สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิป เรามีปัญหาค้างคาใจอยากให้เพื่อนๆ เข้ามาช่วยออกความคิดเห็นหรือเล่าประสบการณ์ให้ฟังหน่อย
ปกติเราจะไม่ค่อยมีกระทู้แนวนี้เท่าไหร่ เพราะถือว่าอายุก็จะสี่สิบละ เรื่องความรักเป็นเรื่องรองๆ ลงมามากๆ อ้อสถานะเราตอนนี้ยังโสดค่ะ
เราชอบไปไหนมาไหนคนเดียวเป็นประจำ และทำกิจกรรมคนเดียวอยู่บ่อยๆ โดยไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติ (คงอยู่คนเดียวจนชิน)
เหตุการณ์แปลกๆ ที่เจอคือ ล่าสุดเราไปออกกำลังกายช่วงเช้าที่สวนสาธารณะมา ซึ่งปกติเราก็จะออกกำลังกายตรงนี้ประจำ
อาจไปบ้างไม่ไปบ้างแล้วแต่ความขี้เกียจ
แต่เมื่อก่อนเราไปออกกำลังกายช่วงเย็น พักหลังๆ มารู้สึกว่ามันร้อนกลัวหน้าเป็นฝ้าและช่วงเย็นคนเยอะ ทำให้ต้องแย่งเครื่องออกกำลังกายกับคนอื่น
เราเลยเปลี่ยนเวลามาออกกำลังกายช่วงเช้าแทนค่ะ ซึ่งเวลาที่เราจะไปออกกำลังกายคือประมาณหกโมงครึ่ง
เราก็ออกกำลังกายต่อเนื่องกันมาได้เป็นเดือนแล้ว (เฉพาะวันหยุดนะคะ)
อยู่ดีๆ วันหนึ่งก็มีผู้ชายคนหนึ่งอายุน่าจะเกือบห้าสิบแล้ว เดินมาหาเราที่รถ ในขณะที่เรากำลังเอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงินออกจากท้ายรถ
แล้วบอกว่าขอคุยกับเราหน่อย แล้วบอกว่าเราหน้าตาท่าทางเหมือนแฟนเค้ามาก และตอนนี้กำลังจะเลิกกัน แล้วเค้าบอกว่าแอบมองเรามานานแล้ว
เห็นเราไปวิ่ง ไปใช้เครื่องเล่นใกล้กับที่เค้านั่งอยู่ และเห็นเราไปกดเอทีเอ็ม (อันนี้เราหลอนมาก เพราะเหตุการณ์นั้นมันตั้งแต่วันสงกรานต์ค่ะ)
ซึ่งบทสนทนาก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เพราะเราก็งงๆ ว่ามาบอกเราทำไม จากนั้นก็แยกย้ายกัน เราก็ยังงงๆ แต่ก็เล่าให้เพื่อนฟังว่าเจอคนแปลกๆ ไม่น่าไว้ใจ
ซึ่งเราก็โดนคนด่าไปตามระเบียบว่าไปคุยกับคนแปลกหน้า (อันนี้ยอมรับว่าตอนนั้นงงๆ เซ่อๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก)
และส่วนใหญ่ก็บอกว่าเป็นมุกจีบหญิงของผู้ชาย ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จริง ยอมรับว่ารับไม่ได้มากๆ ค่ะ น่าเกลียดสุดๆ
หลังจากนั้นผ่านมาสองถึงสามครั้ง เราก็ไม่เห็นผู้ชายคนนั้นมาออกกำลังกายอีก ซึ่งจะว่าไปเค้าก็ไม่ได้ออกกำลังกายหรอกค่ะ แค่มานั่งตรงเครื่องออกกำลังกายเฉยๆ แต่ไม่ได้ทำอะไร
สำหรับเราเองหลังจากวันนั้นแล้วก็ปรับเปลี่ยนตัวเอง โดยสวมหมวกแก๊บ ปิดบังใบหน้า และเอาไว้สอดส่องสังเกตคนรอบตัวมากขึ้น (ยอมรับว่ากลัวค่ะ)
เหตุการณ์ล่าสุดคือเมื่อไม่กี่วันมานี้เราก็ไปออกกำลังกายตามปกติ ระหว่างที่เรากำลังเปลี่ยนเครื่องออกกำลังกาย เราก็หันไปเจอผู้ชายคนนั้นอีก
