ยาวนิดนึง....ละครหน่อยแต่มันคือเรื่องจริง...ทนอ่านหน่อยนะครับ
คือว่าเรื่องมันเป็นเมื่อสองปีก่อน....
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เริ่มปรับตัวกับเพื่อนในห้องเพราะเราต้องอยู่ด้วยกันอีกสามปี...แต่มีปัญหาเรื่องนิสัยกันผมเลยโดนแกล้งล้อตลอดจากเพื่อนผู้ชายตลอดเวลา(ห้องนี้เป็นเด็กห้องเก่งมากเป็นห้องที่ต้องสอบเข้ามาอีกที่เป็นแหล่งรวมเด็กหัวกะทิซึ่งและรายละเอียดห้องแม่ผมก็ไม่บอกบอกว่าถ้าได้อยู่ก็จะดี...ผมเลยสอบแล้วได้มาแบบฟลุคๆแต่เรียนไปผมก็กลายเป็นส่วนน้อยที่โง่มากถึงมากที่สุดด้วยฮ่าฮ่า....)
ผมเลยคุยแต่กับเพื่อนอีกคนที่เป็นพวกสมองแบบเดียวกับผมแต่ดูเค้าจะไม่เต็มพวกนั้นเลยชอบล้อว่าผมกะเพื่อนคนนั้นเป็นพวกเด็กปัญญาอ่อนเวลาทำรายงานกลุ่มใหญ่ทั้งเพื่อนผู้หญิงและผู้ชายก็พาลดันผมออกมาถึงผมพยายามปรับตัวพวกเค้าก็ทำผมเหมือนส่วนเกินมากเท่านั้น...ผมเลยมาเล่นกับเพื่อนนอกห้องแล้วดูเหมือนผลตอบรับจะดี..ผมมีเพื่อนสนิทมากมายผมสามารถปรึกษาพวกเค้าได้คุยทุกเรื่องได้อย่างสบายใจช่วยเหลือกันได้ทุกอย่าง....ตอนแรกก็คิดว่าจะทนผ่านมันไปได้แต่เรื่องนี้ก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ....
อาจารย์โทรไปบอกแม่ผมว่าผมเข้ากับเพื่อนในห้องไม่ได้ผมชอบอยู่คนเดียวไม่ตั้งใจเรียนชอบคุยกะเพื่อนนอกห้อง..(อันที่จริงคาบไหนที่ไม่รู้เรื่องผมจะมีนิสัยเลิกสนใจไปเลยอันนี้ก็น่าจะมาจากนิสัยสมาธิสั้นของผมด้วยสิครับ)
พอแม่รู้เรื่องแม่ก็เรียกผมไปด่าบอกว่าทำไมถึงเข้ากับคนอื่นไม่ได้!!!เพราะอย่างนี้ถึงเป็นตัวถ่วงเค้า!!นิสัยอย่างนี้ถ้าไม่แก้มันจะเข้ากะคนอื่นไม่ได้จนตายนะ!!...เลิกคบกะเพื่อนนอกห้องเลยนะ!!..แต่ว่า.ตอนที่แม่ด่าผมก็ไม่ได้ยินหรอกนะมันอือไปหมด..ผมคิดแค่ว่าทำไมมันเป็นแบบนี้เราผิดตรงไหนผมเลวมากเลยเหรอ...พอรู้สึกตัวน้ำตาก็ไหล...แต่แม่ผมก็ด่าว่า...จะร้องทำไม!!!!ร้องแล้วมันทำให้ชีวิตดีมั้ยที่กูบอกไปให้จำไว้ด้วยนะ!!
ผมเหวอไปเลยครับ.....
ผมไม่คิดว่าแม่จะมองผมเลวมากในสายตาแม่....พอผมไปมองพ่อพ่อก็ทำเหมือนไม่มีผมในสายตา..แล้วเลือกน้องชายแทนผม...
ผมร้องไห้ทั้งคืน...น้ำตาไหลอย่างไม่เคยเป็น...
