จากตอนที่แล้ว
http://pantip.com/topic/33681988
ใน part 2 นี้ จะขอพูดถึงหลักการลดน้ำหนักของฉัน ใน อ. ที่ 1 นะคะ
ก็คือ อาหาร ฉันให้ความสำคัญสำหรับอาหารกับการลดความอ้วน อยู่ที่ 80%
หลายคนบอกว่า ฉันก็ควบคุมอาหารนะ แต่ทำไม น้ำหนักไม่เห็นลงเลย
คำถามคือ.. ควบคุมอาหาร หมายความว่าอะไร ??
ส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงคำว่า "การควบคุมอาหาร" มักจะคิดว่าคือ..
- กินให้น้อยที่สุด
- การอดอาหาร
- ไม่กินหลังกี่โมงๆ
ทั้งหมดนี้ ไม่มีคำว่า "กินอะไร และกินอย่างไร" เลย
"การควบคุมอาหาร" จากประสบการณ์ของฉัน คือการเลือกกิน สำหรับคนที่กินเยอะ ให้ลดปริมาณการกินลงจากเดิม
"เลือกกิน" เลือกยังไง???
ฉันเลี่ยงอาหารที่ทำให้อ้วน และกินในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
- เลี่ยงสิ่งที่ทำให้อ้วน คือ ฉันลดและเลี่ยงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ข้าวขาว แป้ง น้ำตาล ของทอด ของมัน ขนมขบเคี้ยว ดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียว (การตัดแป้ง และน้ำตาล เป็นการทำให้ร่างกายดึงไขมันเก่าออกมาใช้)
- กินในสิ่งที่มีประโยชน์ คือ ฉันกินผักสด ผลไม้ไม่หวาน อย่างแอปเปิ้ลเขียว และฝรั่ง (ทำไมต้องผลไม้ไม่หวานอ่า.. ก็เพราะผลไม้ที่มีรสหวาน มีน้ำตาลไงคะ ย้อนไปดูข้อเมื่อกี้นะ อาหารที่ฉันเลี่ยงน่ะ)
ดูเหมือนจะยากเนอะ.. มันยากแน่ ถ้าคุณไม่ได้ตัดสินใจที่จะลดความอ้วนจริงๆ ก็จะมีข้อแม้มากมายตามมา
ฉันทำไม่ได้หรอก.. เพราะฉันซื้อกินเลือกไม่ได้ ฉันทำไม่ได้หรอก.. เพราะฉันไม่มีเวลาที่จะทำกินเอง ฉันทำไม่ได้หรอก... บลา บลา บลา...
ก็จะทำไม่ได้ และจะลดความอ้วนไม่ได้ด้วยเหมือนกัน
แล้วอีช้านทำยังไงล่ะ??
ในช่วงแรกๆ ก็เลือกกินไม่ค่อยเป็นหรอกค่ะ อย่างที่เคยบอกไว้ ฉันอ้วนข้าว ข้าวก็คือคาร์โบไฮเดรต เข้าปากก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาล กินเยอะใช้ไม่หมด ก็สะสมเป็นไขมัน พอกพูนไว้ตามหน้าทอง แขนขา ตรูด บวมมาถึงหน้า กว่าจะรู้ว่าข้าวเนี่ยตัวอ้วนชั้นเริศ ก็เกือบจะกลับตัวไม่ทัน
นอกจากข้าวแล้ว อาหารจั้งฟู้ดทั้งหมาย อาหารจานด่วน อาหารขยะ โอ้ย!!!.. กินทุกอย่าง แทบทุกอาทิตย์ ยิ่งมีระบบ เดลิเวอรี่ วันหยุดทีไม่ต้องก้าวขาออกจากห้องเลย โทรกรี๊งเดียว มาส่งถึงที่ กินแล้วก็นอน กินแล้วก็นอน
ช่วงแรกรู้แต่ว่าถ้าเรากินของพวกนี้น้อยหน่อย น้ำหนักก็คงค่อยๆ ลง แต่ก็ยังกินอยู่นะ ปริมาณยังไม่ค่อยลดเท่าไหร่ เลือกแบบ กินปลา กินผัก แต่ก็ยังเป็นปลาทอด ปลาผัดน้ำมัน ผักผัดน้ำมัน กินกับข้าวขาว คือเลือกแบบความรู้เท่าหางอึ่งน่ะ เมื้อเย็นพยายามเลี่ยง ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
แต่พอศึกษาหาความรู้ขึ้นเรื่อยๆ ได้คำแนะนำจากไอดอลของฉันบ้าง ก็เริ่มเปลี่ยนการกินอย่างจริงจัง
ฉันเลิกกินอาหารจั้งฟู้ด ซึ่งเอาสิ่งที่ชอบกินมาก มาผูกไว้กับสิ่งที่ไม่ชอบสุดๆ (อันนี้จะอธิบายไว้ใน อ. ที่ 3 เรื่องอารมณ์นะคะ)
ฉันเลิกกินน้ำอัดลม ฉันเลิกกินกาแฟเย็น กินแต่น้ำเปล่า
ฉันเลี่ยงข้าวขาว หลายคนสงสัยว่าถ้าไม่กินข้าวขาวแล้วจะกินอะไรล่ะ ค่อยๆ ตามมานะ อีช้านจะเล่าให้ฟัง...
