วิเคราะห์จากสถานการณ์ของผมตามนี้ครับ
:ซื้อมาขายไป
ตอนนี้รับกระเป๋าแฟชั่นผู้หญิงมาขายราคาอยู่ที่ 250-350 บาท กำไรประมาน 90-120 บาท
ยอดขายทาง อินเตอร์เน็ตประมาน 50 ใบ หน้าร้าน 100 ใบ ต่อเดือน
หน้าร้านเป็นตลาดนัดรถไฟราคา 250 จะขายได้เยอะกว่าราคา 300-350 อัตราส่วนอยู่ประมาน 70/30 สินค้าที่รับมานี้กระแสค่อนข้างมาแรง คนขายเยอะ คนซื้อเยอะ ig fb ขายกันหลายร้าน เราเลยได้อานิสงส์ไปด้วย คนเดินผ่านหน้าร้านก็บอกเคยเห็นใน fb ig เครดิตค่อนข้างดี
:ทำแบรนด์ตัวเอง
ศึกษามาคร่าวๆ หาช่างค่อนข้างยาก เจอถูกใจอยู่เจ้าเดียว การตัดเย็บค่อนข้างดีเลย งานซับในดีมีช่องซิบชัดเจน เทียบเกรดก็ดีกว่าที่ขายอยู่ 350 บาทนิดนึง ทุนใบใหญ่สะพายข้างตก 200 บาท ใบเล็กก็ประมาน 170 บาท ขาย 350 กำไรก็ตกอยู่ประมาณ 150 บาท
แต่ปัญหามันอยู่ที่การลงทุนครับ ต่อรองช่างเต็มที่ ราคาทุนที่บอกข้างตน ต่อแบบอย่างน้อย 50 ใบคละสีได้ ทำอย่างน้อย 5 แบบ รวม 250 ใบ ทุนประมาน 50,000 บาท
ผมเสนอข้อดีของการทำแบรนด์
1. อยากทำแบบของตัวเอง สังเกตุรุ่นที่เราขายดี แต่เราคิดว่ามันยังมีอะไรที่ขาด ควรดัดแปลงนู่นนี้ เพิ่มนู่นนี้
2. อยากเปิดตลาดขายส่ง เพราะถ้าเรารับมาขายส่งแทบไม่เหลือกำไร เพราะมันแทบจะบวกไม่ได้อีกแล้ว
3. เพิ่มโอกาสในการเติบโต สามารถรับตัวแทนจำหน่ายได้ในอนาคตถ้าสินค้าแบรนด์เราขายปลีกได้ดี
แฟนผมเสนอข้อเสีย
1. ฐานลูกค้าไม่มากพอที่จะทำมาขาย สั่ง 250 ใบ แต่ตอนนี้ขายได้เดือนละ 150 ใบ แล้วมาขายควบคู่กับที่รับมาขาย คำนวณแล้วก็คาดว่า อย่างน้อย 2 เดือนถึงจะเคลียของล็อตแรกได้ แต่ถ้าโดนใจตลาดอาจจะ 1 เดือน แต่ก็มีโอกาสขายไม่ได้เหมือนกันใช่ไหม
2. กำไรไม่ได้มากกว่ารับมาขายสักเท่าไร ในเมื่อเราขายตลาดนัด ราคาแพงสุดสำหรับกระเป๋าไม่ควรเกิน 350 แถมขายควบคู่ไปกับของที่รับมาซึ่งราคาถูกกว่า มันก็ยิ่งออกยาก จากรับมาขายกำไร 90-120 บาท ส่วนทำเองก็ 150 บาท ซึ่งกำไรมาต่างกันไม่เยอะเท่าไร แต่เหนื่อยกว่าเสี่ยงกว่าเยอะ
แค่ 2 ข้อก็ปัญหาค่อนข้างหนักใจแล้ว
แฟนผมมองว่า ทุกวันนี้ยังไปได้อยู่ ถ้าทำก็กลัวจะไปคุ้มเหนื่อย กลัวขายไม่ได้ กลัวมากองเป็นขยะอยู่ในบ้าน ลงทุน 50,000-60,000 ก็เป็นเงิน กลัวจะสูญหมด ถ้าไม่มีแผนที่ดีในการผลิตและจัดจำหน่าย บอกให้ผลิตมาใบเดียวก่อนมาถ่ายรูป ดูผลตอบรับ รวมๆออเดอร์แล้วค่อยสั่งเยอะๆ (ปล. สั่งผลิตแค่ใบเดียวตกใบละ 1500 นะครับ ค่าแกะแบบก็ไม่คุ้มแล้ว ช่างแทบไม่อยากทำ)
