เรื่องก็คือว่า วันนี้เวลาประมาณ 6โมงเย็น ขณะที่เรากำลังเดินกลับหอ เราเจอตากับยายกำลังข้ามถนน ซึ่งไม่ได้ข้ามสะพานลอย เราก็เลยมองว่าทำไมตากับยายไม่ข้ามสะพานลอยนะ เดินข้ามตรงนี้อันตรายมาก เพราะถนนช่วงนั้นคือช่วงทางขึ้นสะพานพระราม 7 มีรถค่อนข้างเยอะ แต่พอมองดีๆจึงเห็นว่าแกมีรถเข็น เป็นรถแบบซาเล้งอะค่ะ เราก็อ่อ เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงข้ามสะพานลอยไม่ได้ เราเลยหยุดยืนมองอยู่ตรงริมฟุตบาทก่อน เพื่อรอให้ตายายข้ามถนนปลอดภัยก่อน ด้วยความเป็นห่วงว่ารถจะชนเอาค่ะ ซึ่งตอนนี้ตากับยายข้ามถนนอีกฝั่งนึงมาแล้ว เหลือข้ามอีกฝั่งนึง รออยู่ซักพักจนรถไม่มีพอจะข้ามได้แล้วแต่ตากับยายก็ยังไม่ข้ามซักที เราเห็นท่าไม่ดีจึงเดินข้ามถนนมาช่วยตาดับยายเข็นรถข้ามฝั่งไปค่ะ
จากนั้นเราก็ได้คุยกับตากับยายพอสมควร ถามว่าทั้งสองจะไปไหน มีเงินค่ารถหรือเปล่า นั่งแท็กซี่ไปมั้ยเดี่ยวเราจะจ่ายเงินให้ ตากับยายก็บอกว่าไม่เป็นไร แกจะเดินไปตลาดเขมา ซึ่งมันอยู่ไม่ไกล ตากับยายแก่มากแล้ว จากที่เราถามแกคือทั้งสองไม่มีลูก มีแต่หลาน แกอาศัยบ้านคนคนนึงอยู่ เราเห็นแกทั้งสองก็รู้สึกสงสาร เหมือนว่าแกจะเก็บขวดหรือของตามขยะไปขาย ได้เงินทีละร้อย สองร้อย เราก็อยากให้เงินแกซัก 300 ช่วยแกเล็กๆน้อยๆ แต่เราไม่มีเศษ เลยไม่ได้ให้ ถ้าให้ 500 ก็กลัวว่าเงินตัวเองจะไม่พอ หลังจากเราเดินจากแกมาก็ลังเลอยู่ซักพักเรื่องจะให้เงินช่วยเหลือตากับยาย ตอนนั้นเรายืนอยู่หน้าโรงแรมหรือบริษัทอะไรซักอย่าง เราเลยขอแลกเงินกับลุงยาม แต่ลุงยามไม่มี เราเลยเดินไปร้านค้าแลกเงิน แล้ววิ่งตามตากับยายไป ตามไปไกลพอสมควรแต่ก็ไม่เห็นแล้ว จึงเดินกลับมา ตอนนั้นฟ้าก็มืดแล้ว ทางก็เปลี่ยวด้วยค่ะ ค่อนข้างอันตราย
เดินกลับมาจนถึงที่เดิม ลุงยามเลยถามเราว่า "เจอตากับยายมั้ย" เราก็ตอบไปว่า "ไม่เจอค่ะ" ลุงยามจึงถามอีกครั้งว่า "ตั้งใจจะไปหาแกใช่มั้ย รอแปปนึงนะ เดี่ยวลุงพาไปหา ลุงเคยเห็นแกอยู่ที่ตลาดเขมา" เราก็กลัวนิดนึงค่ะ แต่ก็จำได้ว่าตากับยายอยู่ตลาดเขมาจริงๆ เลยให้ลุงยามพาไป พอไปถึงตลาดก็เกือบไม่เจอแกแล้ว แต่สุดท้ายก็เจอ ขณะที่เราคุยกับตายาย ก็มีป้าคนนึงเดินมาบอกแกว่า คนที่แกอาศัยบ้านเค้าอยู่เค้าทะเลาะกัน คงจะอยู่บ้านนั้นไม่ได้แล้ว ให้เก็บของออกมา จากที่เราเดินไปคุยกับป้ามา ป้าเล่าให้ฟังว่า ตากับยายอาศัยบ้านของสามีภรรยาคู่หนึ่งอยู่ ซึ่งผู้หญิงสงสารตากับยาย จึงพามาอยู่บ้านด้วย ไม่ได้ให้ช่วยออกค่าใช้จ่ายอะไร แต่เวลาตาอาบน้ำ ชอบอาบน้ำนาน อาบน้ำเป็นชั่วโมง แล้วใช้น้ำเยอะ เวลาทานข้าว ก็ชอบปาข้าวทิ้ง จึงทำให้สามีภรรยาทะเลาะกันอย่างรุนแรง และอาจจะมีเรื่องอื่นอีกซึ่งเราก็ไม่ทราบค่ะ อาจเป็นเพราะว่าตาแก่แล้ว แล้วตาก็เป็นคนพูดเยอะด้วยค่ะ
