เอามาแปะให้ดูอีกครั้งค่ะ
ขออนุญาต แชร์บทความของครูอ้อย มาให้เพื่อนๆในพันทิปที่อยากจะมีอิสระจากการเงิน การงาน ตามนี้ค่ะ
ช่วงนี้มีคนถามเรื่องลาออกจากงาน ลาออกจากความสัมพันธ์เยอะมาก
ปัญหาการเบื่องานเป็นเรื่องคลาสสิคที่พบได้ทั่วไป
คนมากมายจมอยู่กับงานหรือวิถีชีวิต ที่ไม่พัฒนาตัวเองมานาน
ต้นทุนทางด้านความคิดถูกหยุดพัฒนามานาน ทำให้พอจะไปหางานใหม่ทำ
หรือจะเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเองก็ไม่มีทักษะขาดความชำนาญพิเศษ
ขาดความรู้ความเข้าใจที่เหนือหรือต่างกว่าคนอื่น
หรืออาจจะไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรถนัดอะไรเสียด้วยซำ้
ใจเย็นๆ อย่าผลุนผลัน เมื่อไรที่ร้อนรนทนไม่ไหวต้องแยกให้ออกว่า
เพราะโครงสร้างเนื้องานและสิ่งแวดล้อมไม่ดีจริงๆ หรือเราไม่สู้
แม้สิ่งแวดล้อมไม่ดีก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรลาออกแบบวิ่งหนีตามใจตัวเองทันที
มีความต่างระหว่างการลาออกด้วยสภาวะทางใจที่มั่นคงเหมาะสมกับการวิ่งหนีปัญหา
ตรวจสอบตัวเองให้ดี
เพราะการหนีปัญหา ไปที่ใหม่ก็ยิ่งเจอ แต่การเรียนรู้เข้าใจ
ยอมรับแล้วเลือกใหม่อย่างถูกต้องแม่นยำทำให้เราเติบโต
เข้าใจตัวเอง เข้าใจบริบทที่แวดล้อม วิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งปัญหาโอกาสของตัวเอง
เขียน โครงสร้างทางการเงินของตัวเองออกมาให้ชัด มีNet Worth
ทรัพย์สินหักหนี้สินเท่าไร อะไรที่ไม่ได้อยู่ในชื่อของเราตัดออกไป
อย่าหวังนำ้บ่อหน้า ของพ่อแม่สามีภรรยาถ้ายังไม่โอนให้ไม่นับ
คิดมูลค่าทรัพย์สินตามจริงที่ขายได้วันนี้ไม่ใช่ราคาแบบเพ้อฝันยุคเศรษฐกิจดี
มีรายได้คงเหลือ คือรายรับลบรายจ่ายประจำเท่าไร
มีเงินเก็บเท่าไร เกิดอะไรขึ้นฉุกเฉิน เงินสดที่เหลือจะอยู่ได้อีกกี่เดือน
เป็นหนี้ใคร เท่าไร คำ้ประกันด้วยอะไร ดอกเบี้ยแต่ละที่เท่าไร
ไม่เอาเงินกู้ระยะสั้นดอกเบี้ยแพงไปใช้ในการลงทุนระยะยาว
เมื่อไรที่วิ่งหนีปัญหา คิดว่าต้องออกเดือนนี้เดี๋ยวนี้
นั่นไม่ใช่สเตทหรือสภาวะทางใจที่ถูกต้อง
ถ้าแพ้ที่นี่จะแพ้ต่อไปเรื่อยๆในสนามอื่น งอกยากมาก
บางคนงอกไม่ออกตลอดชีวิต เป็นเมล็ดตาย
หลายคนถามว่า บอกให้สู้ในพื้นที่เดิมให้ชนะก่อน ชนะอะไร ชนะใจตัวเองไง
เช่นเมื่อก่อนเป็นคนยังไม่ได้ทำงานเก่ง
พอได้ค้นพบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆบางอย่าง เริ่มดีขึ้นมา ก็อย่าเพิ่งเพริดไป
