สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
อันนี้ลองอ่านเล่นๆนะครับ
หลวงปู่ไดโนเสาร์ตอบปัญหาธรรม
เห็นพฤติกรรมของพระสงฆ์สมัยนี้แล้ว
ไม่อยากนับถือพระสงฆ์
โยม: หลวงปู่ครับผมจะขอนับถือแค่พระพุทธ
กับพระธรรมครับเพราะพระสงฆ์ทุกวันนี้มีแต่เรื่อง
เสื่อมเสีย ผมว่าพระแท้ๆหมดแล้วจากพระศาสนา
หลวงปู่: ฮ้วย แสดงว่าบ่นับถืออาตมานำตั้วนี่
โยม: เปล่าๆ ครับหลวงปู่ ผมยังเคารพศัทธา
หลวงปู่เหมือนเดิม
หลวงปู่: เอ้าไสว่าไม่นับถือพระสงฆ์เด้
โยม: เว้นหลวงปู่สิครับผม
หลวงปู่: บ่ะ เว้นหลวงปู่ก็แสดงว่าหลวงปู่
ก็ไม่ใช่พระสงฆ์สิ
โยม: (ทำหน้าเหมือนคิดหนัก).........
หลวงปู่: บักหล่าเอ้ย เวลาเขาเอาทองคำนั้น
เขาไปหามาจากที่ไหน
โยม: ไปขุดดินแล้วร่อนเอาทองมาครับ
หลวงปู่: ดินมากหรือทองมาก
โยม: ดินมากครับผม ร่อนทองจากดินมาก
แล้วจะได้ทองนิดเดียว
หลวงปู่: มันก็เหมือนพระสงฆ์นั้นหล่ะ พระสงฆ์
ก็ร่อนมาจากลูกชาวบ้าน ลูกสมมติสงฆ์ ไม่ใช่
เป็นพระอรหันต์แล้วมาบวชเมื่อไหร่ มันก็มีดีบ้าง
เสียบ้าง จะให้ดีหมดมันก็ทำไม่ได้ จะให้มัน
เสียหมดก็ทำไม่ได้
ส่วนที่มันเป็นดินก็อย่าเอา เอาส่วนที่มันเป็นทองสิ
ถ้าเชื่อหลวงปู่ถ้าเคารพหลวงปู่ ก็จงเชื่อว่าพระ
ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีมากมาย อย่าเหมาว่าไม่ดี
ทั้งหมด ขนาดคุณยังมีข้อเสีย จะให้ดีทั้งหมด
ทั้งโลกก็ไม่ได้
พระรัตนตรัยเหมือนไม้สามลำค้ำกันไว้ เอาออก
อันหนึ่งมันก็ล้ม จำไว้พระก็คือนักเรียน ผู้เป็นอริยะ
คือผู้สอบผ่าน ผู้เป็นข่าวคือผู้สอบตก ให้สงสาร
คนสอบตก อย่าไปเกลียดคนสอบตก เพราะ
ไม่มีใครอยากจะสอบตก เข้าใจนะ
สำหรับความเห็นเรื่องสังฆทานเวียนของท่าน สำหรับสังฆทานนั้นที่ถวายไป ถึงจะเป็นการเวียนก็ดี ถวายเป็นเงินก็ดี ของทุกอย่างล้วนเป็นของสงฆ์ ผู้ที่นำไปใช้ถ้าจะเป็นการใช้เรื่องส่วนตัว ผู้นั้นก็รับผิดไปตามกรรมของการเบียดบังของสงฆ์มาเป็นของตนมีความผิดขั้นลงอเวจี แต่ถ้าผู้นำไปใช้ใช้เพื่อประโยชน์พระศาสนาก็เป็นเรื่องดี การที่เราถวายสังฆทาน ถวายไปแล้วถือว่าบุญนั้นมีผลสมบูรณ์ บุญเราได้เต็มที่ ส่วนคนใช้ถ้าใช้ไปในทางที่ผิดไม่ใช่เรื่องของเราที่จะไปรับผิดชอบ เป็นเรื่องของท่านผู้ใช้ที่จะรับผิดชอบผลของท่านเอง
