เมื่อแฟนผมสั่งให้ผมเลิกเขียนเรื่องเกี่ยวกับการเมือง-----------ทวดเอง

กระทู้สนทนา
ผมฟังแล้วของขึ้นเลยครับ ไม่คิดว่าวันนี้แฟนผมจะเข้ามายุ่งวุ่นวายกับผมในเรื่องใหญ่ๆสำคัญๆอย่างนี้ ทั้งๆที่เคยตกลงกันตั้งแต่แรกๆแล้วว่า เรื่องใหญ่ๆผมจะเป็นคนจัดการ สำหรับเรื่องเล็กๆน้อยๆ จึงจะเป็นหน้าที่ของผู้เป็นภรรยา

และตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกันมา เราก็รักษาสัญญากันมาเป็นอย่างดี

เรื่องเล็กๆชวนปวดหัวอย่างเรื่องการรักษาทรัพย์สินทั้งหมด ผมก็ปล่อยให้เธอเป็นคนดูแล
เรื่องย่อยๆอย่างเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงิน ผมก็ปล่อยให้เธอเป็นคนจัดการ
หรือแม้กระทั่งเรื่องจุกๆจิกๆอย่างพวกซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ซื้อรถ ผมก็ปล่อยให้เธอซื้อเอง ใส่ชื่อเองตามสะดวก

สำหรับผมมีเรื่องใหญ่ๆที่ต้องจัดการก็เพียงไม่กี่เรื่อง
เรื่องหาเงิน คงไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นหน้าที่อยู่แล้ว

แต่เรื่องสำคัญๆที่ยิ่งใหญ่ ผมต้องเป็นคนดูแลและบริหารจัดการเท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพทางกาย ที่ผมจะต้องตระเตรียมอาหารที่มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อให้ครอบครัวมีสุขภาพที่ดี

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอนามัยทางร่างกาย ที่ผมต้องทำให้ทุกๆคนในบ้าน ได้แต่งกายด้วยชุดที่สะอาด ปลอดจากเชื้อโรค และยังต้องไม่ยับยู่ยี่ เพื่อให้ดูดีเสมอ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขลักษณะภายในและภายนอกเรือน ผมก็ต้องให้สะอาดตลอดเวลา พื้นผิวจะต้องปลอดฝุ่น โต๊ะกินข้าวหรือเฟอร์ต่างๆก็ต้องสะอาด ไม่ให้เป็นที่ติเตียนของแขกผู้มาเยือนได้

หรือแม้กระทั่งงานใหญ่งานช้างอย่างการล้างรถ ดูดฝุ่น ผมก็ยังเป็นคนบริหารด้วยตัวเอง ไม่เคยขาดตกบกพร่องตามข้อตกลง และก็ไม่เคยละเมิดกติกาเสมอมา

แล้ววันนี้ วันที่แฟนผมเข้ามาก้าวก่ายกับงานใหญ่ระดับทวงคืนประชาธิปไตยอย่างนี้ จะไม่ให้ผมของขึ้นได้อย่างไร ใช่ไหมครับ

พูดมาได้ เขียนมาหลายปี ก็ไม่เห็นได้อะไรดีขึ้นมา
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า ทักษิณช่วยเมียโกงที่อยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า เสื้อแดงเป็นฝ่ายกระทำอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า การเผาศาลากลางเป็นเพราะแกนนำยุอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า คนตายกลางราชประสงค์เพราะยิงกันเองอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า ความเท่าเทียมไม่มีอยู่จริงอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า ความยุติธรรมมาตรฐานเดียวอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า การเมืองมีแค่สองฝ่าย คือ ฝ่ายดีกับฝ่ายเลวอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า มีแต่นักการเมืองเท่านั้นที่โกงเป็นอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า คนลากตั้งดีกว่าคนเลือกตั้งอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า ประชาธิปไตยไม่เหมาะกับคนไทยอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า ความเสียหายของประเทศเกิดจากระบอบทักษิณอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า ความปรองดองต้องเกิดจากความคิดเห็นเหมือนกันทั้งประเทศอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า การเรียกร้องความเป็นธรรมเป็นการไม่เคารพความยุติธรรมอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า การไล่ฟ้องฝ่ายหนึ่ง ปล่อยปะอีกฝ่าย เป็นไปตามกฎหมายอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า การกระทำขององค์กรอิสระต่างๆที่ผ่านมา เป็นไปด้วยใจเป็นกลางอยู่ดี
คนบางคนก็ยังเข้าใจว่า หลายๆชาติที่กดดันเราอยู่ ล้วนแต่เกิดจากการล็อบบี้อยู่ดี
และคนบางคนก็ยังเข้าใจว่า คนที่ต้องการประชาธิปไตย ล้วนแต่ถูกทักษิณซื้อตัวมาแล้วทั้งนั้น

ผมฟังถึงตรงนี้ อดรนทนไม่ไหว ก็เลยตวาดไปด้วยความโมโหสุดขีดว่า “น้องจ๋า น้องพูดถูกทุกอย่างแล้วจ้า แต่อย่าลืมสิจ๊ะ คนอื่นเขาใส่ข้อมูลมาหลายสิบปี ส่วนพี่แค่เขียนมาไม่ถึงสิบปี จะมาเปลี่ยนแปลงความเชื่อของคน มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆหรอกนะจ๊ะ แต่ถ้าเราไม่พยายาม ไม่อดทน ท้อแท้เสียแต่ตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่จะรู้จักคำว่าชนะล่ะจ๊ะ”

“ข้อสำคัญนะจ๊ะน้องจ๋า ถ้าเพียงแค่สามารถปลดแอกลงได้บ้าง ลูกหลานของเราในอนาคตจะได้แบกรับเบาหน่อยไงล่ะจ๊ะ น้องจ๋า”

แฟนผมได้ฟังดังนี้ ก็ดูท่าทีจะอ่อนลง ได้แต่พูดว่า “เอ่อ ยิ้มอยากทำไรก็ทำไป ตรูไม่ยุ่งอีกแล้ว” ผมฟังแล้วสะดุ้งโหยงเลยครับ ตกลงจะให้เขียนต่อหรือเปล่าหว่า?

เอ่อ เกิดเป็น ทวดเอง แท้จริงแสนลำบาก แม้จะไม่เคยกลัวเมีย แต่เมียก็ไม่เคยกลัว เซ็งจารุวรรณจริ๊งจริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่