คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
คือตอนนี้ในเฟสของไทยรัฐคนเชื่อเรื่องนี้กันเยอะมากเลยครับ....
ถ้านักวิชาการไม่ออกมาทำอะไร ผมเชื่อว่า....จะมีคนมโนเอาว่ามีองค์กรลับมาทำให้โครงการล้มเหลวบ้าง.. ปตท. จ้างให้ปิดปากบ้าง.. หรือ บริษัทน้ำมัน ไฟฟ้า ตามเก็บอะไรแบบนี้บ้าง....
ความเชื่อของมนุษย์นี้มันมีพลังมากกว่า ความจริงมาเสมอครับ.....เป็นมาตั้งแต่ยุคล่าแม่มดละ..ตอนนี้ก็ยังเป็นกันอยู่
ถ้านักวิชาการไม่ออกมาทำอะไร ผมเชื่อว่า....จะมีคนมโนเอาว่ามีองค์กรลับมาทำให้โครงการล้มเหลวบ้าง.. ปตท. จ้างให้ปิดปากบ้าง.. หรือ บริษัทน้ำมัน ไฟฟ้า ตามเก็บอะไรแบบนี้บ้าง....
ความเชื่อของมนุษย์นี้มันมีพลังมากกว่า ความจริงมาเสมอครับ.....เป็นมาตั้งแต่ยุคล่าแม่มดละ..ตอนนี้ก็ยังเป็นกันอยู่
ความคิดเห็นที่ 25
"ผมดูรูปกับหัวข้อแล้วตอบไปทันที่เลยว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย"
จากนั้นก็เขียนตัวเลขลงกระดาษแล้วคำนวณค่าส่งไปยืนยันคำตอบอีกทีว่าผมตอบไม่ผิด
20 kW = 20,000 Joule/Sec
พลังงานจากน้ำ = mgH (มวล x g x ความสูงเป็นเมตร ) Joule
จากรูปสูงไม่เกิน 5 เมตร
20,000 = m x 9.8 x 5
m = 20,000/(9.8x5) = 408 กิโลกรัม /ต่อวินาที
ต้องใช้น้ำอย่างน้อยครึ่งคิว ต่อวินาที
1 นาที ต้องใช้น้ำ 30 ลูกบาศก์เมตรเป็นอย่างน้อย
ชั่วโมงละ 1800 ลูกบาศก์เมตร !!!! จะหาน้ำได้จากที่ไหน
ที่ร้ายไปกว่านั้นคือคนทำคิดจะสูบน้ำจากด้านล่างขึ้นไปรดน้ำเพื่อที่จะปั่นไฟ
การคำนวณแรงม้าของปั๊มที่ต้องใช้ (ในทางทฤษฎี) ให้ใช้สูตรนี้
แรงม้า ( ตาม ทฤษฎี ) = (Q x TH )/273
Q = ปริมาณน้ำเป็นลูกบาศก์เมตร ต่อ ชั่วโมง
TH = Total Head
ตัวอย่าง ต้องการสูบน้ำในอัตรา 500 ลิตร ต่อวินาที มีระยะความสูงรวม 5 เมตร ต้องใช้กี่แรงม้า
Q =500 ลิตรต่อวินาที = ( 500 x 60 x 60 )/1000 = 1800 ลบม / ชม
แรงม้าที่ต้องใช้ = Q x TD/273 = 1800 x 5/273 = 32.97 แรงม้า หรือ 24.6 kW
ใช้ไฟฟ้า 24.6 kW เพื่อผลิตไฟ 20 kW คงเจริญดีนะครับ
เอามาจากพี่คนนี้เลยครับ https://www.facebook.com/NoomKratoke?ref=ts&fref=ts
จากนั้นก็เขียนตัวเลขลงกระดาษแล้วคำนวณค่าส่งไปยืนยันคำตอบอีกทีว่าผมตอบไม่ผิด
20 kW = 20,000 Joule/Sec
พลังงานจากน้ำ = mgH (มวล x g x ความสูงเป็นเมตร ) Joule
จากรูปสูงไม่เกิน 5 เมตร
20,000 = m x 9.8 x 5
m = 20,000/(9.8x5) = 408 กิโลกรัม /ต่อวินาที
ต้องใช้น้ำอย่างน้อยครึ่งคิว ต่อวินาที
1 นาที ต้องใช้น้ำ 30 ลูกบาศก์เมตรเป็นอย่างน้อย
ชั่วโมงละ 1800 ลูกบาศก์เมตร !!!! จะหาน้ำได้จากที่ไหน
ที่ร้ายไปกว่านั้นคือคนทำคิดจะสูบน้ำจากด้านล่างขึ้นไปรดน้ำเพื่อที่จะปั่นไฟ
