การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยผมมีมุมมองดังนี้ (และขอเชิญเพื่อนๆแชร์มุมมองครับ)
ผมมีมุมมองว่า การเกณฑ์ทหาร เป็นระบบที่บังคับให้คนที่มีอนาคตที่ดีในสายวิชาชีพอื่นๆ เช่น ธุรกิจ วิศวะ บัญชี และอื่นๆอีกหลายสายงาน สูญเสียโอกาส และเกิดความเสียเปรียบ เนื่องจากใช้เวลาไปอยู่กับการเป็นพลทหาร ซึ่งไม่ได้ก่อประโยชน์อันใดต่อบุคคลคนนั้นในเรื่องการงานที่เขาชอบและเลือกเดินมา อีกทั้งพลทหารวันๆส่วนมาก มีแต่การฝึกซ้อม ซึ่งไม่ค่อยได้พัฒนาในส่วนที่ว่า หากเขาพ้นจากราชการทหารแล้วเขาจะตามรุ่นน้องได้ทัน
ผมมองว่า เป็นการกดขี่ทางเพศ ด้วยอย่างหนึ่ง และเป็นความเหลื่อมล้ำทางเพศด้วยเช่นกัน
ผมมองว่า หากนำเด็กเกเร เด็กที่มีประวัติคดีอาชญากรรม (พวกยกพวกตีกัน พวกเด็กแว๊น เด็กอันธพาล) ทั้งชายและหญิงที่มีประวัติในช่วงอายุต่ำกว่า 20 มาบังคับเกณฑ์ทหาร จะช่วยให้สังคมได้มากกว่า การจับใบดำใบแดง ซึ่งไม่มีคุณภาพ โดยในค่ายฝึกทหารผมเชื่อว่า ระบบทหาร จะช่วยขัดเกลาคนไม่ดี ให้คิดเป็น มีความอดทน มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้นได้
เมื่อเราพูดถึงสิทธิสตรี ให้เท่าเทียม ผู้ชาย แล้วนั้น เราก็ควรจะปรับให้ความเท่าเทียมทางเพศเกิดขึ้นอย่างจริงจัง
ผมมองว่า ผู้ชายที่ไม่ชอบเกณฑ์ทหาร ไม่ได้หมายความว่า พวกเขา ไม่แมน เป็นตุ๊ด เป็นเกย์ ใจป๊อด อะไรพวกนี้ ไม่ใช่เลย
แต่ผมมองว่า ความชอบ อัธยาศัย และเป้าหมาย ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แม้แต่สังคมที่แต่ละคนเลือกคบ เลือกสมาคม ก็แตกต่างกัน
ซึ่งสังคมทหาร ก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง
ถ้าดาราดังๆ อย่าง นิชคุณ เป็นทหารเกณฑ์ เค้าจะต้องสูญเสียรายได้ รวมถึงสูญเสียโอกาสในวงการบันเทิง เปรียบเทียบกับประเทศอื่นที่พัฒนาแล้วมันไม่มีเรื่องพวกนี้ (พ้นทาสอย่างแท้จริง)
และผมมองว่า เราควรยกเกียรติ ของทหารเกณฑ์ ให้สูงยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงทาส ไม่ใช่เพียงหน้าที่ทั้งที่มาโดยเต็มใจและไม่เต็มใจ ยกเกียรติของเขา โดยใช้ระบบสมัครใจ ให้สมัครได้ทั้งชายและหญิงอย่างเท่าเทียมกัน มีโอกาสความก้าวหน้าทางทหารอย่างเท่าเทียมกันตามความสามารถ สติปัญญา และร่างกาย ตามความเหมาะสมในแต่ละบุคคล สวัสดิการที่ดี เงินที่ตอบแทนดีๆ ผมเชื่อว่าความภาคภูมิใจในวิชาชีพจะมีมากขึ้น และมีคุณภาพดีด้วย