วันต่อมาเพื่อนสนิทนอกห้องมาทักแต่ผมกลับเฉยชาอย่างไม่เคยเป็น..ไร้อารมณ์เพื่อนสนิทของผมก็พยายามทำให้ผมยิ้มซึ่งผมก็ขอขอบคุณ...แต่พอผมกลับมาที่ห้องเจอสายตาคนทั้งห้องผมก็กลับมาเฉยชาอีกครั้งทั้งคำพูดล้อเลียน...อาการขยะแขยงเวลาผมเข้าไปใกล้...ผมกำมีดคัตเตอร์สำรองในมือจนแน่น..รู้สึกตัวอีทีก็ตอนที่เลือดมันออกมาเยอะจนล้นมือ...รู้สึกเจ็บ...
ทันทีผมก็นึกอะไรออก....ผมขอครูพักมาในห้องน้ำ..
ก่อบรรจงกรีดลงที่ขา....ให้ลึกและช้าที่สุด...เมื่อแผลยาวได้ที่แล้วผมจึงถอนมีดออกแล้วเปลี่ยนตำแหน่งใหม่..รู้สึกตัวอีกที่เลือดก็ไหลเต็มน่องแล้ว..
ตั้งแต่ตอนนั้นแหละที่ผมเวลาเครียด....จากเพื่อน...จากครู....จากครอบครัว...ผมก็จะปลีกตัวไปคนเดียวเพื่อไปกรีดตามร่างกายบางวันเลือดออกเยอะผมก็แถกับเพื่อนว่าหกล้ม....
แต่พอเหตุการ์ณเริ่มแรงขึ้น....ผมกรีดจนผมไปเป็นลมในคาบพละ....อาจารย์เลยพยุงผมออกมา..ตอนนั้นเพื่อนสนิทนอกห้องผมก็เห็นเลยอาสาอาจารย์พาผมไปห้องพยาบาลแต่เข้ากลับพาผมไปห้องสุขศึกษาแล้วเลิกขากางเกงผมขึ้น...ผมดิ้นจะเอามือออกแต่เค้าก็เลิกจนเห็นแผลที่ผมกรีด
"ทำเชี่ยอะไร!!!รู้ตัวมั้ย!!มีอะไรทำไมไม่บอกกู!!!มีกูเป็นเพื่อนไว้โชว์อย่างเดียวรึไง!!!เรื่องที่หนีไปกรีดแขนกรีดขากูรูอยู่แล้วกูนึกว่า

จะคิดได้สักที!!!!กูขอโทษที่กูไม่แอะใจสักนิดว่าทำไม

ตัวซีดทุกวันเพราะเสียเลือดกูขอโทษ!!"
เค้าพูดจบผมก็ร้องไห้เค้าถามผมถึงเรื่องทุกอย่างผมก็บอกเค้าไป...แล้วเค้าก็พาผมไปขอคำปรึกษาจากพี่ชายที่เรียนหมอเค้าก็บอกว่าเรื่องมันต้องแก้ที่ครอบครัว....พอผมบอกว่าครอบครัวผมมันคงแก้ไม่ได้แล้ว...เค้าเลยให้เพื่อนคอยดูพฤติกรรมผมว่าจะไปทำอะไรอีกรึเปล่า...ดังนั้นเวลาผมถือคัตเตอร์เค้าก็จะแย่งไปแล้วบอกว่า"เด๋วกูตัดให้!!เด๋วจะนึกบ้าเอาไปกรีดขาอีก!!"
ถึงมันจะเริ่มดี...
แต่พอผมอยู่ที่บ้านไม่มีเพื่อนอยู่...ผมก็กรีดอีกครั้ง....ซึ่งแม่ก็ไม่ยอมให้ผมออกจากบ้านไปไกลๆไปหาเพื่อนบ่อยซะเท่าไร(บ้านผมกับเพื่อนต้องนั่งรถประจำทางไปชั่วโมงนึงกว่าจะถึง..โรงเรียนก็เหมือนกัน)
ผมเหมือนโดนขัง...ทำอะไรซ้ำๆทุกวัน...พอแม่ด่าสกิดโดนอะไรอีกผมก็กรีดอีกครั้ง...
ยิ่งปิดเทอมที่ผมต้องอยู่คนเดียวบ่อยๆเแล้วไม่ต้องพูดถึง....ผมพยายามหยุดแต่ผมก็ทำไม่ได้...ผมเก็บไว้มากจนผมต้องระบายกับอะไรสักอย่าง
ผมไม่ไหวกับมันแล้ว.....กว่าผมจะได้เจอเพื่อน....ผมต้องขาดเลือดช็อกตายก่อนแน่ๆ
ผมจะทำยังไงดีครับ....ขอความเห็นที่ขอร้อง
ผมเข้าข่ายโรคชอบทำร้ายตัวเองรึเปล่าครับ
คือว่าเรื่องมันเป็นเมื่อสองปีก่อน....