การคำนวณแรงม้าของปั๊มที่ต้องใช้ (ในทางทฤษฎี) ให้ใช้สูตรนี้
แรงม้า ( ตาม ทฤษฎี ) = (Q x TH )/273
Q = ปริมาณน้ำเป็นลูกบาศก์เมตร ต่อ ชั่วโมง
TH = Total Head
ตัวอย่าง ต้องการสูบน้ำในอัตรา 500 ลิตร ต่อวินาที มีระยะความสูงรวม 5 เมตร ต้องใช้กี่แรงม้า
Q =500 ลิตรต่อวินาที = ( 500 x 60 x 60 )/1000 = 1800 ลบม / ชม
แรงม้าที่ต้องใช้ = Q x TD/273 = 1800 x 5/273 = 32.97 แรงม้า หรือ 24.6 kW
ใช้ไฟฟ้า 24.6 kW เพื่อผลิตไฟ 20 kW คงเจริญดีนะครับ
เอามาจากพี่คนนี้เลยครับ https://www.facebook.com/NoomKratoke?ref=ts&fref=ts
ความคิดเห็นที่ 6
จริงๆเรื่องพวกนี้บอกไว้ในวิชา thermodynamics หมดแล้วมีหลายคนพยายามเอาชนะกฏฟิสิกส์เทอร์โมด้วยการประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์พลังงานรูปแบบต่างๆ แต่ไม่มีใครทำได้ขนาดโตโยต้ายังทำไม่ได้ ทำได้แค่เพียงเพิ่ม efficiency จากระบบหรือทำให้ระบบมี loss น้อยที่สุดอย่างเช่นระบบ hybrid.การที่ loss จะเป็นศูนย์ได้เค้าเรียกว่า Ideal system หรือระบบอุดมคติครับไม่มีจริง ทีแรกเห็นคิดว่าน่าสนใจอเมซ แต่พอเห็นว่าระบบต้องสูบน้ำเข้าโดยใช้พลังงานจากภายนอกก่อนเท่านั้นแหละรู้เลยไม่คุ้มครับเสียมากกว่าได้แน่นอน ให้เข้าใจง่ายๆ กล่าวคือ ถ้าเอาปล็กของปั๊มน้ำมาเสียบรับพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากระบบนั้น ระบบจะ Shut down ทันทีเนื่องจาก Input ไฟฟ้าที่เข้าไปเช่นสมมุติว่า 2000 W ไปที่ปั๊มปั๊มจะไปสูบน้ำคิดเป็นพลังที่ได้จากการยกมวลน้ำขึ้นที่สูงประมาณสมมุติ 1600 W อีก 400 หายไปไหนหายไปเป็นความร้อนของปั๊มน้ำ จากนั้นน้ำหกลงมาทำให้ระบบหมุนโดยผ่านกลไก แม็คคานิคซึม ฟันเฟืองเสียดทานต่างๆ หายไปอีก 400 W มาถึง Generator ได้พลังงาน 1200 W แล้วจะเอาพลังไฟฟ้ากลับไปให้ปั๊มน้ำอีกได้อย่างไร (อีกอย่างผมค่อนข้างสงสัยเห็นในคลิป Generator ตัวนิดเดียวเองบอกผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 2000 kw ใช้ไฟฟ้าได้ทั้งหมู่บ้านผมงงจริงๆ สรุปฟันธงไม่น่าเป็นไปได้ แต่มันจะเวิร์คครับถ้าเอาไปใช้กับน้ำตก ได้พลังงานฟรี)
ความคิดเห็นที่ 12
กล้าเสนอผลงานต้องกล้าโดนวิจารณ์ครับ
อยากจะทำเรื่องพลังงาน
แค่กฎพื้นฐานที่สุดอย่างเทอรโมไดนามิคก็ควรจะรู้บ้างไม่ใช่มั่วๆมาแบบนี้
และเท่าที่เห็นไม่มีอะไรเรียกได้ว่าความริเริ่มสร้างสรรค์ (creative idea)แค่สูบน้ำขึ้น รอรับพลังงานจากน้ำตกลง
การวัดค่าพลังงานเข้าออกก็มั่ว ข่าวก็เสนอมั่ว
แย้งเสร็จสรุป
พูดกันตรงๆไม่ได้อะสังคมไทยต้องเป็นลูกแหงทำอะไรไม่ผิดตลอดเลยว่างั้น
กลัวเค้าว่าก็ศึกษาให้มันถ่องแท้อ่านหนังสือให้มากๆเข้าสิ ฮ่วย!
