เสียของ?...เพราะของเสีย? แก้วสรร อติโพธิ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ยังเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ท่านตั้งใจจะให้มีเลือกตั้งในปีหน้าจริงๆ ส่วนจะมีจริงๆหรือไม่นั้นก็ฝากไว้กับเงื่อนไขว่า บ้านเมืองของเราจะไม่เกิดวิกฤตขึ้นมาขัดขวางเสียก่อน ด้วยความเชื่อเช่นนี้ผมจึงมองทั้งปัจจุบันและอนาคตไปพร้อมๆกันว่า ทุกวันนี้มีไฟสุมขอนที่อาจลุกโชนเป็นวิกฤตอยู่ตรงไหนบ้าง ขณะเดียวกันก็คิดไปถึงอนาคตด้วยว่า ถ้าผ่านไปถึงการเลือกตั้งได้แล้ว อะไรจะเกิดขึ้น
คำถามว่าถ้าเลือกตั้งแล้วอะไรจะเกิดขึ้น จะ “เสียของ”คือเกิดวิกฤตซ้ำรอยเป็นความขัดแย้งขึ้นอีกหรือไม่นั้น พิเคราะห์แล้วก็มีเค้าลางที่ผมขอนำเสนอในทำนองปุจฉา-วิสัชนา ไปโดยลำดับดังนี้
ถาม ในยุค คสช.เราจะปฏิรูปการเมืองได้ไหม?
ตอบ ต้องถามกันก่อนว่าก่อนรัฐประหารเราอยู่ใน “ระบอบ” (Regime) การปกครองแบบไหน? ซึ่งผมมีคำตอบว่า เราอยู่ใน “ระบอบเผด็จการของพรรคการเมืองนายทุน” ที่เอา “ความคิด”(Ideology) กับ “ความเคลื่อนไหว” (Movemnt) ผิดๆ มาครอบงำบิดเบือน“ระบบ”(System)ในรัฐธรรมนูญที่เป็นระบบผู้แทนว่า หีบเลือกตั้งคือกฎหมายสูงสุด ใครมีเสียงข้างมากแล้วก็คิดได้ทำได้ทุกอย่าง ไม่ต้องมีถูกมีผิด ไม่มีส่วนรวมไม่มีชาติ มีแต่พวกเขาพวกเรา เมื่อคิดและเคลื่อนระบบผู้แทนกันอย่างนี้กว่า๑๐ปีระบอบที่เกิดขึ้นจริงๆมันจึงเป็นเผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตยไปในที่สุด
ถาม คนไทยก็เลยทะเลาะกันทั้งประเทศ
ตอบ มันไม่ใช่การ“ทะเลาะ”กัน แต่เป็นการต่อสู้กันทางการเมืองโดยสองกลุ่มคือ กลุ่มที่ถูกเผด็จการครอบงำและกลุ่มที่ต่อสู้เพื่อปลดแอก สู้กันจนกองทัพต้องออกมารัฐประหาร แล้วพยายามจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อปฏิรูปบ้านเมืองอย่างที่เห็น
ถาม ดูเค้าโครงร่างรัฐธรรมนูญใหม่แล้ว จะมีอะไรใหม่หรือไม่?
ตอบ ก็ได้แค่บทบัญญัติใหม่ที่ปฏิรูปรัฐธรรมนูญเสียใหม่เท่านั้น มันเป็นแค่การปฏิรูปตัว “ระบบ”เท่านั้น ถ้าตัว” “ความคิด” และ “ความเคลื่อนไหว”ที่ผิดๆ ยังคงอยู่ เหมือนเดิม เลือกตั้งแล้วมันก็ต้องเกิดเผด็จการและการลุกฮือขึ้นมาอีกอยู่ดี
ถาม ถ้า ปชป.ได้เป็นรัฐบาล อะไรจะเกิดขึ้น
ตอบ เขาก็ก่อจลาจลเผาเมืองอีก
ถาม ถ้า เพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล
ตอบ เขาก็ต้องหาทางใช้อำนาจนิรโทษคดีคอร์รัปชั่นให้นายใหญ่ และให้อาชญากรทางการเมืองที่เป็นพวกเขาอีกอยู่ดี ผู้คนก็ฮือออกจากบ้านมาขับไล่เขาอีก
ถาม ถ้าเป็นแบบนี้ มันก็ซ้ำรอยเหมือนกับปี ๕๐ ที่เราได้รัฐธรรมนูญแบบใหม่จาก คมช. แล้วตามด้วยความ

แบบเดิมนั่นเอง
ตอบ มันชัดเจน มันเห็นกันอยู่หลัดๆแล้วว่า ถ้าความคิดความเคลื่อนไหวมันยังผิดอยู่เหมือนเดิม ตัวระบบจะออกแบบใหม่อย่างไรมันก็ช่วยอะไรไม่ได้ นี่คือ“ของเสีย”ที่ต้องขจัดออกไปไม่อย่างนั้นก็ “เสียของ”อีก
ถาม พวก กมธ.ยกร่างเขาจะสร้างกลไกปรองดองไว้นะครับ มันคงจะช่วยอะไรได้บ้างไหม?