ตอนนี้เพิ่งฟื้นจากคนเคยเฉื่อยชามาเป็นคนปกติ
เริ่มสนุกกับสิ่งใหม่ๆที่ทำก็ใช้ชีวิตปกติก่อน
ไม่ต้องรีบตระกรุมตระกรามความสำเร็จ ทำการบ้านฝึกฝนตัวเองให้แม่น
ฝึกตัวเองให้ผ่านก่อน เก็บความรู้ประสบการณ์ เหมือนคนเพิ่งหายป่วยมีแรง
อย่าเพิ่งคิดไปวิ่งแข่งมาราธอนทันที โดยที่ยังไม่มีการฝึกซ้อม จะตายคาที่
คนยุคนี้ บางคนพอขาดก็ขาดมาก พอเกินก็ล้นเลย
เช่นไม่กล้าเรียกค่าตัว พอเรียกก็ โอเวอร์ไปคือไล่แขกไปเลย
บางคนพอไม่เห็นคุณค่าตัวเองก็ไม่เห็น
พอเห็นคุณค่าตัวเองก็คิดตังค์แบบไปปล้นเขาเลยอีก
มันไม่ค่อยจะพอดี ไม่อยู่ตรงกลาง
ใช้เงินให้ตำ่กว่าฐานะ เราจะได้มีเงินเหลือ ไม่ได้แปลว่าใช้ของคุณภาพตำ่
ใช้ของดี แต่ไม่สเปะสปะฟุ่มเฟือยตามแฟชั่นตามอารมณ์
รักษาสภาพคล่องของตัวเอง
สร้างฐานเพื่อการมีอิสรภาพทางการเงินจากฝีมือความคิดความชำนาญเฉพาะทางของตัวเอง
คนที่สร้างจิตใจตนเองสู้จนใจมั่นคง ออกไปทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ
เรียกว่ามีของ เติบโตพอดีตัว
คนที่ทำสำเร็จเขาไม่ได้จับเบอร์มาหรือตีหัวเข้าบ้าน หรือลอกคนอื่น
อย่างบางคน ทำงานงอกแงก แค่กำลังอยากเก็บตังค์ รอซื้อรถคันแรก
ซื้อบ้านหลังแรก เจอปัญหาเรื่องงานจะวิ่งหนี
ครูเตือนว่าอย่าลาออกให้สู้ก่อน จนใจนิ่ง ก็ไม่ฟัง ลาออก
พอเงินน้อยก็เป๋ต้องรีบหาเงินด่วน หากินแบบลืมตัวลืมตาย
เดือนที่แล้วยังกลุ้มใจเรื่องงาน อยากรวย หาซื้อรถคันแรกอยู่
เดือนนี้อยากแปลงร่างเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจให้คนมีความสุขประสบความสำเร็จไปแล้ว
ลืมว่าต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน
พังทั้งคนพูดคนฟัง
เมื่อไรที่ภาพที่คนอื่นเห็นเรา มีช่องว่างห่างจากสิ่งที่เราเป็นจริงๆ
แล้วเราต้องแสร้งเป็นในสิ่งที่เราไม่ได้เป็น
ข้างในของคนนั้นเองที่จะกัดกร่อนเจ้าตัวเหมือนสนิมกินเหล็ก
การทำงานให้ดีต้องฝึกตัวเองให้มีค่าเฉลี่ยความสุขภายในสูง
มีความมั่นคงภายใน ถ้าคิดจะทำประโยชน์ให้กว้างไกล
เริ่มจากรากฐานของใจที่แข็งแรง เช่นเดียวกันกับการคิดจะช่วยคนอื่น
ตัวเองต้องว่ายนำ้ให้แข็งมากๆ
ทำความดี ตรวจสอบตัวเองให้ดี มั่นคงแล้ว ใจจะมั่นคงกับอุปสรรค
รักษาสภาวะภายในที่มั่นคง จริงกับตัวเอง มีความสุข ยึดหลักความดีงาม
มิตรภาพ ทำประโยชน์แก่ผู้คนก่อน
มีกฏ10,000ชั่วโมงฝึกซ้อมทำในสิ่งที่รักที่ชอบ แม้ต้องทำฟรียังต้องทำ
โดยเฉพาะในการทำงานที่คนเขามาจ่ายเงินให้เราได้ฝึกตัวเองเรายิ่งต้องฝึกให้หนัก
