พอดีอยากจะแตกประเด็นจาก กระทู้ (ทำไมผู้หญิงถึงไม่เรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ ในเรื่องการเกณฑ์ทหารล่ะครับ ว่าทำไมผู้ชายเท่านั้นที่ได้สิทธิรับใช้ชาติ)
ผมอยากจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับความเท่าเที่ยมในการศึกษาของ เพศชาย กับ เพศหญิง อย่างที่ทุกๆคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าผู้ชายทุกคนต้องรับใช้ชาติ (เกณฑ์ทหาร หรือไม่ก็เรียน รด) ในขณะที่ผู้หญิงไม่ต้อง แต่เด็กผู้ชายที่ค้อนข้างมีการศึกษาส่วนใหญ่จะเลือกที่จะเรียน รด มากกว่า เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเสียเวลาการทำงาน 2 ปีในอนาคต แต่ปกติการเรียน รด ในมัธยมปลายนั้น จะต้องเรียนอาทิตย์ละหนึ่งวัน ช่วงเวลาประมาณ กรกฏาคม-พฤศจิกายน ซึ่งก็มีตรงกับช่วงเวลาในการเปิดภาคเรียน ในขณะที่นักเรียนชายกำลังฝึก ซ้ายหันขวาหัน และการเรียนภาคสนาม ซึ่งกินเวลากว่า 1 วันต่อสัปดาห์ (บางโรงเรียนให้หยุดทั้งวัน บางโรงเรียนกลับมาเรียนอีกครึ่งวัน ซึ่งในโรงเรียนที่ต้องมาเรียนต่อในช่วงบ่าย นักเรียนที่พึ่งไปเรียน รด กลับมาก็หมดแรงกับการฝึกและไม่มีสมาธิในการเรียน บางครั้งอาจสอบทำให้เสียเปรียบเพื่อนคนอื่นๆที่ไม่ได้เรียน) แต่ในขณะเดียวกันนักเรียนหญิงกับใช้เวลานั้นไปนั่งอ่านหนังสือหรือทำการบ้านได้อย่างอิสระ ยิ่งในตอนที่ใกล้การสอบ admission ยิ่งเป็นการทำให้เกิด การไม่เท่าเทียมกัน บางคนอาจคิดว่าแค่อาทิตย์ละวันเอง แต่ลองคิดดูว่าเรียนทั้งหมด 6 เดือน เสียเวลาในการเตรียมตัวสอบไปกว่า 23 วัน ซึงเยอะมากๆ และไหนจะต้องทำรายงานของ รด ไหนจะต้องเครียดเรื่องการตัดผมทุกๆต้นเดือน บ้างครั้งก็ต้องโดดเรียนพิเศษไปเพื่อตัดผม แต่บางคนอาจย้อนกลับมาว่าแล้วทำไมผู้ชายยังสอบติดเยอะแยะหรือทำไมไม่รู้จักแบ่งเวลา แต่ผมไม่ได้เจาะจงประเด็นนั้นผมต้องการถามหาความเท่าเทียมที่ พวกผู้หญิงเรียกร้องกันอยู่ ผมคิดว่าทำไมถึงไม่กำหนดหน้าที่ผู้หญิงไปเลยว่าเมื่ออายุครบ 21 ปี จะต้องไปเข้ารับการฝึกทักษะการใช้ชีวิต(งานบ้านต่างๆ หรือ การป้องกันตัว รวมถึงระเบียบวินัย) หรือ งานพื้นบ้านต่างๆ (การทอผ้า การวาดรูปจิตกรรม เครื่องปั้นดินเผา) ถึงแม้จะไม่ได้เป็นการรับใช้ชาติโดยตรงแต่ถ้าเรามีพลเมืองที่มีอาชีพ คุณภาพ ประเทศชาติก็จะดีขึ้นเองอย่างน้อย ผมคิดว่าเมืองไทยน่าจะน่าอยู่มากขึ้น และอีกอย่างจะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าการรับใช้ชาติเป็นหน้าที่ของทุกคน ปล.ผมแค่อยากจะแสดงความคิดส่วนบุคคลว่าคนอื่นคิดอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้ อย่าซีเรียสนะครับ แค่อยากพูดคุย