ซึ่งมานั่งตอนไหนก็ไม่รู้ เค้ากำลังมองมาที่เราและยิ้มให้ พอเราเห็นเราก็หันหน้าหนีและย้ายไปเล่นที่อื่นแทน เราก็นึกว่าไม่มีอะไรละ
ปรากฏว่าผุ้ชายคนนั้นได้ตามมาใช้เครื่องเล่นไม่ไกลจากเรานักแต่ไม่แสดงตัวให้เห็นชัด ซึ่งเราก็เปลี่ยนอุปกรณ์ออกกำลังกายไปหลายเครื่องแล้วตอนนั้น
ช่วงที่ออกกำลังกายก็แอบมองไปว่าผู้ชายคนนั้นยังอยู่ที่เดิมรึเปล่า ซึ่งก็ไม่เห็นค่ะ (เพราะตอนนั้นเค้าเปลี่ยนมาแอบดูเราอยู่อีกมุมหนึ่ง)
ก่อนกลับเราก็มองรอบตัวว่าผู้ชายคนนั้นอยู่ที่ไหน ปรากฎว่าเราพบเค้าไปแอบอยู่ตรงเครื่องเล่นตรงทางออกค่ะ แล้วเค้ากำลังมองหาเราอยู่ (น่ากลัวมาก เหมือนหนังโรคจิตเลย T T)
ความรู้สึกเราตอนนั้นกลัวมากๆ เราก็ทำท่าเล่นเครื่องเล่นต่อ แต่ระหว่างนั้นก็พยายามหาทางหนีอยู่ สุดท้ายเราก็อ้อมไปออกอีกทางด้านหนึ่ง
จากนั้นเราก็ขับรถออกมา ความรู้สึกตอนนั้นคือดีใจมากคิดว่าพ้นแล้ว (ยังไม่สำนึก)
ตอนนั้นเรารู้สึกหิวมากๆ เลยจะไปแวะซื้อโจ๊กทานก่อนกลับบ้านค่ะ ช่วงก่อนแปดโมงถนนโล่งมาก แต่มีรถกระบะคันหนึ่งที่มาจอดชิดท้ายรถเรามาก (กระจกมืดนะคะ เรามองไม่เห็นคนข้างใน รึช่วงแรกเราอาจไม่สังเกตก็ได้)
แล้วก็ขับตามรถเรา ซึ่งตอนนั้นเราขับรถไม่เร็วเท่าไหร่ ปกติรถกระบะก็น่าจะแซงไป แต่นี้ตามหลังรถเราตลอด จนเราไปจอดรถริมถนนที่หน้าร้านโจ๊ก
แต่รถคันนั้นคงไม่ทันตั้งตัว ทำให้จอดต่อท้ายรถเราไม่ทัน เค้าเลยขับเลยไปจอดหน้าซึ่งห่างจากรถเราไปประมาณสี่คันรถ (มีรถจอดตลอดแนวค่ะ)
ตอนนั้นเราเริ่มผิดสังเกตแล้วว่าเราขับรถมาตั้งไกล เลี้ยวไปเลี้ยวมารถคันนี้ก็ขับตามหลังเรา แล้วยังมาจอดที่เดียวกันอีก เราเลยนั่งสังเกตการณ์อยู่บนรถ ไม่ลงจากรถ
ซึ่งก็เห็นว่ารถคันนั้นก็ไม่มีคนลงมาจากรถเช่นกันค่ะ ผ่านไปซักพักคนในรถก็ไม่ลงมา เราก็คิดว่าน่าจะถูกตามแน่นอน
เราเลยอาศัยช่วงจังหวะที่รถวิ่งมากันเยอะๆ แล้วเรารีบขับรถแทรกกับรถพวกนั้นไป ทำให้เค้าไม่มีจังหวะที่จะขับรถตามเรา
แล้วเราก็ขับไปผ่านตลาดนัด ฯลฯ เส้นทางที่มีการจราจรวุ่นวายและติดขัดสุดๆ ค่ะ จนสังเกตว่าไม่มีใครตามมาแล้ว เราถึงกลับที่พัก
สุดท้ายเช้านั้นได้อาศัยโจ๊กเซเว่นกินประทังความหิว ปนความระทึก
กรณีนี้อยากถามเพื่อนๆ ว่า
1. พฤติกรรมแบบนี้ของผู้ชาย เค้ามีวัตถุประสงค์อะไรคะ และคนแบบนี้ถือว่าเป็นโรคจิตรึเปล่าคะ แล้วเราควรทำตัวอย่างไรหรือแก้ไขสถานการณ์อย่างไรบ้างคะ ตอนนี้รู้สึกว่าถูกคุกคามด้วยสายตา และถูกติดตามจนทำให้รู้สึกไม่เป็นอิสระในการใช้ชีวิต และไม่ปลอดภัยในชีวิตค่ะ
