มานั่งคิดทบทวนตัวเอง ทำไม วันนี้ ตนเองเดินมาอยู่ในท่ามกลางของสิ่งที่เรียกกันว่า “ความแตกแยก” ? ทำไม ตนเองถึงต้องเป็นคนป่วยที่เข้าข่าย “ภูมิคุ้มกันความความปรองดองบกพร่อง”จนต้องเพิ่มระดับ ?..มาถึงได้ยังไง ?
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ความคิด ความรู้สึกต่างๆ ก็เป็นความคิดร่วมกัน ความรู้สึกร่วมกันเหมือนกับคนในสังคมทั่วๆไปนั่นแหละ แต่วันนี้ ความคิดความรู้สึกเหล่านั้น แทบจะไม่มีหลงเหลืออยู่ มันเกิดอะไรขึ้นกับตนเองละหรือ..ผมคิด !
วันนี้ โกรธเกลียดคนที่ไม่เคยรู้จัก ชิงชังคนที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อน รังเกียจคนที่แม้เพียงได้ยินแค่ชื่อเท่านั้น หมั่นไส้คนที่แม้ไม่เคยพูดจาวิสาสะกันเลย ..อาการหนัก !
เพราะอะไรหรือ ?? ผมคิดหนักมากถึงหนักที่สุด และผมก็เชื่อว่าอีกหลายๆคนก็อาจมีความคิดเช่นเดียวกันผม อันตรายที่สุด หากมีมากๆเข้า ประเทศเราคงแตกแยกเป็นเสี่ยงๆแน่ๆ..แต่เพราะอะไร ?
เพราะว่าผมหรือคนส่วนหนึ่ง มีความรู้สึกว่ามีความไม่เป็นธรรมในการใช้กฎหมายของประเทศนี้หรือเปล่า ?..ใช่ไหม ?
เพราะว่าผมหรือคนส่วนหนึ่ง มีความรู้สึกว่ามีความอาฆาตมาดร้าย มีการจ้องจะทำลายกันให้ย่อยยับไป..หรือเปล่า ?
เพราะว่าผมหรือคนส่วนหนึ่ง ได้เห็นการเล่นพรรคเล่นพวกกันอย่างออกนอกหน้า ไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร..อย่างนั้นหรือ ?
เพราะว่าผมหรือคนส่วนหนึ่ง อาจรู้สึกว่าถูกทำให้โง่ ทั้งๆที่ได้ยินว่าพูดจาออกมาอย่างนี้ แต่การกระทำเป็นไปอีกอย่างหนึ่ง..หรือไม่ ?
ผมพยายามคิดว่า อาจเป็นเพราะปัจจัยเหล่านี้ สรุปง่ายๆมันก็คือ “ยุติธรรม เสมอภาค และทัดเทียม” ซึ่งผมคิดว่ามันไม่มี จึงทำให้ผมต้องมาตกอยู่ในความแตกแยก ขาดความปรองดองอย่างทุกวันนี้..หรืออย่างไร ?
หากท่านผู้มีอำนาจ คิดจะสร้างความปรองดอง ลดความแตกแยกในสังคม ขอความกรุณาพวกท่าน ลองมองประเด็นต่างๆที่ได้นำเสนอ เอาไปพิจารณาด้วยเถอะ เพราะประเด็นเหล่านี้ มันอาจเป็น “ต้นตอของความแตกแยก”ที่พัฒนารูปแบบออกไปอีกมากมาย..เป็นเงาดำในสงคม
ถ้าท่านไม่ต้องการให้คนไทยแตกแยก ผมเองและคนส่วนหนึ่งก็ไม่อยากแตกแยก แต่ทำไมเล่า ? เพราะไม่มีความ“ยุติธรรม เสมอภาค และทัดเทียม”ใช่ไหม ?..โปรดตรองดูเถิดครับ !!!
...ผมถามตัวเอง ทำไม จึงต้องมาอยู่ในท่ามกลางความแตกแยกด้วย ???...
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ความคิด ความรู้สึกต่างๆ ก็เป็นความคิดร่วมกัน ความรู้สึกร่วมกันเหมือนกับคนในสังคมทั่วๆไปนั่นแหละ แต่วันนี้ ความคิดความรู้สึกเหล่านั้น แทบจะไม่มีหลงเหลืออยู่ มันเกิดอะไรขึ้นกับตนเองละหรือ..ผมคิด !
วันนี้ โกรธเกลียดคนที่ไม่เคยรู้จัก ชิงชังคนที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อน รังเกียจคนที่แม้เพียงได้ยินแค่ชื่อเท่านั้น หมั่นไส้คนที่แม้ไม่เคยพูดจาวิสาสะกันเลย ..อาการหนัก !
เพราะอะไรหรือ ?? ผมคิดหนักมากถึงหนักที่สุด และผมก็เชื่อว่าอีกหลายๆคนก็อาจมีความคิดเช่นเดียวกันผม อันตรายที่สุด หากมีมากๆเข้า ประเทศเราคงแตกแยกเป็นเสี่ยงๆแน่ๆ..แต่เพราะอะไร ?
เพราะว่าผมหรือคนส่วนหนึ่ง มีความรู้สึกว่ามีความไม่เป็นธรรมในการใช้กฎหมายของประเทศนี้หรือเปล่า ?..ใช่ไหม ?
เพราะว่าผมหรือคนส่วนหนึ่ง มีความรู้สึกว่ามีความอาฆาตมาดร้าย มีการจ้องจะทำลายกันให้ย่อยยับไป..หรือเปล่า ?
เพราะว่าผมหรือคนส่วนหนึ่ง ได้เห็นการเล่นพรรคเล่นพวกกันอย่างออกนอกหน้า ไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร..อย่างนั้นหรือ ?
เพราะว่าผมหรือคนส่วนหนึ่ง อาจรู้สึกว่าถูกทำให้โง่ ทั้งๆที่ได้ยินว่าพูดจาออกมาอย่างนี้ แต่การกระทำเป็นไปอีกอย่างหนึ่ง..หรือไม่ ?
ผมพยายามคิดว่า อาจเป็นเพราะปัจจัยเหล่านี้ สรุปง่ายๆมันก็คือ “ยุติธรรม เสมอภาค และทัดเทียม” ซึ่งผมคิดว่ามันไม่มี จึงทำให้ผมต้องมาตกอยู่ในความแตกแยก ขาดความปรองดองอย่างทุกวันนี้..หรืออย่างไร ?
หากท่านผู้มีอำนาจ คิดจะสร้างความปรองดอง ลดความแตกแยกในสังคม ขอความกรุณาพวกท่าน ลองมองประเด็นต่างๆที่ได้นำเสนอ เอาไปพิจารณาด้วยเถอะ เพราะประเด็นเหล่านี้ มันอาจเป็น “ต้นตอของความแตกแยก”ที่พัฒนารูปแบบออกไปอีกมากมาย..เป็นเงาดำในสงคม
ถ้าท่านไม่ต้องการให้คนไทยแตกแยก ผมเองและคนส่วนหนึ่งก็ไม่อยากแตกแยก แต่ทำไมเล่า ? เพราะไม่มีความ“ยุติธรรม เสมอภาค และทัดเทียม”ใช่ไหม ?..โปรดตรองดูเถิดครับ !!!