การเรียน รด. ผมมองว่า คนส่วนมากเรียน เพราะไม่ต้องการเป็นพลทหาร และส่วนมากเรียนมา ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพ ในกรุงเทพ ส่วนมากจะฝึกสบายๆ ฝึกครึ่งวันต่อสัปดาห์ ออกกำลังกายนิดๆหน่อยๆ เข้าค่าย..... มันไม่มีประโยชน์ เปลืองด้วย ในขณะที่เวลาที่เสียไปในการ เรียน รด. นี้ สามารถนำไปใช้ทำกิจกรรมอย่างอื่นได้อีก (ซึ่งเป็นเรื่องของภาคการศึกษาที่ต้องพัฒนาต่อไปอีก)
สรุปคร่าวๆ สิ่งที่ผมอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงคือ
- ยกเลิกระบบเกณฑ์ทหาร ยกเลิกระบบจับใบดำใบแดง
- เปิดรับสมัครรับราชการทหารด้วยระบบสมัครใจ และกำหนดคุณลักษณะ ความรู้ ประกอบด้วย (เชื่อว่า คนจบตรี จบโท ที่อยากเป็นกำลังพลก็มี)
- ให้ผู้หญิง มีโอกาสทางทหารมากขึ้น (ระบบสมัครใจ)
- พัฒนาสวัสดิการ เงินเลี้ยง บำเหน็จ บำนาญ ความรู้ความสามารถขณะรับราชการให้เข้มข้นยิ่งขึ้น
- ครูฝึกต้องรับผิดชอบต่อผลการสอน และมีการเข้มงวดต่อพฤติกรรมครูฝึกพลทหารให้มีความรับผิดชอบต่อชีวิตและสุขภาพของทหารที่รับราชการ
ปล.ผมเรียน รด มา 3 ปี สนุกดี และไม่อยากให้ยกเลิก รด นะ ผมเลยวัยไปแล้ว และอยากเห็นพัฒนาการทางสังคม และการแข่งขัน ความเท่าเทียม และหลายๆด้าน อย่างเป็นธรรม
ขอเชิญแลกเปลี่ยนกันนะครับ
การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยผมมีมุมมองดังนี้ (และขอเชิญเพื่อนๆแชร์มุมมองครับ)
ผมมีมุมมองว่า การเกณฑ์ทหาร เป็นระบบที่บังคับให้คนที่มีอนาคตที่ดีในสายวิชาชีพอื่นๆ เช่น ธุรกิจ วิศวะ บัญชี และอื่นๆอีกหลายสายงาน สูญเสียโอกาส และเกิดความเสียเปรียบ เนื่องจากใช้เวลาไปอยู่กับการเป็นพลทหาร ซึ่งไม่ได้ก่อประโยชน์อันใดต่อบุคคลคนนั้นในเรื่องการงานที่เขาชอบและเลือกเดินมา อีกทั้งพลทหารวันๆส่วนมาก มีแต่การฝึกซ้อม ซึ่งไม่ค่อยได้พัฒนาในส่วนที่ว่า หากเขาพ้นจากราชการทหารแล้วเขาจะตามรุ่นน้องได้ทัน
ผมมองว่า เป็นการกดขี่ทางเพศ ด้วยอย่างหนึ่ง และเป็นความเหลื่อมล้ำทางเพศด้วยเช่นกัน
ผมมองว่า หากนำเด็กเกเร เด็กที่มีประวัติคดีอาชญากรรม (พวกยกพวกตีกัน พวกเด็กแว๊น เด็กอันธพาล) ทั้งชายและหญิงที่มีประวัติในช่วงอายุต่ำกว่า 20 มาบังคับเกณฑ์ทหาร จะช่วยให้สังคมได้มากกว่า การจับใบดำใบแดง ซึ่งไม่มีคุณภาพ โดยในค่ายฝึกทหารผมเชื่อว่า ระบบทหาร จะช่วยขัดเกลาคนไม่ดี ให้คิดเป็น มีความอดทน มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้นได้
เมื่อเราพูดถึงสิทธิสตรี ให้เท่าเทียม ผู้ชาย แล้วนั้น เราก็ควรจะปรับให้ความเท่าเทียมทางเพศเกิดขึ้นอย่างจริงจัง