อาทิตย์หน้าไม่กล้าไปออกกำลังกายเลย กลัวมาก
2. เพื่อนๆ ที่อายุใกล้จะสี่สิบหรือสี่สิบไปแล้ว มีวิธีการจีบหญิงอย่างไรบ้างคะ เผื่อเราจะได้รู้เทคนิคของผู้ชาย
ปล. 1.เราไปออกกำลังกายตอนเช้าแบบไม่แต่งหน้า แปรงฟันเสร็จก็ไปเลย หน้าตาสภาพดูไม่จืดค่ะ เพราะปกติเราเป็นคนแต่งหน้า
2.ก่อนหน้านี้มีชาวต่างชาติที่พักอยู่คอนโดเดียวกันมาดักหน้าทางเข้า แล้วบอกว่าชอบเรามาก อยากทำความรู้จัก อยากขอเบอร์โทร.เพื่อสานสัมพันธ์ ซึ่งตอนนั้นเราตอบปฏิเสธไป แล้วเราก็หาวิธีหลบเลี่ยงการเจอหน้าเค้าค่ะ จนสุดท้ายเค้าบินกลับประเทศไปแล้ว รายนี้ก็ถือว่ากล้าบ้าบิ่นมากๆ ค่ะ ถามว่าโอเคไม๊ จริงๆ วิธีการแบบนี้ยังดีกว่าการไปแอบตามอีกนะคะ แบบนั้นสำหรับเราๆ เรียกว่าโรคจิตค่ะ
อ่านมาถึงตอนนี้อย่าเพิ่งหมั่นไส้เรานะคะ เราไม่ใช่คนสวยค่ะ อายุจะสี่สิบแล้ว แต่ตัวเล็กๆ คนเลยมักคิดว่าอายุไม่ถึงสามสิบอยู่เรื่อย ทั้งๆ ที่ตีนกาก็เต็มหน้า เราก็เลยสงสัยว่าผู้ชายคนนั้นสายตาสั้นรึเปล่า 5555 เพราะหน้าเราตอนไม่แต่งนี่สุดๆ จริงๆ ค่ะ ลูกน้องเคยเห็นตอนไปหาเราที่คอนโดยังตกใจเลย
ท้ายนี้ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนนะคะที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นค่ะ เขียนมาซะยาวเลย กลัวไม่เข้าใจกัน อิ อิ
อยากทราบว่าผู้ชายที่อายุ 40 ขึ้นไป มีวิธีการจีบผู้หญิงอย่างไรบ้างคะ อย่างที่เราเจอนี่ถือว่าเป็นคนปกติไม๊?
ปกติเราจะไม่ค่อยมีกระทู้แนวนี้เท่าไหร่ เพราะถือว่าอายุก็จะสี่สิบละ เรื่องความรักเป็นเรื่องรองๆ ลงมามากๆ อ้อสถานะเราตอนนี้ยังโสดค่ะ
เราชอบไปไหนมาไหนคนเดียวเป็นประจำ และทำกิจกรรมคนเดียวอยู่บ่อยๆ โดยไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติ (คงอยู่คนเดียวจนชิน)
เหตุการณ์แปลกๆ ที่เจอคือ ล่าสุดเราไปออกกำลังกายช่วงเช้าที่สวนสาธารณะมา ซึ่งปกติเราก็จะออกกำลังกายตรงนี้ประจำ
อาจไปบ้างไม่ไปบ้างแล้วแต่ความขี้เกียจ
แต่เมื่อก่อนเราไปออกกำลังกายช่วงเย็น พักหลังๆ มารู้สึกว่ามันร้อนกลัวหน้าเป็นฝ้าและช่วงเย็นคนเยอะ ทำให้ต้องแย่งเครื่องออกกำลังกายกับคนอื่น
เราเลยเปลี่ยนเวลามาออกกำลังกายช่วงเช้าแทนค่ะ ซึ่งเวลาที่เราจะไปออกกำลังกายคือประมาณหกโมงครึ่ง
เราก็ออกกำลังกายต่อเนื่องกันมาได้เป็นเดือนแล้ว (เฉพาะวันหยุดนะคะ)
อยู่ดีๆ วันหนึ่งก็มีผู้ชายคนหนึ่งอายุน่าจะเกือบห้าสิบแล้ว เดินมาหาเราที่รถ ในขณะที่เรากำลังเอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงินออกจากท้ายรถ
แล้วบอกว่าขอคุยกับเราหน่อย แล้วบอกว่าเราหน้าตาท่าทางเหมือนแฟนเค้ามาก และตอนนี้กำลังจะเลิกกัน แล้วเค้าบอกว่าแอบมองเรามานานแล้ว
เห็นเราไปวิ่ง ไปใช้เครื่องเล่นใกล้กับที่เค้านั่งอยู่ และเห็นเราไปกดเอทีเอ็ม (อันนี้เราหลอนมาก เพราะเหตุการณ์นั้นมันตั้งแต่วันสงกรานต์ค่ะ)
ซึ่งบทสนทนาก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เพราะเราก็งงๆ ว่ามาบอกเราทำไม จากนั้นก็แยกย้ายกัน เราก็ยังงงๆ แต่ก็เล่าให้เพื่อนฟังว่าเจอคนแปลกๆ ไม่น่าไว้ใจ
ซึ่งเราก็โดนคนด่าไปตามระเบียบว่าไปคุยกับคนแปลกหน้า (อันนี้ยอมรับว่าตอนนั้นงงๆ เซ่อๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก)
และส่วนใหญ่ก็บอกว่าเป็นมุกจีบหญิงของผู้ชาย ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จริง ยอมรับว่ารับไม่ได้มากๆ ค่ะ น่าเกลียดสุดๆ
หลังจากนั้นผ่านมาสองถึงสามครั้ง เราก็ไม่เห็นผู้ชายคนนั้นมาออกกำลังกายอีก ซึ่งจะว่าไปเค้าก็ไม่ได้ออกกำลังกายหรอกค่ะ แค่มานั่งตรงเครื่องออกกำลังกายเฉยๆ แต่ไม่ได้ทำอะไร
สำหรับเราเองหลังจากวันนั้นแล้วก็ปรับเปลี่ยนตัวเอง โดยสวมหมวกแก๊บ ปิดบังใบหน้า และเอาไว้สอดส่องสังเกตคนรอบตัวมากขึ้น (ยอมรับว่ากลัวค่ะ)
เหตุการณ์ล่าสุดคือเมื่อไม่กี่วันมานี้เราก็ไปออกกำลังกายตามปกติ ระหว่างที่เรากำลังเปลี่ยนเครื่องออกกำลังกาย เราก็หันไปเจอผู้ชายคนนั้นอีก
ซึ่งมานั่งตอนไหนก็ไม่รู้ เค้ากำลังมองมาที่เราและยิ้มให้ พอเราเห็นเราก็หันหน้าหนีและย้ายไปเล่นที่อื่นแทน เราก็นึกว่าไม่มีอะไรละ
ปรากฏว่าผุ้ชายคนนั้นได้ตามมาใช้เครื่องเล่นไม่ไกลจากเรานักแต่ไม่แสดงตัวให้เห็นชัด ซึ่งเราก็เปลี่ยนอุปกรณ์ออกกำลังกายไปหลายเครื่องแล้วตอนนั้น
ช่วงที่ออกกำลังกายก็แอบมองไปว่าผู้ชายคนนั้นยังอยู่ที่เดิมรึเปล่า ซึ่งก็ไม่เห็นค่ะ (เพราะตอนนั้นเค้าเปลี่ยนมาแอบดูเราอยู่อีกมุมหนึ่ง)
ก่อนกลับเราก็มองรอบตัวว่าผู้ชายคนนั้นอยู่ที่ไหน ปรากฎว่าเราพบเค้าไปแอบอยู่ตรงเครื่องเล่นตรงทางออกค่ะ แล้วเค้ากำลังมองหาเราอยู่ (น่ากลัวมาก เหมือนหนังโรคจิตเลย T T)
ความรู้สึกเราตอนนั้นกลัวมากๆ เราก็ทำท่าเล่นเครื่องเล่นต่อ แต่ระหว่างนั้นก็พยายามหาทางหนีอยู่ สุดท้ายเราก็อ้อมไปออกอีกทางด้านหนึ่ง
จากนั้นเราก็ขับรถออกมา ความรู้สึกตอนนั้นคือดีใจมากคิดว่าพ้นแล้ว (ยังไม่สำนึก)
ตอนนั้นเรารู้สึกหิวมากๆ เลยจะไปแวะซื้อโจ๊กทานก่อนกลับบ้านค่ะ ช่วงก่อนแปดโมงถนนโล่งมาก แต่มีรถกระบะคันหนึ่งที่มาจอดชิดท้ายรถเรามาก (กระจกมืดนะคะ เรามองไม่เห็นคนข้างใน รึช่วงแรกเราอาจไม่สังเกตก็ได้)
แล้วก็ขับตามรถเรา ซึ่งตอนนั้นเราขับรถไม่เร็วเท่าไหร่ ปกติรถกระบะก็น่าจะแซงไป แต่นี้ตามหลังรถเราตลอด จนเราไปจอดรถริมถนนที่หน้าร้านโจ๊ก
แต่รถคันนั้นคงไม่ทันตั้งตัว ทำให้จอดต่อท้ายรถเราไม่ทัน เค้าเลยขับเลยไปจอดหน้าซึ่งห่างจากรถเราไปประมาณสี่คันรถ (มีรถจอดตลอดแนวค่ะ)
ตอนนั้นเราเริ่มผิดสังเกตแล้วว่าเราขับรถมาตั้งไกล เลี้ยวไปเลี้ยวมารถคันนี้ก็ขับตามหลังเรา แล้วยังมาจอดที่เดียวกันอีก เราเลยนั่งสังเกตการณ์อยู่บนรถ ไม่ลงจากรถ
ซึ่งก็เห็นว่ารถคันนั้นก็ไม่มีคนลงมาจากรถเช่นกันค่ะ ผ่านไปซักพักคนในรถก็ไม่ลงมา เราก็คิดว่าน่าจะถูกตามแน่นอน
เราเลยอาศัยช่วงจังหวะที่รถวิ่งมากันเยอะๆ แล้วเรารีบขับรถแทรกกับรถพวกนั้นไป ทำให้เค้าไม่มีจังหวะที่จะขับรถตามเรา
แล้วเราก็ขับไปผ่านตลาดนัด ฯลฯ เส้นทางที่มีการจราจรวุ่นวายและติดขัดสุดๆ ค่ะ จนสังเกตว่าไม่มีใครตามมาแล้ว เราถึงกลับที่พัก
สุดท้ายเช้านั้นได้อาศัยโจ๊กเซเว่นกินประทังความหิว ปนความระทึก
กรณีนี้อยากถามเพื่อนๆ ว่า
1. พฤติกรรมแบบนี้ของผู้ชาย เค้ามีวัตถุประสงค์อะไรคะ และคนแบบนี้ถือว่าเป็นโรคจิตรึเปล่าคะ แล้วเราควรทำตัวอย่างไรหรือแก้ไขสถานการณ์อย่างไรบ้างคะ ตอนนี้รู้สึกว่าถูกคุกคามด้วยสายตา และถูกติดตามจนทำให้รู้สึกไม่เป็นอิสระในการใช้ชีวิต และไม่ปลอดภัยในชีวิตค่ะ
อาทิตย์หน้าไม่กล้าไปออกกำลังกายเลย กลัวมาก
2. เพื่อนๆ ที่อายุใกล้จะสี่สิบหรือสี่สิบไปแล้ว มีวิธีการจีบหญิงอย่างไรบ้างคะ เผื่อเราจะได้รู้เทคนิคของผู้ชาย
ปล. 1.เราไปออกกำลังกายตอนเช้าแบบไม่แต่งหน้า แปรงฟันเสร็จก็ไปเลย หน้าตาสภาพดูไม่จืดค่ะ เพราะปกติเราเป็นคนแต่งหน้า
2.ก่อนหน้านี้มีชาวต่างชาติที่พักอยู่คอนโดเดียวกันมาดักหน้าทางเข้า แล้วบอกว่าชอบเรามาก อยากทำความรู้จัก อยากขอเบอร์โทร.เพื่อสานสัมพันธ์ ซึ่งตอนนั้นเราตอบปฏิเสธไป แล้วเราก็หาวิธีหลบเลี่ยงการเจอหน้าเค้าค่ะ จนสุดท้ายเค้าบินกลับประเทศไปแล้ว รายนี้ก็ถือว่ากล้าบ้าบิ่นมากๆ ค่ะ ถามว่าโอเคไม๊ จริงๆ วิธีการแบบนี้ยังดีกว่าการไปแอบตามอีกนะคะ แบบนั้นสำหรับเราๆ เรียกว่าโรคจิตค่ะ
อ่านมาถึงตอนนี้อย่าเพิ่งหมั่นไส้เรานะคะ เราไม่ใช่คนสวยค่ะ อายุจะสี่สิบแล้ว แต่ตัวเล็กๆ คนเลยมักคิดว่าอายุไม่ถึงสามสิบอยู่เรื่อย ทั้งๆ ที่ตีนกาก็เต็มหน้า เราก็เลยสงสัยว่าผู้ชายคนนั้นสายตาสั้นรึเปล่า 5555 เพราะหน้าเราตอนไม่แต่งนี่สุดๆ จริงๆ ค่ะ ลูกน้องเคยเห็นตอนไปหาเราที่คอนโดยังตกใจเลย
ท้ายนี้ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนนะคะที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นค่ะ เขียนมาซะยาวเลย กลัวไม่เข้าใจกัน อิ อิ