จากที่เราคุยกับตายาย ตาก็เล่าโน่นเรานี่ให้ฟัง แล้วก็ดึงเราไปกอดไปหอม ตอนแรกที่เราพากับยายข้ามถนน ตาก็ดึงมือเราไปหอมหลายครั้ง ดึงเราไปกอดบ้าง เราก็ไม่ว่าอะไร เหมือนตาเอ็นดูเราค่ะ แต่ตอนที่เรามาเจอแกที่ตลาด ยายไปซื้อของพอดี เราก็เดินมาถามตาว่ายายไปไหน ตาก็คุยกับเราทั้งดึงเราไปกอด หอมแก้ม หอมมือหลายครั้งเกินไป จนเรารู้สึกไม่ดี เพราะรู้สึกว่ามันมากเกินไป คนแถวนั้นก็หันมามอง เราก็พยายามดันตัวแกออกแล้วบ่ายเบี่ยงจะเดินไปทางอื่น เพราะตอนนั้นก็มืดแล้วด้วย จากเหตุการณ์นี้จึงทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับตาไปนิดหน่อย แต่พยายามไม่คิดอะไร จึงทำให้เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนที่อยู่บ้านมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง อาจจะทำให้คนเป็นสามีไม่พอใจ ก่อนหน้านี้ซักพักเราได้ขอเบอร์แกไว้ แล้วให้เบอร์เราไว้เพราะตอนที่ตากับยายเดินข้ามถนนมา เราเห็นตากับยายลากรถไปตามถนน เรามองว่ามันอันตรายมาก รถอาจจะเฉี่ยวชนเอาได้ แต่ตากับยายกลัวว่าถ้าลากบนฟุตบาทแล้วล้อรถเข็นมันจะพัง เราเลยตั้งใจจะให้เบอร์เราไว้ แล้วบอกตากับยายว่า หลังจากนี้ให้เข็นรถไปตามฟุตบาทจะได้ปลอดภัย ถ้าล้อมันพังให้โทรหาเรา เดี่ยวเราจ่ายค่าเปลี่ยนล้อให้
แต่อยู่ๆก็เกิดเรื่องนี้ขึ้น ตาก็ขอความช่วยเหลือกับเรา ให้เราช่วยหาที่อยู่ให้ เพราะถ้าคืนนี้เค้าไล่ออกจากบ้าน ก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ให้เราบอกพ่อกับแม่ให้หน่อย เราก็บอกตาว่า เราไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ เราอยู่หอ ตาก็บอกงั้นถามเพื่อนให้หน่อย ถามคุณครูให้หน่อย ใครช่วยหาที่อยู่ได้บ้าง เราก็คิดในใจว่า เราคงช่วยไม่ได้มากกว่านี้แล้ว เกินความสามารถของเราแล้ว ก็ได้แต่ตอบว่า" ค่ะๆๆ เดี่ยวหนูดูก่อนนะค่ะ เพราะหนูก็อาจจะช่วยไม่ได้" เพราะตาก็ย้ำกับเราหลายครั้ง บวกกับตอนที่พูดกับเราตาก็ดึงเราไปกอด ไปหอม หอมแก้มบ้าง เอาหน้าผากชนกันบ้างแล้วกอดเราอยู่ตลอด เราก็รู้สึกไม่ดีค่ะ พยายามดันตัวแกออก แกก็พูดกับเราว่า รังเกียจตาหรอ เราก็ตอบ เปล่าค่ะๆ จนยายที่เดินไปซื้อของเดินกลับมา เราก็รีบเดินไปคุยกับยาย แต่ตาก็ยังพยายามดึงเราไป ทำให้เราอึดอัด เราเลยรีบให้เงินช่วยยายไป 500 บาทแล้วรีบลาตากับยาย ตาก็ยังดึงเราไปกอดจนวินาทีสุดท้าย จนเราบอกว่าลุงยามรออยู่ ต้องรีบกลับก่อน เดี่ยวลุงยามต้องกลับไปทำงานต่อ
เรากลับมาหาลุงยามและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ลุงยามฟัง ลุงยามก็บอกเราว่า "เราช่วยได้เท่าที่เราสามารถช่วยได้ เราไม่สามารถจะแบกความทุกข์ของคนทั้งโลกไว้ได้ แล้วการที่เราวิ่งตามตากับยายมา ถนนมันมืดแล้ว ซึ่งทางตรงนั้นมันเปลี่ยว อันตรายมาก ถ้ามีโจรมาทำร้ายทำยังไง" ลุงยามเห็นว่าเราเป็นคนดี เลยพามาช่วยหาตากับยาย ต้องขอบคุณลุงยามมากจริงๆค่ะ เราก็กังวลว่า ถ้าตาโทรมาหาเรา ถามเราเรื่องที่ช่วยให้หาที่อยู่ เราคงจำเป็นต้องปฏิเสธเพราะคงช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ แต่ก็คงรู้สึกแย่ เราเลยอยากจะปรึกษาเพื่อนๆว่า เราควรทำอย่างไรดีคะ พอจะมีหน่วยงานไหนที่สามารถช่วยเหลือตากับยายได้บ้าง อย่างบ้านพักคนชราแบบนี้ แต่ตากับยายก็คงไม่อยากจะอยู่ ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับบ้านพักคนชราด้วยค่ะ ขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆทีค่ะ พอจะมีวิธีไหนช่วยได้บ้าง
ปล.ตากับยายมีหลานค่ะ แต่ไม่ได้อยู่กับหลาน หลานเป็นผู้หญิงอายุ30คงจะมีปัญหาอะไรจึงไม่ได้ไปอยู่กับหลาน บางครั้งตากับยายก็เดินลากรถเข็นไปจนถึงสุพรรณ บ้านตากับยายอยู่สุพรรณค่ะ
เมื่อเจอตากับยายคู่หนึ่ง ไม่มีลูก แกกำลังจะโดนไล่ออกจากบ้าน มีหน่วยงานไหนช่วยได้บ้าง
จากนั้นเราก็ได้คุยกับตากับยายพอสมควร ถามว่าทั้งสองจะไปไหน มีเงินค่ารถหรือเปล่า นั่งแท็กซี่ไปมั้ยเดี่ยวเราจะจ่ายเงินให้ ตากับยายก็บอกว่าไม่เป็นไร แกจะเดินไปตลาดเขมา ซึ่งมันอยู่ไม่ไกล ตากับยายแก่มากแล้ว จากที่เราถามแกคือทั้งสองไม่มีลูก มีแต่หลาน แกอาศัยบ้านคนคนนึงอยู่ เราเห็นแกทั้งสองก็รู้สึกสงสาร เหมือนว่าแกจะเก็บขวดหรือของตามขยะไปขาย ได้เงินทีละร้อย สองร้อย เราก็อยากให้เงินแกซัก 300 ช่วยแกเล็กๆน้อยๆ แต่เราไม่มีเศษ เลยไม่ได้ให้ ถ้าให้ 500 ก็กลัวว่าเงินตัวเองจะไม่พอ หลังจากเราเดินจากแกมาก็ลังเลอยู่ซักพักเรื่องจะให้เงินช่วยเหลือตากับยาย ตอนนั้นเรายืนอยู่หน้าโรงแรมหรือบริษัทอะไรซักอย่าง เราเลยขอแลกเงินกับลุงยาม แต่ลุงยามไม่มี เราเลยเดินไปร้านค้าแลกเงิน แล้ววิ่งตามตากับยายไป ตามไปไกลพอสมควรแต่ก็ไม่เห็นแล้ว จึงเดินกลับมา ตอนนั้นฟ้าก็มืดแล้ว ทางก็เปลี่ยวด้วยค่ะ ค่อนข้างอันตราย