อีกประการ ถ้าเห็นบางรูปบางท่านไม่น่าเลื่อมใส ลองหาวัดที่เป็นสำนักเรียนดูครับ ไปร่วมทำบุญกับวัดเหล่านั้น เพราะเงินที่ถวายไปก็นำไปเพื่อจัดการศึกษาให้กับภิกษุสามเณรภายในวัด เป็นค่าหนังสือตำรับตำราเรียน ก็เหมือนกับเราร่วมให้ทุนการศึกษาผ่านทายาทของพระพุทธศาสนา
หรือ นำไปถวายวัดที่เขามีการปฏิบัติธรรม เป็นการส่งเสริมความดีของคน หรืออาจจะไปถวายวัดที่มีการสงเคราะห์ผู้ยากไร้ เช่นวัดพระบาทน้ำพุเป็นต้น
การที่ท่านเห็นวัดบางวัดไม่ดี หรือเห็นวัดที่รวยแล้วแล้วมีเงินเยอะ แล้วท่านไม่ทำบุญกับวัดเหล่านั้น ขอให้ท่านลองนึกถึงวัดที่มีการจัดการสงเคราะห์ประชาชน สงเคราะห์ญาติโยม มีอยู่หลายวัดเช่นกัน ที่ไม่ได้มุ่งเอาเงินมาใช่ส่วนตัว มีแต่เอามาเพื่อสงเคราะห์สังคม สงเคราะห์การศึกษา
หรือถ้าไล่ลำดับมาแล้วท่านก็ยังไม่เห็นว่ามีวัดไหนที่น่าทำบุญด้วย ก็เป็นสิทธิของท่านที่จะไม่ทำ ถ้าสบายใจที่จะทำกับมูลนิธิหรือองค์กรอื่นๆก็เอาที่ท่านสบายใจ
แต่ไม่อยากให้อคติเหมารวมไปทั้งหมดว่าพระภิกษุต้องเลวทั้งหมดแบบที่คิด ก็เหมือนกับสังคมเรา มีคนสุจริตและคนทุจริต
ส่วนเรื่องกับภรรยา ผมคิดว่าเวลาภรรยาพาเข้าวัดท่านก็ต้องรักษาน้ำใจภรรยานิดหนึ่ง ถึงเราจะไม่รักษาน้ำใจของภิกษุท่าน ก็ขอให้รักษาน้ำใจภรรยาที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุข อย่าให้เกิดความขัดแย้งให้ลูกเห็น บางเรื่องที่เล็กน้อย อาจจะก่อให้เกิดสัมพันธ์ที่แตกร้าว เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะขาดสะบั้นกัน มันก็อาจจะต้องฝืนหนึ่ง แต่ถ้าเพื่อความสบายใจ ท่านก็อาจจะต้องสละสักนิดหนึ่ง
หลวงปู่ไดโนเสาร์ตอบปัญหาธรรม
เห็นพฤติกรรมของพระสงฆ์สมัยนี้แล้ว
ไม่อยากนับถือพระสงฆ์
โยม: หลวงปู่ครับผมจะขอนับถือแค่พระพุทธ
กับพระธรรมครับเพราะพระสงฆ์ทุกวันนี้มีแต่เรื่อง
เสื่อมเสีย ผมว่าพระแท้ๆหมดแล้วจากพระศาสนา
หลวงปู่: ฮ้วย แสดงว่าบ่นับถืออาตมานำตั้วนี่
โยม: เปล่าๆ ครับหลวงปู่ ผมยังเคารพศัทธา
หลวงปู่เหมือนเดิม
หลวงปู่: เอ้าไสว่าไม่นับถือพระสงฆ์เด้
โยม: เว้นหลวงปู่สิครับผม
หลวงปู่: บ่ะ เว้นหลวงปู่ก็แสดงว่าหลวงปู่
ก็ไม่ใช่พระสงฆ์สิ
โยม: (ทำหน้าเหมือนคิดหนัก).........