อยากจะทำเรื่องพลังงาน
แค่กฎพื้นฐานที่สุดอย่างเทอรโมไดนามิคก็ควรจะรู้บ้างไม่ใช่มั่วๆมาแบบนี้
และเท่าที่เห็นไม่มีอะไรเรียกได้ว่าความริเริ่มสร้างสรรค์ (creative idea)แค่สูบน้ำขึ้น รอรับพลังงานจากน้ำตกลง
การวัดค่าพลังงานเข้าออกก็มั่ว ข่าวก็เสนอมั่ว
แย้งเสร็จสรุป
พูดกันตรงๆไม่ได้อะสังคมไทยต้องเป็นลูกแหงทำอะไรไม่ผิดตลอดเลยว่างั้น
กลัวเค้าว่าก็ศึกษาให้มันถ่องแท้อ่านหนังสือให้มากๆเข้าสิ ฮ่วย!
แสดงความคิดเห็น
ท่านคิดว่า เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า ของหนุ่มเมืองกาญจน์ จะใช้ได้ผลและผ่านการจดสิทธิบัตรหรือไม่อย่างไร
ก่อนที่สังคมจะสับสนไปมากกว่านี้ ผมขออธิบายว่า ทำไมเจ้าสิ่งประดิษฐ์นี้แม้จะใช้ผลิตไฟฟ้าได้จริง แต่กำลังไฟฟ้าที่ได้คลาดเคลื่อนอย่างแน่นอนเพราะละเมิดกฎอนุรักษ์พลังงาน ดังนี้ครับ
เริ่มจากคำจำกัดความพื้นฐานสำคัญของคำว่าพลังงานเลยนะครับถ้าไม่เข้าใจข้อนี้ตั้งแต่เริ่มต้น สมมติฐานมันก็ผิด สิ่งประดิษฐ์ทำออกมาก็ไร้ค่าครับ
" พลังงานไม่สามารถสร้างหรือทำลายได้ แต่สามารถเปลี่ยนรูปแบบพลังงานได้"
การเปลี่ยนรูปแบบพลังงานก็เช่น การเปลี่ยนพลังงานศักย์เป็นพลังงานจลน์ เช่น ระดับน้ำสูงๆในเขื่อนสามารถหมุนกังหันได้ และเราผลิตพลังงานไฟฟ้าจากการเปลี่ยนพลังงานจลน์ของกังหันเป็นพลังงานไฟฟ้าได้นั่นเอง
ทีนี้ขั้นตอนการเปลี่ยนพลังงานมันไม่ได้มีประสิทธิภาพ 100 % นะครับ มันต้องมีการสูญเสียในรูปแบบต่างๆ เช่น สูญเสียในรูปแบบพลังงานความร้อนจากความฝืดของเครื่องจักร เพราะฉนั้นไม่มีเครื่องจักรเปลี่ยนรูปแบบพลังงานชนิดไหน ที่มีประสิทธิภาพเต็มร้อยครับ ยิ่งเกินร้อยยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะพลังงานมันสร้างไม่ได้อย่างที่บอกไว้ยังไงละครับ
ทีนี้มาวิเคราะห์ว่า สิ่งประดิษฐ์นี้ผิดหลักการอย่างไร
1. ผู้ประดิษฐ์ใช้พลังงานไฟฟ้าสูบน้ำเพื่อยกระดับน้ำให้สูงแล้วปล่อยผ่านกังหันเพื่อผลิตไฟฟ้า โดยพลังงานไฟฟ้าที่ได้(output) กลับมีค่าสูงกว่าพลังงานไฟ้ฟ้าที่ใช้สูบน้ำ(input)เสียอีก (เห็นว่าใช้ไฟบ้าน ขนาดมอเตอร์ไม่น่าเกิน 1 kW สูบน้ำปล่อยผ่านกังหันแล้วผลิตไฟฟ้าได้ 2 kW) กลายเป็นว่าผู้ประดิษฐ์สามารถเนรมิตพลังงานได้เพิ่ม 1 kW ซึ่งเป็นไปไม่ได้ นี่แสดงว่าไม่เข้าใจคำจำกัดความของคำว่าพลังงาน
(**แก้ไขเพิ่มเติม ถ้าผู้ประดิษฐ์ยังยืนยันว่ามันผลิตไฟฟ้าได้ 2 kW ด้วยเครื่องสูบน้ำ 1 kW จริงๆ ผมไม่เถียง เพราะเป็นหน่วยกำลังงานซึ่งคือพลังงานต่อหน่วยเวลา แต่ถ้าคำนวณบนพื้นฐานหน่วยพลังงาน คือ Joule แล้วยังไงก็เป็นไปไม่ได้ เรื่องหน่วยพลังงานนี่ถ้าสับสนเรื่องนี้ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเพราะมัธยมปลายก็มีสอนครับ)