เดินกลับมาจนถึงที่เดิม ลุงยามเลยถามเราว่า "เจอตากับยายมั้ย" เราก็ตอบไปว่า "ไม่เจอค่ะ" ลุงยามจึงถามอีกครั้งว่า "ตั้งใจจะไปหาแกใช่มั้ย รอแปปนึงนะ เดี่ยวลุงพาไปหา ลุงเคยเห็นแกอยู่ที่ตลาดเขมา" เราก็กลัวนิดนึงค่ะ แต่ก็จำได้ว่าตากับยายอยู่ตลาดเขมาจริงๆ เลยให้ลุงยามพาไป พอไปถึงตลาดก็เกือบไม่เจอแกแล้ว แต่สุดท้ายก็เจอ ขณะที่เราคุยกับตายาย ก็มีป้าคนนึงเดินมาบอกแกว่า คนที่แกอาศัยบ้านเค้าอยู่เค้าทะเลาะกัน คงจะอยู่บ้านนั้นไม่ได้แล้ว ให้เก็บของออกมา จากที่เราเดินไปคุยกับป้ามา ป้าเล่าให้ฟังว่า ตากับยายอาศัยบ้านของสามีภรรยาคู่หนึ่งอยู่ ซึ่งผู้หญิงสงสารตากับยาย จึงพามาอยู่บ้านด้วย ไม่ได้ให้ช่วยออกค่าใช้จ่ายอะไร แต่เวลาตาอาบน้ำ ชอบอาบน้ำนาน อาบน้ำเป็นชั่วโมง แล้วใช้น้ำเยอะ เวลาทานข้าว ก็ชอบปาข้าวทิ้ง จึงทำให้สามีภรรยาทะเลาะกันอย่างรุนแรง และอาจจะมีเรื่องอื่นอีกซึ่งเราก็ไม่ทราบค่ะ อาจเป็นเพราะว่าตาแก่แล้ว แล้วตาก็เป็นคนพูดเยอะด้วยค่ะ
จากที่เราคุยกับตายาย ตาก็เล่าโน่นเรานี่ให้ฟัง แล้วก็ดึงเราไปกอดไปหอม ตอนแรกที่เราพากับยายข้ามถนน ตาก็ดึงมือเราไปหอมหลายครั้ง ดึงเราไปกอดบ้าง เราก็ไม่ว่าอะไร เหมือนตาเอ็นดูเราค่ะ แต่ตอนที่เรามาเจอแกที่ตลาด ยายไปซื้อของพอดี เราก็เดินมาถามตาว่ายายไปไหน ตาก็คุยกับเราทั้งดึงเราไปกอด หอมแก้ม หอมมือหลายครั้งเกินไป จนเรารู้สึกไม่ดี เพราะรู้สึกว่ามันมากเกินไป คนแถวนั้นก็หันมามอง เราก็พยายามดันตัวแกออกแล้วบ่ายเบี่ยงจะเดินไปทางอื่น เพราะตอนนั้นก็มืดแล้วด้วย จากเหตุการณ์นี้จึงทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับตาไปนิดหน่อย แต่พยายามไม่คิดอะไร จึงทำให้เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนที่อยู่บ้านมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง อาจจะทำให้คนเป็นสามีไม่พอใจ ก่อนหน้านี้ซักพักเราได้ขอเบอร์แกไว้ แล้วให้เบอร์เราไว้เพราะตอนที่ตากับยายเดินข้ามถนนมา เราเห็นตากับยายลากรถไปตามถนน เรามองว่ามันอันตรายมาก รถอาจจะเฉี่ยวชนเอาได้ แต่ตากับยายกลัวว่าถ้าลากบนฟุตบาทแล้วล้อรถเข็นมันจะพัง เราเลยตั้งใจจะให้เบอร์เราไว้ แล้วบอกตากับยายว่า หลังจากนี้ให้เข็นรถไปตามฟุตบาทจะได้ปลอดภัย ถ้าล้อมันพังให้โทรหาเรา เดี่ยวเราจ่ายค่าเปลี่ยนล้อให้
