วัฒนธรรม การ 'ขับถ่าย' กลางแจ้งที่อินเดีย



อินเดียกับการขับถ่ายกลางแจ้ง (open defecation) เป็นสิ่งที่อยู่เคียงคู่กันมาเนิ่นนาน จนกลายเป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างที่ผูกติดกับชื่อประเทศอย่างสลัดไม่หลุด เรียกได้ว่า… ถ้าหากซุบซิบนินทาเกี่ยวกับประเทศอินเดียเมื่อไหร่ นอกจากความสกปรก ความยากจน อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องแทรกตัวเข้ามาอยู่ในบทสนทนาจะต้องมีการขับถ่ายกลางแจ้ง
อินเดียเป็นปัญหาที่สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่โดดเด่นระดับโลก” เพราะไม่สามารถแก้ไขอย่างง่ายๆ ด้วยการระดมทุนจัดสร้างห้องน้ำให้ประชาชนเข้าถึงง่ายขึ้น เหมือนอย่างประเทศอื่นๆ ที่มีปัญหาเดียวกัน เช่น บังกลาเทศและประเทศแถบทวีปแอฟริกา

เนื่องจากมีตัวอย่างให้เห็นชัดเจนว่า ไม่ว่ารัฐบาลแต่ละยุคจะนำเสนอนโยบายสาธารณสุขที่ผลาญงบประมาณไปกับการสร้างห้องน้ำ ทั้งห้องน้ำส่วนตัวและสาธารณะอย่างหนักหน่วงเพียงใด ตัวเลขค่าเฉลี่ยของการขับถ่ายกลางแจ้งในสังคมชนบทของอินเดียก็ยังมากกว่าร้อยละ 50 และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างบังกลาเทศซึ่งด้อยพัฒนากว่า กลับจัดการกับปัญหาการขับถ่ายกลางแจ้งได้ จนค่าเฉลี่ยของประชากรที่ยังขับถ่ายกลางแจ้งลดเหลือเพียงร้อยละ 5 จากจำนวนที่ทัดเทียมกัน ด้วยวิธีแก้ปัญหาแบบเดียวกัน

ระบบวรรณะคือการแบ่งกลุ่มตามหน้าที่ ซึ่งมีทั้งหมด 4 วรรณะ ได้แก่ พราหมณ์ กษัตริย์ แพศย์ ศูทร เรียงศักดิ์จากสูงไปต่ำตามลำดับ โดยพราหมณ์มีหน้าที่ศึกษาคัมภีร์ศาสนาและสอนวิชาความรู้ต่างๆ, กษัตริย์คอยปกปักรักษาบ้านเมือง, แพศย์คือกลุ่มพ่อค้าแม่ขายและดูแลเรื่องเศรษฐกิจ ส่วนศูทรเป็นชนชั้นแรงงาน นอกจากนี้ยังมีจัณฑาล ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ถูกขับไล่ออกจากระบบวรรณะ มีสถานะต่ำต้อยและคอยทำหน้าที่ซึ่งคนในระบบวรรณะมองว่าสกปรก

แล้ววรรณะเกี่ยวข้องกับการขับถ่ายกลางแจ้งยังไง

สาเหตุหลักที่ปัญหานี้ยังไม่หมดไปจากอินเดียเป็นเพราะว่า เมื่อมีห้องน้ำก็ต้องมีการกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ถูกขับถ่ายในห้องน้ำ ซึ่งสสารเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสกปรก มีแค่จัณฑาลเท่านั้นที่จับต้องได้ ถ้าคนจากระบบวรรณะสัมผัสเข้าจะทำให้ร่างกายแปดเปื้อน แต่เนื่องจากสังคมอินเดียในปัจจุบันเริ่มตระหนักถึงความไม่เป็นธรรมที่จัณฑาลเผชิญ ประกอบกับการรวมกลุ่มของจัณฑาลเพื่อเรียกร้องความเท่าเทียม จัณฑาลจึงดื้อแพ่งและไม่ยอมอ่อนข้อต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับกลุ่มของตนมาอย่างยาวนาน


พวกเขาปฏิเสธหน้าที่การกำจัดสิ่งปฏิกูล เพราะการกลับไปทำหน้าที่อันโสมมเช่นนั้นเป็นเสมือนการกลับไปก้มหัวให้คนในระบบวรรณะมองว่าตัวเองต่ำต้อยและแปดเปื้อนอีกครั้ง ซึ่งเท่ากับว่าความพยายามในการเรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมของจัณฑาลรุ่นเก่าก่อนต้องเสียเปล่า


เมื่อจัณฑาลไม่ยอมจำนนให้กับหน้าที่ดังกล่าว จึงส่งผลให้คนอินเดียในระบบวรรณะสะดวกใจที่จะไปขับถ่ายกลางแจ้งมากกว่า เพราะไม่อยากมีภาระในการกำจัดสิ่งปฏิกูล (ของตัวเอง) ด้วยตัวเอง เนื่องจากเกรงว่าการแตะต้องสสารเหล่านั้น และการยื่นมือไปทำหน้าที่ที่พวกตนมองว่าต้อยต่ำจะทำให้ความบริสุทธิ์ของวรรณะต้องด่างพร้อย ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลยุคใดจะออกนโยบายสาธารณสุขเพื่อช่วยสร้างห้องน้ำให้มากมายเพียงไร คนอินเดียกลุ่มนี้ก็ไม่ยอมใช้อยู่ดี



ชาวอินเดียประมาณ 600 ล้านคนยังคงถ่ายอุจจาระในที่สาธารณะ คิดเป็นประมาณ 60% ของประชากรทั่วโลกที่ถ่ายอุจจาระในที่สาธารณะ ปัญหานี้แพร่หลายไปทั่วอนุทวีปอินเดีย จนรัฐบาลอินเดียต้องริเริ่มโครงการ "นำอุจจาระไปเข้าห้องน้ำ" เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนว่าที่จริงแล้ว การทำความสะอาดห้องน้ำส่วนตัวนั้นดีกว่า

รัฐบาลทุ่มงบสร้าง ห้องนํ้าสาธารณะ ในแต่ละชุมชน

การปัสสาวะ อุจจาระ กลางแจ้ง ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่อินเดีย

ยิ่งสีเข้ม คือจํานวนที่มากขึ้นในพื้นที่









พนักงานกวาดอุจจาระตามถนนในเทศบาลอาจได้รับค่าจ้างขั้นต่ำซึ่งอาจส่งผลให้มีรายได้ประจำปีราวๆ ₹120,000 (43,785.84 บาท/ปี)  ถึง ₹180,000 (65,678.76 บาท/ปี) แม้ว่าจะมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อจำนวนเงินที่แน่นอนก็ตาม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่