ตอบ การมโนตัดปัญหาบ้านเมืองให้เหลือแคบอยู่ที่ตัวรัฐธรรมนูญ แล้วมโนกันต่อไปในอากาศอย่างนี้ จะเขียนจะใช้กฎหมายเนรมิตกลไกอะไรขึ้นมาก็ได้ทั้งนั้น ทำอย่างนี้ใครก็มโนได้ แต่สุดท้ายก็ลงตัวเป็นแค่ “ใส้ติ่ง”อยู่ดี ไม่มีประโยชน์อะไร แถมยังอาจอักเสบขึ้นมาได้ทุกเมื่อด้วยซ้ำไป
ถาม ใจคออาจารย์จะสุดโต่งให้จับแกนนำแดงมาประหาร มาขังคุกตลอดชีวิตหมดทั้งประเทศเลยหรือ?
ตอบ เราต้องมุ่งแก้ที่ “ความคิด” กับ “ความเคลื่อนไหว”ที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ดูที่ตัวคนว่าใครควรถูกเก็บบ้างซึ่งมันไม่ถูกต้องและไม่มีทางสำเร็จได้ เราต้องอย่าไปเอาอย่างคุณทักษิณที่ทำกับพี่น้องสามจังหวัดจนบ้านเมืองลุกเป็นไฟเช่นทุกวันนี้ “แก้”กับ “เก็บ”นี่ มันไม่เหมือนกันนะคุณ
ถาม “แก้”ตรงไหน ?
ตอบ แก้อย่าให้คิด อย่าให้เชื่อ อย่าให้ทำกันอีก ว่า ประชาธิปไตยมีแค่การเลือกตั้ง ใครมีเสียงข้างมากแล้วก็คิดได้ทำได้ทุกอย่าง ไม่มีถูกมีผิด ไม่มีส่วนรวมไม่มีชาติมีแต่พวกเขาพวกเรา ต้องเอาความจริงในอดีตมาตีแผ่ให้เห็นความไม่ถูกต้อง ต้องใช้กฎหมายลงโทษคนผิดระดับอาชญากรการเมืองอย่างเป็นธรรมและเฉียบขาด ต้องปฏิเสธการเมืองที่สร้างขบวนการแห่งความจงเกลียดจงชังและสื่อขี้ข้า ต้องสร้างฉันทามติส่วนรวมว่าด้วยวาระแห่งชาติ ทั้งการเมืองใหม่ ราชการใหม่ และเศรษฐกิจใหม่ เพื่อก้าวไปด้วยกันด้วยดีให้ได้
ถาม แม่น้ำ ๕ สาย จะไหลรวมกันออกมาเป็นการตั้งหลักใหม่อย่างนี้ไหม
ตอบ ขบวนการเรียกแถวใหม่อย่างนี้ ต้องมีงานวิจัย มีขบวนการรับรู้ ขบคิด สื่อสาร กันทั้งประเทศเป็นปี ไม่ใช่จับกลุ่มดำน้ำใต้ท้องน้ำในแม่น้ำ ๕ สาย คุยกันนุ๊งๆนิ๊งๆแล้วโผล่หน้าพ้นน้ำ ทำหน้าหล่อๆเอามือเสยผม แล้วชูกระดาษปึกหนึ่งถามชาวบ้านว่าอยากลงประชามติรัฐธรรมนูญไหม?
ทำงานแบบตรัสรู้ด้วยตนเองตามริมแม่น้ำอย่างนี้ มันพาคนทั้งชาติเดินไปด้วยกันไม่ได้หรอกครับ
ถาม ในฐานะที่เคยเป็น สว.เลือกตั้งของ กทม. อาจารย์เห็นด้วย กับระบบ สว.แต่งตั้งไหม?
ตอบ ถ้าหนทางยังเปิด เปิดให้คิดผิดๆเคลื่อนไหวกันผิดๆได้เหมือนเดิมอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองก็

ได้เหมือนเดิมอยู่ดี ไม่ว่า สว.จะมาจากเลือกตั้งหรือแต่งตั้งก็ตาม
คุณเข้าใจไหมครับ..ถ้าตัวเราเป็นขี้กลากเรื้อรังอยู่เต็มหลังเราก็ต้องไปหาหมอรักษาให้หาย ไม่ใช่ไปปรึกษาร้านตัดเสื้อว่าเราควรจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นทรงอะไร จะเป็นทรงอะไรมันก็คันอยู่ดีไม่ใช่หรือ?