ก่อนที่จะเลือกกินอย่างจริงจัง ฉันลดปริมาณการกินก่อน เพราะว่าเป็นคนกินเยอะ จนกระเพาะขยาย ช่วงหลังๆ กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มสักกะที
พอลดปริมาณอาหารแล้ว พบว่า มันรู้สึกดีมากนะ เพราะตอนที่อ้วนๆ ฉันแทบไม่รู้จักคำว่าหิวเลย กินเพราะเราตั้งโปรแกรมในสมองเอาไว้ว่าถึงเวลากินแล้ว ต้องกิน ทั้งๆ ที่บางครั้งยังอิ่มจากมื้อก่อนอยู่เลย บางทีมื้อเที่ยงก็กินเผื่อมื้อเย็นไปเลย เพราะตั้งใจว่ามื้อเย็นจะไม่กิน ก็เลยโปรแกรมสมองว่า กลางวันต้องกินเยอะๆ เย็นจะได้ไม่หิว (อีช้านรู้นะ หลายคนเป็นเช่นนี้) แล้วพอกินแบบเยอะๆ อัดๆ เข้าไป ก็มักจะมีอาการท้องอืดอยู่เสมอ อึดอัดเข้าไปอีกสิ
หลังจากลดปริมาณอาหารแล้ว ทีนี้ก็มาเลือกกินค่ะ
ในแต่ละวันกินอะไรบ้างล่ะทีนี้
ช่วงแรกๆ มื้อเช้ายังกินปกติอยู่ แต่ลดข้าวให้น้อยลง เลี่ยงได้เลี่ยง (การตัดแป้ง เป็นการทำให้ร่างกายดึงไขมันเก่าออกมาใช้)
มื้อกลางวัน กินน้ำพริก ผัก กินผักเยอะมาก เรียกได้ว่ากินเป็นสวนกันเลยทีเดียว

มื้อเย็น กินแอปเปิ้ลเขียว

และตลอดทั้งวัน น้ำเปล่าอย่างเดียว
ช่วงนี้เริ่มมีอาหารเสริมเข้ามาแล้ว ก็ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสารอาหารแน่นอน
หลังจากนั้นก็มาปรับการกินอีก
โดย มื้อเช้า กินน้อยลง เลี่ยงข้าว ของทอด ของมัน (ทำให้กระเพาะอาหารค่อยๆ หด กินไม่ต้องเยอะก็อิ่ม)
มื้อกลางวัน กินเกาเหลาไก่สับ น้ำใส (ไม่ปรุง) (เพิ่มโปรตีนจากเนื้อไก่ วิตามินจากผัก)
ส่วนมื้อเย็นแอปเปิ้ลเขียวเช่นเดิม
ช่วงนี้น้ำหนักลงไปเยอะพอสมควร
ในระหว่างทางนี้ จะมีช่วงที่ร่างกายปรับตัว น้ำหนักจะทรงๆ อยู่สักพัก ไม่ลง บวกกับเราเริ่มงอแงกับการกิน ความอยากเข้าครอบงำ
ก็เลยต้องใช้สูตรฮาร์ดคอร์ ซึ่งสูตรนี้ใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นนะคะ ประมาณ 7 ถึง 10 วัน
สูตรที่ฉันกินก็คือ..