หลวงปู่: บักหล่าเอ้ย เวลาเขาเอาทองคำนั้น
เขาไปหามาจากที่ไหน
โยม: ไปขุดดินแล้วร่อนเอาทองมาครับ
หลวงปู่: ดินมากหรือทองมาก
โยม: ดินมากครับผม ร่อนทองจากดินมาก
แล้วจะได้ทองนิดเดียว
หลวงปู่: มันก็เหมือนพระสงฆ์นั้นหล่ะ พระสงฆ์
ก็ร่อนมาจากลูกชาวบ้าน ลูกสมมติสงฆ์ ไม่ใช่
เป็นพระอรหันต์แล้วมาบวชเมื่อไหร่ มันก็มีดีบ้าง
เสียบ้าง จะให้ดีหมดมันก็ทำไม่ได้ จะให้มัน
เสียหมดก็ทำไม่ได้
ส่วนที่มันเป็นดินก็อย่าเอา เอาส่วนที่มันเป็นทองสิ
ถ้าเชื่อหลวงปู่ถ้าเคารพหลวงปู่ ก็จงเชื่อว่าพระ
ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีมากมาย อย่าเหมาว่าไม่ดี
ทั้งหมด ขนาดคุณยังมีข้อเสีย จะให้ดีทั้งหมด
ทั้งโลกก็ไม่ได้
พระรัตนตรัยเหมือนไม้สามลำค้ำกันไว้ เอาออก
อันหนึ่งมันก็ล้ม จำไว้พระก็คือนักเรียน ผู้เป็นอริยะ
คือผู้สอบผ่าน ผู้เป็นข่าวคือผู้สอบตก ให้สงสาร
คนสอบตก อย่าไปเกลียดคนสอบตก เพราะ
ไม่มีใครอยากจะสอบตก เข้าใจนะ
สำหรับความเห็นเรื่องสังฆทานเวียนของท่าน สำหรับสังฆทานนั้นที่ถวายไป ถึงจะเป็นการเวียนก็ดี ถวายเป็นเงินก็ดี ของทุกอย่างล้วนเป็นของสงฆ์ ผู้ที่นำไปใช้ถ้าจะเป็นการใช้เรื่องส่วนตัว ผู้นั้นก็รับผิดไปตามกรรมของการเบียดบังของสงฆ์มาเป็นของตนมีความผิดขั้นลงอเวจี แต่ถ้าผู้นำไปใช้ใช้เพื่อประโยชน์พระศาสนาก็เป็นเรื่องดี การที่เราถวายสังฆทาน ถวายไปแล้วถือว่าบุญนั้นมีผลสมบูรณ์ บุญเราได้เต็มที่ ส่วนคนใช้ถ้าใช้ไปในทางที่ผิดไม่ใช่เรื่องของเราที่จะไปรับผิดชอบ เป็นเรื่องของท่านผู้ใช้ที่จะรับผิดชอบผลของท่านเอง
อีกประการ ถ้าเห็นบางรูปบางท่านไม่น่าเลื่อมใส ลองหาวัดที่เป็นสำนักเรียนดูครับ ไปร่วมทำบุญกับวัดเหล่านั้น เพราะเงินที่ถวายไปก็นำไปเพื่อจัดการศึกษาให้กับภิกษุสามเณรภายในวัด เป็นค่าหนังสือตำรับตำราเรียน ก็เหมือนกับเราร่วมให้ทุนการศึกษาผ่านทายาทของพระพุทธศาสนา
หรือ นำไปถวายวัดที่เขามีการปฏิบัติธรรม เป็นการส่งเสริมความดีของคน หรืออาจจะไปถวายวัดที่มีการสงเคราะห์ผู้ยากไร้ เช่นวัดพระบาทน้ำพุเป็นต้น
การที่ท่านเห็นวัดบางวัดไม่ดี หรือเห็นวัดที่รวยแล้วแล้วมีเงินเยอะ แล้วท่านไม่ทำบุญกับวัดเหล่านั้น ขอให้ท่านลองนึกถึงวัดที่มีการจัดการสงเคราะห์ประชาชน สงเคราะห์ญาติโยม มีอยู่หลายวัดเช่นกัน ที่ไม่ได้มุ่งเอาเงินมาใช่ส่วนตัว มีแต่เอามาเพื่อสงเคราะห์สังคม สงเคราะห์การศึกษา
หรือถ้าไล่ลำดับมาแล้วท่านก็ยังไม่เห็นว่ามีวัดไหนที่น่าทำบุญด้วย ก็เป็นสิทธิของท่านที่จะไม่ทำ ถ้าสบายใจที่จะทำกับมูลนิธิหรือองค์กรอื่นๆก็เอาที่ท่านสบายใจ
แต่ไม่อยากให้อคติเหมารวมไปทั้งหมดว่าพระภิกษุต้องเลวทั้งหมดแบบที่คิด ก็เหมือนกับสังคมเรา มีคนสุจริตและคนทุจริต