2. ผู้ประดิษฐ์อ้างว่าจะนำไปใช้ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน หรือ โรงงานทั่วไป จริงอยู่แม้เจ้านี่จะผลิตไฟฟ้าได้จริงแต่ไม่ใช่ว่าไปตั้งตรงไหนก็ทำงานได้ นี่ก็เข้าใจผิดมหันต์ ด้วยเหตุผล เรื่อง exergy หรือ จะเรียกว่า คุณภาพพลังงาน
เรื่อง exergy อาจจะเข้าใจยากสักหน่อย เพราะมันเป็นค่าวัดคุณภาพของพลังงานว่ามีโอกาสจะนำไปใช้ประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใด ผมขอยกตัวอย่าง เช่น น้ำในทะเลที่แม้จะมีปริมาตรมหาศาล ย่อมมีค่า exergy ต่ำกว่าเมื่อเทียบน้ำเดือดๆใน boiler หรือ น้ำในเขื่อน เพราะน้ำเหล่านี้มีคุณภาพมากว่าในการนำมาใช้ประโยชน์
สรุป ถ้าจะให้เจ้านี่ทำงานได้ ก็ต้องตั้งใกล้แหล่งพลังงานที่มี exergy สูงๆ เช่น ใต้เขื่อนเก็บน้ำเพราะมีระดับพลังงานศักย์สูง เขาถึงมีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนยังไงหละครับ จะไปตั้ง ริมสระหมู่บ้านที่มีระดับน้ำพื้นผิวโลกทั่วไปได้อย่างไร exergy มันน้อย ถ้าคิดจะติดตั้งตามแม่น้ำตามป่าเขา ดงดอย ที่พอมี exergy บ้างก็ยุ่งยากลำบากจนแทบเป็นไปไม่ได้อีก ด้วยปัจจัยทางเทคนิคต่างๆและอัตราการไหลของน้ำจะพอผลิตไฟฟ้าให้คุ้มค่าหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
3. ที่แจ้งว่าประดิษฐ์ออกมาเป็นเครื่องแรกของโลก นี่ก็เข้าใจผิด ผมขอยืนยังว่าสิ่งประดิษฐ์ลักษณะที่คล้ายเจ้านี้ มีคนคิดประดิษฐ์มาก่อนแล้ว แต่ที่ไม่ปรากฎใน สารบบเพราะ มันล้มเหลวเนื่องจากมันผิดหลักการ อย่างที่ผมอธิบายมายังไงละครับ
****************************************************************************************************
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000039323
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายชัยพจน์ สิริศักดิ์ธเนศ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 2 ต.ท่าตะคร้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ว่า สามารถประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของประเทศ และของโลก จึงเดินทางไปตรวจสอบพบเครื่องประดิษฐ์ผลิตกระแสไฟฟ้ามีลักษณะหมุนขึ้นลง มีกระบะรับน้ำแนวตั้งสูง 4.50 เมตร กว้าง 2.50 เมตร ตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้าน
