ทำไมประเทศไทยไม่พัฒนาเรื่องของเกษตรกรรมเป็นหลักแต่ไปมุ่งเน้นเรื่องอุตสาหกรรม

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับนี่คือกระทู้แรกของผมในพันทิพย์ ขอออกตัวก่อนว่าผมมิได้มีความรู้ในเรื่องเศรษฐกิจใดๆเลย เพียงแต่ผมมองจากมุมมองของตัวเองและจากประสบการณ์ที่ได้พบได้เห็นมาเท่านั้น
     สมัยผมยังเป็นเด็กตอนเรียนหนังสือชั้นประถมก็ได้รับการสั่งสอนมาว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีลักษณะดินฟ้าอากาศและองค์ประกอบที่เหมาะสมในการทำเกษตรกรรม สินค้าหลักของประเทศคือข้าวและข้าวที่ดีที่สุดในโลกคือข้าวจากประเทศไทยนอกจากนั้นไทยยังมีผักผลไม้ครบทั้ง 3 ฤดูเป็นที่รู้จักและนิยมของคนทั้งโลก และได้มีการยกย่องคนชาวนาโดยมีการเปรียบเทียบว่า "ชาวนาคือกระดูกสันหลังของประเทศ" ใช่แต่เท่านั้นเรายังมีวันพืชมงคล โดยมีพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาเป็นประธานในพระราชพิธีมีการแจกพันธุ์ข้าวและกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายเพื่อให้คนไทยระลึกถึงว่าอาชีพและรากเหง้าดั้งเดิมคืออะไร ในขณะนั้นอาชีพที่คนยุคนั้นส่วนใหญ่สนใจคือ แพทย์ ข้าราชการ (ผมรวมอาชีพที่มีรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงินเดือนทั้งหมดอยู่ในกลุ่มนี้) และพนักงานบริษัทซึ่งมิได้หมายความถึงโรงงานอุตสาหกรรมอย่างในสมัยนี้ สมัยนั้นคำว่า"อุตสาหกรรม"มิได้มีความสำคัญมากเท่ากับปัจจุบันนี้
     ครั้นพอผมเติบโตมาเรียนหนังสือจบออกมาทำงาน ขณะนั้นคำว่าอุตสาหกรรมเริ่มเข้ามามีบทบาทและความสำคัญส่วนหนึ่งนั้นเนื่องจากว่าค่าตอบแทนจากโรงงานอุตสาหกรรมนั้นสูงกว่าการเป็นข้าราชการส่วนใหญ่ และการจะเรียนจบออกมาเป็นแพทย์นั้นไม่ใช่ว่าใครๆก็ทำได้ และความต้องการแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นมีไม่จำกัดทำให้คนหลั่งไหลมาเข้าทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมกันมากมายรวมทั้งผมด้วย
     ผมไม่ปฏิเสธว่าอุตสาหกรรมสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำกับประเทศ แต่หลายๆสิ่งที่ผมเห็นว่ามันตามมากับอุตสาหกรรมด้วยก็คือ
1.  ความเสื่อมโทรม ของทั้งสิ่งแวดล้อมและจิตใจของคนไทย สมัยผมเป็นเด็กในวันหยุดผมถือเบ็ดไปตกปลาที่แม่น้ำจะมากน้อยผมก็จะมีปลากลับมาให้แม่ทำกับข้าวเสมอ แต่มาถึงทุกวันนี้ปลาและทรัพยากรธรรมชาติในแม่น้ำลดลงมากแทบจะไม่เหลืออยู่แล้วเป็นผลมาจากอุตสาหกรรมใช่หรือไม่ลองพิจารณากันดูครับ
สมัยนั้นเวลาขึ้นรถเมล์ถ้าผู้หญิงขึ้นมาทีหลัง ผู้ชายก็มักจะสละที่นั่งให้เสมอไม่ว่าจะแก่หรือสาวจะสวยหรือไม่สวยไม่สำคัญ รถราเมื่อถึงทางแยกจะชะลอให้ทางกันเป็นเรื่องปกติ แต่มาทุกวันนี้อย่าว่าแต่จะชะลอให้ทางกันเลยขนาดจะขับไปตามทางเรียงลำดับมาก่อนไปก่อนก็ยังทำไม่ได้เลยจริงไหมครับ
2.  ความสัมพันธ์ในครอบครัว สมัยผมยังเด็กนั้นกินข้าวเช้าและเย็นพร้อมกันเกือบจะทุกบ้าน เวลากินข้าวก็จะมีการสนทนาในครอบครัวหรือบางทีก็อบรมสั่งสอนกัน แต่มาเดี๋ยวนี้ต้องต่างคนต่างไปเพราะต้องรีบไปให้ทันเวลาเข้าทำงาน พ่อไปทาง แม่ไปทาง ลูกก็ไปอีกทาง
และนอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องซึ่งมิได้กล่าวถึงแต่ทุกคนก็รู้ว่ามันมีอยู่
ผมไม่ทราบว่านโยบายของประเทศมุ่งจะพัฒนาด้านอุตสาหกรรมหรือเปล่าแต่ผลที่ผมเห็นอยู่มันชี้ไปทางนั้น ทั้งๆที่ดินฟ้าอากาศของเราเหมาะกับการเกษตร ทั้งๆที่วัฒนธรรมประเพณีของเราสอดคล้องกับฤดูกาล ทั้งๆที่อุตสาหกรรมนั้นทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของเราไป ทั้งๆที่พระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เราน่าจะเปลี่ยนแนวทางมาหาเกษตรกรรมจะไม่ดีกว่าหรือครับ หรือถ้าจะคงอุตสาหกรรมไว้ก็เป็นอุตสากรรมการเกษตรไม่ดีกว่าหรือครับ
วันนี้มีเวลาจำกัดเดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่