ปธ.ศาลรธน. ชี้ เสียงข้างมากหากยึดติดอำนาจ ประเทศจะหายนะ...!!

กระทู้สนทนา
นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ชี้เสียงข้างมากต้องฟังเสียงข้างน้อยด้วย แจงระบบองค์กรตุลาการต้องเป็นกลางไม่รับใช้การเมือง ยันไม่เคยทำตามใบสั่งและไม่เคยโดนแทรกแซงการทำงาน ชี้หลายคนไม่เข้าใจคำว่าสองมาตรฐาน เผยเหตุแตกแยกในไทยเริ่มขึ้นจากการถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ โบ้ยสื่อตอกย้ำความขัดแย้งในบ้านเมืองเพิ่มขึ้น วอนผู้มีอำนาจสร้างความปรองดองกับประเทศ...

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ปาฐกถา ในหัวข้อเรื่อง ความปรองดอง ความยุติธรรม และประชาธิปไตย ในงานวันสัญญา ธรรมศักดิ์ ประจำปี 2556 โดยนายวสันต์ กล่าวใจความตอนหนึ่งในงานว่า เสียงข้างมากได้รับมอบหมายให้ดูแลประเทศ แต่บางครั้งก็ยึดติดกับอำนาจ ถ้าย้อนไปดูประวัติศาสตร์ฮิตเลอร์ยังได้เป็นผู้นำที่ได้มาจากการเลือกตั้ง เมื่อชนะการเลือกตั้งได้พรรคพวกมาในสภาก็ได้แก้ไขกฎหมายเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง ในที่สุดผู้นำเสียงข้างมากก็นำพาเยอรมันไปสู่หายนะก็คือประเทศเยอรมัน เยอรมันจึงมีศาลรัฐธรรมนูญและมีอำนาจมาก และมีบทบัญญัติพิทักษ์รัฐธรรมนูญสำหรับประชาชน ส่วนของไทยก็คือมาตรา 68 ที่เป็นปัญหาของประเทศไทยที่เป็นอยู่นี้ ซึ่งเราก็เอาของเขามาใช้ ส่วนที่มีคนข้องใจเรื่องการยื่นมาต้องมีการรีบประชุม เพราะคำร้องอันนี้มีคำขอให้คุ้มครองชั่วคราวในกรณีฉุกเฉินเข้ามาด้วย ก่อนที่พิจารณาถึงคำร้องก็ต้องพิจารณาก่อนว่าจะรับคำร้องหรือไม่ ความถูกต้องกับความถูกใจอาจจะเดินคนละอย่าง ไม่ว่าจะเป็นศาลไหนเราให้ความเคารพในเสียงข้างมากและรับฟังเสียงข้างน้อย เพราะฉะนั้นคำวิจารณ์ที่บอกว่าลุกลนก็คือเป็นการสู่รู้ บางคนอ้างว่าจบปริญญาเอกทางกฎหมายแต่แกก็ไม่รู้ ต้องให้เกียรติเสียงข้างน้อย บางครั้งเอาเหตุผลเสียงข้างน้อยมาฟังเหตุผลในบางประเด็น ประชาธิปไตยไม่ใช่เอาเสียงข้างมากมาเป็นเกณฑ์ และคนที่คุมกติกาต้องมาจากองค์กรอื่น คนที่มีหน้าที่ตัดสินต้องเป็นคนที่ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไร องค์กรที่ตัดสินคือองค์กรตุลาการ

นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าองค์กรตุลาการไม่ได้ยึดโยงประชาชน ก็ถามตรงๆ ว่าเอาเลือกตั้งผู้พิพากษาเลยไหม เห็นว่าประธานศาลฎีกาก็เอาจากสภาฯเห็นชอบ ใครอยากเป็นประธานศาลฎีกาก็โปรดทำตัวเป็นสมุนนักการเมือง ถามว่าต้องการอย่างนั้นหรือไม่ ท่านต้องให้คนกลางมาทำหน้าที่ความรับผิดชอบหน้าที่ทั้งหลาย เมื่อต่างฝ่ายต่างทำอะไรอำเภอใจประเทศก็ไม่สงบ

ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ตนเคยโต้เถียงกับผู้บังคับบัญชาเรื่องหนึ่งในเรื่องการสนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความรู้ความสามารถ ในการเข้ามารับตำแหน่งนั้นถือว่าไม่เป็นบุญคุณ อันนั้นถือว่าเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา จึงไม่ถือว่าเป็นการมีวันนี้เพราะพี่ให้ เพราะถือว่าไม่มีความสามารถที่จะรับตำแหน่ง เมืองไทยเต็มไปด้วยระบบอุปถัมภ์ องค์กรภายนอกมีอำนาจตรวจสอบแต่ไม่มีอำนาจแทรกแซง ชีวิตตนเคยได้รับใบสั่งจากจราจรเท่านั้น แต่ใบสั่งอื่นไม่เคยเห็น เราไม่ใส่ใจไม่รับรู้กับเสียงลอยไปลอยมาว่าอย่างนู้นอย่างนี้ ต้องนิ่งและหนักแน่นทั้งๆ ที่ความจริงการออกมติแต่ละครั้งก็คละกันไป โดยในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาย้อนสำรวจไปตนลงความเห็นเป็นคุณกับพรรคเพื่อไทยเกือบทั้งหมด มีเรื่องที่ตรงข้ามกับความเห็นของพรรคเพื่อไทยคือกรณีนายจตุพร พรหมพันธ์ุ เท่านั้น แต่ก็ไม่วายถูกด่า

ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวต่อไปว่า เมื่อเป็นองค์กรตุลาการของศาลคือการต้องมีหลักปฏิบัติเคารพเสียงข้างมาก และหลีกเลี่ยงการกระทำที่ว่าสองมาตรฐาน คนพูดบางคนยังไม่เข้าใจ คำว่าสองมาตรฐานนั้นคือเรื่องเหมือนกันทุกอย่างแต่ตัดสินไม่เหมือนกัน ทำไมการวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย พรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิชา กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นคนละประเด็นใช้กฎหมายตัดสินคนละฉบับแต่ก็ถูกโยงว่า เป็นสองมาตรฐาน ข้อหาคนล่ะอย่างตัดสินไม่เหมือนกันไม่ใช่สองมาตรฐาน คำพูดที่ว่าสองมาตรฐานคือคนที่ไม่เข้าใจ

ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การแตกแยก ความแตกแยกในต่างประเทศมีเกิดขึ้นมาได้เห็น บ้านเมืองเราเริ่มแตกแยกตั้งแต่เมื่อไหร่ มีคนบอกมากมายและพูดกันแบบนี้ว่าตั้งแต่ปี 49 แต่ตนว่าไม่ใช่แบบนี้ ตั้งแต่ปี 48 ว่ามีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่ออกมาขุดคุ้ยเรื่องนู้นนี้ก็ถูกถอดและออกมาสัญจรไป มธ.ท่าพระจันทร์อาทิตย์ละครั้งและไปสวนลุม ตอนนั้นคนยังไม่มากเท่าไหร่ แต่ปี 48 และก็มีการ พ.ร.ก.การแปรรูปไฟฟ้าฝ่ายผลิต และมีการไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ก็เลยมีการชุมนุมเล็กๆ เป็นรายสัปดาห์ขึ้น และมีการออกกฎหมายเรื่องโทรคมนาคมเมื่อปี 49 มี รวมทั้งยังมีเหตุการณ์อื่นๆ ทางการเมืองที่ตามมา รวมถึงการเกิดขึ้นของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองจนมาถึงปัจจุบัน

นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมามีการหยิบยกเรื่องความขัดแย้งไพร่และอำมาตย์ขึ้นมา ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องนี้นั้นไม่มีจริง อยากจะถามว่าใครใหญ่กว่าอำมาตย์ที่เลื่อนยศ ปลด ย้ายได้ ทุกคนก็รู้ได้ ส่วนเรื่องไพร่นั้นส่วนใหญ่จะเรียกในเรื่องกิริยามารยาทของคน อยากจะปรองดองถามว่าจริงใจจะปรองดองกันไหม มันต้องมีคนกลางที่ทำให้เรารู้สึกว่าจะดีขึ้น ถ้าเราไม่มานั่งคุยกันก็ไม่มีทางดีกันได้ การคุยกันต้องรู้จักประนีประนอมหยุดการทุบโต๊ะ อ้างอำนาจและเสียงข้างมาก ลดข้อเรียกร้อง ต้นเหตุของความแตกแยกที่เพิ่มขึ้นคือสื่อ

ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าววต่อไปว่า ตอนนี้มีสื่อดาวเทียมต่างฝ่ายที่มีและปลุกระดมของตนเอง และมีการส่งข้อความมาด่าด้วยความหยาบคาย ดูแล้วค่อนข้างจะน่าสมเพช สื่อเป็นส่วนหนึ่งของความแตกแยกถือหางจะไม่ลืมหูลืมตา ต้องลดความรุนแรงลงหากอยากเห็นความปรองดอง และบอกคู่กรณีที่คิดจะปรองดองว่าต้องเข้าหากันและยิ้มแย้ม ตนอยากให้บ้านเมืองปรองดอง นิรโทษก็ดี อะไรก็ได้แต่ต้องปรึกษาผู้รู้ อย่าให้เรื่องมาตกหนักที่ตน มีปัญหาเขาก็จะชี้หน้าว่าศาลรัฐธรรมนูญคือขวากหนามของการปรองดอง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทุกคนในประเทศอยากเห็นความปรองดองเกิดขึ้น อยากฝากผู้มีอำนาจในประเทศให้สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น.

อ้างอิง http://www.thairath.co.th/content/pol/337042

.......................................................................................................................................................................................

ทำไมสมัยรัฐบาลที่แล้ว ท่านไม่เห็นออกมาพูดอย่างนี้บ้างเลย ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยซึ่งตอนนั้นเป็นฝ่ายค้าน และกลุ่มคนเสื้อแดงต้องออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งมองดูเป็นคนส่วนน้อยที่ไม่มีใครรับฟังหรือยอมฟังกัน แต่พอมาเป็นรัฐบาลใหม่ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ท่านกลับพยายามให้ฟังเสียงข้างน้อยด้วย ไม่งั้นประเทศจะหายไปไหนนะ แล้วที่เกิดก่อนหน้านี้มันไม่หายนะงั้นหรือไง แม้กระทั้งตัดสินโดยเลือกข้าง เอาข้างที่ตรงข้ามกับรัฐบาลลุงหมักให้เป็นฝ่ายชนะ ล้มรัฐบาลสมชายโดยยุบรวมสามพรรคอย่างเร่งด่วน (พันธมิตรถึงออกมาบอกในวันนั้นว่าจะมีข่าวดี) นี้หรือความเป็นกลางและความเป็นธรรม ไม่ใช่ความเป็นกลวงและความอยุติธรรมงั้นหรือ (สำหรับคนที่โดนตัดสินให้ผิด) และถ้าไม่ใช่เพราะความหูเบา ปัญญาเบา โง่ เขลา เบาปัญญา จะตัดสินออกมาเป็นอย่างที่เป็นแบบนี้หรือไม่???

"สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่