ส่วนเรื่องกับภรรยา ผมคิดว่าเวลาภรรยาพาเข้าวัดท่านก็ต้องรักษาน้ำใจภรรยานิดหนึ่ง ถึงเราจะไม่รักษาน้ำใจของภิกษุท่าน ก็ขอให้รักษาน้ำใจภรรยาที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุข อย่าให้เกิดความขัดแย้งให้ลูกเห็น บางเรื่องที่เล็กน้อย อาจจะก่อให้เกิดสัมพันธ์ที่แตกร้าว เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะขาดสะบั้นกัน มันก็อาจจะต้องฝืนหนึ่ง แต่ถ้าเพื่อความสบายใจ ท่านก็อาจจะต้องสละสักนิดหนึ่ง
ความคิดเห็นที่ 2
ความไม่ถูกต้องของคุณ ไม่ได้อยู่ตรงที่การไม่ชอบเข้าวัดทำบุญนะครับ
แต่อยู่ตรงที่การไม่ยอมประนีประนอมกับคนในครอบครัว หลายๆเรื่องในชีวิตเราก็ต้อง
ฝืนใจทำไปเพื่อหวังประโยชน์ที่มากกว่าตรงนั้นเช่น เพื่อความสงบเรียบร้อย เวลาที่มี
คนที่เรารู้จักมาเล่าเรื่องที่เราไม่สนใจ เราก็อาจจะต้องรับฟังและพูดคุยต่อเติมไปเพื่อ
รักษามารยาท
แล้วการเข้าวัดเพื่อให้คนในครอบครัวที่คุณรักสบายใจ ไม่ใช่เพื่อพระที่คุณไม่ชอบ คุณ
จะไม่ยอมทำเชียวหรือครับ
แต่อยู่ตรงที่การไม่ยอมประนีประนอมกับคนในครอบครัว หลายๆเรื่องในชีวิตเราก็ต้อง
ฝืนใจทำไปเพื่อหวังประโยชน์ที่มากกว่าตรงนั้นเช่น เพื่อความสงบเรียบร้อย เวลาที่มี
คนที่เรารู้จักมาเล่าเรื่องที่เราไม่สนใจ เราก็อาจจะต้องรับฟังและพูดคุยต่อเติมไปเพื่อ
รักษามารยาท
แล้วการเข้าวัดเพื่อให้คนในครอบครัวที่คุณรักสบายใจ ไม่ใช่เพื่อพระที่คุณไม่ชอบ คุณ
จะไม่ยอมทำเชียวหรือครับ
ความคิดเห็นที่ 3
ผมรู้จักอยู่ครอบครัวนึงครับ (ใกล้ตัวมาก) ตกเย็นทั้งครอบครัวต้องสวดมนต์ทำวัตรนะครับ มีเวลาต้องชวนกันไปปฏิบัติธรรม
คำก็พระก็เจ้า สองคำก็นรก สวรรค์ แต่หาความสัตย์ในคำพูดไม่ได้เลย เอาดีใส่ตัวเอาชั่วป้ายคนอื่น หน้าไหว้หลังหลอก
ผมตัดญาติขาดไปแล้วครับ ส่วนตัวเวลาผมจะคบหรือศึกษาคน เรื่องการไหว้พระ ทำบุญไม่เคยเป็นสาระเลยครับ อ่านจาก
การพูดจา การกระทำล้วนๆ เห็นมาเยอะครับ บางคนโกงเค้ามาจนรวย พอใกล้ตายก็กลัวนรก รีบเอาเงินไปสร้างวัด สร้าง
ศาลา หวังชดเชยความชั่วที่เคยทำ คือตอนโกงก็ไม่คิดถึงนรกหรอก แต่พอใกล้ฝั่งก็อดระแวงไม่ได้ ประมาณกันเหนียวไว้
ก่อน!!
คำก็พระก็เจ้า สองคำก็นรก สวรรค์ แต่หาความสัตย์ในคำพูดไม่ได้เลย เอาดีใส่ตัวเอาชั่วป้ายคนอื่น หน้าไหว้หลังหลอก
ผมตัดญาติขาดไปแล้วครับ ส่วนตัวเวลาผมจะคบหรือศึกษาคน เรื่องการไหว้พระ ทำบุญไม่เคยเป็นสาระเลยครับ อ่านจาก
การพูดจา การกระทำล้วนๆ เห็นมาเยอะครับ บางคนโกงเค้ามาจนรวย พอใกล้ตายก็กลัวนรก รีบเอาเงินไปสร้างวัด สร้าง
ศาลา หวังชดเชยความชั่วที่เคยทำ คือตอนโกงก็ไม่คิดถึงนรกหรอก แต่พอใกล้ฝั่งก็อดระแวงไม่ได้ ประมาณกันเหนียวไว้
ก่อน!!