นานาทัศนะ จาก แก้วสรร อติโพธิ ?????
ผมเป็นคนหนึ่งที่ยังเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ท่านตั้งใจจะให้มีเลือกตั้งในปีหน้าจริงๆ ส่วนจะมีจริงๆหรือไม่นั้นก็ฝากไว้กับเงื่อนไขว่า บ้านเมืองของเราจะไม่เกิดวิกฤตขึ้นมาขัดขวางเสียก่อน ด้วยความเชื่อเช่นนี้ผมจึงมองทั้งปัจจุบันและอนาคตไปพร้อมๆกันว่า ทุกวันนี้มีไฟสุมขอนที่อาจลุกโชนเป็นวิกฤตอยู่ตรงไหนบ้าง ขณะเดียวกันก็คิดไปถึงอนาคตด้วยว่า ถ้าผ่านไปถึงการเลือกตั้งได้แล้ว อะไรจะเกิดขึ้น
คำถามว่าถ้าเลือกตั้งแล้วอะไรจะเกิดขึ้น จะ “เสียของ”คือเกิดวิกฤตซ้ำรอยเป็นความขัดแย้งขึ้นอีกหรือไม่นั้น พิเคราะห์แล้วก็มีเค้าลางที่ผมขอนำเสนอในทำนองปุจฉา-วิสัชนา ไปโดยลำดับดังนี้
ถาม ในยุค คสช.เราจะปฏิรูปการเมืองได้ไหม?
ตอบ ต้องถามกันก่อนว่าก่อนรัฐประหารเราอยู่ใน “ระบอบ” (Regime) การปกครองแบบไหน? ซึ่งผมมีคำตอบว่า เราอยู่ใน “ระบอบเผด็จการของพรรคการเมืองนายทุน” ที่เอา “ความคิด”(Ideology) กับ “ความเคลื่อนไหว” (Movemnt) ผิดๆ มาครอบงำบิดเบือน“ระบบ”(System)ในรัฐธรรมนูญที่เป็นระบบผู้แทนว่า หีบเลือกตั้งคือกฎหมายสูงสุด ใครมีเสียงข้างมากแล้วก็คิดได้ทำได้ทุกอย่าง ไม่ต้องมีถูกมีผิด ไม่มีส่วนรวมไม่มีชาติ มีแต่พวกเขาพวกเรา เมื่อคิดและเคลื่อนระบบผู้แทนกันอย่างนี้กว่า๑๐ปีระบอบที่เกิดขึ้นจริงๆมันจึงเป็นเผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตยไปในที่สุด
ถาม คนไทยก็เลยทะเลาะกันทั้งประเทศ
ตอบ มันไม่ใช่การ“ทะเลาะ”กัน แต่เป็นการต่อสู้กันทางการเมืองโดยสองกลุ่มคือ กลุ่มที่ถูกเผด็จการครอบงำและกลุ่มที่ต่อสู้เพื่อปลดแอก สู้กันจนกองทัพต้องออกมารัฐประหาร แล้วพยายามจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อปฏิรูปบ้านเมืองอย่างที่เห็น
ถาม ดูเค้าโครงร่างรัฐธรรมนูญใหม่แล้ว จะมีอะไรใหม่หรือไม่?
ตอบ ก็ได้แค่บทบัญญัติใหม่ที่ปฏิรูปรัฐธรรมนูญเสียใหม่เท่านั้น มันเป็นแค่การปฏิรูปตัว “ระบบ”เท่านั้น ถ้าตัว” “ความคิด” และ “ความเคลื่อนไหว”ที่ผิดๆ ยังคงอยู่ เหมือนเดิม เลือกตั้งแล้วมันก็ต้องเกิดเผด็จการและการลุกฮือขึ้นมาอีกอยู่ดี
ถาม ถ้า ปชป.ได้เป็นรัฐบาล อะไรจะเกิดขึ้น
ตอบ เขาก็ก่อจลาจลเผาเมืองอีก
ถาม ถ้า เพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล
ตอบ เขาก็ต้องหาทางใช้อำนาจนิรโทษคดีคอร์รัปชั่นให้นายใหญ่ และให้อาชญากรทางการเมืองที่เป็นพวกเขาอีกอยู่ดี ผู้คนก็ฮือออกจากบ้านมาขับไล่เขาอีก
ถาม ถ้าเป็นแบบนี้ มันก็ซ้ำรอยเหมือนกับปี ๕๐ ที่เราได้รัฐธรรมนูญแบบใหม่จาก คมช. แล้วตามด้วยความ
ตอบ มันชัดเจน มันเห็นกันอยู่หลัดๆแล้วว่า ถ้าความคิดความเคลื่อนไหวมันยังผิดอยู่เหมือนเดิม ตัวระบบจะออกแบบใหม่อย่างไรมันก็ช่วยอะไรไม่ได้ นี่คือ“ของเสีย”ที่ต้องขจัดออกไปไม่อย่างนั้นก็ “เสียของ”อีก
ถาม พวก กมธ.ยกร่างเขาจะสร้างกลไกปรองดองไว้นะครับ มันคงจะช่วยอะไรได้บ้างไหม?
