่ซีและเพื่อนๆ ของพี่ซี (กลุ่มนี้เราไม่เคยรู้จักใครสักคนค่ะ) เป็นเพื่อนแก็งค์ที่พี่ซีชอบไปออกกำลังกายด้วยกันค่ะ ก็มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับพี่ซีมากขึ้น ที่ไม่ใช่เที่ยวห้าง เที่ยวกลางคืน เปลี่ยนบรรยากาศมาที่อื่นบ้างค่ะ ตอนแรกพวกเพื่อนๆ พี่เขาก็ถามพี่ซีค่ะ ว่าเราเป็นแฟนหรอ พี่ซีก็พูดแบบ เห้ยแฟนเลยหรอ อะไรแบบนี้ เราก็นอยด์ๆ นะแต่ไม่อะไร ตอนเอาของไปเก็บที่ห้องพักเค้าก็อาสาช่วยถือของค่ะ บอกเราว่า ขออาสาทำหน้าที่แฟนที่ดี (คืองงเมื่อกี้ยังบอกเพื่อนอยู่เลยว่าเราไม่ใช่แฟน) ห่านจิก ตอนที่อยู่กับพี่ซีคือเป็นช่วงที่มีความสุขมากที่สุดเลยนะค่ะ คือเรารักพี่ซีมากจริงๆ ปกติเราก็เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างห่วงสวยเหมือนกัน คือ กลัวดำมากๆ 5555 แต่เราก็ต้องแสดงตัวว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ห่วงสวยไม่กลัวดำ ยอมพายเรือคายัก ฝ่าลมทะเลและแสงแดดที่คุณก็รู้ว่าแดดประเทศไทยเป็นอย่างไร และ เป็นตอนเที่ยงด้วยนะค่ะท่านผู้ชมม !!!! ขนาดกันแดด SPF เป็นร้อยก็คงเอาไม่อยู่ค่ะ สรุปพายเรือข้ามไปอีกฟากนึงก็กินเวลา สามชั่วโมงไปแล้วกลับรวมตากแดดประมาณสี่ชั่วโมงได้ ไม่ต้องสืบค่ะ หลังจากพายเรือก็เป็นอีดำปากเป็ดเลยค่ะ !! 5555 แล้วตอนที่พี่ซีนอนกับเราก็นอนห้องเดียวนะค่ะ แต่พี่เค้าไม่เคยล่วงเกินอะไรเราเลยค่ะ พอเราตื่นเช้ามาพี่ซีเค้าก็นอนจ้องนะเราจนเราเขินหลับไปอีกรอบนึงเลย 5555 (เขินจนทำอะไรไม่ถูก)
อ้อ ลืมบอกเพื่อนๆ ด้วยค่ะว่าที่เราเคยแอบสงสัยว่าเค้าอายุ 27 ปีจริงหรอ (ดูจากการประสบความสำเร็จนะค่ะ) ตอนพี่ซีอาบน้ำ เราเคยแอบค้นบัตรประชาชนในกระเป๋าสตางค์ค่ะ จริงๆ พี่เค้าอายุ 34 ปี (ห่างกัน 15 ปี โอ้วแม่เจ้า!!!)
อยู่ด้วยกันมาสามวันสองคืน พวกเพื่อนๆ พี่ซีก็กลับกรุงเทพกันแล้วค่ะ พี่ซีเลยตกลงกับเราว่าจะอยู่ต่อด้วยกันอีกคืนนึง เราก็โอเคเซย์เยสไป ก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากมากที่สุดเลยนะค่ะ เพื่อนๆ ลองคิดดู แบบเล่นน้ำทะเลกันสองคน พายเรือกันสายคน ตกกลางคืนมาพี่ซีกับเราก็นั่งดื่มเหล้ากินริมทะเลค่ะ ก็คุยกับสัพเพเห่ระ เราก็ถามพี่ซีว่าทำไมต้องชวนเรามา พี่ซีก็ตอบว่าอยากรู้จักกับเรามากกว่านี้ พี่ซีเทคแคร์เราดีมากค่ะ เดินจูงมันกันสองคนเดินเล่นริมทะเลตอนกลางคืน เล่นชิงช้า ไกว่ชิงช้า คิดถึงโมเมนต์พระเอกนางเอกฉากโรแมนติกในละครเลยค่ะ 5555 แล้วก็นั่งดื่มเหล้าคุยเล่นกันจนตีสามก็ได้เข้าห้องนอนกันค่ะ
พี่ซีก็เหมือนเดิมค่ะ ไม่ได้ล่วงเกินอะไรเราเลยแม้แต่นิดเดียว กลางคืนพี่เค้าก็ห่มผ้าให้เรา แล้วบอกกู้ดไนท?แค่นี้แล้วก็นอน แล้วคืนนั้นเราก็สะดุ้งตื่นตลอดเลยค่ะ พี่เค้าก็ถามว่าเราเป็นอะไร เราก็บอกไม่เป็นอะไรแล้วก็หลับต่อ แล้วสักพักก็สะดุ้งตื่นมาอีกไม่รู้เป็นห่านเป็ดอะไร สักพักพี่ซีก็มากอดเราเบาๆ แปปนึงค่ะแล้วก็จูบที่หน้าผากเรา ปริ่มมมสุดค่ะ เค้าก็ห่มผ้าให้เรา แล้วเราก็หลับเลยไม่สะดุ้งอีก (ตอมากกก ด่าตัวเอง5555) แล้วพรุ่งนี้เช้าเราก็รีบกลับกรุงเทพกันเลยค่ะ รีบกลับเพราะมีสอบตอนบ่ายโมง พอจะถึงบ้านเรา เราก็บอกพี่เค้าว่าเรากลัวไม่ได้เจอพี่ซีอีก พี่ซีก็บอกว่าเจอสิต้องเจออยู่แล้ว พี่ซีก็จับมือเราค่ะ วินาทีนั้นไม่อยากจะจากกันเลย (สุดท้ายไปไม่ทันสอบรับประทาน F ไปเก๋ๆ ตัวนึง ) T T"