ความคิดเห็นที่ 97
อืมมมม คือตัวเรานับถือพุทธนะ (นับถือศาสนาจริงๆไม่ใช่แค่ไว้เขียนลงทะเบียนบ้าน)
แต่ไม่ได้เข้าวัดมานานมากแล้ว เพราะไม่ชอบวัดเชิงพานิชย์แบบปัจจุบันเหมือนกัน
เท่าที่อ่านกระทู้คุณและคำตอบของคุณ เหมือนว่าคุณแค่อยากตั้งกระทู้บ่นระบายเฉยๆมากกว่า
คุณไม่ได้อยากให้ใครมาแก้ศรัทธาของคุณ
คุณอยากได้คำแนะนำเชิงแก้ไขปัญหาเรื่องทัศนคติของภรรยา
หรือวิธีใดๆที่ทำให้คุณไม่ต้องเข้าวัดและไม่ต้องทะเลาะกับภรรยามากกว่า
พอคนเคร่งศาสนาพยายามแก้ไขศรัทธาของคุณ คุณเลยค่อนข้างจะไม่พอใจ
อย่างที่คุณเน้นตอบเสมอว่า พระดีๆต้องไปควานหาเลยหรือทั้งที่เป็นประเทศพุทธ วัดมีเยอะเหมือนเซเว่น
อย่างนึงที่ต้องเข้าใจคือ นี่ไม่ใช่สมัยพุทธกาล นี่ผ่านมา2500กว่าปีแล้ว สภาพสังคมมันเปลี่ยนไปมาก
นี่ไม่ใช่สมัยที่ผู้คนส่วนใหญ่บวชเพราะศรัทธา แต่เป็นสมัยที่ผู้คนส่วนใหญ่บวชเพราะธรรมเนียมประเพณี
วัดเชิงพานิชย์มันถึงได้เกิด และเยอะด้วย
ดังนั้น ใช่ค่ะ พระดีๆมีน้อย คุณต้อง"ควานหา"ค่ะ
เราพอจะเข้าใจประเด็นคุณนะคะ แต่คุณขัดแย้งในตัวเองค่ะ
-คุณไม่เต็มใจจะไปเข้าวัดทำบุญกับภรรยาคุณ เพราะคุณไม่นิยมและไม่สนับสนุนวัด/พระเชิงพานิชย์
-แต่คุณก็ไม่อยากจะไป"ควานหา"วัด/พระดีๆ เพราะคุณคาดหวังว่าในเมื่อเป็นเมืองพุทธที่วัดมีพอๆกะเซเว่น พระดีๆก็ควรจะเดินมาชนคุณเองสิถึงจะถูก
-คุณจำใจไปเพราะขัดภรรยาไม่ได้ คุณไปเพราะไม่อยากมีปัญหากับภรรยา
-แต่คุณไม่สามารถเก็บความไม่พอใจวัดเชิงพานิชย์ไว้ได้ ลงท้ายคุณก็มีปัญหากับภรรยาอยู่ดี
ถ้ายังขัดแย้งกันอย่างนี้อยู่ปัญหาของคุณก็แก้ไขไม่ได้หรอกค่ะ
เพราะปัญหาจริงๆของคุณคือ
-คุณไม่ชอบวัด/พระเชิงพานิชย์
-แต่ภรรยาคุณอยากทำบุญกับวัดเชิงพานิชย์
ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยวิธีหนึ่งที่หลายท่านแนะนำคือ
-เข้าวัดดีๆที่มีพระดีๆ
มันจะสบายใจทั้งตัวคุณทั้งภรรยา คุณไม่ต้องทำบุญเชิงพานิชย์ ภรรยาคุณยังได้ทำบุญตามต้องการ ได้สนับสนุนวัดดีๆพระที่ดีๆอีกด้วย
แต่ติดอยู่นิดนึง
-คุณไม่อยากไปควานหาพระดีๆ(ด้วยเหตุผลข้างต้น)
คุณก็เลยจำต้องสนับสนุนวัดเชิงพานิชย์ด้วยความไม่เต็มใจจนต้องมีปัญหากับภรรยาต่อไป
คุณบอกไว้ข้างบนว่าคุณไม่อยากเสียเวลาไปควานหาพระดีๆ ถ้ามีเวลาคุณอยากอยู่กับครอบครัวมากกว่า
อันนี้เราว่าค่อนข้างแปลกนะคะ ในเมื่อจะยังไงคุณก็ต้องเสียเวลาไปกับวัดอยู่แล้ว(เพราะคุณขัดภรรยาไม่ได้)
ในเมื่อจะเสียเวลาอยู่แล้วทำไมคุณไม่เลือกไปวัดที่ดีกว่านี้สบายใจกว่าล่ะ
ลงท้ายแล้วเวลาที่คุณเสียไปในวัดก็คือเวลาที่คุณอยู่กับ"ครอบครัว"คุณอยู่ดีนะคะ
แต่คุณกลับไม่สบายใจ ไม่พอใจในเวลานั้น และลงเอยด้วยการมีปัญหากับภรรยาจนได้ทั้งที่อุตส่าห์ฝืนใจแล้ว
บอกตามตรงเราไม่มีปัญญาไปชี้แนะจขกท.ได้หรอกค่ะว่าควรทำไงดี
เราทำได้ก็แค่ชี้ให้เห็นปัญหาเท่านั้น
ปัญหานี้จะแก้ได้ไม่ได้ มันอยู่ที่คุณจขกท.ค่ะ
แต่ไม่ได้เข้าวัดมานานมากแล้ว เพราะไม่ชอบวัดเชิงพานิชย์แบบปัจจุบันเหมือนกัน