ขอบคุณซาบซึ้งที่เขาให้เงินเราฝึกตัวเอง ทำให้เขาให้คุ้มเกินคุ้ม
ทำให้จิตใจเราแข็งแรง ชีวิตดีมีความสุข
แล้วจะไปที่ไหนต่อไปชีวิตก็จะก้าวหน้า
ต่างกับคนที่ทำงานเช้าชามเย็นชาม ไม่ใช้สมองคิดไม่ฝึกตน
ไปที่ไหนก็จะยิ่งแพ้ ยิ่งจมหนักกว่าเดิม
ทำงานให้เหมือนเป็นบริษัทของตัวเอง ประหยัด สังเกตุ สร้างสรรค์ ฝึกตน
ฝึกภายนอกฝึกภายใน
มาร์ค ซักเคิลเบิร์ก เจ้าของเฟซบุคบอก ไม่มีช็อร์ทคัท ไม่มีทางลัด
คือต้องรู้จริงฝึกจริง พูดได้เต็มปากเพราะทำมาแล้วผ่านมาได้
ใครเลื่อยขาก็ยิ่งโตเพราะของจริง
คนดีจะเลือกถูกคิดถูก
เข็มทิศของเราเน้นความกตัญญู ต่อพ่อแม่ ต่อแผ่นดิน ต่อโลก เรารัก
ขอบคุณแม้กับสิ่งที่ไม่ด ีแล้วกับพ่อแม่เรา สิ่งดีด ีคนดีดี
เราย่ิงต้องขอบคุณมากเข้าไปอีก สิ่งดีงามในใจเราจึงพัฒนา
คนดีดี จะหมั่นตรวจสอบตัวเอง ไคร่ครวญทบทวนตัวเอง ตั้งคำถามที่ถูกต้อง
กำลังทำอะไรเพื่ออะไร
ทำตัวเองให้ดีที่ใจก่อน ก่อนแล้วเอาใจที่ดี เที่ยงตรง ตรงทางไปสร้างประโยชน์
พอเราทำดี เราจะชอบตัวเอง ในทุกเหตุการณ์
แล้วสิ่งดีดีอย่างอื่นจะตามมาเอง
บทความลิขสิทธิ์ ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง
ใครอยากจะลาออกจากงาน เบื่องาน เบื่อเพื่อนรวมงาน ลองอ่านดู เช็คตัวเองหรือยัง
ขออนุญาต แชร์บทความของครูอ้อย มาให้เพื่อนๆในพันทิปที่อยากจะมีอิสระจากการเงิน การงาน ตามนี้ค่ะ
ช่วงนี้มีคนถามเรื่องลาออกจากงาน ลาออกจากความสัมพันธ์เยอะมาก
ปัญหาการเบื่องานเป็นเรื่องคลาสสิคที่พบได้ทั่วไป
คนมากมายจมอยู่กับงานหรือวิถีชีวิต ที่ไม่พัฒนาตัวเองมานาน
ต้นทุนทางด้านความคิดถูกหยุดพัฒนามานาน ทำให้พอจะไปหางานใหม่ทำ
หรือจะเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเองก็ไม่มีทักษะขาดความชำนาญพิเศษ
ขาดความรู้ความเข้าใจที่เหนือหรือต่างกว่าคนอื่น
หรืออาจจะไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรถนัดอะไรเสียด้วยซำ้
ใจเย็นๆ อย่าผลุนผลัน เมื่อไรที่ร้อนรนทนไม่ไหวต้องแยกให้ออกว่า
เพราะโครงสร้างเนื้องานและสิ่งแวดล้อมไม่ดีจริงๆ หรือเราไม่สู้
แม้สิ่งแวดล้อมไม่ดีก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรลาออกแบบวิ่งหนีตามใจตัวเองทันที
มีความต่างระหว่างการลาออกด้วยสภาวะทางใจที่มั่นคงเหมาะสมกับการวิ่งหนีปัญหา
ตรวจสอบตัวเองให้ดี
เพราะการหนีปัญหา ไปที่ใหม่ก็ยิ่งเจอ แต่การเรียนรู้เข้าใจ
ยอมรับแล้วเลือกใหม่อย่างถูกต้องแม่นยำทำให้เราเติบโต
