ก่อนหน้านี้ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับกรณีให้มีการเก็บภาษีพระ แต่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีวัด ทั้งนี้เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบได้ง่าย (โดยเงื่อนไขอาจจะแตกต่างกับการเก็บภาษีประชาชนทั่วไป ภาษีที่เก็บก็กำหนดให้เหมาะสม รวมถึงจุดประสงค์การนำเงินที่ได้ไปใช้ โดยเน้นไปที่พัฒนาพระพุทธศาสนา)
ที่ไม่เห็นด้วยให้เก็บภาษีพระ เพราะเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้พระรับเงินได้ สะสมเงินได้ ซึ่งจะขัดพระธรรมวินัย
แต่เมื่อคิดอีกที หากไม่มีการเก็บภาษีพระ ถามว่าพระจะยังคงละเมิดพระวินัยหรือไม่ ยังคงสะสมเงินทองอยู่หรือไม่ ผมคิดว่าคงเหมือนเดิม
แต่ถ้าหากมีการเก็บภาษีพระเป็นเรื่องเป็นราว สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ พระที่สะสมเงินทั้งหลาย กลับที่จะไม่กล้าสะสมเงินทองจำนวนมาก (เช่น คนละ 10 ล้าน 100 ล้าน 1,000 ล้าน ฯลฯ) เพราะจะทำให้ถูกสังคมติเตียน และเมื่อมีการปกปิด ยักยอก เอาเงินไปให้คนอื่น ก็เท่ากับผิดกฏหมายเลี่ยงภาษี เป็นปาราชิก สามารถจับสึกได้ทันที
และก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การนำพระวินัยมาใช้ได้ง่ายขึ้นในอนาคตครับ
ลองมองอีกมุม กรณีเก็บภาษีพระ
ที่ไม่เห็นด้วยให้เก็บภาษีพระ เพราะเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้พระรับเงินได้ สะสมเงินได้ ซึ่งจะขัดพระธรรมวินัย
แต่เมื่อคิดอีกที หากไม่มีการเก็บภาษีพระ ถามว่าพระจะยังคงละเมิดพระวินัยหรือไม่ ยังคงสะสมเงินทองอยู่หรือไม่ ผมคิดว่าคงเหมือนเดิม
แต่ถ้าหากมีการเก็บภาษีพระเป็นเรื่องเป็นราว สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ พระที่สะสมเงินทั้งหลาย กลับที่จะไม่กล้าสะสมเงินทองจำนวนมาก (เช่น คนละ 10 ล้าน 100 ล้าน 1,000 ล้าน ฯลฯ) เพราะจะทำให้ถูกสังคมติเตียน และเมื่อมีการปกปิด ยักยอก เอาเงินไปให้คนอื่น ก็เท่ากับผิดกฏหมายเลี่ยงภาษี เป็นปาราชิก สามารถจับสึกได้ทันที
และก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การนำพระวินัยมาใช้ได้ง่ายขึ้นในอนาคตครับ