เท่าที่อ่านกระทู้คุณและคำตอบของคุณ เหมือนว่าคุณแค่อยากตั้งกระทู้บ่นระบายเฉยๆมากกว่า
คุณไม่ได้อยากให้ใครมาแก้ศรัทธาของคุณ
คุณอยากได้คำแนะนำเชิงแก้ไขปัญหาเรื่องทัศนคติของภรรยา
หรือวิธีใดๆที่ทำให้คุณไม่ต้องเข้าวัดและไม่ต้องทะเลาะกับภรรยามากกว่า
พอคนเคร่งศาสนาพยายามแก้ไขศรัทธาของคุณ คุณเลยค่อนข้างจะไม่พอใจ
อย่างที่คุณเน้นตอบเสมอว่า พระดีๆต้องไปควานหาเลยหรือทั้งที่เป็นประเทศพุทธ วัดมีเยอะเหมือนเซเว่น
อย่างนึงที่ต้องเข้าใจคือ นี่ไม่ใช่สมัยพุทธกาล นี่ผ่านมา2500กว่าปีแล้ว สภาพสังคมมันเปลี่ยนไปมาก
นี่ไม่ใช่สมัยที่ผู้คนส่วนใหญ่บวชเพราะศรัทธา แต่เป็นสมัยที่ผู้คนส่วนใหญ่บวชเพราะธรรมเนียมประเพณี
วัดเชิงพานิชย์มันถึงได้เกิด และเยอะด้วย
ดังนั้น ใช่ค่ะ พระดีๆมีน้อย คุณต้อง"ควานหา"ค่ะ
เราพอจะเข้าใจประเด็นคุณนะคะ แต่คุณขัดแย้งในตัวเองค่ะ
-คุณไม่เต็มใจจะไปเข้าวัดทำบุญกับภรรยาคุณ เพราะคุณไม่นิยมและไม่สนับสนุนวัด/พระเชิงพานิชย์
-แต่คุณก็ไม่อยากจะไป"ควานหา"วัด/พระดีๆ เพราะคุณคาดหวังว่าในเมื่อเป็นเมืองพุทธที่วัดมีพอๆกะเซเว่น พระดีๆก็ควรจะเดินมาชนคุณเองสิถึงจะถูก
-คุณจำใจไปเพราะขัดภรรยาไม่ได้ คุณไปเพราะไม่อยากมีปัญหากับภรรยา
-แต่คุณไม่สามารถเก็บความไม่พอใจวัดเชิงพานิชย์ไว้ได้ ลงท้ายคุณก็มีปัญหากับภรรยาอยู่ดี
ถ้ายังขัดแย้งกันอย่างนี้อยู่ปัญหาของคุณก็แก้ไขไม่ได้หรอกค่ะ
เพราะปัญหาจริงๆของคุณคือ
-คุณไม่ชอบวัด/พระเชิงพานิชย์
-แต่ภรรยาคุณอยากทำบุญกับวัดเชิงพานิชย์
ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยวิธีหนึ่งที่หลายท่านแนะนำคือ
-เข้าวัดดีๆที่มีพระดีๆ
มันจะสบายใจทั้งตัวคุณทั้งภรรยา คุณไม่ต้องทำบุญเชิงพานิชย์ ภรรยาคุณยังได้ทำบุญตามต้องการ ได้สนับสนุนวัดดีๆพระที่ดีๆอีกด้วย
แต่ติดอยู่นิดนึง
-คุณไม่อยากไปควานหาพระดีๆ(ด้วยเหตุผลข้างต้น)
คุณก็เลยจำต้องสนับสนุนวัดเชิงพานิชย์ด้วยความไม่เต็มใจจนต้องมีปัญหากับภรรยาต่อไป
คุณบอกไว้ข้างบนว่าคุณไม่อยากเสียเวลาไปควานหาพระดีๆ ถ้ามีเวลาคุณอยากอยู่กับครอบครัวมากกว่า
อันนี้เราว่าค่อนข้างแปลกนะคะ ในเมื่อจะยังไงคุณก็ต้องเสียเวลาไปกับวัดอยู่แล้ว(เพราะคุณขัดภรรยาไม่ได้)
ในเมื่อจะเสียเวลาอยู่แล้วทำไมคุณไม่เลือกไปวัดที่ดีกว่านี้สบายใจกว่าล่ะ
ลงท้ายแล้วเวลาที่คุณเสียไปในวัดก็คือเวลาที่คุณอยู่กับ"ครอบครัว"คุณอยู่ดีนะคะ
แต่คุณกลับไม่สบายใจ ไม่พอใจในเวลานั้น และลงเอยด้วยการมีปัญหากับภรรยาจนได้ทั้งที่อุตส่าห์ฝืนใจแล้ว
บอกตามตรงเราไม่มีปัญญาไปชี้แนะจขกท.ได้หรอกค่ะว่าควรทำไงดี
เราทำได้ก็แค่ชี้ให้เห็นปัญหาเท่านั้น

ปัญหานี้จะแก้ได้ไม่ได้ มันอยู่ที่คุณจขกท.ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 6
ปัญหา ของผมคือ. ผมยอมรับว่าใจผมโคตร อักคติ กับพระสงค์. แต่คำสอน และ พระพุทธรูป ผมไหว้นะครับ
ตอนนี้ จะให้ไหว้พระ คิดนานกว่าซื้อหวยอีก.