เข้าใจตัวเอง เข้าใจบริบทที่แวดล้อม วิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งปัญหาโอกาสของตัวเอง
เขียน โครงสร้างทางการเงินของตัวเองออกมาให้ชัด มีNet Worth
ทรัพย์สินหักหนี้สินเท่าไร อะไรที่ไม่ได้อยู่ในชื่อของเราตัดออกไป
อย่าหวังนำ้บ่อหน้า ของพ่อแม่สามีภรรยาถ้ายังไม่โอนให้ไม่นับ
คิดมูลค่าทรัพย์สินตามจริงที่ขายได้วันนี้ไม่ใช่ราคาแบบเพ้อฝันยุคเศรษฐกิจดี
มีรายได้คงเหลือ คือรายรับลบรายจ่ายประจำเท่าไร
มีเงินเก็บเท่าไร เกิดอะไรขึ้นฉุกเฉิน เงินสดที่เหลือจะอยู่ได้อีกกี่เดือน
เป็นหนี้ใคร เท่าไร คำ้ประกันด้วยอะไร ดอกเบี้ยแต่ละที่เท่าไร
ไม่เอาเงินกู้ระยะสั้นดอกเบี้ยแพงไปใช้ในการลงทุนระยะยาว
เมื่อไรที่วิ่งหนีปัญหา คิดว่าต้องออกเดือนนี้เดี๋ยวนี้
นั่นไม่ใช่สเตทหรือสภาวะทางใจที่ถูกต้อง
ถ้าแพ้ที่นี่จะแพ้ต่อไปเรื่อยๆในสนามอื่น งอกยากมาก
บางคนงอกไม่ออกตลอดชีวิต เป็นเมล็ดตาย
หลายคนถามว่า บอกให้สู้ในพื้นที่เดิมให้ชนะก่อน ชนะอะไร ชนะใจตัวเองไง
เช่นเมื่อก่อนเป็นคนยังไม่ได้ทำงานเก่ง
พอได้ค้นพบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆบางอย่าง เริ่มดีขึ้นมา ก็อย่าเพิ่งเพริดไป
ตอนนี้เพิ่งฟื้นจากคนเคยเฉื่อยชามาเป็นคนปกติ
เริ่มสนุกกับสิ่งใหม่ๆที่ทำก็ใช้ชีวิตปกติก่อน
ไม่ต้องรีบตระกรุมตระกรามความสำเร็จ ทำการบ้านฝึกฝนตัวเองให้แม่น
ฝึกตัวเองให้ผ่านก่อน เก็บความรู้ประสบการณ์ เหมือนคนเพิ่งหายป่วยมีแรง
อย่าเพิ่งคิดไปวิ่งแข่งมาราธอนทันที โดยที่ยังไม่มีการฝึกซ้อม จะตายคาที่
คนยุคนี้ บางคนพอขาดก็ขาดมาก พอเกินก็ล้นเลย
เช่นไม่กล้าเรียกค่าตัว พอเรียกก็ โอเวอร์ไปคือไล่แขกไปเลย
บางคนพอไม่เห็นคุณค่าตัวเองก็ไม่เห็น
พอเห็นคุณค่าตัวเองก็คิดตังค์แบบไปปล้นเขาเลยอีก
มันไม่ค่อยจะพอดี ไม่อยู่ตรงกลาง
ใช้เงินให้ตำ่กว่าฐานะ เราจะได้มีเงินเหลือ ไม่ได้แปลว่าใช้ของคุณภาพตำ่
ใช้ของดี แต่ไม่สเปะสปะฟุ่มเฟือยตามแฟชั่นตามอารมณ์
รักษาสภาพคล่องของตัวเอง
สร้างฐานเพื่อการมีอิสรภาพทางการเงินจากฝีมือความคิดความชำนาญเฉพาะทางของตัวเอง
คนที่สร้างจิตใจตนเองสู้จนใจมั่นคง ออกไปทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ
เรียกว่ามีของ เติบโตพอดีตัว
คนที่ทำสำเร็จเขาไม่ได้จับเบอร์มาหรือตีหัวเข้าบ้าน หรือลอกคนอื่น
อย่างบางคน ทำงานงอกแงก แค่กำลังอยากเก็บตังค์ รอซื้อรถคันแรก
ซื้อบ้านหลังแรก เจอปัญหาเรื่องงานจะวิ่งหนี