แต่ผมมองว่าเงิน 50,000-60,000 สำหรับลงทุน คงไม่สูญหมด ขายได้ครึ่งนึงก็เกือบคืนทุนแล้ว และถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ และก็คงไม่ได้ทำสักที ผมอาจจะค่อนข้างบ้าบิ่น หลังจากผลิตออกมาผมคิดได้แค่จะซื้อโฆษณา google ads กะ ไปฝากร้านอื่นๆ เว็ป fb ig อื่นๆเค้าช่วยขาย จะมารอเพลเซฟ วางแผนในสื่งที่เราไม่รู้ ผมคิดมานานละ ดูแบบดีไซน์ต่างๆ สังเกตุคนสะพายกระเป๋า ลูกค้า พอจะระบุได้ว่าใบเล็กๆพกพาง่ายอาจจะกำลังมาแรง แต่ก็บอกไม่ได้หรอกว่าเราจะไม่เจ๊ง มันก็เป็นความคิดของผมแค่ติดว่าน่าจะขายได้มากกว่าเจ๊ง
เพื่อนๆคิดว่าไงบ้าง ควรรอให้ฐานลูกค้าเยอะๆกว่านี้ก่อน หรือเริ่มทำเลย แต่ผมเห็นด้วยกับข้อ 2 ของแฟนผมว่า ทำแบรนด์เอง ลงทุนเหนื่อย ควรมีกำไรต่อใบมากกว่าที่เราซื้อมาขายไปเยอะๆหน่อย ไม่งั้นผมก็ต้องหาทำเลใหม่ที่มันทำราคาได้มากกว่าตลาดนัด
เถียงกับแฟนอยู่ ทำแบรนด์ของตัวเองเพื่ออะไร หรือรับมาขายต่อไปจะดีกว่าไหม? ช่วยแนะนำหน่อยครับ
:ซื้อมาขายไป
ตอนนี้รับกระเป๋าแฟชั่นผู้หญิงมาขายราคาอยู่ที่ 250-350 บาท กำไรประมาน 90-120 บาท
ยอดขายทาง อินเตอร์เน็ตประมาน 50 ใบ หน้าร้าน 100 ใบ ต่อเดือน
หน้าร้านเป็นตลาดนัดรถไฟราคา 250 จะขายได้เยอะกว่าราคา 300-350 อัตราส่วนอยู่ประมาน 70/30 สินค้าที่รับมานี้กระแสค่อนข้างมาแรง คนขายเยอะ คนซื้อเยอะ ig fb ขายกันหลายร้าน เราเลยได้อานิสงส์ไปด้วย คนเดินผ่านหน้าร้านก็บอกเคยเห็นใน fb ig เครดิตค่อนข้างดี
:ทำแบรนด์ตัวเอง
ศึกษามาคร่าวๆ หาช่างค่อนข้างยาก เจอถูกใจอยู่เจ้าเดียว การตัดเย็บค่อนข้างดีเลย งานซับในดีมีช่องซิบชัดเจน เทียบเกรดก็ดีกว่าที่ขายอยู่ 350 บาทนิดนึง ทุนใบใหญ่สะพายข้างตก 200 บาท ใบเล็กก็ประมาน 170 บาท ขาย 350 กำไรก็ตกอยู่ประมาณ 150 บาท
แต่ปัญหามันอยู่ที่การลงทุนครับ ต่อรองช่างเต็มที่ ราคาทุนที่บอกข้างตน ต่อแบบอย่างน้อย 50 ใบคละสีได้ ทำอย่างน้อย 5 แบบ รวม 250 ใบ ทุนประมาน 50,000 บาท
ผมเสนอข้อดีของการทำแบรนด์