แต่เวลาแฟนอยากไป ผมก็ไปนะครัว แต่ใจผมไม่ไม่มีความศรัทธาเลยยย. ผมขนาดที่ว่า เจอโล้นห่มเหลือง ยืนเคียเงืนกับ คนขายกับข้าวอยู่ เดินสวนกลับมาพอดี ผมเดินเอาไหล่กระแทก จนอีกฝั่งเกือบล้ม คือถ้าอีกฝั่งจะมีเรื่อง ผมก็กะใส่เลยล่ะครับ แต่แฟนผมบอกเกรงใจผ้าเหลือง ผมก็ว่า นั่นไปใช่พระที่ไหนล่ะ.
เข้าใจครับว่า พระดี ๆ ก็มี แต่ผมต้องลำบากเพื่อไปหาพระดี เพื่อมากราบไหว้เลยหรื ครับ ทุกวันนี้ ทำดี กับพี่น้อง พ่อแม่ ลูกเมีย และเพื่อนร่วมโลกไม่พอหรือ
บ่นยาวไป โทษทีครับ. คือ ผมเองก็ขัดแฟนไม่ได้อยู่แล้ว เวลาเขาอยากไปวัด (ผัว เคย ขัดเมียได้หรอ). และผมเองก็ไม่เคยว่า ที่เค้าจะทำบุญ อยากทำก็ทำ เพียงแต่ใจเรามัน
ไม่อยากไหว้ พระสงค์ เพียงแต่ ไอ้เรา ส่วนใหญ่ ก็จะอยู่แบบห่างหน่อย แต่ไม่ได้ห่างมาก คือมองเห็นกันตลอด แต่ เขากลับมองว่าผม เป็นคนเลว ไม่ไหว้พระ. อยากพูดเรื่องให้คุยกันดี ๆ ด้วยเหตุผลิลยครับ. ผัว คุย กับเมีย. เคยมีเรื่อง เหตุผล แล้วชนะหรอครับ. ส่วนใหญ่. เมียชนะตลอด.
ใจผมมันไม่ศรัทธา. จะให้ยอมๆ ไหว้ ๆ ไป มันยิ่งอิดอัด รู้สึกเหมือน เป็นใครวะ ทำไมกูต้องไหว้ด้วย กูไหว้พ่อ แม่กูดีกว่า
ตอนนี้ จะให้ไหว้พระ คิดนานกว่าซื้อหวยอีก.
แต่เวลาแฟนอยากไป ผมก็ไปนะครัว แต่ใจผมไม่ไม่มีความศรัทธาเลยยย. ผมขนาดที่ว่า เจอโล้นห่มเหลือง ยืนเคียเงืนกับ คนขายกับข้าวอยู่ เดินสวนกลับมาพอดี ผมเดินเอาไหล่กระแทก จนอีกฝั่งเกือบล้ม คือถ้าอีกฝั่งจะมีเรื่อง ผมก็กะใส่เลยล่ะครับ แต่แฟนผมบอกเกรงใจผ้าเหลือง ผมก็ว่า นั่นไปใช่พระที่ไหนล่ะ.