เกี่ยวกับความเท่าเทียมทางการศึกษา ระหว่างชายและหญิง (จากที่ผู้หญิงไม่ต้องถูกลังคับให้ทำหน่าที่รับใช้ชาติ)
ผมอยากจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับความเท่าเที่ยมในการศึกษาของ เพศชาย กับ เพศหญิง อย่างที่ทุกๆคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าผู้ชายทุกคนต้องรับใช้ชาติ (เกณฑ์ทหาร หรือไม่ก็เรียน รด) ในขณะที่ผู้หญิงไม่ต้อง แต่เด็กผู้ชายที่ค้อนข้างมีการศึกษาส่วนใหญ่จะเลือกที่จะเรียน รด มากกว่า เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเสียเวลาการทำงาน 2 ปีในอนาคต แต่ปกติการเรียน รด ในมัธยมปลายนั้น จะต้องเรียนอาทิตย์ละหนึ่งวัน ช่วงเวลาประมาณ กรกฏาคม-พฤศจิกายน ซึ่งก็มีตรงกับช่วงเวลาในการเปิดภาคเรียน ในขณะที่นักเรียนชายกำลังฝึก ซ้ายหันขวาหัน และการเรียนภาคสนาม ซึ่งกินเวลากว่า 1 วันต่อสัปดาห์ (บางโรงเรียนให้หยุดทั้งวัน บางโรงเรียนกลับมาเรียนอีกครึ่งวัน ซึ่งในโรงเรียนที่ต้องมาเรียนต่อในช่วงบ่าย นักเรียนที่พึ่งไปเรียน รด กลับมาก็หมดแรงกับการฝึกและไม่มีสมาธิในการเรียน บางครั้งอาจสอบทำให้เสียเปรียบเพื่อนคนอื่นๆที่ไม่ได้เรียน) แต่ในขณะเดียวกันนักเรียนหญิงกับใช้เวลานั้นไปนั่งอ่านหนังสือหรือทำการบ้านได้อย่างอิสระ ยิ่งในตอนที่ใกล้การสอบ admission ยิ่งเป็นการทำให้เกิด การไม่เท่าเทียมกัน บางคนอาจคิดว่าแค่อาทิตย์ละวันเอง แต่ลองคิดดูว่าเรียนทั้งหมด 6 เดือน เสียเวลาในการเตรียมตัวสอบไปกว่า 23 วัน ซึงเยอะมากๆ และไหนจะต้องทำรายงานของ รด ไหนจะต้องเครียดเรื่องการตัดผมทุกๆต้นเดือน บ้างครั้งก็ต้องโดดเรียนพิเศษไปเพื่อตัดผม แต่บางคนอาจย้อนกลับมาว่าแล้วทำไมผู้ชายยังสอบติดเยอะแยะหรือทำไมไม่รู้จักแบ่งเวลา แต่ผมไม่ได้เจาะจงประเด็นนั้นผมต้องการถามหาความเท่าเทียมที่ พวกผู้หญิงเรียกร้องกันอยู่ ผมคิดว่าทำไมถึงไม่กำหนดหน้าที่ผู้หญิงไปเลยว่าเมื่ออายุครบ 21 ปี จะต้องไปเข้ารับการฝึกทักษะการใช้ชีวิต(งานบ้านต่างๆ หรือ การป้องกันตัว รวมถึงระเบียบวินัย) หรือ งานพื้นบ้านต่างๆ (การทอผ้า การวาดรูปจิตกรรม เครื่องปั้นดินเผา) ถึงแม้จะไม่ได้เป็นการรับใช้ชาติโดยตรงแต่ถ้าเรามีพลเมืองที่มีอาชีพ คุณภาพ ประเทศชาติก็จะดีขึ้นเองอย่างน้อย ผมคิดว่าเมืองไทยน่าจะน่าอยู่มากขึ้น และอีกอย่างจะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าการรับใช้ชาติเป็นหน้าที่ของทุกคน ปล.ผมแค่อยากจะแสดงความคิดส่วนบุคคลว่าคนอื่นคิดอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้ อย่าซีเรียสนะครับ แค่อยากพูดคุย