นายชัยพจน์ สิริศักดิ์ธเนศ เปิดเผยว่า แรงจูงใจที่ทำให้ตนต้องประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้นมาใช้เอง เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา ตนได้ติดตามข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าของประเทศ บางครั้งได้ข่าวว่าประเทศพม่าหยุดการส่งแก๊สธรรมชาติให้แก่ประเทศไทยมาหลายครั้ง ตนจึงคิดว่าจะทดลองคิดค้นหาต้นทุนพลังงานที่ใช้สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า พร้อมทั้งคิดหาทางแก้ไขว่าหากน้ำไม่ไหลจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร และหากกระแสไฟดับจะมีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไร
นายชัยพจน์ สิริศักดิ์ธเนศ กล่าวต่อว่า ถึงแม้ตนจะเรียนจบแค่ชั้น ม.6 แต่ตนก็พอจะมีความรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าพอสมควร จึงได้ทดลองประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยการลองผิดลองถูกมานานกว่า 6 ปี คิดค้นหาความรู้ทั้งเรื่องของถ่านหิน หรือแม้กระทั่งนิวเคลียร์
แต่สุดท้ายก็มาคิดได้ว่าจะผลิตกระแสไฟฟ้าจากแรงดันของน้ำ เหตุผลเพราะไม่ต้องใช้ทุนมากมาย จึงคิดค้น และศึกษาเกี่ยวกับการไหลของน้ำเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับการหมุนของกังหันลม จากการลองผิดลองถูกจนสุดท้ายตนก็สามารถประดิษฐ์เครื่องผลิดกระแสไฟฟ้าได้สำเร็จ ซึ่งต้นทุนที่นำมาผลิตประมาณ 4 แสนบาท
สำหรับเครื่องประดิษฐ์ผลิตกระแสไฟฟ้า ตนได้ไปยื่นเอกสารเพื่อจดลิขสิทธิ์เอาไว้แล้ว โดยใช้ชื่อว่า “ระหัดรับน้ำแนวตั้งเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า” สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 20 กิโลวัตต์ ซึ่งเหมาะที่จะนำไปใช้กับภาคอุตสาหกรรม เช่น โรงงาน หรือโรงแรม
นอกจากนี้ เครื่องดังกล่าวยังสามารถปรับกระแสไฟฟ้าได้ตามที่ต้องการอีกด้วย แต่ถ้าหากต้องการกระแสไฟฟ้ามากกว่านี้ก็จำเป็นจะต้องผลิตเครื่องประดิษฐ์ชนิดนี้ให้ใหญ่ขึ้น แต่ทางที่ดีควรจะผลิตเครื่องเท่าเดิม แต่เพิ่มจำนวนมากขึ้นตามที่ต้องการจะเหมาะกว่า
“สำหรับเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าที่ผมคิดค้นขึ้นมาสามารถนำไปใช้กับหมู่บ้านได้ทั้งตำบล โดยไม่ต้องอาศัยไฟฟ้าแรงสูง และสามารถนำไปติดตั้งที่ปลายทางตามที่ต้องการได้ด้วย” นายชัยพจน์ กล่าว
พร้อมกล่าวต่อว่า แต่อย่างไรก็ตาม หากหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐบาลเข้ามาให้การสนับสนุน ตนเชื่อว่าจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าช่วยคนไทยทั้งประเทศได้อย่างแน่นอน ส่วนตัวแล้วเชื่อและมั่นใจว่า เครื่องประดิษฐ์ที่ตนคิดค้นขึ้นมาเป็นเครื่องแรกของประเทศ และเป็นเครื่องแรกของโลกอย่างแน่นอน
************************************************************************************************************