เข้าใจครับว่า พระดี ๆ ก็มี แต่ผมต้องลำบากเพื่อไปหาพระดี เพื่อมากราบไหว้เลยหรื ครับ ทุกวันนี้ ทำดี กับพี่น้อง พ่อแม่ ลูกเมีย และเพื่อนร่วมโลกไม่พอหรือ
บ่นยาวไป โทษทีครับ. คือ ผมเองก็ขัดแฟนไม่ได้อยู่แล้ว เวลาเขาอยากไปวัด (ผัว เคย ขัดเมียได้หรอ). และผมเองก็ไม่เคยว่า ที่เค้าจะทำบุญ อยากทำก็ทำ เพียงแต่ใจเรามัน
ไม่อยากไหว้ พระสงค์ เพียงแต่ ไอ้เรา ส่วนใหญ่ ก็จะอยู่แบบห่างหน่อย แต่ไม่ได้ห่างมาก คือมองเห็นกันตลอด แต่ เขากลับมองว่าผม เป็นคนเลว ไม่ไหว้พระ. อยากพูดเรื่องให้คุยกันดี ๆ ด้วยเหตุผลิลยครับ. ผัว คุย กับเมีย. เคยมีเรื่อง เหตุผล แล้วชนะหรอครับ. ส่วนใหญ่. เมียชนะตลอด.
ใจผมมันไม่ศรัทธา. จะให้ยอมๆ ไหว้ ๆ ไป มันยิ่งอิดอัด รู้สึกเหมือน เป็นใครวะ ทำไมกูต้องไหว้ด้วย กูไหว้พ่อ แม่กูดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
ผมเป็นคนเลว ในสายตาแฟน เพราะไม่เข้าวัด ทำบุญ
โดยเฉพาะ ทำสังขทาน ก็รู้กันอยู่ วัดในกรุงเทพ 99.99% มันก็สังขทานวนทั้งนั้น ก็แค่เอาเงินไปให้ ถังเหลืองใส่ของ พร้อมปัจนัยวาง. นั้งฟังรอ พระสวด จบ อิ่มใจแล้ว. แล้วทำไมไม่ให้เงินไปเลย ทั้งหมดวะ. ไม่เห็นต่างกัน เงินก็เข้าวัดหมดอยู้ดี
แต่ช่วงหลังผมเริ่มไม่อยากไป ก็เริ่มโดนบ่น ถึง ด่า. ว่าไม่รู้จักเข้าวัดทำบุญบ้าง แล้วลูกมันจะซึมซับ เป็นคนดีไหม
ไอ้ผมก็ไรวะ กูไม่ดีตรงไหน ทุกวันนี้ เลิกเที่ยว เลิกสูบ. (ก่อนเคยเที่ยวหนักมาก ลองทุกอย่าง) เลิกตั้งแต่แต่งงาน ยิ่งพอมีลูก. เพื่อนโทรชวนไม่ไปโว้ย. จะอยู่บ้านเลี้ยงลูก อยากวอยู่กับลูกเมีย มีความสุขกว่า. ทำแต่งาน เลิกงานรีบกลับบ้านหาลูก หาเมีย.
วัน แม่ วันสงกราน ไอ้เราก็ ซื้อพวงมาลัย ไปไหว้แม่ ผม ไปกราบเท้าท่าน. ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยทำ.
เจอผู้หญิง เข็นรถไม่ไหว เจอรถจอดขวาง ผมก็รีบเข้าไปช่วยเข็น
เจอคนอยู่บานจอดรถ สตาร์ทรถไม่ติด. ผมเอารถไปจอด เพื่อช่วยเอาสายพ่วงที่อยู่ท้ายรถผม ไปช่วงพ่วงให้ พ่วงเสร็จ. ผมรีบไปเลย ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ รู้สึกว่า ช่วยได้ก็ช่วย
เจอ เด็กนักเรียน มาขายของ ส่งตัวเองเรียน มาก็ ซื้อ. แม้บางที ของที่ซื้อมา จะไม่ได้ใช่ประโยชเลย
ทุกวันนี้ ขับรถ ไม่มีบาด แซง หรือ หาเรื่องใคร. (เมื่อก่อน ใจร้อน เคยลงไปทุบรถคนมาปาดหน้า. แต่เป็นไปตามวัยอะครับ วัยรุ่นเลือดร้อน)
ตอนอารมดี ๆ แฟนผมเค้าก็ยอมรับว่าผม ดีมาก ผมเองก็ไม่คิดว่าผมจะเป็นคนดีเหมือนทุกวันนี้ได้ คงเพราะลูก อะครับ
แต่ เรื่องเข้าวัด ทำบุญ ทำให้ผมเริ่มทะเลาะกับเธอหนักขึ้น. เค้าจะไป ผม ไม่อยากไป แต่ก็ไป. พอไปก็หาว่าไม่เต็มใจมา
สรุป กู แค่ไม่นับถือพระสงค์. ไม่ อยาก ทำบุญ. กูเป็นคนเลว. เลย.
ทำงัยดีครับ