ครูเตือนว่าอย่าลาออกให้สู้ก่อน จนใจนิ่ง ก็ไม่ฟัง ลาออก
พอเงินน้อยก็เป๋ต้องรีบหาเงินด่วน หากินแบบลืมตัวลืมตาย
เดือนที่แล้วยังกลุ้มใจเรื่องงาน อยากรวย หาซื้อรถคันแรกอยู่
เดือนนี้อยากแปลงร่างเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจให้คนมีความสุขประสบความสำเร็จไปแล้ว
ลืมว่าต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน
พังทั้งคนพูดคนฟัง
เมื่อไรที่ภาพที่คนอื่นเห็นเรา มีช่องว่างห่างจากสิ่งที่เราเป็นจริงๆ
แล้วเราต้องแสร้งเป็นในสิ่งที่เราไม่ได้เป็น
ข้างในของคนนั้นเองที่จะกัดกร่อนเจ้าตัวเหมือนสนิมกินเหล็ก
การทำงานให้ดีต้องฝึกตัวเองให้มีค่าเฉลี่ยความสุขภายในสูง
มีความมั่นคงภายใน ถ้าคิดจะทำประโยชน์ให้กว้างไกล
เริ่มจากรากฐานของใจที่แข็งแรง เช่นเดียวกันกับการคิดจะช่วยคนอื่น
ตัวเองต้องว่ายนำ้ให้แข็งมากๆ
ทำความดี ตรวจสอบตัวเองให้ดี มั่นคงแล้ว ใจจะมั่นคงกับอุปสรรค
รักษาสภาวะภายในที่มั่นคง จริงกับตัวเอง มีความสุข ยึดหลักความดีงาม
มิตรภาพ ทำประโยชน์แก่ผู้คนก่อน
มีกฏ10,000ชั่วโมงฝึกซ้อมทำในสิ่งที่รักที่ชอบ แม้ต้องทำฟรียังต้องทำ
โดยเฉพาะในการทำงานที่คนเขามาจ่ายเงินให้เราได้ฝึกตัวเองเรายิ่งต้องฝึกให้หนัก
ขอบคุณซาบซึ้งที่เขาให้เงินเราฝึกตัวเอง ทำให้เขาให้คุ้มเกินคุ้ม
ทำให้จิตใจเราแข็งแรง ชีวิตดีมีความสุข
แล้วจะไปที่ไหนต่อไปชีวิตก็จะก้าวหน้า
ต่างกับคนที่ทำงานเช้าชามเย็นชาม ไม่ใช้สมองคิดไม่ฝึกตน
ไปที่ไหนก็จะยิ่งแพ้ ยิ่งจมหนักกว่าเดิม
ทำงานให้เหมือนเป็นบริษัทของตัวเอง ประหยัด สังเกตุ สร้างสรรค์ ฝึกตน
ฝึกภายนอกฝึกภายใน
มาร์ค ซักเคิลเบิร์ก เจ้าของเฟซบุคบอก ไม่มีช็อร์ทคัท ไม่มีทางลัด
คือต้องรู้จริงฝึกจริง พูดได้เต็มปากเพราะทำมาแล้วผ่านมาได้
ใครเลื่อยขาก็ยิ่งโตเพราะของจริง
คนดีจะเลือกถูกคิดถูก
เข็มทิศของเราเน้นความกตัญญู ต่อพ่อแม่ ต่อแผ่นดิน ต่อโลก เรารัก
ขอบคุณแม้กับสิ่งที่ไม่ด ีแล้วกับพ่อแม่เรา สิ่งดีด ีคนดีดี
เราย่ิงต้องขอบคุณมากเข้าไปอีก สิ่งดีงามในใจเราจึงพัฒนา
คนดีดี จะหมั่นตรวจสอบตัวเอง ไคร่ครวญทบทวนตัวเอง ตั้งคำถามที่ถูกต้อง
กำลังทำอะไรเพื่ออะไร
ทำตัวเองให้ดีที่ใจก่อน ก่อนแล้วเอาใจที่ดี เที่ยงตรง ตรงทางไปสร้างประโยชน์
พอเราทำดี เราจะชอบตัวเอง ในทุกเหตุการณ์
แล้วสิ่งดีดีอย่างอื่นจะตามมาเอง
บทความลิขสิทธิ์ ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง