[CR] One fine daY เที่ยวเลยหน้าร้อน ไม่เห็นจะร้อนเลย

ช่วงหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมาอยู่ดี ๆ ก็ตัดสินใจกะทันหันกับการเดินทางไปเลย  ก็เพราะเห็นตั๋วขากลับหางแดงออกมาเชิญชวน 590 บาท ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วจองเลยค่าาาา แล้วขาไปหล่ะไปยังไง???? ลืมคิด นั่งเช็คตั๋วเครื่องบินราคาก็เกินงบ หาไปหามาเหมือนโชคเข้าข้างได้รถทัวร์บขส. VIP มา 1ที่ ราคา 666 บาท อะไรนะ!!! ราคาตั๋วรถทัวร์แพงกว่าเครื่องบิน แถมนั่งกันยาวไป 10 ชม.เบา ๆ น้ำตาจะไหล


มาแบบตัดสินใจปุ๊บปั๊บ ที่จริงไม่ใช่อะไรแต่ว่าเป็นการออกมาตามหาแรงบัลดาลใจในการทำงาน แต่ถามว่าได้กลับมามั๊ยตอบได้เลยว่าไม่ เหตุผลหลักที่แท้จริงแล้วอยากมาเที่ยวบ้างหยุดยาวซะขนาดนี้ ไอเรื่องหาแรงบันดาลใจมันเป็นข้ออ้าง

ตีตั๋วรอบ 4 ทุ่มจากเมืองกรุงมุ่งสู่เมืองเลย 8 โมงเช้ารถก็เทียบท่าที่บขส.เลย ใช้เวลาเดินทางก็ 10 ชม.พอดิบพอดี
เอาของไปเก็บห้องเพื่อนทำไรให้เรียบร้อยก็มุ่งหน้าไปหาที่เงียบ ๆ นั่งคิดงาน จุดหมายแรกคือห้วยน้ำหมานตอนบน แว๊นมอเตอร์ไซค์ออกจากตัวเมืองใช้เส้นที่จะไปภูเรือ ไปประมาณ 4 กม.จะเจอทางแยกมีป้ายบอกทางชัดเจน ขับเข้าไปอีกซัก 5 -6 โล ก็ถึงแล้ว ที่นี่มีแพและอาหารบริการ มากัน 2 คนเลือกใช้แพเล็กราคา 300 บาท เรือก็ลากแพไปผูกไว้กลางอ่างเก็บน้ำ แล้วขอเบอร์พี่คนเรือไว้พอจะกลับก็โทรตามพี่เค้ามาลากกลับ ดีที่ไปตอนสาย ๆ ยังไม่มีใครมาเที่ยว เลยไม่มีเสียงแพอื่นรบกวนคือมันสบายจริง ๆ อากาศกำลังดี มีลมพัดเอื่อย ๆ แต่ที่เสียดายที่สุดคือลืมหยิบหมอนมา






บ่าย ๆ กลับเข้าไปจัดกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าต่อไปหาแรงบันดาลใจที่เชียงคานต่อ ใช้เวลานั่งรถสองแถวจากในเมืองไปเชียงคานประมาณ 1 ชม. อากาศเย็น ๆ หลังฝนตก นั่งรถสองแถวรับลมนี่สบายดีนะ (ปกติมีแต่นั่งรถเมล์รับมลพิษในกรุงเทพ) ไปถึงก็ตรงดิ่งไปหาที่พัก เล็งไว้ชื่อเรือนรักริมโขง (อยู่เยื้อง ๆ กับวัด) คาดว่าไม่น่าเต็มเพราะช่วงนี้มัน low season แล้วก็ได้ที่พักสมใจ ราคาคืนละ 800 บาท (high season คืนละ 1200) มีจักรยานให้ ตอนเช้ามีกาแฟ ขนมปัง โกโก้ไว้ให้บริการ




ว่าแต่มาเชียงคานต้องทำไรบ้างหล่ะ มาถึงก็เย็นแล้วคงได้แต่ปั่นจักรยานเล่นริมโขง แล้วค่ำ ๆ ก็เดินเล่นละกัน




อีกอย่างมาเชียงคานตอนเช้าก็ต้องตื่นมาตักบาตรข้าวเหนียวซินะ แต่!!!!!ไม่ตื่น ก็อากาศดีหลับสบาย แล้วฝนตกหนักด้วยเลยซุกตัวใต้ผ้าห่มต่อไป
ส่วนเรื่องอาหารเช้าก็ต้องไข่กระทะซินะกินเสร็จใช่ว่าจะอิ่ม เดินไปกินข้าวปุ้นน้ำแจ่วต่อ 555 วันนี้มีเจ้าบ้านผู้ใจดีมาขับรถพาไปเที่ยว เลียบริมโขงไล่ไปตั้งแต่ อ.เชียงคาน อ.ปากชม และไปสิ้นสุดที่อ.สังคม จังหวัดหนองคาย