มื้อเข้า โยเกิร์ต รสธรรมชาติ 1 ถ้วย + ไข่ต้ม 1 ฟอง (เฉพาะไข่ขาว เพิ่มโปรตีน ช่วยให้อิ่มนาน การใส่โปรตีนเพิ่ม จะช่วยเร่งกระบวนดึงไขมันออกมาใช้ได้อีกเท่าตัว ด้วยคุณสมบัติของโปรตีน ที่ต้องใช้พลังงานในการย่อยมากกว่า จึงต้องใช้พลังงานจากไขมันมากกว่าด้วย)
กลางวัน กินเกาเหลาไก่สับ น้ำใส (ไม่ปรุง)
เย็น กินแอปเปิ้ลเขียว ครึ่งลูก
เจอสูตรนี้เข้าไปน้ำหนักก็ลงไปอีกเรื่อยๆ เป็นสูตรตัดแป้ง หรืออาจจะเรียกได้ว่า เป็นการช็อคคาร์โบไฮเดรต จำได้ไหมคะ การตัดแป้ง เป็นการทำให้ร่างกายดึงไขมันเก่าออกมาใช้
ตอนนี้สิ่งที่กินประจำคือ
มื้อเช้า ไข่ขาวคน (เข้าไมโครเวฟ) มีผักผสม (เพิ่มโปรตีน ทำให้อิ่มนาน และช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ จากการเล่นเวทเทรนนิ่ง)

กลางวันช่วงก่อนหน้านี้ กินอกไก่อบ ข้าวหอมนิล แครอท+บล็อกเคอรี่ต้ม (ทำใส่กล่องไปกินที่ทำงาน)

ตอนนี้ปรับมาเป็น อกไก่ต้ม + บล็อกเคอรี่สด
บ่ายๆ เย็นๆ กินฝรั่ง 1 ลูก (วิตามินซีสูง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย เพิ่มกากใย)
ค่ำกลับมาถ้าหิว กินน้ำผักปั่น (มะระขี้นก+มะเขือเทศ+มะนาว)
ทุกช่วงมีอาหารเสริมเข้ามาช่วยด้วย ไม่ขาดสารอาหารที่จำเป็นแน่นอน
ใน 1 อาทิตย์ ก็จะมีวันปล่อยผีค่ะ คืออยากกินอะไรก็จะกิน 1 วัน จะกินแต่สิ่งที่อยากจะกินจริงๆ เท่านั้น
การควบคุมอาหารทั้งหมดนี้ ฉันทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ตอนนี้ฉันสุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีโรคภัยใดๆ ไม่เพลีย ไม่โทรม ไม่โยโย่
น้ำหนักของฉัน อยู่ที่ 57-58 กิโล แต่ก็ยังมีเป้าหมายที่จะลดน้ำหนักลงอีกนิดหน่อย
ด้วยส่วนสูงของฉัน ลดให้เหลือสัก 53 กิโล ก็จะสมส่วนกำลังดี
อาหารการกินทุกอย่างทุกมื้อ ฉัน Happy กับมัน ไม่ได้รู้สึกทรมาน หรือฝืนกล้ำกลืนแต่อย่างใด
ฉันรู้ว่า.. การกินอาหารเหล่านี้ มีประโยชน์อย่างไร และร่างกายรู้สึกแข็งแรงยังไง
สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง มาร่วมลดไปด้วยกันนะคะ...
ลองเอาวิธีเลือกกินนี้ไปประยุคใช้ดูก็ได้
แต่ว่า..ร่างกายของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันนะ ระบบการเผาผลาญของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ฉันเป็นคนที่ระบบเผาผลาญต่ำมาก การกินในแต่ละมื้อ จึงต้องควบคุมให้ดี แต่ก็ไม่ได้ละเลยเรื่องของสารอาหารที่ร่างกายต้องการให้ครบ
กินให้น้อยกว่าใช้ ก็จะผอมลงค่ะ
เมื่อฉันปรับการกินได้แล้ว แน่นอนว่า ฉันจะไม่กลับไปกินอาหารแบบเดิมอีก เพราะฉันรู้ว่า มันจะทำให้ฉันกลับไปอ้วนอย่างเดิมอีกแน่นอน
ก่อนจะใช้สูตรอาหารแต่ละสูตร ควรจะศึกษาตัวเอง ให้รู้จักตัวเอง แล้วค่อยๆ นำวิธีต่างๆ ไปปรับใช้นะคะ
ปล. "ไม่มีผลลัพธ์ใหม่ๆ ในพฤติกรรมเดิมๆ"
ปล. 2 อีช้านไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหาร แต่เป็นประสบการณ์ที่ทำแล้วได้ผลกับตัวเอง เลยอยากเอามาแบ่งปันกันค่ะ
part 3 (อ.2 ออกกำลัง)
http://pantip.com/topic/33700099
ตัดสินใจลดน้ำหนัก 20 กว่ากิโล ในวัย 35 ปี part 2
http://pantip.com/topic/33681988
ใน part 2 นี้ จะขอพูดถึงหลักการลดน้ำหนักของฉัน ใน อ. ที่ 1 นะคะ
ก็คือ อาหาร ฉันให้ความสำคัญสำหรับอาหารกับการลดความอ้วน อยู่ที่ 80%
หลายคนบอกว่า ฉันก็ควบคุมอาหารนะ แต่ทำไม น้ำหนักไม่เห็นลงเลย
คำถามคือ.. ควบคุมอาหาร หมายความว่าอะไร ??