แล้วอีกสามสี่วันต่อมา เพื่อนก็นัดกันเที่ยวผับอีกค่ะ !! เราก็ชวนพี่ซีมาด้วย พี่ซีก็ตกลง พี่เค้าก็ตามมาค่ะ เราก็แบบดีใจมากค่ะ ก็มีโอกาสเที่ยวด้วยกันครั้งสุดท้ายก็วันนี้แหล่ะค่ะ...เพราะความสุขมันอยู่กับเราไม่นานจริงๆ
พอหลังๆ เค้าเริ่มไม่ค่อยทักเราค่ะ บางทีก็มามอนิ่งเราช่วงแปดโมง แล้วเราพิมพ์ไป พี่เค้าก็อ่านแต่ไม่ตอบค่ะ (เกลียดมากกก)
และในคืนนั้นเราก็มาเที่ยวกับเพื่อนเราค่ะ เป็นวันเสาร์คนเยอะมากกกกกก โอ้ยจะบ้าตาย !!! แต่เราไม่ได้บอกพี่ซีค่ะ มาแก้เครียด พอเราเข้ามาจะมาหาเพื่อนในโต๊ะก็ไม่มีอารมณ์อยากเที่ยวเลยค่ะ เซ้นส์มันแรงแบบคิดว่า พี่ซีต้องอยู่ในนี้แน่นอน !!! เราเลยขอเพื่อนกลับบ้านก่อน แล้วเราก็ออกมาหน้าผับจะกลับแล้ว แต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้เราต้องเดินไปดูที่ลานจอดรถก่อนค่ะ !!! แล้วก็เจอรถของพี่ซีค่ะ เราตกใจมาก แบบเฮ้ยไลน์เราไม่ตอบเลย แล้วมาเที่ยวก็ไม่บอกอีก เรานอยด์ค่ะ น้ำตาแทบไหล 5555 เป็นคนบ้า ตามหาพี่ซีในผับให้วุ่นเลยค่ะ ตอนแรกหาไม่เจอ แล้วเรายืนรอด้านนอกผับค่ะ เหลือบไปมองทางห้องน้ำผู้หญิง เห็นพี่ซีกำลังยืนเฝ้าผู้หญิงเข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ แต่เราไม่เห็นผู้หญิงนะ แล้วสักพักพี่ซีก็เดินเข้าไปในโต๊ะค่ะ แล้วเรา..ก็ต้องแอบสะกดรอยตามจนไปเจอโต๊ะพี่ซีค่ะ ด้วยความที่คนเยอะมาก จนเราถอดใจเลยค่ะ คือคนเยอะแบบเราได้แค่มองห่างๆ ซุ่มมองอยู่ ไปขอเบียดโต๊ะอื่นจนคนเค้ารำคาญเลย แต่ต้องตามพี่ซีไปให้เห็นกับตาว่าเค้ามากับใคร...
แต่เราก็ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นอยู่ดี เพราะคนมันเยอะ !! เห็นแต่พวกเพื่อนพี่ซีที่ชอบมาเที่ยวด้วยกันเป็นประจำ แล้วเราเลยออกมารอหน้าผับค่ะ บางครั้งก็ไปแอบมองอยู่ไกลๆ ว่าเค้าอยู่ที่โต๊ะกับใคร บางทีก็ไม่เห็นพี่ซีค่ะ คนเยอะจริงๆ แน่นผับจะแตก เห็นแต่เพื่อนพี่ซี บางทีเราสลับกับวิ่งไปดูที่ลานจอดรถว่าเค้ากลับไปยัง แต่ก็ยัง เราเลยออกมารอหน้าผับค่ะ เพื่อนเราก็ออกมาเห็นเราค่ะ แล้วก็ถามว่าไหนบอกกลับแล้ว เราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เพื่อนมันก็เห็นใจเราค่ะ เราบอกให้เพื่อนเราเข้าไปเที่ยวเถอะ ไม่อยากทำให้เพื่อนเราเฟลค่ะ เรารอพี่ซีตั้งแต่ 2.30 ยัน ตีห้าเลยค่ะ ผับปิด ตอนเรายืนอยู่ข้างนอก เราก็แอบเห็นพี่ซีเดินออกมาค่ะ พี่ซีเห็นเราก็ตกใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไป เราก็ไม่ได้ตามเข้าไปนะค่ะ เราแกล้งทำเป็นไม่เห็นพี่ซีด้วยซ้ำ T T"
รอจนผับปิดค่ะ แอบมาดักตรงทางออก พี่การ์ดเค้าก็ช่วยหาที่แอบให้เราค่ะ 5555 เหมือนพี่ซีไหวตัวทัน ทำเป็นเดือนออกมากับเพื่อนสองคน จากนั้นเราก็กลับบ้านค่ะ แบบเสียใจสุดๆๆ มากถึงมากจนบรรยายไม่ได้ 55555