ชอบเส้นทางนี้มากตลอดระยะทางกว่า 100 กม.ที่ลัดเลาะริมโขงไปมันก็คือวิวเดิม ๆ ของสายน้ำโขงที่เบื้องหลังคือภูเขาที่ทอดยาวตามแม่น้ำไป แต่ทำไมมันถึงไม่น่าเบื่อกับเส้นทางเส้นนี้ อาจเป็นเพราะความคดเคี้ยวของสายน้ำที่ไม่เหมือนกัน ความสูงชันของภูเขาก็ไม่เหมือนกันเลยทำให้ความสวยงามแตกต่างกันไป ยิ่งวิวมุมสูงจากวัดผาตากเสื้อด้วยแล้วเฮ้ย!!!!มันสวยหว่ะ นี่พึ่งรู้ว่ามีมุมสวย ๆ แบบนี้ด้วย นี่ว่าจะมาดูพระอาทิตย์ตกจากมุมสูงที่วัดผาตากเสื้อซะหน่อย แต่น่าเสียดายวันนี้เมฆเยอะเลยอดเห็น










เสร็จสรรพก็วกกลับไปนอนที่เลยเหมือนเดิม ดีนะมันใกล้กันแล้วทางก็รถไม่เยอะเลยขับง่าย คืนนี้ check in นอนที่นี่โรงแรมเลยพาวิลเลี่ยนคืนละ 690 บาทพร้อมอาหารเช้า ห้องพักกว้างขวาง สะอาดใช้ได้แชมพูกับสบู่ที่นี่ไม่เหมือนใคร เป็นแชมพูอัญชันกับสบู่ถ่านที่โรงแรมทำเองเจ๋งดีอะ แล้วถ้าใครชอบนวดที่โรงแรมมีไว้บริการอีกด้วย








สองวันหลัง ๆ ไม่ค่อยได้ออกไปไหน หมกตัวนั่งทำงานอยู่ในโรงแรมซะส่วนใหญ่ แต่ก็ดีที่โรงแรมมีพื้นที่ให้ใช้สอยหลากหลายรูปแบบเลยไม่ค่อยน่าเบื่อ เดินไปสำรวจด้านหลังของโรงแรมมีแปลงผักออแกนิก แปลงผักสวนครัวด้วย ผักพวกนี้เห็นว่าเป็นส่วนนึงของวัตถุดิบการทำอาหารของโรงแรม










มีหมูด้วยนะ แหนะตอนถ่ายรูปแอบมองกล้องอีก มองตลอดเลยนะ เหมือนรู้งาน


ที่โรงแรมมีร้านกาแฟน่ารัก ๆ อยู่ข้างหลังชื่อร้านเพลิน Coffee Library & Art By เอิ้น พิยะดา ว่าแต่ทำไมต้อง By เอิ้น พิยะดา ด้วยหล่ะ!!! ชื่อคุ้น ๆ นะ??? อ่อ.......ก็นึกว่าใคร เจอเจ้าของร้านด้วย เจ้าของร้านก็คือหมอเอิ้น คุณหมอนักแต่งเพลงนี่เอง










นี่ ๆ มุมนี้ชอบเป็นการส่วนตัว มันคือใต้ถุนบ้านไม้ที่อยู่หลังโรงแรม โปร่งโล่งสบาย ลมพัดเย็น ๆ มานั่งทำงานสบายตรงนี้สบายอารมณ์ดีเหมือนกัน


โรงแรมมีจักรยานไว้ปั่นไปไหนมาไหนด้วย ว่าแต่ปั่นไปไหนดีหล่ะ ไปซื้อของละกัน หรือปั่นไปกินข้าวดี หรือจะปั่นไปห้วยน้ำหมานดี 10 กิโลเองจิ๊บ ๆ


เสร็จเรียบร้อยกับการเดินทางหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่เมืองเลย นี่พึ่งเคยมาครั้งแรกนะเนี่ยะ ได้ checked in ที่เที่ยวในไทยเพิ่มอีกจังหวัดแล้ว ทริปนี้ตกหล่นเรื่องรูปภาพอาหารและรายละเอียดร้านอาหารที่น่าสนใจต้องขออภัยด้วยนะคะ

สำหรับใครอยากจะร่วมเดินทางไปกับพวกเราสามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่
https://www.facebook.com/iamtravelaholic