ส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงคำว่า "การควบคุมอาหาร" มักจะคิดว่าคือ..
- กินให้น้อยที่สุด
- การอดอาหาร
- ไม่กินหลังกี่โมงๆ
ทั้งหมดนี้ ไม่มีคำว่า "กินอะไร และกินอย่างไร" เลย
"การควบคุมอาหาร" จากประสบการณ์ของฉัน คือการเลือกกิน สำหรับคนที่กินเยอะ ให้ลดปริมาณการกินลงจากเดิม
"เลือกกิน" เลือกยังไง???
ฉันเลี่ยงอาหารที่ทำให้อ้วน และกินในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
- เลี่ยงสิ่งที่ทำให้อ้วน คือ ฉันลดและเลี่ยงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ข้าวขาว แป้ง น้ำตาล ของทอด ของมัน ขนมขบเคี้ยว ดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียว (การตัดแป้ง และน้ำตาล เป็นการทำให้ร่างกายดึงไขมันเก่าออกมาใช้)
- กินในสิ่งที่มีประโยชน์ คือ ฉันกินผักสด ผลไม้ไม่หวาน อย่างแอปเปิ้ลเขียว และฝรั่ง (ทำไมต้องผลไม้ไม่หวานอ่า.. ก็เพราะผลไม้ที่มีรสหวาน มีน้ำตาลไงคะ ย้อนไปดูข้อเมื่อกี้นะ อาหารที่ฉันเลี่ยงน่ะ)
ดูเหมือนจะยากเนอะ.. มันยากแน่ ถ้าคุณไม่ได้ตัดสินใจที่จะลดความอ้วนจริงๆ ก็จะมีข้อแม้มากมายตามมา
ฉันทำไม่ได้หรอก.. เพราะฉันซื้อกินเลือกไม่ได้ ฉันทำไม่ได้หรอก.. เพราะฉันไม่มีเวลาที่จะทำกินเอง ฉันทำไม่ได้หรอก... บลา บลา บลา...
ก็จะทำไม่ได้ และจะลดความอ้วนไม่ได้ด้วยเหมือนกัน
แล้วอีช้านทำยังไงล่ะ??
ในช่วงแรกๆ ก็เลือกกินไม่ค่อยเป็นหรอกค่ะ อย่างที่เคยบอกไว้ ฉันอ้วนข้าว ข้าวก็คือคาร์โบไฮเดรต เข้าปากก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาล กินเยอะใช้ไม่หมด ก็สะสมเป็นไขมัน พอกพูนไว้ตามหน้าทอง แขนขา ตรูด บวมมาถึงหน้า กว่าจะรู้ว่าข้าวเนี่ยตัวอ้วนชั้นเริศ ก็เกือบจะกลับตัวไม่ทัน
นอกจากข้าวแล้ว อาหารจั้งฟู้ดทั้งหมาย อาหารจานด่วน อาหารขยะ โอ้ย!!!.. กินทุกอย่าง แทบทุกอาทิตย์ ยิ่งมีระบบ เดลิเวอรี่ วันหยุดทีไม่ต้องก้าวขาออกจากห้องเลย โทรกรี๊งเดียว มาส่งถึงที่ กินแล้วก็นอน กินแล้วก็นอน
ช่วงแรกรู้แต่ว่าถ้าเรากินของพวกนี้น้อยหน่อย น้ำหนักก็คงค่อยๆ ลง แต่ก็ยังกินอยู่นะ ปริมาณยังไม่ค่อยลดเท่าไหร่ เลือกแบบ กินปลา กินผัก แต่ก็ยังเป็นปลาทอด ปลาผัดน้ำมัน ผักผัดน้ำมัน กินกับข้าวขาว คือเลือกแบบความรู้เท่าหางอึ่งน่ะ เมื้อเย็นพยายามเลี่ยง ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
แต่พอศึกษาหาความรู้ขึ้นเรื่อยๆ ได้คำแนะนำจากไอดอลของฉันบ้าง ก็เริ่มเปลี่ยนการกินอย่างจริงจัง
ฉันเลิกกินอาหารจั้งฟู้ด ซึ่งเอาสิ่งที่ชอบกินมาก มาผูกไว้กับสิ่งที่ไม่ชอบสุดๆ (อันนี้จะอธิบายไว้ใน อ. ที่ 3 เรื่องอารมณ์นะคะ)
ฉันเลิกกินน้ำอัดลม ฉันเลิกกินกาแฟเย็น กินแต่น้ำเปล่า
ฉันเลี่ยงข้าวขาว หลายคนสงสัยว่าถ้าไม่กินข้าวขาวแล้วจะกินอะไรล่ะ ค่อยๆ ตามมานะ อีช้านจะเล่าให้ฟัง...