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เริ่มปรับตัวกับเพื่อนในห้องเพราะเราต้องอยู่ด้วยกันอีกสามปี...แต่มีปัญหาเรื่องนิสัยกันผมเลยโดนแกล้งล้อตลอดจากเพื่อนผู้ชายตลอดเวลา(ห้องนี้เป็นเด็กห้องเก่งมากเป็นห้องที่ต้องสอบเข้ามาอีกที่เป็นแหล่งรวมเด็กหัวกะทิซึ่งและรายละเอียดห้องแม่ผมก็ไม่บอกบอกว่าถ้าได้อยู่ก็จะดี...ผมเลยสอบแล้วได้มาแบบฟลุคๆแต่เรียนไปผมก็กลายเป็นส่วนน้อยที่โง่มากถึงมากที่สุดด้วยฮ่าฮ่า....)
ผมเลยคุยแต่กับเพื่อนอีกคนที่เป็นพวกสมองแบบเดียวกับผมแต่ดูเค้าจะไม่เต็มพวกนั้นเลยชอบล้อว่าผมกะเพื่อนคนนั้นเป็นพวกเด็กปัญญาอ่อนเวลาทำรายงานกลุ่มใหญ่ทั้งเพื่อนผู้หญิงและผู้ชายก็พาลดันผมออกมาถึงผมพยายามปรับตัวพวกเค้าก็ทำผมเหมือนส่วนเกินมากเท่านั้น...ผมเลยมาเล่นกับเพื่อนนอกห้องแล้วดูเหมือนผลตอบรับจะดี..ผมมีเพื่อนสนิทมากมายผมสามารถปรึกษาพวกเค้าได้คุยทุกเรื่องได้อย่างสบายใจช่วยเหลือกันได้ทุกอย่าง....ตอนแรกก็คิดว่าจะทนผ่านมันไปได้แต่เรื่องนี้ก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ....
อาจารย์โทรไปบอกแม่ผมว่าผมเข้ากับเพื่อนในห้องไม่ได้ผมชอบอยู่คนเดียวไม่ตั้งใจเรียนชอบคุยกะเพื่อนนอกห้อง..(อันที่จริงคาบไหนที่ไม่รู้เรื่องผมจะมีนิสัยเลิกสนใจไปเลยอันนี้ก็น่าจะมาจากนิสัยสมาธิสั้นของผมด้วยสิครับ)
พอแม่รู้เรื่องแม่ก็เรียกผมไปด่าบอกว่าทำไมถึงเข้ากับคนอื่นไม่ได้!!!เพราะอย่างนี้ถึงเป็นตัวถ่วงเค้า!!นิสัยอย่างนี้ถ้าไม่แก้มันจะเข้ากะคนอื่นไม่ได้จนตายนะ!!...เลิกคบกะเพื่อนนอกห้องเลยนะ!!..แต่ว่า.ตอนที่แม่ด่าผมก็ไม่ได้ยินหรอกนะมันอือไปหมด..ผมคิดแค่ว่าทำไมมันเป็นแบบนี้เราผิดตรงไหนผมเลวมากเลยเหรอ...พอรู้สึกตัวน้ำตาก็ไหล...แต่แม่ผมก็ด่าว่า...จะร้องทำไม!!!!ร้องแล้วมันทำให้ชีวิตดีมั้ยที่กูบอกไปให้จำไว้ด้วยนะ!!
ผมเหวอไปเลยครับ.....
ผมไม่คิดว่าแม่จะมองผมเลวมากในสายตาแม่....พอผมไปมองพ่อพ่อก็ทำเหมือนไม่มีผมในสายตา..แล้วเลือกน้องชายแทนผม...
ผมร้องไห้ทั้งคืน...น้ำตาไหลอย่างไม่เคยเป็น...