1. อยากทำแบบของตัวเอง สังเกตุรุ่นที่เราขายดี แต่เราคิดว่ามันยังมีอะไรที่ขาด ควรดัดแปลงนู่นนี้ เพิ่มนู่นนี้
2. อยากเปิดตลาดขายส่ง เพราะถ้าเรารับมาขายส่งแทบไม่เหลือกำไร เพราะมันแทบจะบวกไม่ได้อีกแล้ว
3. เพิ่มโอกาสในการเติบโต สามารถรับตัวแทนจำหน่ายได้ในอนาคตถ้าสินค้าแบรนด์เราขายปลีกได้ดี
แฟนผมเสนอข้อเสีย
1. ฐานลูกค้าไม่มากพอที่จะทำมาขาย สั่ง 250 ใบ แต่ตอนนี้ขายได้เดือนละ 150 ใบ แล้วมาขายควบคู่กับที่รับมาขาย คำนวณแล้วก็คาดว่า อย่างน้อย 2 เดือนถึงจะเคลียของล็อตแรกได้ แต่ถ้าโดนใจตลาดอาจจะ 1 เดือน แต่ก็มีโอกาสขายไม่ได้เหมือนกันใช่ไหม
2. กำไรไม่ได้มากกว่ารับมาขายสักเท่าไร ในเมื่อเราขายตลาดนัด ราคาแพงสุดสำหรับกระเป๋าไม่ควรเกิน 350 แถมขายควบคู่ไปกับของที่รับมาซึ่งราคาถูกกว่า มันก็ยิ่งออกยาก จากรับมาขายกำไร 90-120 บาท ส่วนทำเองก็ 150 บาท ซึ่งกำไรมาต่างกันไม่เยอะเท่าไร แต่เหนื่อยกว่าเสี่ยงกว่าเยอะ
แค่ 2 ข้อก็ปัญหาค่อนข้างหนักใจแล้ว
แฟนผมมองว่า ทุกวันนี้ยังไปได้อยู่ ถ้าทำก็กลัวจะไปคุ้มเหนื่อย กลัวขายไม่ได้ กลัวมากองเป็นขยะอยู่ในบ้าน ลงทุน 50,000-60,000 ก็เป็นเงิน กลัวจะสูญหมด ถ้าไม่มีแผนที่ดีในการผลิตและจัดจำหน่าย บอกให้ผลิตมาใบเดียวก่อนมาถ่ายรูป ดูผลตอบรับ รวมๆออเดอร์แล้วค่อยสั่งเยอะๆ (ปล. สั่งผลิตแค่ใบเดียวตกใบละ 1500 นะครับ ค่าแกะแบบก็ไม่คุ้มแล้ว ช่างแทบไม่อยากทำ)
แต่ผมมองว่าเงิน 50,000-60,000 สำหรับลงทุน คงไม่สูญหมด ขายได้ครึ่งนึงก็เกือบคืนทุนแล้ว และถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ และก็คงไม่ได้ทำสักที ผมอาจจะค่อนข้างบ้าบิ่น หลังจากผลิตออกมาผมคิดได้แค่จะซื้อโฆษณา google ads กะ ไปฝากร้านอื่นๆ เว็ป fb ig อื่นๆเค้าช่วยขาย จะมารอเพลเซฟ วางแผนในสื่งที่เราไม่รู้ ผมคิดมานานละ ดูแบบดีไซน์ต่างๆ สังเกตุคนสะพายกระเป๋า ลูกค้า พอจะระบุได้ว่าใบเล็กๆพกพาง่ายอาจจะกำลังมาแรง แต่ก็บอกไม่ได้หรอกว่าเราจะไม่เจ๊ง มันก็เป็นความคิดของผมแค่ติดว่าน่าจะขายได้มากกว่าเจ๊ง
เพื่อนๆคิดว่าไงบ้าง ควรรอให้ฐานลูกค้าเยอะๆกว่านี้ก่อน หรือเริ่มทำเลย แต่ผมเห็นด้วยกับข้อ 2 ของแฟนผมว่า ทำแบรนด์เอง ลงทุนเหนื่อย ควรมีกำไรต่อใบมากกว่าที่เราซื้อมาขายไปเยอะๆหน่อย ไม่งั้นผมก็ต้องหาทำเลใหม่ที่มันทำราคาได้มากกว่าตลาดนัด