ก่อนที่จะเลือกกินอย่างจริงจัง ฉันลดปริมาณการกินก่อน เพราะว่าเป็นคนกินเยอะ จนกระเพาะขยาย ช่วงหลังๆ กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มสักกะที
พอลดปริมาณอาหารแล้ว พบว่า มันรู้สึกดีมากนะ เพราะตอนที่อ้วนๆ ฉันแทบไม่รู้จักคำว่าหิวเลย กินเพราะเราตั้งโปรแกรมในสมองเอาไว้ว่าถึงเวลากินแล้ว ต้องกิน ทั้งๆ ที่บางครั้งยังอิ่มจากมื้อก่อนอยู่เลย บางทีมื้อเที่ยงก็กินเผื่อมื้อเย็นไปเลย เพราะตั้งใจว่ามื้อเย็นจะไม่กิน ก็เลยโปรแกรมสมองว่า กลางวันต้องกินเยอะๆ เย็นจะได้ไม่หิว (อีช้านรู้นะ หลายคนเป็นเช่นนี้) แล้วพอกินแบบเยอะๆ อัดๆ เข้าไป ก็มักจะมีอาการท้องอืดอยู่เสมอ อึดอัดเข้าไปอีกสิ
หลังจากลดปริมาณอาหารแล้ว ทีนี้ก็มาเลือกกินค่ะ
ในแต่ละวันกินอะไรบ้างล่ะทีนี้
ช่วงแรกๆ มื้อเช้ายังกินปกติอยู่ แต่ลดข้าวให้น้อยลง เลี่ยงได้เลี่ยง (การตัดแป้ง เป็นการทำให้ร่างกายดึงไขมันเก่าออกมาใช้)
มื้อกลางวัน กินน้ำพริก ผัก กินผักเยอะมาก เรียกได้ว่ากินเป็นสวนกันเลยทีเดียว
มื้อเย็น กินแอปเปิ้ลเขียว
และตลอดทั้งวัน น้ำเปล่าอย่างเดียว
ช่วงนี้เริ่มมีอาหารเสริมเข้ามาแล้ว ก็ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสารอาหารแน่นอน
หลังจากนั้นก็มาปรับการกินอีก
โดย มื้อเช้า กินน้อยลง เลี่ยงข้าว ของทอด ของมัน (ทำให้กระเพาะอาหารค่อยๆ หด กินไม่ต้องเยอะก็อิ่ม)
มื้อกลางวัน กินเกาเหลาไก่สับ น้ำใส (ไม่ปรุง) (เพิ่มโปรตีนจากเนื้อไก่ วิตามินจากผัก)
ส่วนมื้อเย็นแอปเปิ้ลเขียวเช่นเดิม
ช่วงนี้น้ำหนักลงไปเยอะพอสมควร
ในระหว่างทางนี้ จะมีช่วงที่ร่างกายปรับตัว น้ำหนักจะทรงๆ อยู่สักพัก ไม่ลง บวกกับเราเริ่มงอแงกับการกิน ความอยากเข้าครอบงำ
ก็เลยต้องใช้สูตรฮาร์ดคอร์ ซึ่งสูตรนี้ใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นนะคะ ประมาณ 7 ถึง 10 วัน
สูตรที่ฉันกินก็คือ..