ผมมองว่า ผู้ชายที่ไม่ชอบเกณฑ์ทหาร ไม่ได้หมายความว่า พวกเขา ไม่แมน เป็นตุ๊ด เป็นเกย์ ใจป๊อด อะไรพวกนี้ ไม่ใช่เลย
แต่ผมมองว่า ความชอบ อัธยาศัย และเป้าหมาย ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แม้แต่สังคมที่แต่ละคนเลือกคบ เลือกสมาคม ก็แตกต่างกัน
ซึ่งสังคมทหาร ก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง
ถ้าดาราดังๆ อย่าง นิชคุณ เป็นทหารเกณฑ์ เค้าจะต้องสูญเสียรายได้ รวมถึงสูญเสียโอกาสในวงการบันเทิง เปรียบเทียบกับประเทศอื่นที่พัฒนาแล้วมันไม่มีเรื่องพวกนี้ (พ้นทาสอย่างแท้จริง)
และผมมองว่า เราควรยกเกียรติ ของทหารเกณฑ์ ให้สูงยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงทาส ไม่ใช่เพียงหน้าที่ทั้งที่มาโดยเต็มใจและไม่เต็มใจ ยกเกียรติของเขา โดยใช้ระบบสมัครใจ ให้สมัครได้ทั้งชายและหญิงอย่างเท่าเทียมกัน มีโอกาสความก้าวหน้าทางทหารอย่างเท่าเทียมกันตามความสามารถ สติปัญญา และร่างกาย ตามความเหมาะสมในแต่ละบุคคล สวัสดิการที่ดี เงินที่ตอบแทนดีๆ ผมเชื่อว่าความภาคภูมิใจในวิชาชีพจะมีมากขึ้น และมีคุณภาพดีด้วย
การเรียน รด. ผมมองว่า คนส่วนมากเรียน เพราะไม่ต้องการเป็นพลทหาร และส่วนมากเรียนมา ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพ ในกรุงเทพ ส่วนมากจะฝึกสบายๆ ฝึกครึ่งวันต่อสัปดาห์ ออกกำลังกายนิดๆหน่อยๆ เข้าค่าย..... มันไม่มีประโยชน์ เปลืองด้วย ในขณะที่เวลาที่เสียไปในการ เรียน รด. นี้ สามารถนำไปใช้ทำกิจกรรมอย่างอื่นได้อีก (ซึ่งเป็นเรื่องของภาคการศึกษาที่ต้องพัฒนาต่อไปอีก)
สรุปคร่าวๆ สิ่งที่ผมอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงคือ
- ยกเลิกระบบเกณฑ์ทหาร ยกเลิกระบบจับใบดำใบแดง
- เปิดรับสมัครรับราชการทหารด้วยระบบสมัครใจ และกำหนดคุณลักษณะ ความรู้ ประกอบด้วย (เชื่อว่า คนจบตรี จบโท ที่อยากเป็นกำลังพลก็มี)
- ให้ผู้หญิง มีโอกาสทางทหารมากขึ้น (ระบบสมัครใจ)
- พัฒนาสวัสดิการ เงินเลี้ยง บำเหน็จ บำนาญ ความรู้ความสามารถขณะรับราชการให้เข้มข้นยิ่งขึ้น
- ครูฝึกต้องรับผิดชอบต่อผลการสอน และมีการเข้มงวดต่อพฤติกรรมครูฝึกพลทหารให้มีความรับผิดชอบต่อชีวิตและสุขภาพของทหารที่รับราชการ
ปล.ผมเรียน รด มา 3 ปี สนุกดี และไม่อยากให้ยกเลิก รด นะ ผมเลยวัยไปแล้ว และอยากเห็นพัฒนาการทางสังคม และการแข่งขัน ความเท่าเทียม และหลายๆด้าน อย่างเป็นธรรม
ขอเชิญแลกเปลี่ยนกันนะครับ