วันต่อมาเพื่อนสนิทนอกห้องมาทักแต่ผมกลับเฉยชาอย่างไม่เคยเป็น..ไร้อารมณ์เพื่อนสนิทของผมก็พยายามทำให้ผมยิ้มซึ่งผมก็ขอขอบคุณ...แต่พอผมกลับมาที่ห้องเจอสายตาคนทั้งห้องผมก็กลับมาเฉยชาอีกครั้งทั้งคำพูดล้อเลียน...อาการขยะแขยงเวลาผมเข้าไปใกล้...ผมกำมีดคัตเตอร์สำรองในมือจนแน่น..รู้สึกตัวอีทีก็ตอนที่เลือดมันออกมาเยอะจนล้นมือ...รู้สึกเจ็บ...
ทันทีผมก็นึกอะไรออก....ผมขอครูพักมาในห้องน้ำ..
ก่อบรรจงกรีดลงที่ขา....ให้ลึกและช้าที่สุด...เมื่อแผลยาวได้ที่แล้วผมจึงถอนมีดออกแล้วเปลี่ยนตำแหน่งใหม่..รู้สึกตัวอีกที่เลือดก็ไหลเต็มน่องแล้ว..
ตั้งแต่ตอนนั้นแหละที่ผมเวลาเครียด....จากเพื่อน...จากครู....จากครอบครัว...ผมก็จะปลีกตัวไปคนเดียวเพื่อไปกรีดตามร่างกายบางวันเลือดออกเยอะผมก็แถกับเพื่อนว่าหกล้ม....
แต่พอเหตุการ์ณเริ่มแรงขึ้น....ผมกรีดจนผมไปเป็นลมในคาบพละ....อาจารย์เลยพยุงผมออกมา..ตอนนั้นเพื่อนสนิทนอกห้องผมก็เห็นเลยอาสาอาจารย์พาผมไปห้องพยาบาลแต่เข้ากลับพาผมไปห้องสุขศึกษาแล้วเลิกขากางเกงผมขึ้น...ผมดิ้นจะเอามือออกแต่เค้าก็เลิกจนเห็นแผลที่ผมกรีด
"ทำเชี่ยอะไร!!!รู้ตัวมั้ย!!มีอะไรทำไมไม่บอกกู!!!มีกูเป็นเพื่อนไว้โชว์อย่างเดียวรึไง!!!เรื่องที่หนีไปกรีดแขนกรีดขากูรูอยู่แล้วกูนึกว่า
เค้าพูดจบผมก็ร้องไห้เค้าถามผมถึงเรื่องทุกอย่างผมก็บอกเค้าไป...แล้วเค้าก็พาผมไปขอคำปรึกษาจากพี่ชายที่เรียนหมอเค้าก็บอกว่าเรื่องมันต้องแก้ที่ครอบครัว....พอผมบอกว่าครอบครัวผมมันคงแก้ไม่ได้แล้ว...เค้าเลยให้เพื่อนคอยดูพฤติกรรมผมว่าจะไปทำอะไรอีกรึเปล่า...ดังนั้นเวลาผมถือคัตเตอร์เค้าก็จะแย่งไปแล้วบอกว่า"เด๋วกูตัดให้!!เด๋วจะนึกบ้าเอาไปกรีดขาอีก!!"
ถึงมันจะเริ่มดี...
แต่พอผมอยู่ที่บ้านไม่มีเพื่อนอยู่...ผมก็กรีดอีกครั้ง....ซึ่งแม่ก็ไม่ยอมให้ผมออกจากบ้านไปไกลๆไปหาเพื่อนบ่อยซะเท่าไร(บ้านผมกับเพื่อนต้องนั่งรถประจำทางไปชั่วโมงนึงกว่าจะถึง..โรงเรียนก็เหมือนกัน)
ผมเหมือนโดนขัง...ทำอะไรซ้ำๆทุกวัน...พอแม่ด่าสกิดโดนอะไรอีกผมก็กรีดอีกครั้ง...
ยิ่งปิดเทอมที่ผมต้องอยู่คนเดียวบ่อยๆเแล้วไม่ต้องพูดถึง....ผมพยายามหยุดแต่ผมก็ทำไม่ได้...ผมเก็บไว้มากจนผมต้องระบายกับอะไรสักอย่าง
ผมไม่ไหวกับมันแล้ว.....กว่าผมจะได้เจอเพื่อน....ผมต้องขาดเลือดช็อกตายก่อนแน่ๆ
ผมจะทำยังไงดีครับ....ขอความเห็นที่ขอร้อง