มื้อเข้า โยเกิร์ต รสธรรมชาติ 1 ถ้วย + ไข่ต้ม 1 ฟอง (เฉพาะไข่ขาว เพิ่มโปรตีน ช่วยให้อิ่มนาน การใส่โปรตีนเพิ่ม จะช่วยเร่งกระบวนดึงไขมันออกมาใช้ได้อีกเท่าตัว ด้วยคุณสมบัติของโปรตีน ที่ต้องใช้พลังงานในการย่อยมากกว่า จึงต้องใช้พลังงานจากไขมันมากกว่าด้วย)
กลางวัน กินเกาเหลาไก่สับ น้ำใส (ไม่ปรุง)
เย็น กินแอปเปิ้ลเขียว ครึ่งลูก
เจอสูตรนี้เข้าไปน้ำหนักก็ลงไปอีกเรื่อยๆ เป็นสูตรตัดแป้ง หรืออาจจะเรียกได้ว่า เป็นการช็อคคาร์โบไฮเดรต จำได้ไหมคะ การตัดแป้ง เป็นการทำให้ร่างกายดึงไขมันเก่าออกมาใช้
ตอนนี้สิ่งที่กินประจำคือ
มื้อเช้า ไข่ขาวคน (เข้าไมโครเวฟ) มีผักผสม (เพิ่มโปรตีน ทำให้อิ่มนาน และช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ จากการเล่นเวทเทรนนิ่ง)
กลางวันช่วงก่อนหน้านี้ กินอกไก่อบ ข้าวหอมนิล แครอท+บล็อกเคอรี่ต้ม (ทำใส่กล่องไปกินที่ทำงาน)
ตอนนี้ปรับมาเป็น อกไก่ต้ม + บล็อกเคอรี่สด
บ่ายๆ เย็นๆ กินฝรั่ง 1 ลูก (วิตามินซีสูง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย เพิ่มกากใย)
ค่ำกลับมาถ้าหิว กินน้ำผักปั่น (มะระขี้นก+มะเขือเทศ+มะนาว)
ทุกช่วงมีอาหารเสริมเข้ามาช่วยด้วย ไม่ขาดสารอาหารที่จำเป็นแน่นอน
ใน 1 อาทิตย์ ก็จะมีวันปล่อยผีค่ะ คืออยากกินอะไรก็จะกิน 1 วัน จะกินแต่สิ่งที่อยากจะกินจริงๆ เท่านั้น
การควบคุมอาหารทั้งหมดนี้ ฉันทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ตอนนี้ฉันสุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีโรคภัยใดๆ ไม่เพลีย ไม่โทรม ไม่โยโย่
น้ำหนักของฉัน อยู่ที่ 57-58 กิโล แต่ก็ยังมีเป้าหมายที่จะลดน้ำหนักลงอีกนิดหน่อย
ด้วยส่วนสูงของฉัน ลดให้เหลือสัก 53 กิโล ก็จะสมส่วนกำลังดี
อาหารการกินทุกอย่างทุกมื้อ ฉัน Happy กับมัน ไม่ได้รู้สึกทรมาน หรือฝืนกล้ำกลืนแต่อย่างใด
ฉันรู้ว่า.. การกินอาหารเหล่านี้ มีประโยชน์อย่างไร และร่างกายรู้สึกแข็งแรงยังไง
สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง มาร่วมลดไปด้วยกันนะคะ...
ลองเอาวิธีเลือกกินนี้ไปประยุคใช้ดูก็ได้
แต่ว่า..ร่างกายของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันนะ ระบบการเผาผลาญของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ฉันเป็นคนที่ระบบเผาผลาญต่ำมาก การกินในแต่ละมื้อ จึงต้องควบคุมให้ดี แต่ก็ไม่ได้ละเลยเรื่องของสารอาหารที่ร่างกายต้องการให้ครบ
กินให้น้อยกว่าใช้ ก็จะผอมลงค่ะ
เมื่อฉันปรับการกินได้แล้ว แน่นอนว่า ฉันจะไม่กลับไปกินอาหารแบบเดิมอีก เพราะฉันรู้ว่า มันจะทำให้ฉันกลับไปอ้วนอย่างเดิมอีกแน่นอน
ก่อนจะใช้สูตรอาหารแต่ละสูตร ควรจะศึกษาตัวเอง ให้รู้จักตัวเอง แล้วค่อยๆ นำวิธีต่างๆ ไปปรับใช้นะคะ
ปล. "ไม่มีผลลัพธ์ใหม่ๆ ในพฤติกรรมเดิมๆ"
ปล. 2 อีช้านไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหาร แต่เป็นประสบการณ์ที่ทำแล้วได้ผลกับตัวเอง เลยอยากเอามาแบ่งปันกันค่ะ
part 3 (อ.2 ออกกำลัง) http://pantip.com/topic/33700099