ตอบ การมโนตัดปัญหาบ้านเมืองให้เหลือแคบอยู่ที่ตัวรัฐธรรมนูญ แล้วมโนกันต่อไปในอากาศอย่างนี้ จะเขียนจะใช้กฎหมายเนรมิตกลไกอะไรขึ้นมาก็ได้ทั้งนั้น ทำอย่างนี้ใครก็มโนได้ แต่สุดท้ายก็ลงตัวเป็นแค่ “ใส้ติ่ง”อยู่ดี ไม่มีประโยชน์อะไร แถมยังอาจอักเสบขึ้นมาได้ทุกเมื่อด้วยซ้ำไป
ถาม ใจคออาจารย์จะสุดโต่งให้จับแกนนำแดงมาประหาร มาขังคุกตลอดชีวิตหมดทั้งประเทศเลยหรือ?
ตอบ เราต้องมุ่งแก้ที่ “ความคิด” กับ “ความเคลื่อนไหว”ที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ดูที่ตัวคนว่าใครควรถูกเก็บบ้างซึ่งมันไม่ถูกต้องและไม่มีทางสำเร็จได้ เราต้องอย่าไปเอาอย่างคุณทักษิณที่ทำกับพี่น้องสามจังหวัดจนบ้านเมืองลุกเป็นไฟเช่นทุกวันนี้ “แก้”กับ “เก็บ”นี่ มันไม่เหมือนกันนะคุณ
ถาม “แก้”ตรงไหน ?
ตอบ แก้อย่าให้คิด อย่าให้เชื่อ อย่าให้ทำกันอีก ว่า ประชาธิปไตยมีแค่การเลือกตั้ง ใครมีเสียงข้างมากแล้วก็คิดได้ทำได้ทุกอย่าง ไม่มีถูกมีผิด ไม่มีส่วนรวมไม่มีชาติมีแต่พวกเขาพวกเรา ต้องเอาความจริงในอดีตมาตีแผ่ให้เห็นความไม่ถูกต้อง ต้องใช้กฎหมายลงโทษคนผิดระดับอาชญากรการเมืองอย่างเป็นธรรมและเฉียบขาด ต้องปฏิเสธการเมืองที่สร้างขบวนการแห่งความจงเกลียดจงชังและสื่อขี้ข้า ต้องสร้างฉันทามติส่วนรวมว่าด้วยวาระแห่งชาติ ทั้งการเมืองใหม่ ราชการใหม่ และเศรษฐกิจใหม่ เพื่อก้าวไปด้วยกันด้วยดีให้ได้
ถาม แม่น้ำ ๕ สาย จะไหลรวมกันออกมาเป็นการตั้งหลักใหม่อย่างนี้ไหม
ตอบ ขบวนการเรียกแถวใหม่อย่างนี้ ต้องมีงานวิจัย มีขบวนการรับรู้ ขบคิด สื่อสาร กันทั้งประเทศเป็นปี ไม่ใช่จับกลุ่มดำน้ำใต้ท้องน้ำในแม่น้ำ ๕ สาย คุยกันนุ๊งๆนิ๊งๆแล้วโผล่หน้าพ้นน้ำ ทำหน้าหล่อๆเอามือเสยผม แล้วชูกระดาษปึกหนึ่งถามชาวบ้านว่าอยากลงประชามติรัฐธรรมนูญไหม?
ทำงานแบบตรัสรู้ด้วยตนเองตามริมแม่น้ำอย่างนี้ มันพาคนทั้งชาติเดินไปด้วยกันไม่ได้หรอกครับ
ถาม ในฐานะที่เคยเป็น สว.เลือกตั้งของ กทม. อาจารย์เห็นด้วย กับระบบ สว.แต่งตั้งไหม?
ตอบ ถ้าหนทางยังเปิด เปิดให้คิดผิดๆเคลื่อนไหวกันผิดๆได้เหมือนเดิมอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองก็
คุณเข้าใจไหมครับ..ถ้าตัวเราเป็นขี้กลากเรื้อรังอยู่เต็มหลังเราก็ต้องไปหาหมอรักษาให้หาย ไม่ใช่ไปปรึกษาร้านตัดเสื้อว่าเราควรจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นทรงอะไร จะเป็นทรงอะไรมันก็คันอยู่ดีไม่ใช่หรือ?