แต่อยู่ๆก็เกิดเรื่องนี้ขึ้น ตาก็ขอความช่วยเหลือกับเรา ให้เราช่วยหาที่อยู่ให้ เพราะถ้าคืนนี้เค้าไล่ออกจากบ้าน ก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ให้เราบอกพ่อกับแม่ให้หน่อย เราก็บอกตาว่า เราไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ เราอยู่หอ ตาก็บอกงั้นถามเพื่อนให้หน่อย ถามคุณครูให้หน่อย ใครช่วยหาที่อยู่ได้บ้าง เราก็คิดในใจว่า เราคงช่วยไม่ได้มากกว่านี้แล้ว เกินความสามารถของเราแล้ว ก็ได้แต่ตอบว่า" ค่ะๆๆ เดี่ยวหนูดูก่อนนะค่ะ เพราะหนูก็อาจจะช่วยไม่ได้" เพราะตาก็ย้ำกับเราหลายครั้ง บวกกับตอนที่พูดกับเราตาก็ดึงเราไปกอด ไปหอม หอมแก้มบ้าง เอาหน้าผากชนกันบ้างแล้วกอดเราอยู่ตลอด เราก็รู้สึกไม่ดีค่ะ พยายามดันตัวแกออก แกก็พูดกับเราว่า รังเกียจตาหรอ เราก็ตอบ เปล่าค่ะๆ จนยายที่เดินไปซื้อของเดินกลับมา เราก็รีบเดินไปคุยกับยาย แต่ตาก็ยังพยายามดึงเราไป ทำให้เราอึดอัด เราเลยรีบให้เงินช่วยยายไป 500 บาทแล้วรีบลาตากับยาย ตาก็ยังดึงเราไปกอดจนวินาทีสุดท้าย จนเราบอกว่าลุงยามรออยู่ ต้องรีบกลับก่อน เดี่ยวลุงยามต้องกลับไปทำงานต่อ
เรากลับมาหาลุงยามและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ลุงยามฟัง ลุงยามก็บอกเราว่า "เราช่วยได้เท่าที่เราสามารถช่วยได้ เราไม่สามารถจะแบกความทุกข์ของคนทั้งโลกไว้ได้ แล้วการที่เราวิ่งตามตากับยายมา ถนนมันมืดแล้ว ซึ่งทางตรงนั้นมันเปลี่ยว อันตรายมาก ถ้ามีโจรมาทำร้ายทำยังไง" ลุงยามเห็นว่าเราเป็นคนดี เลยพามาช่วยหาตากับยาย ต้องขอบคุณลุงยามมากจริงๆค่ะ เราก็กังวลว่า ถ้าตาโทรมาหาเรา ถามเราเรื่องที่ช่วยให้หาที่อยู่ เราคงจำเป็นต้องปฏิเสธเพราะคงช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ แต่ก็คงรู้สึกแย่ เราเลยอยากจะปรึกษาเพื่อนๆว่า เราควรทำอย่างไรดีคะ พอจะมีหน่วยงานไหนที่สามารถช่วยเหลือตากับยายได้บ้าง อย่างบ้านพักคนชราแบบนี้ แต่ตากับยายก็คงไม่อยากจะอยู่ ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับบ้านพักคนชราด้วยค่ะ ขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆทีค่ะ พอจะมีวิธีไหนช่วยได้บ้าง
ปล.ตากับยายมีหลานค่ะ แต่ไม่ได้อยู่กับหลาน หลานเป็นผู้หญิงอายุ30คงจะมีปัญหาอะไรจึงไม่ได้ไปอยู่กับหลาน บางครั้งตากับยายก็เดินลากรถเข็นไปจนถึงสุพรรณ บ้านตากับยายอยู่สุพรรณค่ะ