อย่าเอา "โครงการรับจำนำข้าว" ที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ไปยึดโยงกับกิจการของคุณเลยค่ะ

.     เพราะว่า "โครงการรับจำนำข้าว" เป็นนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์เศรษฐกิจ
อันเกิดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก แก้ปัญหาการชลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
ทดแทนรายได้จากการส่งออกไปยุโรปเพราะเกิดปัญหาหนี้ท่วมในขณะนั้น แก้ปัญหาสภาพคล่องล้นสถาบันการเงิน
แก้ปัญหาความยากจนของชาวนา สร้างรายได้เพิ่มโอกาส โดยยึดหลัก "ขาดทุนคือกำไร" (Our loss is our gain)
คือ การดำเนินงานที่ยึดผลสำเร็จแห่งความ "คุ้มค่า" มากกว่า "คุ้มทุน"
คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนส่วนรวม มากกว่าผลสำเร็จที่เป็นตัวเลขอันเป็นผลประโยชน์ของกลุ่มคนส่วนน้อย
เล็งเห็นผลที่ได้จากการลงทุนเพื่อประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่ อันได้แก่ ความอยู่ดีมีสุขของประชาชน
ซึ่งตีค่าเป็นตัวเงินไม่ได้ ซึ่งถ้าหากพิจารณาตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว อาจจะถือว่าเป็นการลงทุนที่ขาดทุนหรือไม่คุ้มทุน

      เป็นวิธีคิดที่แตกต่างและมีคุณค่ามากกว่า วิธีซื้อมาขายไป หรือ "กลไกตลาด" ของคุณ
ที่ จขกท อยากจะบอกว่า คำว่า "กลไกตลาด" ของแต่ละคนก็มีมุมมองไม่เหมือนกัน
ของเจ๊เช็งก็อย่างนึง ของคุณชวนก็อย่างนึง ของเจ้าสัวซีพีก็อีกอย่างนึง ยกเว้นมาร์คกับเกี๊ยกที่เหมือนกัน
ฉนั้นการเอามุมมองแบบจุลภาค ไปตีขลุมเอาว่า นโยบายจำนำข้าว ไม่ประสบความสำเร็จนั้น
จขกท มีความรู้สึกว่า ท่านใช้ข้อมูล เวลา และวิธีคิด น้อยไปหน่อยกระมังคะ




ปล.แล้วก็ไม่ต้องเอาวิธีซื้อมาขายไปของท่าน ไปให้ใครเขาทำ เพราะมันไม่ตอบโจทย์ค่ะ